ตอนที่ 99 ยอมแพ้2
กู้ฮอนเหลือบมองที่เขา ใจเต้นเบาๆ ผู้ชายคนนี้ยิ่งได้มอง ก็ยิ่งดูมีเสน่ห์มากขึ้นจริงๆ “…” %3D
เป่ยหมิงโม่เหลือบมองมาที่เธอแล้วมองดูบะหมี่สองชามบน โต๊ะ ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวว่า “ผมไม่กิน”
“อ่อ…” เธอไม่อยากจะยอมรับเลยว่าที่เขาปฏิเสธจะกิน บะหมี่ที่เธอทำ มันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย คุณจะ ไปทำงานแล้วเหรอ?”
“อืม” ตอบกลับอย่างเย็นชา
ราวกับว่าชายร้อนแรงบนเตียงคนนั้นไม่ใช่เขา เขากลับสู่โหมดเงียบขรึมอีกครั้ง ใบหน้าเขาปราศจากอา
รมณ์ใดๆ เมื่อเปลี่ยนรองเท้าเสร็จ เขาหันหลังและจับลูกบิดประตู
“เอ่อ เป่หมิงโม่ ” เธอเรียกเขา “เรื่อง ตระกูลกู้…” เขาหยุดฝีเท้าและพูดออกมาเบาๆ “คุณไปพักผ่อนก่อน
และค่อยมาทำงานในตอนบ่าย ผมถึงจะให้คำตอบคุณ”
จากนั้น ปัง
ประตูปิดลง
ภายในบ้านกลับสู่ความเงียบเหงาอีกครั้ง
กู้ฮอนจ้องมองดูบะหมี่ร้อนสองชามบนโต๊ะ รู้สึกความ เหงาผ่านเข้ามาในใจ
จากนั้น นั่งลงหยิบตะเกียบขึ้นมาก่อนจะเริ่มกิน….
ไม่มีใครแย่งเธอกิน ดีซะอีก!
หลังจากกินไปได้ครึ่งชาม คุณกู้เพิ่งจะตอบสนองสิ่งที่เขาพูดก่อนที่จะออกไปยังคงอยู่ในหูของเธอ
ให้เธอนอนพัก ก็หมายความว่าเป็นห่วงที่เมื่อคืนเธอนอน
ไม่พอเหรอ?
แต่ว่า ให้มาทำงานในตอนบ่ายหมายความว่าอย่างไร? หรือว่า….ครั้งนี้ เธอไม่แม้แต่สูญเสียร่างกาย แต่ยังสูญ
เสียอิสระอีก?
กู้ฮอนถือโอกาสช่วงพักเที่ยง รีบไปโรงเรียนเด็กดาว อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นใบหน้าสีขาวใสของลูกชายปรากฏต่อหน้า หัวใจ
ที่นึกเป็นห่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาก็หายไปทันที
หลังจากทิ้งลูกชายไว้ที่บ้านคนเดียวและไปหาผู้ชายอีก คนหนึ่ง ทำเอาเธอรู้สึกผิดจริงๆ
แม้ว่าเธอจะถูกบังคับก็ตาม
“นางกู้ นักเรียนหยางหยางช่วงนี้อยู่ที่โรงเรียนประพฤติดี มากจริงๆ เราเลยอยากแนะนำให้เขาเข้าร่วมการประกวดท็อปเท็นโมเดลรุ่นเด็ก ของเมือง A นางกู้คุณคิดว่าไงบ้าง?” ครูจางครูประจำชั้นของลูกชายพูดกับเธอ
“ประกวดท็อปเท็นโมเดลรุ่นเด็ก?” กู้ฮอนเบิกตากว้าง อด ไม่ได้ที่ลูบผมอ่อนนุ่มของลูกชาย “ฮาๆ ครูจาง หยางหยาง ช่วงนี้ประพฤติดีขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”
ครูจางพยักหน้าและยิ้มอย่างสุภาพ “ความก้าวหน้าของ นักเรียนหยางหยางพูดได้ว่ารวดเร็วอย่างมาก ไม่เพียงแค่ สอบได้ที่หนึ่งของทุกวิชาในโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังมี คะแนนเต็มของทุกวิชาอีกด้วย โรงเรียนภูมิใจอย่างมากที่มี นักเรียนดีเด่นขนาดนี้!”
กู้ฮอนตกใจมาก!
ก่อนจะดึงลูกชายเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว แล้วกระซิบที่ ข้างหูถาม ด้วยเสียงโทนต่ำ “หยางหยาง ครูประจำชั้นของ ลูกไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม? ทำไมถึงได้พูดอะไรแปลกๆ ยัง บอกอีกว่าลูกไม่เพียงแค่สอบได้ที่หนึ่งของทุกวิชาแต่ยังได้ คะแนนเต็มอีกด้วย! เธอไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”
เฉิงเฉิงกลอกตาอย่างจนปัญญา เมื่อเห็นสีหน้า ไม่อยาก เชื่อจะว่าลูกชายของตัวเองเก่งขนาดนี้” ของแม่และถอน หายใจในใจ
“แม่ครับ ครูจางพูดถูกแล้ว เพียงแต่ว่าช่างนี้แม่ยุ่งเกินไป ถึงไม่รู้ว่าผมก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว” เฉิงเฉิงตอบกลับเสียง
เล็ก
“ฮึม?” กู้ฮอนชะงัก ช่วงนี้เธอคงยุ่งมากจริงๆ เป่หมิงโม่ก็หลอกเธอซะจนวุ่นวายไปหมด ทำให้รู้สึกผิดที่ละเลย ลูกชายของเธอ แต่ ความจริงที่ว่าลูกชายของเธอก้าว กระโดดจากคนจำนวนมากไปอยู่ที่หนึ่งอย่างนั้น ทำเอาคน ไม่อยากเชื่อว่าจะก้าวหน้าได้ขนาดนั้น!
ดังนั้น เธอจึงพูดอย่างสงสัยว่า “ลูกรัก แม่เคยสอนลูกนะ ว่าห้ามพูดโกหก…”
เฉิงเฉิงกลอกตาอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะไม่ได้โกหกเรื่องได้ คะแนนเต็มของการสอบ แต่โกหกเรื่องที่เรียกตัวเองว่า หยางหยางทำเอาเขาไม่กล้าพูดความจริงกับแม่
เมื่อคิดได้ ก็รีบเปลี่ยนหัวข้อพูด “แม่ครับ ผมไม่อยากเข้า ร่วมประกวดท็อปเท็นโมเดลรุ่นเด็ก”
“ทำไมล่ะเด็กคนอื่นๆคงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าร่วม การประกวดด้วยซ้ำ ทำไมลูกชายของเธอถึงไม่อยาก?
“อึม….” เฉิงเฉิงหยุดพูดครู่หนึ่งและเปิดตาสีดำที่เปล่ง ประกายของเขา ถามอย่างลองใจว่า “แม่อยากให้ทุกคนใน เมือง A รู้จักหยางหยางเหรอครับ?”
%3D กู้ฮอนหมดคำพูด
ในเวลานั้นหยางหยางเป็นเด็กที่เธอแอบเก็บซ่อนไว้ ถึง จะมีพี่ชายฝาแฝดอีกคนก็ตาม ถ้าหยางหยางถูกเปิดเผย ขึ้นมา กลัวว่ามันจะทำให้เกิดปัญหามากมาย
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้กู้ฮอนพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
จากนั้นก็ยิ้มขอโทษครูประจำชั้น “ขอโทษนะคะ ครูจาง ครอบครัวของเราไม่ค่อยชอบเป็นที่รู้จัก ฉันจึงคิดเรื่องประกวดท็อปเท็นโมเดลรุ่นเด็ก หยางหยางคงไม่ได้เข้าร่วม”
ครูจางรู้สึกประหลาดใจ “แต่นางกู้ นี่เป็นโอกาสที่หาได้ ยาก ถ้านักเรียนหยางหยางได้รับเลือก มันจะเป็น ประโยชน์อย่างมากสำหรับการพัฒนาในอนาคตของ เขา..”
“ฉันขอโทษจริงๆค่ะ ครูจาง ขอบคุณสำหรับความไว้ วางใจและการฝึกฝนหยางหยางของคุณ แต่เราในฐานะ พ่อแม่ ตราบใดที่เด็กโตขึ้นอย่างมีความสุข เกียรติยศและ ชื่อเสียงเหล่านั้นไม่ได้มีความสำคัญเท่าไหร่ ดังนั้นเรื่องนี้ ขอหยุดไว้เท่านี้ดีกว่าค่ะ ขอโทษนะคะครูจาง ที่ไม่สามารถ รับความหวังดีของคุณได้…”
“แต่ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่ต้องการให้ลูกเป็นบุคคลที่ ประสบความสำเร็จ! จะไม่กลับไปคิดทบทวนอีกเหรอคะ?”