ตอนที่ 62 รับมือไม่ทัน2
เป่ยหมิงโม่ยังคงสวมชุดสูทแฮนเมดจากร้านหรูชื่อ ดัง เส้นผมดำขลับหวีเรียบเข้าทรง โครงหน้าคมเข้ม เยือกเย็นเหมือนเคย
“ประธาน….”กู้ฮอนเอ่ยพึมพำออกมา
เป้หมิงโม่ไม่แม้แต่จะชำเลืองตาขึ้นมอง ยังคง ตรวจดูเอกสารต่อไป
ราวกับหลายวันที่ผ่านมานี้ เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่าง เธอกับเขาทั้งหมดกลับไปสู่จุดเริ่มต้น เขา….เย็นชา จนเธอไม่รู้ควรจะทำอย่างไรไปชั่วขณะ ความ เงียบเหงาแล่นเข้ามาในจิตใจ “ประธานคะ ได้ยินว่า จะจัดแข่งขันชิงแชมป์โปรเจกต์ “หยิง” ตอนบ่ายโมง ตรงหรือคะ?”
“อิม” เขาตอบกลับเรียบ ๆ เสียงหนึ่ง แล้วก็เงียบงันลงอีกครั้ง
“งั้น….เธอนิ่งไปสักครู่อย่างระมัดระวัง ดวงตาสี ดำจดจ้องอารมณ์ของเขาอย่างละเอียด “ต้องการให้ ฉันทำอะไรไหมคะ?”
เป่หมิงโม่ถึงได้ช้อนตาขึ้นมองเธอ ในดวงตาเรียว ยาว ฉายแววอ่อนล้าออกมาแวบหนึ่ง คิ้วขมวดเข้าหา กัน ริมฝีปากบางยิ้มเยาะ “คนที่ทำรายงานการประชุมยังทำให้ดีไม่ได้ แล้วเธอคิดว่าเธอยังทำอะไรได้อีก?”
เขาอ้างถึงครั้งก่อนที่เธอทำรายงานอัลบัมภาพ ของประธานฉบับนั้น
แก้มของกู้ฮอนร้อนผ่าว กัดปากโดยสัญชาตญาณ
โทรศัพท์มือถือกลับดังขึ้นมาในเวลานี้
เธอหลุบตาลง เดินไปยังโซฟาอย่างเสียมารยาท เหมือนอย่างทุกครั้ง เปิดโทรศัพท์ขึ้น ข้อความหนึ่งพุ่ง เข้าสู่สายตาเธอ-
การแข่งขันจัดก่อนเวลา เธอกลับไม่ยอมบอกฉัน! ไม่ว่าในใจเธอจะมีแผนอะไรอยู่ก็ตาม ส่งพิมพ์เขียวให้ กับอันขีเดี๋ยวนี้ ตอนเที่ยงกลุ่มธุรกิจกู้จะมาร่วมแข่ง แล้ว PS: อย่าบังคับให้ฉันต้องใช้กำลังนะ ฉันแพ้ไม่ได้ และเธอก็ห้ามแพ้เหมือนกัน!-กู้เชิงเทียน
นิ้วมือสั่นเทา
ขณะที่จ้องมองข้อความจากพ่อบนหน้าจอ สีหน้า ของเธอพลันซีดขาว
เมื่อนึกถึงพิมพ์เขียวขึ้นมาอีกครั้ง หน้าผากของ เธอก็มีอาการปวดจาง ๆ
ขณะที่แอบเหลือบมองไปยังคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ ของเป่ยหมิงโม่ หัวใจของกู้ฮอนก็สั่นระรัว….
