ตอนที่ 115เด็กผู้ชายหัวฟู2
เฉิงเฉิงสะพายกระเป๋านักเรียนออกมาจาก โรงเรียน เดินผ่านซอยแคบๆ เห็นเงาของคนตัวเล็กๆ ตะคุ่มอยู่ไกลๆที่ท้ายซอย
เงาของคนนั้น ใบหน้าขาวเรียวรูปไข่ ใส่แว่น
กันแดดอันใหญ่มาก
ผมสีดำเส้นเล็กนุ่มสลวย ทรงผมทันสมัย
ทรงผมหยิกฟู!
ทรงผมฟูฟ่อง ถ้ายื่นมือไปโดนผมคงจะติดออกมา กับมือสักเส้น ราวกับดอกไม้ไฟบนท้องฟ้า แจ่มแจ้งเจิด จรัสอย่างชัดเจน
ดอกไม้ไฟเป็นสิ่งที่สวยงาม โดยเฉพาะเวลาจุดขึ้น เป็นประกายบนท้องฟ้า
แต่ทว่า
มีใครเคยเห็นดอกไม้ไฟที่สวยงามอยู่บนหัวของ คนรึเปล่า?
ที่มากไปกว่านั้น ยังเป็นดอกไม้ไฟที่ถูกจุดระเบิด
แล้ว…
เฉิงเฉิงขมวดคิ้วขึ้นมาทันที สายตาเลิกลั่ก
ถ้าเป็นไปได้ เขาไม่อยากยอมรับเลยว่าเงาของคนตัวเล็กที่แวบเข้ามา เหมือนกับหยางหยางมากๆ!
“อาเว่ย…หยางหยางเห็นเฉิงเฉิงจริงด้วย เมื่อมอง ซ้ายมองขวา จากนั้นรีบวิ่งเข้ามาทันที
เฉิงเฉิงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม “ฉันไม่ใช่อาเว่ย ฉันเป็นพี่
นาย”
หยางหยางเงียบไป ขยับแว่นกันแดดอันใหญ่ของ เขา “ไม่ต้องพูดมากแล้ว ใครเป็นพี่ใครยังไม่แน่เลย เหอะ ! ช่วงนี้สืบเจออะไรบ้างไหม?”
เฉิงเฉิงกว่าดสายตามองหยางหยาง หลังจากตั้งใจ มองทรงผมพลุไฟหัวฟูของเขาอย่างละเอียด จากนั้น พูดขึ้นด้วยความรังเกียจ
“นายไปโดนอะไรมา? หัวฟูระเบิดน่าเกลียด ทำร้ายตัวเองแบบนี้?”
“หัวพลุไฟระเบิด? ทำร้ายตัวเอง?” หยางหยางพูด ขึ้นด้วยน้ำเสียงขัดแย้ง รีบถอดแว่นกันแดดอันใหญ่ ออก “นี่เป็นทรงผมสุดทันสมัยในเวลานี้เลยนะ! พวก คนขี้ขลาด ไม่กล้าตัดทรงแบบนี้หรอก! นายนี่มันไม่มี รสนิยมเอาซะเลย!”
เฉิงเฉิงขมวดคิ้ว สีหน้าเย็นชา “ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ลุงสามตัดให้นายใช่ไหม?”
“เหอะๆ” หยางหยางจับผมพลุไฟระเบิดของตัวเอง ฉีกยิ้มเจื่อน “นายไม่รู้หรอก ช่วงนี้ลุงสามพาฉันไป เที่ยวหลายที่เลย โอ้โหสนุกมากเลยนะ..”
“มิน่าล่ะ!! ฉันโทรหานายตั้งสามรอบ นายกลับไม่ ว่างออกมาเจอเลย!” เฉิงเฉิงรู้ดีว่าหยางหยางเหมาะกับ ตระกูลเปหมิงที่สุดแล้ว
หยางหยางเป็นคนอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดีเสมอ ไม่ว่าจะมีเรื่องทุกข์ใจแค่ไหน สำหรับเขาแล้วเพียงแค่ ข้ามขึ้นไป ตื่นขึ้นมา ก็สามารถหัวเราะเฮฮาเหมือนเดิม ได้แล้ว
อีกทั้ง หยางหยางกับลุงสามชอบกินดื่มเที่ยวเล่น อย่างสุดโต่งเหมือนกัน ดังนั้น เขากับลุงสามจึงคลุกคลี อยู่ด้วยกันได้ เฉิงเฉิงจึงไม่รู้สึกแปลกใจ
หยางหยางเม้มปาก “เฮ้ย ฉันก็ยุ่งเหมือนกันนะ ถ้า ฉันไม่สนิทกับลุงสาม ฉันคงไม่รู้ว่าขนาดลุงสามยังไม่รู้ เลยว่าแม่ของนายเป็นใคร?”
หยางหยางขมวดคิ้ว “ลุงสามก็ไม่รู้งั้นเหรอ?”
“ใช่สิ!” หยางหยางเหลือบตามองบน เอาเถอะ ฉัน ยอมรับ ช่วงนี้เขากับลุงสามเที่ยวเล่นกันมากไปหน่อย เล่นสนุกจนหลุดโลก “ฉันแค่ได้ยินลุงสามบอกว่า ตอน นั้นย่าหาผู้หญิงคนหนึ่งให้พ่อ จากนั้นก็มีนาย..”
