ตอนที่ 228 ถูกจับ1
เหลียงหยู่ออกคำสั่ง ตำรวจพวกนั้นพาตัวเธอไปด้ายสีหน้า
เรียบ
สถานีตำรวจเมืองA ห้องสอบสวน
ในห้องที่ไม่มีหน้าต่างทั้งสี่ด้าน กู้ฮอนนั่งหดหูอยู่บนเก้าอี้ ตัวเธอถูกห่อด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่ ผมสยายอยู่บนบ่า และมี หยดน้ำหยดลงมา ผมเธอยุ่งเหยิง ใบหน้าขาวซีด ริมฝีปาก
แห้ง..
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า การเข้ามาสถานีตำรวจครั้งแรกใน ชีวิต จะเป็นการเข้ามาด้วยข้อหาฆาตกรรมที่ร้ายแรงเซ่นนี้
และผู้ตายคนนั้น เธอก็เพิ่งรู้เช่นกัน
หย่วนซู่ผิง
หย่วนซู่ผิงตายแล้ว
นายตำรวจสองคนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ซักถามเธออย่างไม่รู้ จักเหน็ดเหนื่อย
“กู้ฮอน กรุณาให้ความร่วมมือด้วย เรามีหลักฐานมาก เพียงพอที่แสดงว่า หลังจากผู้ตายหย่วนซู่ผิงมาพบคุณเป็นครั้งสุดท้ายที่ถนนหวางปู่ดันใกล้กับบ้านกู้ และตามค่า ให้การของคนตระกูล กู้ คืนนั้นหย่วนซู่ผิงได้พบกับคุณจริงๆ จากนั้นเขาก็หายตัวไป เมื่อคืนเมืองAมีฝนตกหนัก ตอนเช้าก็ พบศพหญิงสาวลอยอยู่ในคูน้ำ ได้รับการยืนยันว่าเป็นหญิง สัญชาติจีน ชื่อหย่วนซู่ผิง บนตัวผู้ตายมีรอยมีดและบาดแผล อยู่หลายที่เห็นได้ชัดว่ามีการต่อสู้ดิ้นรนก่อนตาย บาดแผลที่ ทำให้ถึงแก่ชีวิตคือรอยมีดที่แทงเข้าไปบริเวณหน้าอก ทาง ตำรวจได้ตรวจพบมีดปอกผลไม้หนึ่งเล่มในกอหญ้าใกล้ๆกับ ถนนหวางปู่ดัน แผนกนิติเวชวินิจฉัยว่า เป็นมีดเล่มเดียวกัน กับที่แทงหย่วนซู่ผิง ที่สำคัญคือ บนมีดปอกผลไม้มีลายนิ้ว มือของคุณอยู่ด้วย คุณจะอธิบายยังไง”
กู้ฮอนสั่นไปทั้งตัว
เมื่อคืนที่เจอหย่วนซู่ผิงเธอยังมีชีวิตอยู่เลย นึกไม่ถึงว่าจะ
ตายแล้ว
ที่น่าเศร้าก็คือ ตำรวจพบอาวุธที่มีลายนิ้วมือของเธอ
…
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ทำใจให้สงบและเริ่มคิดทบทวน เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืน-
ตอนแรกหย่วนซู่ผิงไม่พอใจที่ถูกกู้เชิงเทียนทอดทิ้ง เธอ เอาเสียงท่อนหนึ่งที่หยูฟันบันทึกไว้แล้วมาหาเธอ แล้วตอน นั้นเธอถึงรู้ว่าหยูฟีนไม่ใช่แม่แท้ๆของเธอ จากนั้นเธอก็วิ่งเข้าไปหาหนูฟื้นในตระกูลกู้ด้วยความโกรธ
ระหว่างทะเลาะกัน หย่วนฟูผิงก็กลับตระกูลกู้ไป และ
เตรียมพากู้อันซีออกไป
แต่ความลับที่น่าตกใจก็ถูกเปิดเผย ความจริงกู้อันซีเป็น ลูกแท้ๆของหยูพื้น
หย่วนซู่ผิงตกใจมาก เธอเริ่มมีปากเสียงกับหยูฟืน..
จากนั้น เธอก็ออกจากตระกูลกู้ไป
แต่ในสายฝนที่ตกหนัก เธอก็ถูกกู้อันขีผลักลงบนพื้น และ จับมือเธอไว้เหมือนเธอจับโดนของอะไรเย็นๆ..
พระเจ้า
กู้ฮอนสูดลมหายใจเย็น
จากนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ทันที เมื่อคืนสิ่งที่กู้อันขีคว้ามือเธอ มาจับเอาไว้ น่าจะเป็นมีดที่ใช้ผ่าหย่วนซู่ผิง ไม่อย่างนั้นจะ เหลือลายนิ้วมือของเธอไว้บนมีดเล่มนั้นได้อย่างไร
ถึงว่า มิน่าล่ะตอนนั้นปากกู้อันพีมพำไม่หยุด : ไกู้ฮอน เธอจะโทษฉันไม่ได้ เธอโทษฉันไม่ได้นะ..]
และที่ทำให้กู้ฮอนกลัวต่อมาคือ ตระกูลกู้กลับโยนความ ผิดเรื่องที่หย่วนซู่ผิงตายให้มาเธอ
ริมฝีปากซีตของเธอสั่นเล็กน้อย แล้วหัวเราะอย่างขมขื่น”คุณตำรวจ ต้องให้ฉันพูดอีกกี่รอบคะ ฉันไม่ได้ฆ่าหย่วนซู่ผิง จริงๆ คุณบอกว่าบนมีดมีลายนิ้วมือฉัน ฉันถูกกู้อันซีใส่ร้าย คนที่ฆ่าหย่วนซู่ผิงคือกู้อันซีหรือไม่ก็คนอื่นในตระกูล กู้ไม่ใช่
“ใส่ร้าย” ตำรวจขมวดคิ้วแล้วพูดเสียงดังขึ้น “กู้ฮอน ถ้า อยากจะโกหก ก็หาคำโกหกที่มันฟังขึ้นหน่อย กู้อันขี้เป็น ลูกสาวของหย่วนซู่ผิง เธอจะฆ่าแม่ของตัวเองได้ยังไง คุณพูด ความจริงมาดีกว่า ว่าเมื่อคืนไปตระกูลกู้ทำไม ทำไมต้องฆ่า หย่วนซู่ผิง หลังจากฆ่าแล้วเอาศพไปทิ้งยังไง จากนั้นคุณไป ไหนต่อ ทำอะไรบ้าง มีผู้สมรู้ร่วมคิดไหม”
น้ำเสียงของตำรวจ ทำเหมือนกู้ฮอนเป็นฆาตกรตัวจริง สีหน้าดูเย็นชา
ปลายนิ้วของกู้ฮอนสั่นเทา เหมือนดอกไม้ที่โดน น้ำค้างแข็งเกาะจนเหี่ยวเฉา เธอส่ายหัวสุดชีวิต “ไม่ ฉันไม่ ได้โกหกจริงๆ ฉันไม่ได้ฆ่าหย่วนซู่ผิง ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ”
“ยังกล้าเถียงข้างๆคูๆอีก” ตำรวจตะคอกเสียงดัง “อย่า คิดว่าพวกเรายังไม่ได้ตรวจสอบนะ เธอเป็นลูกนอกสมรส ของตระกูลกู้ เพราะหลายปีมานี้เธอถูกปฏิบัติอย่างเย็นชา ดังนั้นเลย โกรธแค้นตระกูลกู้โดยเฉพาะหย่วนซู่ผิง ภรรยา ของกู้เชิงเทียน ดังนั้นจึงลงมือฆ่าเธอใช่ใหม”
กู้ฮอนตะลึง
ที่แท้ตำรวจก็ไม่รู้ว่าหย่วนชู่ผิงไม่ใช่แม่แท้ๆของกู้อันซี ใช่ สิตำรวจก็คงตรวจสอบจากทะเบียนบ้านที่สามารถตรวจสอบ สายเลือดได้อย่างง่ายดาย ยิ่งกว่านั้นกู้อันซีสองแม่ลูกคง ตั้งใจจะปิดบังด้วย
ตำรวจเห็นเธอไม่ขัดอะไร จึงพูดต่อ “อีกทั้งหลักฐานดอนนี้ ทั้งหมดต่างบ่งชี้ว่าเป็นคุณ ทั้งเจตนา อาวุธที่ใช้ ยิ่งกว่านั้น คนรับใช้ของตระกูลกู้ยังเป็นพยานให้ด้วย ถ้าคดีนี้ขึ้นศาล ผมว่าคุณคงหมดข้อแก้ตัว สารผิดแต่โดยดีเถอะ ปิดคดีได้ เร็ว จะได้ไม่สิ้นเปลืองเงินของคนที่จ่ายภาษี”
กู้ฮอนรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงอะไรได้
เลย
เธอกัดริมฝีปาก ถึงตำรวจตรงข้ามจะถลึงตาจ้องเธอด้วย ความโกรธ แต่แววตาของเธอก็ยังมั่นคงและกล้าหาญ เธอ ค่อยส่ายหน้าเบาๆ ค่อยๆพูดทีละคำออกมา
“ฉันไม่ยอมรับผิด ฉันไม่ได้ฆ่าคน ฉันคือผู้บริสุทธิ์ แล้วก็ นะคุณตำรวจ ฉันไม่ใช่ลูกนอกสมรสของตระกูล กู้ ดังนั้นฉัน ไม่มีความแค้นอะไรกับหย่วนซู่ผิงเลย และไม่มีเจตนาที่จะฆ่า เธอด้วย หย่วนซู่ผิงไม่ใช่แม่แท้ๆของกู้อันขีด้วย เป็นหยูฟืน ต่างหากล่ะ”
…
“ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ จะให้ฉันกับตระกูลกู้ไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้ไปงั้นก็ไปตรวจดีเอ็นเอของหนูฟืนกับกู้อันซี สรุปก็คือ ฉัน ไม่ ได้ ฆ่า คน”
ตอนที่กู้ฮอนพูดประโยคนั้นเสร็จ เธอก็พบว่าแผ่นหลังของ ตัวเองกำลังมีเหงื่อซึมออกมา
ตำรวจมองเธอสองสามครั้ง สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร และ ขมวดคิ้วแน่น
ทั้งห้องเงียบกริบ เงียบจนทำให้กู้ฮอนรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย
ถึงอย่างไรก็เป็นข้อหาฆาตกรรม มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และหนักหน่วงเกินไป เธอยังไม่ได้เตรียมใจไว้สักนิด เลย…ขนาดเสื้อผ้ายังไม่ทันเปลี่ยน ใส่บิกินี่ที่เย็นเฉียบ และพันด้วยผ้าเช็ดตัวหนึ่งผืน…
หยางหยางน่าจะเลิกเรียนแล้วสินะ…กลับบ้านแล้วไม่ เจอเธอจะทำยังไง นึกถึงใบหน้าหงอยของลูกชาย หัวใจเธอก็บีบแน่นทันที
ริมฝีปากสั่นถามขึ้น “คุณตำรวจคะ ฉันสามารถกลับบ้าน ได้หรือยังคะ”