คฤหาสน์ตระกูลเป่ยหมิง
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องลงมายังสวนเขียวขจี
ใต้เงาร่มไม้ สุนัขพันธุ์ชาร์เป่ยหนังย่นตัวหนึ่ง กำลังนอนแผ่ กินอย่างขี้เกียจอยู่ริมกองก้อนกรวด
“ลูกนี้ เป็นไส้กรอกบราซิลของโปรดแกที่ฉันเอา มาจากในห้องครัว….เป็นเด็กดีนะ ค่อย ๆ กินล่ะ อย่า ให้ติดคอ”
หยางหยางนั่งยองอยู่ข้างหน้าเบลล่า ในมือถือ ไส้กรอกไว้ ค่อย ๆ ป้อนเบลล่าทีละชิ้น
บนร่างเล็กนั้น ที่แบกอยู่บนหลังคือกระเป๋าหนังสือ ใบเล็กของเขา ถอดชุดคุณชายน้อยเรียบหรูคลาสสิค ออก แล้วเปลี่ยนกลับเป็นชุดนักเรียนดังเดิม
ขึ้นลูกนี้ติดคอตาย คุณชายน้อยเฉิงเฉิงมี เ หวังต้องมาคิดบัญชีกับฉันแน่ ปัญหาคือ บ้านฉัน ยากจนจะแย่ ไม่มีปัญหาชดใช้ให้เขาหรอก….”หงส์….”เบลล่าส่งเสียงครางต่ำออกมา อดเหลือกตาม องบนไม่ได้ เจ้าเด็กโง่นี่
เสียงแหลมเล็กของหยางหยางมีนัยลังเลอยู่เล็ก น้อย” ป้อนลูกนี้ให้แกเสร็จแล้ว ฉันก็ต้องไปแล้วล่ะ….” เบลล่ากินอย่างพอใจ อยากจะพูดเต็มทีว่าไป ๆ เสียที เถอะ
“ฉันไปล่ะ แกจะต้องคิดถึงฉันนะ!” หยางหยางว ปากน้อยออกคำสั่ง
“หงิง..”เบลล่างับไส้กรอก คิดถึงนายมีหวังฝันร้ายแน่นอน
หยางหยางลูบใบหน้าน้อยยับย่นไปมา “เป็นเด็กดี ล่ะ ฉันไม่อยู่แล้ว แกต้องดูแลตัวเองดี ๆ รู้ไหม? คุณ ยายเป็นภูมิแพ้ แกอย่าเข้าไปใกล้คุณยายล่ะ คุณปู่ ความดันเลือดสูง แกยิ่งห้ามทำให้คุณปู่ตกใจ คุณพ่อ ของเฉิงเฉิงไม่ชอบที่แกน่าเกลียด ดังนั้นห้ามไปวอแว ต่อหน้าเขาเขียว แล้วก็….” หงิง… “เบลล่าครางสลับ ในลำคอ รู้แล้วน่ารู้แล้ว หนวกหูจริง
“. จำไว้ให้ดี….. ฉันไปล่ะ เจ้าตัวกลม….”
หยางหยางพูดพลาง ดวงตาแดงก่ำ
สุดท้าย เขาถอนหายใจเหมือนคนแก่ จากนั้นก็ลุก ขึ้นยืน
ดวงตาเฉลียวฉลาดมองไปยังบรรยากาศรอบด้าน จากนั้นกระชับกระเป๋าที่อยู่บนหลัง ร่างน้อยพิงต้นไม้ โดดเดี่ยวอยู่บนทางเดินหินเล็ก ๆ ลาก่อน คุณปู่ คุณย่า
ลาก่อนทุกคนในบ้านเหมิง
ลาก่อน เจ้าตัวกลมน่าเกลียด แล้วก็ ลาก่อน….คุณพ่อเฉิงเฉิง….
ภายในห้องประชุม ตึกใหญ่ธุรกิจเป่ยหมิง บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด
“ท่านประธานครับ ทางห้องประชุมชั้นสิบเตรียม การเรียบร้อย ฝ่ายประชาสัมพันธ์เพิ่งส่งข่าวสารมา แจ้ง ว่าตอนนี้บริษัททั้งเจ็ดสิบเอ็ดแห่งผู้เข้ารอบกลุ่ม แรกพร้อมแล้ว…ในการประชุม หัวหน้าระดับสูง ของแต่ละแผนกต่างรายงานการทำงานของตนอย่าง จริงจัง
การประชุมครั้งนี้กู้ฮอนเรียนรู้ที่จะสำรวมสักที ทันทีที่เข้าไปก็ย้ายเก้าอี้ไปนั่งยังจุดที่ไกลเป่หมิงโม่ให้ มากที่สุด ในมือถือสมุดบันทึกของตัวเอง พลางจดและ ไม่จดลงไปบ้าง
ลอบมองสีหน้าเย็นชาหล่อเหลาของเป่ยหมิงโม่อยู่ บ่อยครั้ง ในหัวคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นร่วมกับเขาใน หลายคืนที่ผ่านมาทีละเล็กทีละน้อยไม่หยุด
โดยเฉพาะคืนครบรอบวันเสียชีวิตของแม่เขาคืน นั้น เธอยังคงจดจำความอบอุ่นจากปลายนิ้วเยือกเย็น ของเขาได้จนถึงตอนนี้… ทว่าเพียงแค่ชั่วพริบตา
เขาก็กลับมาเป็นเหมิงโม่ผู้เยือกเย็นดั่งธารน้ำ แข็งคนเดิม