บทที่ 36 สมุดบันทึกของเลขา2
ในตอนที่กู้ฮอนกำลังหลงเสน่ห์ของแอนโทนี่จนสติ หลุดอยู่นั้น น้ำเสียงที่เย็นชาของเป่ยหมิงโม่ก็ดึงเธอกลับ มายังปัจจุบัน: “ออกไป! เคาะประตูแล้วเข้ามาใหม่!”
ไม่กี่คำที่เรียบง่าย มากพอที่จะแช่แข็งความตกใจของ เธอได้เลย
เธอเม้มริมฝีปากแน่น และกลอกตาใส่เขา เป็นการท้วง หลังจากนั้นร่างกายก็ยังเดินออกไปนอกประตูอย่างว่า ง่าย ยกกำปั้นขึ้นมา
ก๊อกก๊อกก๊อก!
“ขออนุญาตค่ะ ท่านประธาน” ยู่ปากเล็กๆนั้น สี่ข้างบน แก้มที่แดงก่ำนั้น ราวกับจะพันกันหมด
เป่หมิงโม่ถึงจะทำหน้าเย็นชา “เข้ามา”
“ฮาฮาฮา. เหมิง สอง ท่านนี่มองการณ์ไกลจริงๆ … ถึงได้เลือกคนตลกแบบนี้มาให้นาย!” ด้วยเหตุการณ์ที่ เพิ่งเกิดขึ้นทำเอาแอนโทนี่ขำจนค้างไปแล้ว
ใบหน้าของเปหมิงโม่มืดมน
ผ่านไปครู่หนึ่ง แอนโทนี่ถึงจะเก็บเสียงหัวเรานั้นลง เดินไปถึงหน้ากู้ฮอน ยื่นมือออกมาจับมือที่นิ่มนวลขอ งกู้ฮอนไว้ แล้วยิ้มออกมา
“สวัสดีครับ ผมเรียกคุณว่าฮอน ได้ไหม?” น้ำเสียงของ แอนโทนี่อ่อนโยนจนน้ำตาแทบจะไหลออกมา กู้ฮอนยิ้ม แห้งๆ เขาพูดต่อ “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ฮอน ผมชื่อแอ นโทนี่ และยังเป็นลูกคนที่สามชื่อเป่ยหมิงยันของตระกูล เป่ยหมิง”
รอยยิ้มที่เบิกบานบนใบหน้าของกู้ฮอนค้างอยู่นอย่าง นั้นไปชั่วขณะ
แอนโทนี่เป็น เป่ยหมิง… เป่หมิงสาม?
สายตาที่เย็นชาของเหมิงโม่กวาดผ่านกู้ฮอนขมวด คิ้วเล็กน้อย “เก็บเขี้ยวเล็บของนายซะ เธอไม่คู่ควรกับ นาย!”
น้ำเสียงยังคงคมชัดราวกับน้ำแข็งที่แหลมคม
บนใบหน้าหวานราวดอกท้อของเป่หมิงยัน รีบเปลี่ยน ไปเป็นใบหน้าที่บาดเจ็บทำที ตอบกลับอย่างน่าสงสาร “เป่หมิงสอง ในฐานะคนที่เคยชินกับการกินเป้า ชาน ชื่อ ตู้ แล้ว การกินโจ๊กกับเครื่องเคียงถึงจะอร่อย!”
ประโยคนี้ทำเอากู้ฮอนหน้าแดงขึ้นกว่าเดิมอีก ทว่า ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะเขินอาย แต่เป็นเพราะโกรธ บ้าเอ้ย พูดว่าใครเป็นโจ๊กเป็นเครื่องเคียงกัน! ชั่วขณะ ความรู้สึกที่เธอมีต่อแอนโทนี่เป็นศูนย์ทันที แม้ว่าเธอจะไม่ใช่เป้า ชาน ชื่อ ตู้ ที่หรูหรา อย่างน้อยก็เป็น กง เป้า จี ติง ข้างโต๊ะเหอะ
กู้ฮอนถอดมือออกมาจากเขี้ยวเล็บของเป่ยหมิงยันทันที พลางเช็ดมือให้สะอาด แล้วพูด “ต้องขอโทษด้วยนะคะ คุณแอนโทนี่ ถ้าคุณจะหาโจ๊กกับเครื่องเคียงออกจาก ประตูไปเลี้ยวซ้ายจากนั้นก็เลี้ยวขวา”
เป็หมิงยันชะงักไปชั่วขณะ ที่กู้ฮอนปฏิบัติต่อเขาอย่าง เย็นชากะทันหันทำให้เขางุนงง “ทำไมครับ?”
