สามีเก่าอ้อนรัก – ตอนที่ 77

ตอนที่ 77

บทที่ 77 ฉันจะตรวจสอบด้วยตัวของฉันเอง

เสิ่นอีเวยร้องไห้อย่างไม่มีน้ำตาสักหยด หล่อนรู้สึกได้ว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงยากที่จะคาดเดา

หากไม่บอกความจริงกับเซิ่งเจ๋อเฉิงออกไป เขาก็คงคิดว่าเมื่อคืนวานหล่อนและฉินโม่คงทำความผิดต่อเขา หากบอกความจริงกับเขาไปเรื่องอาการป่วยของตัวเองจะปิดบังต่อไปได้นานแค่ไหนกัน ?

เสิ่นอีเวยคิดตรึกตรองอยู่ในใจแล้วเอ่ยขึ้น : “เมื่อวานหลังจากที่คุณออกจานลานจอดรถแล้ว ฉันกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง ตอนนั้นร่างกายเหมือนจะไม่ค่อยสบายแล้วเจอกับฉินโม่พอดี เขาเลยพาฉันมาส่งโรงพยาบาลแถวนั้น ตอนที่คุณโทรศัพท์หาน่าจะเป็นช่วงที่ฉันกำลังหลับพอดีเขาเลยถือโอกาสรับโทรศัพท์แทน”

เซิ่งเจ๋อเฉิงฟังจากที่หล่อนพูดยิ่งโมโหหนักเข้าไปอีก เขาเดินเข้ามาใกล้อีกก้าวแล้วบังคับให้เธอนั่งลงบนโซฟา แขนเซิ่งเจ๋อเฉิงพาดอยู่ข้างๆบนโซฟา : “เธอนี่ช่างกล้านอนหลับง่ายๆต่อหน้าผู้ชายคนอื่นหรอ? แถมยังให้ชายอื่นแตะต้องโทรศัพท์ของเธอเองอีก เธอเป็นถึงผู้อำนวยการฝ่ายการออกแบบชุดแต่งงานของบริษัทเซิ่งซื่อ ในโทรศัพท์เองก็มีความลับของลูกค้าของบริษัทอยู่ตั้งมากมาย ถ้าเกิดถูกคนอื่นเห็นเข้าแล้วเธอสามารถที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ได้หรอ?”

เสิ่นอีเวยไม่รู้ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงไปสรรหาคำพูดเหตุผลที่ไม่ดีต่างๆนานามาได้อีก หล่อนแทบไม่รู้เลยว่าไปหาอะไรมาคิดได้ถึงแบบนี้

ยิ่งตอนที่พูดเรื่องการออกแบบชุดแต่งงานนั่นเสิ่นอีเวยยิ่งโกรธใหญ่: “เพราะเรื่องนี้เองหรอกหรอที่คุณจงใจไม่ให้ฉันเข้าร่วมการแข่งขันใช่ไหม?”

เซิ่งเจ๋อเฉิงหัวเราะเยาะอย่างขบขัน : “ถ้าฉันบอกว่าใช่แล้วเธอจะทำยังไง?”

ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้หยิ่งได้ขนาดนี้นะ! เสิ่นอีเวยกำลังระงับความโกรธที่อยู่ภายในใจไว้ หล่อนเป็นผู้น้อยจึงได้แต่ก้มหน้าต่อไป เซิ่งเจ๋อเฉิงเขาเป็นถึงหัวหน้าสูงสุดของหล่อนอีก ท้ายที่สุดแล้วตัวเองจะได้เข้าร่วมก็ต้องฟังเขาอยู่ดี ช่วงระยะสำคัญนี้ตัวเองก็อย่าเพิ่งไปต่อต้านกับเขาอีก

เสิ่นอีเวยสูดลมหายใจเข้า

เธอเงยหน้าจ้องมองเซิ่งเจ๋อเฉิงด้วยสายตาจริงใจ : “เรื่องเมื่อคืนฉันทำไม่ถูกจริงๆ ตอนนี้ฉันขอโทษคุณจากใจ ฉันขอรับประกันเลยว่าความลับของบริษัทจะไม่มีการรั่วไหลออกไป จากนี้ฉันจะระวังเรื่องนี้ให้มากขึ้น”

เซิ่งเจ๋อเฉิงหยีตาและสนใจท่าทีของเสิ่นอีเวย : “งั้น เรื่องที่เธออยู่ข้างนอกกับผู้ชายจนดึกดื่นไม่ยอมกลับบ้านทั้งคืนนั่น เธอจะอธิบายว่ายังไง?”

เสิ่นอีเวยรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว : “เมื่อคืนวานฉันกลับมาบ้านแต่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง!”

“หือ? มีใครเป็นพยานให้เธอไหมล่ะ?”

“ป้าเฉินไง เมื่อคืนวานตอนที่ฉันกลับมาฉันยังถามป้าแกอยู่เลยว่าคุณกลับมาหรือยัง ป้าแกเป็นพยานให้ฉันได้” สีหน้าหล่อนดูภาคภูมิใจ เรื่องมาถึงขั้นนี้คุณพูดต่อไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม?

เซิ่งเจ๋อเฉิงยิ้มอย่างร้ายกาจ : “อ้อ งั้นก็โชคไม่ดีแล้วแหละ พวกเขาลาหยุด ไม่มีใครเป็นพยานให้เธอได้”

เสิ่นอีเวยหมดอารมณ์ ความหวังนิดๆหน่อยๆของตัวเองยังหักหลังได้อีกหรอ? ถึงว่าวันนี้ทั้งสองคนเสียงดังขนาดนี้อยู่ในห้องรับแขกแต่ไม่มีคนออกมาดูเลย น่าจะใช่แหละเซิ่งเจ๋อเฉิงถึงได้กล้าที่จะแสดงอาการสนิทสนมกับเธอในห้องรับแขกได้แบบนี้

เสิ่นอีเวยก้มหัวมองเสื้อคอวีสีขาวที่ตัวเองใส่ อาจจะเป็นเพราะมีการขยับตัวเลยทำให้คอเสื้อเลยถลกขึ้นจนเห็นกระดูกไหปลาร้าสีขาวนั้นโผล่ออกมา ตัวเซิ่งเจ๋อเฉิงทั้งตัวอยู่เหนือตัวหล่อน ทั้งคู่อยู่ใกล้กันมาก เสิ่นอีเวยรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆจากตัวเขา

ท่าทางที่อบอุ่นนี้เสิ่นอีเวยได้แต่หน้าแดงซ่าน ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาหล่อนกับเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่เคยมีความอบอุ่นแบบนี้มาก่อนเลย หล่อนรู้สึกถึงความหวานขึ้นมาในใจ

เสิ่นอีเวยกระพริบตาปริบๆอยากจะตบตัวเองสักฉาด ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิดเรื่องนี้นะ!

หล่อนเงยหน้าจ้องมองดวงตาจองเซิ่งเจ๋อเฉิง : “งั้นทำยังไงคุณถึงจะเชื่อฉัน?”

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรตอนนี้หล่อนรู้สึกว่าอารมณ์โกรธในตัวเขาเริ่มลดลงไปเยอะ ไม่ว่าจะยังไงก็ตามขอแค่เขาไม่โกรธแบบนั้นอีกมันก็ดีต่อตัวเธอมาก

หล่อนเห็นสายตาเซิ่งเจ๋อเฉิงที่มันสื่อความหมายอย่างมีเลศนัยออกมา: “ผู้หญิงของฉันไม่รู้ว่าไปโดนใครแตะต้องมาหรือเปล่าเพราะงั้นต้องตรวจสอบด้วยตัวเอง”

ตรวจสอบ?ตรวจสอบยังไง?

เสิ่นอีเวยยังตอบสนองไม่ทันก็ถูกเซิ่งเจ๋อเฉิงอุ้มพาดบ่าขึ้น

“โอ๊ย!” เสิ่นอีเวยกรีดร้องเบาๆ

เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้สนใจเอาแต่แบกหล่อนขึ้นชั้นบน ในที่สุดเสิ่นอีเวยก็ตอบสนองทันในความหมายที่เขาสื่อออกมา แต่ก็ไม่ทันที่จะหนีได้แล้ว หล่อนยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย เมื่อกี้นี้ทั้งคู่ยังทะเลาะกันอยู่เลย

เสิ่นอีเวยถูกเซิ่งเจ๋อเฉิงโยนลงบนเตียงอ่อนนุ่ม หล่อนรู้สึกว่าสมองตัวเองถูกระทบกระเทือนจนมึนๆ

หล่อนรีบพลิกตัวขึ้นมาและอยากอธิบายอะไรสักอย่าง : “เซิ่งเจ๋อเฉิง ฉัน”

ทว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้คิดที่จะฟังเธออธิบายเลย มือขวาของเขาเริ่มคลอเคลียที่ข้อเท้าเรียวยาวแล้วลากหล่อนเข้าหาตัวเองอย่างง่ายดาย มือซ้ายก็เริ่มถอดเสื้อตัวบนของเขาออกทำให้เห็นกล้ามหน้าท้องที่น่าหลงใหลทั้งแปดลอนนั้นปรากฏออกมา เสิ่นอีเวยได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว

