บทที่ 295 ไม่มีฉันคุณจะเกิดได้อย่างไร
แต่เพราะอะไร ? ทำไมในตอนนี้ กลับได้กลิ่นน้ำหอมจากเขา แล้วรู้สึกเหมือนกับกำลังตกอยู่ในห้วงภวัง เหมือนกับมีความรู้สึกตื่นขึ้นมา
ในตอนนี้ทำให้เสิ่นอีเวยมีความรู้สึกอยากจะร้องไห้
ตอนที่หนีจากเซิ่งเจ๋อเฉิง ออกจากประเทศบ้านเกิดสี่ปี นิสัยของเธอนั้นก็เปลี่ยนไปมากมาย กับเรื่องของการกลั้นน้ำตานั้นเธอทำไม่ได้เลย แต่ตอนนี้เสิ่นอีเวยกลับสามารถกลั้นน้ำตาของตัวเองนั้นได้
เสิ่นอีเวยได้มองไปยังใบหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิง หน้าของเขาและเธอนั้นใกล้กันมาก ๆ แล้วเขาก็พูดออกมาว่า “ตอนที่คุณถึงอังกฤษไม่นาน คุณก็ท้องแล้วสินะ”
พอได้ยินคำนี้ เสิ่นอีเวยก็ตกใจ สีหน้าก็เปลี่ยนไป ทำให้เธอนั้นมีความสับสนเกิดขึ้นในใจ
เซิ่งเจ๋อเฉิงได้มองไปยังท่าทางของเธอ และได้รู้ว่าคำพูดของเธอนั้นเป็นจริง
“หลังจากนั้น คุณก็ได้คลอดทารกผู้หญิงออกมา ชื่อภาษาจีนเรียกว่าเสิ่นเหมียน ภาษาอังกฤษคือ ซินเดอเรล่า ใช่ไหม ?”
เสิ่นอีเวยเหมือนกับถูกสายฟ้าฟาดลงมา ไม่มีแรงที่จะต่อกรใด ๆ
เซิ่งเจ๋อเฉิงเห็นเธอนั้นไม่ได้พูดอะไรอยู่นาน ในใจก็เต็มไปด้วยความร้อนรนและรำคาญ และได้เพิ่มเสียงที่ดังขึ้นกับน้ำเสียงที่เสียดหู “เสิ่นอีเวย มองที่ตาผม แล้วตอบผม”
เนื่องจากเสียงนั้นดังมาก ทำให้มีเป้าสายตามากมายมามองที่ตรงนั้น เซิ่งเจ๋อเฉิงได้หันหัวไปมอง แล้วใช้สายตาที่น่ากลัวมองไป ทันใดนั้นก็หายไปหมด
แต่ตอนนี้ …… ตอนนี้เป็นสถานการณ์อะไรกันแน่ ? ผู้ชายคนนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่จะรู้เรื่องพวกนี้
เสิ่นอีเวยก็มีความรู้สึกสับสนมากขึ้น ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา ทำไมไม่เหมือนกับที่ตัวเองนั้นคาดการณ์เอาไว้ วันนี้เธอจะมาหารือต่อรอง แต่ทำไมกลับถูกศัตรูนั้นรู้ทันไปหมดเสียทุกอย่าง
เซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นได้รู้เรื่องราวของเสิ่นอีเวยทั้งหมด ก็ได้ตัดสินใจให้คนนั้นไปติดตามเสิ่นอีเวยเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด ไม่งั้นผู้หญิงคนนี้คงจะไม่มีใบหน้าที่ขมขื่นขนาดนี้
อารมณ์ของเขานั้นก็เริ่มฮึกเหิมขึ้น ไม่ทันได้รอเสิ่นอีเวยตอบกลับมา ก็ได้เอามือไปวางไว้ที่คอของเธอ
สายตาที่น่ากลัวของเขา “นั่นคือลูกสาวของเซิ่งเจ๋อเฉิง คุณคลอดเธอไว้ที่อังกฤษ แล้วยังอยู่ที่นั่นอีกสามปี เสิ่นอีเวย คุณกล้าดียังไงทำแบบนี้ ?”
ทันใดนั้น เสิ่นอีเวยก็รู้สึกหายใจลำบาก และเห็นคนบ้าเซิ่งเจ๋อเฉิง เสิ่นอีเวยอยากจะหลุดออกมา รองเท้าส้นสูงก็ได้ยกขึ้นแล้วจะไปกระแทกระหว่างขาของเขา
“คุณอยากจะเล่นแบบนี้จริง ๆ หรือ ? ” เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดด้วยคำพูดที่ทีเล่นทีจริง
เซิ่งเจ๋อเฉิงมีไหวพริบที่ดี ก็เลยได้จับขาของเสิ่นอีเวยเอาไว้ เธอนั้นก็ดิ้นจะเป็นจะตาย แต่ก็กลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เสิ่นอีเวยก็เริ่มมีใบหน้าที่แดงขึ้น วันนี้เธอใส่ชุดเสื้อกระโปรง ก็ถูกเซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นถ่างออก
“สัตว์นรก ไอ่ชั่ว ” เสิ่นอีเวยก็ได้ด่าไปและก็ดิ้นรนเพื่อจะหลุดออกไป
เสิ่นอีเวยก็ได้แต่ด่าทอในใจ
ไม่ได้เจอกันหลายปี ผู้ชายคนนี้ก็ยังมีหน้าที่หนาเหมือนเดิมใช่ไหม ? เมื่อก่อนเขาไม่ใช่คนแบบนี้ หรือว่าบริษัทที่มีท่านประธานที่เก่งกาจถูกสุนัขกินไปแล้วหรือ?
เสิ่นอีเวยอยากจะร้องไห้ออกมา
ตอนนั้นตอนที่ได้คบกับคนนี้นั้น ความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้ได้มีโอกาสในการโรแมนติกกัน แต่ว่าเสิ่นอีเวยเข้าใจ ว่าไม่ใช่เพียงเพราะว่าเขานั้นไมได้รักเธอ แต่เป็นเพราะเขานั้นจะบังคับอารมณ์ของตัวเอง ไม่ได้ใช้เวลาไปเสียกับเรื่องเช่นนั้น แต่ตอนนี้มาดูแล้ว ผู้ชายคนนี้กลับเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากมาย
“เซิ่งเจ๋อเฉิงฉันขอเตือนคุณ พวกเราหย่ากันแล้ว หากคุณทำเช่นนี้อีก ฉันจะฟ้องร้องคุณนะ”
เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอ มือขวาก็ค่อย ๆ ลูบไล้ไปยังขาของเธอ และเสื้อกระโปรงก็ค่อย ๆ ถลกขึ้นมา
ผู้ชายได้ยิ้มแสยะ แล้วพูดว่า “แน่นอนว่าได้สิ คุณจะฟ้องอะไรก็ฟ้องไป เพียงแต่ผมคิดว่าการที่เป็นสามีคุณก็ต้องมีเรื่องจำเป็นที่จะต้องบอกคุณ พวกเราไม่ได้หย่าร้างอะไรกันเลย คุณแล้วหรือ ? ตอนที่คุณจะไปคุณก็ไม่ได้ทิ้งคำพูดอะไรไว้เลย การหย่าร้างจะผลก็ต่อเมื่อมีลายลักษณ์อักษร แต่หากจำไม่ผิดแล้วล่ะก็พวกเราก็ไม่เคยลงนามอะไรกันเลยนะ อ่อ ใช่แล้ว ความจริงไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร เรื่องที่สำคัญก็คือ หากวันนี้คุณทำอะไรให้ผมไม่พอใจ คุณก็อย่าได้เจอลูกสาวคุณเลย”
เสิ่นอีเวยตกใจ และตระหนก แล้วบอกเซิ่งเจ๋อเฉิง “คุณหมายความว่าอะไร ?”
เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ยังใช้มือลูบคลำไปมา สายตาก็ไม่ได้มองอะไรที่ไหน
“ผมจะบอกคุณต่อไปนี้อาจจะไม่ได้ดีต่อคุณนัก แผนการของคุณวันนี้มันล่มไปเสียแล้ว ตอนที่คุณส่งเหมียนเหมียนน้อยไปยังห้องเล็ก ๆ ผมก็ให้หลินอวี้พาไปเสียแล้ว สองคนนั้นกำลังอยู่ที่สวนสนุกกำลังสนุกกันอยู่เลย”
“……”
หัวสมองของเสิ่นอีเวยก็มึน ๆ ไปตามกัน แล้วด้วยความโกรธของเธอนั้น “เซิ่งเจ๋อเฉิงคุณนี่มันเลวจริง ๆ ใช้อาศัยอำนาจอะไร มาทำกับลูกสาวของฉัน ฉันอนุญาตให้พาไปแล้วหรือ ? คุณได้อย่างไรว่าฉันจะพาเหมียนเหมียนมา ?”
เซิ่งเจ๋อเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า “ตึกที่คุณอยู่นีก็คือตึกของผม คุณคิดว่ามีเรื่องอะไรจะหลบสายตาผมได้หรอ ? สำหรับเรื่องเมื่อสักครู่นี้ ผมถามคำนึง ไม่มีผม ใครเด็กสาวคนนี้มาจากไหน ?”
เสิ่นอีเวยก็ดิ้นรนเต็มที่เพื่อที่จะหลุดออกมา และได้ก้มไปเก็บรองเท้าส้นสูง แล้วก็ได้พูดต่อไปว่า “ฉันคงไม่อยากจะฟังคำพูดมั่ว ๆ ของคุณหรอก คุณก็ไม่ใช่รู้จักฉันครั้งแรก ดูฉันเหมือนจะเป็นคนที่ฟังคุณงั้นหรือ ? ”ฃ
“ฉันขอบอกคุณนะ เหมียนเหมียนคือเด็กที่ฉันอุ้มท้องสิบเดือนคลอดออกมา ไม่มีใครจะมีอำนาจในการพาเธอไป เธอก็คือชีวิตของฉัน ฉันขอบอกคุณนะเซิ่งเจ๋อเฉิง หากสิบนาทีคุณไม่พาเธอกลับมาหาฉัน ฉันจะรื้อตึกบริษัทเซิ่งซื่อนี้ทิ้งซะ ฉันพูดได้ทำได้”
เสิ่นอีเวยยอมรับเลยว่านี่คือการโกหก
ความคิดที่เธอไปอยู่ลอนดอนนั้น นอกจากเวลาทำงานในการให้เหมียนเหมียนไปอยู่กับพี่เลี้ยงเด็กแล้ว เธอก็ไม่เคยห่างจากสายตาของเสิ่นอีเวยเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ตอนนี้ ทำไมทั่วร่างกายของเธอนั้นเต็มไปด้วยความเย็น แม้แต่จะถือของก็ไม่อาจจะหยุดการสั่นได้เลย