“เพราะว่าในข้างกล่องของคุณป้าที่ทำความสะอาดก็มี
โจ๊กกับเครื่องเคียงไงคะ!”
…” เป่ยหมิงสามที่อ้างตัวว่าเป็นที่รักของสาธารณชน ทั่วไปอย่าคุณชายเป็ดหมิงสาม คราวนี้เขาแห้วซะแล้ว
บนใบหน้าที่สงบและเยือกเย็นของเป่หมิงโม่ มองไม่ เห็นการแสดงออกอะไร แต่เขาเหลียวมองในตาของเป่ห มิงยัน เผยให้เห็นถึงคำว่าสมน้ำหน้า แต่กลับทรยศความ รู้สึกของเขาในขณะนี้
เขาขมวดคิ้ว ราวกับว่ากลบความรู้สึกอึมครึมของเมื่อ เช้าจนหมด ตอนนี้อารมณ์ดีอย่างน่าประหลาด
“กู้ฮอน ออกไปเตรียมเอกสารสำหรับการประชุม แล้ว เดี๋ยวเอามาส่งผม”
กู้ฮอนโกรธขึ้นมา “ท่านประธาน ฉันเป็นหวัดอยู่นะ
คะ!”
เขาหยุด สายตาที่เยือกเย็นมองใบหน้าที่ธรรมดาของเธอ “สีหน้าแดงระเรื่อ ดูแล้วก็ไม่เลว”
เธอตื่นเต้นจน “นั่นเป็นเพราะตัวร้อนต่างหาก!” หมู อยากจะชกเขาสองหมัน แล้วด่าว่าคนไร้มนุษยธรรม!
เขาเงียบลงอีกครั้ง “ไปให้น้ำเกลือที่ห้องพยาบาล”
ในอาคารใหญ่ของตระกูลเป่ยหมิง มีห้องพยาบาลของ ตัวเอง เอาไว้ใช้ในกรณีที่พนักงานต้องการ
ความโกรธของกู้ฮอนถึงจะลดลงมาได้ คิดนี่ค่อยมี ความเป็นคนขึ้นมาหน่อย
ดังนั้นจึงพยักหน้า หลังจากเดินไปข้างประตู ประโยค ที่เยือกเย็นก็ปลิวมาอีก—-
“เขียนรายงานไปด้วยระหว่างที่ให้น้ำเกลือ”
กู้ฮอนแหงนหน้ามองฟ้า
คนเลว!