“มีพวกเราต่างหาก!” เฉิงเฉิงพูดขึ้นอย่างจริงจัง ขมวดคิ้วแน่น “คุณย่าหาผู้หญิงให้พ่องั้นเหรอ?” เฉิงเฉิงคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นหยิบ
กระดาษเล็กๆแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋านักเรียน หยางหยางหยิบมาดู บนนั้นเขียนด้วยตัวอักษรอย่างเป็นระเบียบ : “คลินิกสูตินรีเวชลินดา”
“แผนกสูตินรีเวช” หยางหยางพูดตะโกนออกมา มองไปที่เฉิงเฉิงด้วยความแปลกใจ “นี่ นายคลอดลูก ไม่ได้ จะไปหาหมอสูตินรีเวชทำไม?”
เฉิงเฉิงมองเขาด้วยสายตาเชือดเฉือน “ฉันเคย เจอคุณน้าลินดาคนนี้มาก่อน เป็นคุณหมอที่ทำคลอด ให้แม่ตอนเกิดพวกเรา เหมือนหล่อนจะรู้เรื่องอะไรบาง อย่าง…”
“จริงเหรอ?” สายตาของหยางหยางเบิกโตเป็น ประกายด้วยความดีใจ ดึงมือของเฉิงเฉิง “งั้นพวกเรา รีบไปกัน …”
เฉิงเฉิงหยุดชะงัก มองไปที่มือของหยางหยาง ขมวดคิ้วขึ้น “นายไม่ต้องกลับไปแล้วหรอ?”
“ฉวยโอกาสตอนลุงสามอยู่กับผู้หญิง กว่าจะแอบ ออกมาเดินเล่นได้ ถ้าเขากลับไปตอนนี้ ลุงสามก็คง ไม่มีเวลาส่งฉันกลับบ้านเหมิงหรอก”
หยางหยางพูดอธิบาย “ไม่ต้องพูดมากแล้ว ไปถาม หมอสูตินรีเวชคนนั้นให้ชัดเจนกันดีกว่าไหม?”
ด้วยความที่หยางหยางดื้อจะมาให้ได้ เฉิงเฉิงจึง จำต้องเข้าไปในแผนกสูตินรีเวชอย่างไม่มีทางเลือก “หนุ่มน้อยมาหาใครหรอจ้ะ?” พยาบาลคลินิกเห็น
ชายหนุ่มสองคน จึงรีบเข้ามาต้อนรับ ทำไงได้ หนุ่มน้อยหน้าตาหล่อรวยเสน่ห์อย่างเป่หมิงซิเฉิงปรากฏตัวแบบนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนต้านทานไว้ ได้หรอก
โดยเฉพาะผู้ชายหัวพลุไฟระเบิด ใส่แว่นกันแดด อันใหญ่ ที่ยืนอยู่ด้านข้าง มองเห็นหน้าตาได้ไม่ชัด
เมื่อเทียบกันดูแล้ว เฉิงเฉิงดูเป็นคุณชายดูดีมี ฐานะอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้น เขาจึงดึงดูดสายตาของผู้คนในคลินิกได้ มากมาย
หยางหยางเริ่มไม่พอใจ ขยับแว่นกันแดดอันใหญ่ ของเขา พูดขึ้น “ให้หมอลินดามาเจอพวกเราสิ”
คนหนึ่งอยู่บ้านตระกูลเป่ยหมิงมานาน และอีกคน อยู่กับลุงสามมาสักพัก เฉิงเฉิงไม่มีพฤติกรรมที่แย่เลย แต่หยางหยางกลับตรงข้าม
เฉิงเฉิงถอนหายใจ ไอ้เด็กเลวคนนี้..
“พี่สาวครับ คุณหมอลินดาอยู่ไหมครับ? พวกเรา อยากจะพบหล่อนครับ” เฉิงเฉิงถามขึ้นอย่างนอบน้อม
พี่พยาบาลรีบส่งยิ้มให้ “ที่แท้พวกหนูมาหาคุณ
หมอลินดางั้นเหรอ ขอโทษด้วยนะคะ วันนี้คุณหมอลิน ดาไปตรวจที่โรงพยาบาล ไม่ได้มาที่นี่ค่ะ” เมื่อทั้งสองได้ยินเช่นนั้น ต่างพากันหูตกไหล่ตก
กัน
ผิดหวัง..
เมื่อออกมาจากคลินิก เฉิงเฉิงซึมจนไม่พูดไม่จา
หยางหยางที่อยู่นิ่งไม่ได้ เงียบไปสักพักจากนั้น พูดบ่นพึมพำขึ้นอีก “นี่เป่หมิงซิเฉิง พวกเราไม่ต้อง สืบหากันแล้วดีไหม? เหนื่อยชะมัดเลย! นายว่าเรากลับ ไปถามแม่กันตรงๆเลยดีไหม?”
เฉิงเฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้าย เขาก็พยักหน้า ลง สูดหายใจเข้าลึก “…ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้นะ…”
“เย้! งั้นพวกเรารีบกลับบ้านกัน! คุณยายต้องทำ กับข้าวแล้วแน่ๆ ส่วนแม่ก็คงกำลังรออยู่…”
หยางหยางดีใจกระโดดโลดเต้น เขายังไม่รู้เรื่อง คุณยาย
เฉิงเฉิงถูกหยางหยางสวมกอดเข้าอย่างจัง เขารู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาทันที