ตอนที่ 1951
หล่ง หล่ง หล่ง
บนท้องฟ้า ก้อนเมฆแห่งการลงทัณฑ์สีเลือดก็กําลังเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ก้อนเมฆรวมตัวกลายเป็นชั้นๆ จนหนาขึ้นเรื่อยๆ เดิมที่ที่มีความหนาเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตร ทว่าเมื่อระยะเวลาผ่านไปตอนนี้มันก็มีความหนา หว่าหลายหมื่นเมตร แทบที่จะควบแน่นเป็นสสาร
ก้อนเมฆสีเลือดขนาดใหญ่นี้ก็ลอยไปมาราวกับเป็นปรอทก็ว่าได้ ม้วนตัวและหมักหมมพลังงานอย่างต่อเนื่อง ราวกับเป็นมังกรยักษ์ที่กําลังโลดแล่นไปมา
หลุมวนก็ก่อตัวขึ้นมาในก้อนเมฆสีเลือดบนท้องฟ้าโดยที่มีร่างกายของเซียซึ่งเป็นจุดศูนย์กลาง หมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง เหมือนว่าจะเปลี่ยนกลายเป็นหลุมดําก็ว่าได้ กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง
เดม่อนทุกตัวก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน ส่วนลึกของหลุมวนนี้แอบแฝงไปด้วยพลังอํานาจของการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ที่ทรงอํานาจ ในช่วงเวลานี้ท้องฟ้าก็เหมือนจะแยกออกจากัน เกิดรอยแตกร้าวขึ้นมามากมาย
รอยแตกร้าวเหล่านี้ก็เชื่อมโยงเข้ากับส่วนลึกของหวงมิติ พลังอํานาจของหายนะกําลังเอ่อล้นออกมาจากส่วนลึกของหัวงมิติเหล่านี้
รอยแตกแต่ละรอยมีความยาวกว่าหลายพันกิโลเมตร เหมือนว่าจะฉีกท้องฟ้าออกเป็นสองซีก ดูน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก
เป็นการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ของสายฟ้าพิโรธจริงๆ เพียงแค่มองดูก็ทําให้ข้ารู้สึกหวาดผวาได้แล้ว เดม่อนตัวหนึ่งก็พูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลามพลางมองขึ้นไปบนก้อนเมฆแห่งการลงทัณฑ์ที่รวมตัวกันอยู่บนท้องฟ้า
ไม่รู้ว่าเจ้ามนุษย์นี่ได้ก่อเรื่องอะไรไว้ ไม่คาดคิดว่าจะกระตุ้นการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์มาได้ คาดการณ์ได้ว่าแม้แต่เดม่อนในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าขั้นสูงสุดก็ไม่สามารถกระตุ้นการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาได้
ใครจะไปรู้กันว่าเจ้ามนุษย์นั้นได้ทําอะไรไว้ สรุปสั้นๆก็คือเจ้ามนุษย์นี้จะต้องตาย ไม่จําเป็นที่จะต้องให้พวกเราลงมือ เขาจะถูกสายฟ้าพิโรธผ่าจนตายทั้งเป็น เปลี่ยนกลายเป็นเถ้าถ่าน
พูดถูก โชคดีที่ไม่ได้เพ่งเล็งมาที่พวกเรา ไม่อย่างนั้นพวกเราจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน
ฮ่าฮ่า ใครใช้ให้เจ้ามนุษย์นี่ยโสโอหังเกินไป วางมาดใหญ่โตต่อหน้าพวกเรา บอกว่าพวกเราเป็นเดม่อนที่อ่อนแอที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ทว่าตอนนี้ตนเองกลับเผชิญกับหายนะ ไม่สงสัยว่าเหตุใดจึงมีคํากล่าวที่ว่าอย่าพูด จาไร้ความรับผิดชอบ ไม่อย่างนั้นจะถูกสวรรค์ลงโทษเอา
เดม่อนจํานวนมากก็พูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม พวกมันรู้สึกดีใจอย่างมาก โชคดีที่ว่าสายฟ้าพิโรธนี้เล็งเป้าหมายไปที่เจ้ามนุษย์บัดซบนี้ ไม่อย่างนั้นพวกมันก็คงจะต้องเผชิญกับความโชคร้ายมากกว่าความโชคดี
ในขณะเดียวกันพวกมันก็มีความสุขกับความทุกข์ของผู้อื่น ยินดีที่จะได้เห็นเจ้ามนุษย์คนนี้เผชิญกับความหมดสิ้นหนทาง
ช้าก่อน มีบางอย่างผิดปกติ เจ้ามนุษย์นั่นต้องการจะทําอะไรกัน เขากําลังบินมาหาพวกเรา เดม่อนบางตัวก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเซียปิงทันที ทันใดนั้นก็ตื่นตัวขึ้นมา ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนี่ต้องการจะทําอะไร
เดม่อนจํานวนมากก็สังเกตเห็นสถานการณ์นี้เช่นกัน อีกทั้งพวกมันก็ยังค้นพบว่า ด้วยการเคลื่อนไหวของเจ้ามนุษย์นั้น เหมือนว่าก้อนเมฆแห่งการลงทัณฑ์สีเลือดจะเคลื่อนย้ายตามมาอย่างช้าๆ เกาะติดอยู่ตลอดเวลา
สถานการณ์เช่นนี้ก็ทําให้พวกมันรู้สึกหวาดกลัวจนขวัญกระเจิงทันที หวาดกลัวจนสั่นเทารู้สึกว่าสถานการณ์ ไม่สู้ดีนัก
หยุด เจ้ามนุษย์ เจ้าต้องการจะทําอะไรกัน ที่นี่คืออาณาเขตของพวกเราเดม่อน เป็นพื้นที่ต้องห้าม รีบไสหัวออกไปซะ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะสังหารเจ้าจนสิ้นซาก
เดม่อนตัวหนึ่งก็ตะโกนออกไปอย่างโมโห ตะโกนให้เซียปิงหยุดการเคลื่อนไหวของตนเอง
สหายเดม่อน นี่คือสิ่งที่เรียกว่าหากไม่ตีกัน ก็ไม่มีวันได้รู้จักกัน ตอนนี้พวกเราต่างก็เป็นสหายพี่น้องด้วยกันแล้ว สหายย่อมที่จะผ่านร้อนผ่านหนาวไปด้วยกัน ไม่ทอดทิ้งกัน เซียปิงตะโกนออกมา ข้าก็ต้องการที่จะเชื้อเชิญทุกๆคนมาช่วยข้าข้ามผ่านการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์นี้ด้วยกัน หลังจากที่รอให้เรื่องนี้สิ้นสุดลง ข้าจะตอบแทนทุกๆคนอย่างแน่นอน
ช่วยข้ามผ่านบิดาเจ้าส์ ยังไม่ไสหัวออกไปอีก!
ข้าก็รู้มานานแล้วว่าเจ้ามนุษย์ที่ไร้ยางอายนี่ไม่ได้มีเจตนาที่ดี แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะต้องการให้พวกเราช่วยเขาข้ามผ่านการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ ทําไมไม่บอกให้พวกเราไปกินอุจจาระซะเลยล่ะ?! พวกเราคือเดม่อนแห่งอบิส เป็นศัตรูคู่อาฆาตของมนุษย์ เป็นไปได้อย่างไรที่จะช่วยเจ้า เจ้าตัดใจซะเถอะ
อีกทั้งยังบอกว่าพวกเราเป็นสหายพี่น้องต่อกัน ก่อนหน้านี้ในช่วงเวลาที่สังหารพวกเราเดม่อนในทุกหนแห่งทําไมเจ้าถึงไม่พูดว่าพวกเราเป็นสหายต่อกัน ตอนนี้เมื่อเผชิญกับหายนะ เผชิญกับการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ กลับมองพวกเราเป็นสหายขึ้นมาทันที ทําไมข้าถึงคิดว่านี่คือสหายที่พร้อมจะแทงข้างหลังตลอดเวลา?!
ข้าก็รู้มานานแล้วว่าเจ้าพวกนักวิทยายุทธแต่ละคนต่างก็เป็นงูพิษ หน้าด้านไร้ยางอาย แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะอาจหาญถึงขั้นนี้ แม้แต่ถ้อยคําเหล่านี้ก็กล้าพูดออกมา
อีกทั้งยังบอกว่าหากเรื่องนี้สิ้นสุดลง จะตอบแทนพวกเรา ตอบแทนมารดาเจ้าสิ หากพวกเราช่วยเจ้าข้ามผ่านการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์จริงๆ พวกเราก็คงจะตายและกลายเป็นเศษซากไปแล้ว มีที่ไหนที่เจ้าจะมีโอกาสได้ตอบแทนพวกเรา!
เจ้ามนุษย์ไร้ยางอาย ไสหัวออกไปให้ห่างจากพวกเราทันที อย่าเข้ามาใกล้พวกเราเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นไม่ทันรอให้การลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ได้ฆ่าเจ้า พวกเราจะฆ่าเจ้าซะก่อน เจ้าควรจะคิดให้รอบคอบ อย่าทําร้ายตนเองไปพร้อมกับพวกเราเลย
เดม่อนจํานวนมากก็สบถต่อว่าออกมา สาดน้ําลายไปทั่ว
ต่อให้พวกมันจะใช้หัวเข่าคิด พวกมันก็ไม่มีทางที่จะยอมรับข้อเสนอที่ไร้ยางอายของเจ้ามนุษย์นี่เด็ดขาด
พูดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? ทําไมจะต้องขับไล่ข้าออกไป พวกเรามาพูดคุยกันก่อนเถอะ การที่มีข้าเป็นสหายในอนาคตข้ารับประกันได้ว่าพวกเจ้าจะต้องเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น
เซียปิงก็ยักไหล่ ต้องการที่จะพูดคุยกันก่อน
ทว่าในตอนนี้เขาก็เงยหน้ามองขึ้นไปและค้นพบว่าก้อนเมฆแห่งการลงทัณฑ์บนท้องฟ้าไม่สามารถระงับพลังอํานาจของตนเองได้อีกแล้ว พลังอํานาจของหายนะและพลังอํานาจของสายฟ้าได้บรรลุถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
ปัง!
ภายในระยะเวลาอันสั้น ในหลุมวนสีแดงบนท้องฟ้าก็มีสายฟ้าสีแดงจํานวนกว่าหมื่นเส้นที่ผ่าลงมา ครอบคลุมพื้นที่ในระยะสามพันกิโลเมตร
สายฟ้าสีแดงแต่ละเส้นก็มีขนาดเท่ากับต้นไม้ร้อยปีก็ว่าได้ ราวกับเป็นมังกรน้ําที่พุ่งลงมา ส่งเสียงดังสนั่นฉีกผ่านห้วงอวกาศ แอบแฝงไปด้วยออร่าของการท่าลายล้าง
นี่คือสายฟ้าพิโรธซึ่งสามารที่จะทําลายดาวเคราะห์ได้อย่างง่ายดาย
เทวรูปฟ้าดินเทาเที่ย!
เซียปิงก็เคลื่อนไหวความคิด เขาไหลเวียนพลังเวทมนตร์ภายในร่างกายออกมา เทวรูปฟ้าดินก็ปรากฏขึ้นเปลี่ยนกลายเป็นเทาเที่ยและก็อ้าปากออกมา จากนั้นก็กลืนกินสายฟ้าสีแดงที่ผ่าลงมารอบๆ
ทันใดนั้นสายฟ้าสีแดงหลายร้อยเส้นก็หายเข้าไปในห้วงมิติภายในของเทาเที่ย ราวกับเป็นมังกรที่พุ่งชนกันในทุกหนแหง มีเสียงสั่นสะเทือนที่รุนแรงดังขึ้นมา พลังอํานาจที่ทรงอํานาจปะทุออกมา
ทว่าภายใต้พลังอํานาจของเทาเที่ย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเปล่าประโยชน์ หลังจากไม่กี่ลมหายใจ สายฟ้าสีแดงเหล่านี้ก็ถูกเท่าเทียกลืนกินและดูดซับไปจนหมดจด
ฟู่!
เซียปิงก็รู้สึกว่าแก่นแท้พลังงานสายฟ้าได้หลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของตนเอง พลังงานของสายฟ้าพิโรธจํานวนนับไม่ถ้วนกําลังโลดแล่นไปตามร่างกายของเขา ส่งเสียงช็อตดังขึ้นมา
ในขณะเดียวกันแก่นแท้พลังงานสายฟ้าก็ท่วมท้นไปทั่วทั้งทะเลจิตใต้สํานึกของเขาและหลอมรวมเข้ากับเทวรูปขุยหนิว
ทว่าหลังจากที่ขุยเหนวดูดซับพลังงานสายฟ้าเหล่านี้เข้ามา เหมือนว่าจะควบแน่นกลายเป็นสสาร มีอักขระสีแดงปรากฏขึ้นทั่วทั้งร่างกายของมัน เหมือนว่าจะมีสายฟ้าพิโรธที่คดเคี้ยวไปรอบๆตัวของขุยหนิว
ทว่ากลุ่มของเดม่อนที่อยู่ใกล้กับเซียปิงก็ไม่ได้โชคดีนัก พวกมันไม่ได้มีพลังอํานาจที่แข็งแกร่งเหมือนกับ เซียปิงไม่ได้มีความสามารถศักดิ์สิทธิ์ในการกลืนกินของเทาเที่ย อีกทั้งก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วนักไม่มีทางที่จะหลบหลีกไปได้
สุดท้ายพวกมันก็ขึ้นอยู่ที่จุดๆเดิมและถูกสายฟ้าพิโรธผ่าลงศีรษะโดยตรง
อ้ากก!!
กลุ่มของเดม่อนก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช ราวกับเป็นเสียงหมูถูกเชือดก็ว่าได้ ในที่สุดพวกมันก็ได้สัมผัสถึงความน่าสะพรึงกลัวของสายฟ้าพิโรธ นี่คือสายฟ้าของการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ที่แท้จริง
เมื่อสายฟ้าพิโรธลุกลามเข้าไปในร่างของพวกมัน ร่างกายแข็งแกร่งที่พวกมันภาคภูมิใจก็ไร้ประโยชน์สิ้นดี ถูกเจาะทะลวงเข้าไปอย่างง่ายดาย สายฟ้ากระจายไปทั่วทั้งร่างกายอย่างกะทันหัน
ในขณะเดียวกันสายฟ้าพิโรธเหล่านี้ก็แอบแฝงไปด้วยพลังอานาจของการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ สําหรับพลังฉีเดม่อนภายในร่างกายของพวกมันนั้น เรียกได้ว่าเป็นพลังอํานาจที่เป็นปรปักษ์กันอย่างสิ้นเชิง
เมื่อสายฟ้าลุกลามเข้าไปในร่างกาย พลังฉีเดม่อนภายในร่างกายของพวกมันก็ละลายไปอย่างรวดเร็ว
ทว่าพลังฉีเดม่อนเป็นรากฐานในดํารงชีวิตของพวกเดม่อน ราวกับเป็นแหล่งพลังงานของพวกมันก็ว่าได้ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะละลายไปโดยสายฟ้าพิโรธ เทียบได้กับการที่ถูกตัดชิ้นเนื้อออกไปก็ว่าได้ ราวกับมีมีดที่กําลังนั่นเนื้อของตนเองอยู่
ความเจ็บปวดเช่นนี้ ไม่สามารถที่จะอธิบายเป็นค่าพูดได้
ปัง!
ภายในระยะเวลาอันสั้น เดม่อนระดับลงทัณฑ์สายฟ้าจํานวนหลายร้อยตัวก็ถูกสังหารไป มอดไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านก่อนที่จะปลิวหายไป