1 ชั่วโมงผ่านไป
ภายในห้องทำงานของท่านประธานก็กลับมาเงียบจน ทำเอาคนต้องหนาวสั่น
เพราะเป่ยหมิงยันยังมีประกาศที่จะต้องทำ เขาหายไป
จากในกลุ่มของหญิงสาวหลายคนภายในบริษัทอย่างไร้
ร่องรอย
เป่ยหมิงโม่กลับมาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งอีกครั้ง
กลับกันในด้านกู้ฮอน นั่งอยู่บนโซฟา เฉื่อยชาเหมือน ลูกแมวขี้เกียจ
ขวดน้ำเกลือวางอยู่ข้างๆถาดน้ำชา มือซ้ายของเธอถูก
เข็มเสียบไว้
บนใบหน้าที่กวางเท่าฝ่ามือ ผิวที่บอบบางเปลี่ยนเป็นสี แดง แก้มสีชมพูที่ถูกเผาไหม้เพราะพิษไข้ น่ารักมาก ขนตายาวงอยขึ้นเล็กน้อย มองต่ำปิดบังม่านดาดำที่
เปล่งประกายนั้นไว้
มือขวาถือปากกาไว้ กัดริมฝีปากแดงไว้ขมวดคิ้วแน่น และฝังคางลงบนเข่า
วาดและเขียนบนสมุดจดบันทึกของเธอ
เมื่อเปหมิงโม่เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นภาพเหล่านี้ ดวงตาดำ มีด ใบหน้าที่ใสสะอาดนั้น ราวกับว่าถลำลึกเข้าไปบางที่ ในใจเขา มีความวุ่นวายอย่างไม่น่าเชื่อ
ติดต่อกัน เขาไปสะดุดอยู่ที่สมุดบันทึกของเธอ ร่างสูง ยืนขึ้น เขาเดินไปข้างโซฟาอย่างเบาเสียง
อย่างไรก็ตามบรรยากาศที่เย็นลงอย่างกะทันหันนี้ เงียบจนไม่มีเสียง แต่มันก็ยังพัดผ่านไปในรูขุมขนขอ งกู้ฮอน เธอถูกจับอย่างไม่ทันตั้งตัว
ทำตาราวกับกระต่ายน้อย “เฮือก..
เสียงสะดุ้ง เธอกระวนกระวายเพื่อซ่อนสมุดบันทึกใน
มือ
“คุณเขียนอะไรอยู่กันแน่? ถึงไม่ยอมให้ใครเห็น” เป่ห มิงโม่ขมวดคิ้ว นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอซ่อนสมุดบันทึก ของตัวเองไปจากเขาราวกับขโมย
กู้ฮอนหัวเราะแห้งสองครั้ง และกอดสมุดบันทึกไว้ใน อกแน่น “อ๋อ ก็แค่ฝึกคัดลายมือนิดหน่อย”
ใบหน้าของเธอแสดงท่าทีออกว่าว่าโกหกอย่างชัดเจน สายตาที่ดำลึกของเป่หมิงโม่หรี่มองเธออย่างละเอียด นึกถึงตัวอักษรที่บิดเบี้ยวในใบลาของเธอเมื่อวาน พยัก หน้าอย่างเห็นด้วย “คุณควรจะฝึกคัดตัวหนังสือไส้เดือน ดินนั่นของคุณจริงๆแหละ”
ตัวหนังสือไส้เดือน?
กู้ฮอน พองแก้มแล้วกะพริบตา กลืนความโกรธลงไป ดี กว่าเขาอารมณ์ไม่ดีแล้วมาถามเธออีกว่าเขียนอะไร
พยักหน้าอย่างพิจารณา มองนาฬิกา “ท่านประธาน ได้ เวลาประชุมแล้ว นี่คือเอกสารการประชุมที่ฉันเตรียมไว้
ค่ะ”
กู้ฮอนพูดไปด้วย พลางชี้เอกสารที่วางอยู่บนถาดน้ำ
ชา
เป่ยหมิงโม่ไม่มองแม้แต่น้อย แค่พูดอย่างเพิกเฉยว่า “เดี่ยวคุณเข้ามา รวมการประชุมด้วย”
“ฉัน? ” เธอเบิกตาโต “แต่ว่าฉันไม่เข้าใจสักหน่อย” %3D
ตระกูลเปหมิงนั้นเป็นศาสตร์ขั้นสูง ศาสตร์พื้นฐาน แบบเธอนั้นเห็นได้ชัดเลยว่าไม่สามารถเข้าใจได้
ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ได้อยากรู้สักหน่อย
กลับคิดไม่ถึงเลยว่าคำพูดเพียงประโยคเดียวของ เขา—
“ถ้าอย่างนั้นต้องการให้ผม “สอนคุณไหม?”
ในน้ำเสียงมีความรู้สึกไม่ดีบางอย่างแฝงอยู่ ในหัว ปรากฏภาพการ สอนของเขาครั้งก่อนขึ้นมา ภาพความ น่ากลัวฉายขึ้นอย่างชัดเจน
ทำเอากู้ฮอนเกือบตาย