ริมฝีปากที่รุ่มร้อนของเขากอบกุมริมฝีปากของเธอ จากเดิมที่ปฏิกิริยาของเสิ่นอีเวยที่ต่อต้านร่างกายของเขาอย่างรุนแรงกลับแปรเปลี่ยนอ่อนระทวยลง มือทั้งสองข้างที่ผลักดันหน้าอกแกร่งออกค่อยๆไม่มีเรี่ยวแรงผลักออกไป

การจูบกันในครั้งนี้ไม่เหมือนการจูบที่ผ่านมา เมื่อก่อนมันทั้งขมขื่นทำให้คนสิ้นหวัง ทว่าคืนนี้—

เสิ่นอีเวยไม่เคยเห็นความอบอุ่นของเซิ่งเจ๋อเฉิงแบบนี้มาก่อน มือซ้ายของเขาวางอยู่ตำแหน่งท้ายทอยของเธออย่างเบามือ ส่วนมือขวาประคองกอดเค้นคลึงบริเวณเอวคอดกิ่วเหมือนรักษาของรักของหวงของตัวเองไว้

การจูบของเขาทั้งอ่อนหวานและทำให้คนรอคอยอย่างคาดหวัง เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าตัวเองจะขาดใจตาย

สักพักเสิ่นอีเวยค่อยๆรู้สึกได้ว่าสติของหล่อนดูมันไม่ค่อยชัดเจน เหมือนหล่อนคิดอะไรออกมาได้ อยู่ดีๆก็ใช้แรงผลักเซิ่งเจ๋อเฉิงออก เธอผงกหัวมองเขาอย่างศิษย์ที่รอความหวังจากอาจารย์ หล่อนถามเขาต่อ : “เซิ่งเจ๋อเฉิง คุณเชื่อฉันหรือเปล่า?”

ผู้ชายทุกคนถูกถามขัดจังหวะขนาดนี้เป็นใครก็โมโหทั้งนั้นยิ่งเป็นเซิ่งเจ๋อเฉิงยิ่งแล้วใหญ่ เขาใช้สายตานั้นเตือนหล่อนแต่ไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำพูดใดแล้วรีบบรรจงจุมพิตริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของเธอต่อ

เสิ่นอีเวยก็ไม่ได้โอนอ่อนไปตามเขาเพราะกลัวว่าเซิ่งจะเฉิงจะแสดงพฤติกรรมที่น่ากลัวต่อเธออีก เธอไม่มีโอกาสให้หลงเหลืออยู่เลย ตอนที่สติสตังคิดเรื่องไปทั่วและค่อยๆเบาบางลง น้ำเสียงครางกระเส่าแหบพร่าดังขึ้นที่ข้างหูหล่อน

“ฉันไม่ใช่ว่าไม่เชื่อเธอหรอกนะ แต่ผู้ชายมักเข้าใจผู้ชายด้วยกันเอง ถึงฉันจะไม่ชอบฉินโม่ แต่ดูออกว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษไม่ทำอะไรกับเธอแน่ ยังไม่เข้าใจอีกหรอ? ฉันแค่หาเหตุผลมาลงโทษเธอก็เท่านั้นแหละ”

เสิ่นอีเวยเบิกค้างทำตาโตใส่เขา ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้พยายามได้ถึงขนาดนี้เนี่ย!

ลมหายใจอุ่นๆของเซิ่งเจ๋อเฉิงเป่ารดบริเวณไรผมข้างกกหูและได้ยินเสียงความเร้าใจของเขา หล่อนประท้วงโดยการพยายามหลบคอเพื่อหลีกเลี่ยงเขาแต่เซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นคนมือยาวเท้ายาวเลยเกี่ยวกระหวัดเธอกลับมาได้เร็ว

เสิ่นอีเวยเลยได้แต่ร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา

สามีเก่าอ้อนรัก

สามีเก่าอ้อนรัก

Status: Ongoing

เสิ่นอีเวยได้แต่งงานกับเชิงเจ๋อเฉิงแล้วแต่เธอรู้ดีว่าที่เขาแต่งงานกับ เธอไม่ใช่เพราะรัก แต่เป็นเพราะอยากจะทรมานเธอ มันจะทรมาน แล้วยังไง เธอรักเขา ตั้งแต่เด็กก็รักเขามาจนถึงตอนนี้ แต่เขาไม่รู้ ชีวิตคู่แต่งงานสองปีเธอทุกข์ทรมานมาก เธอตายใจแล้วและเสนอ หย่าร้างกับเขา ไปจากชีวิตเขาไกลๆ แต่เขากลับเปิดโหมดรักเมีย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท