ตอนที่ 241 ความทรงจำอันงดงามก่อนออกเดินทางไป
ต่างประเทศ2
เฉิงเฉิงใบหน้าสงบนิ่ง
กลับเป็นหยางหยางที่อาเจียนซะจนแข้งขาไม่มีแรงแทน หลังจากพักหายใจสักครู่ก็ยื่นหมวกที่เปื้อนอาเจียนให้กับ เฉิงเฉิง สีหน้าขาวซีด “อ้อ คืนให้นาย”
เฉิงเฉิงส่ายศีรษะด้วยความรังเกียจ ปฏิเสธอย่างแน่วแน่
“เป็นตัวนายเองที่บอกว่าไม่เอานะ!” หยางหยางแสยะยิ้ม หัวเราะ จากนั้นก็โยนหมวกลายดอกไม้น้อยไปทางถังขยะ อย่างสบายใจ
ทันใดนั้นเฉิงเฉิงก็รู้สึกว่าอุปกรณ์ที่ใช้อำพรางวิกผมของ ตัวเอง ได้เสียสละอย่างกล้าหาญอะไรอย่างนี…..ราวกับว่า ตัวเองกำลังถูกหยางหยางค่อยๆฉีกการปลอมตัวทิ้งทีละนิด ทีละนิด..
ส่วนเจ้าหมอนี่ก็ยังตะโกนเรียกคนรับใช้มาอย่างหน้าไม่ อาย “มาๆๆ รีบมาถ่ายรูปให้ฉันกับน้องสาวดำที่ด้านหน้า รถไฟเหาะตีลังกาเก็บไว้เป็นที่ระลึก!”
จัดทำทางเรียบร้อยแล้ว
แซะ ในรูปภาพใบนั้น เหลือไว้เป็นความทรงจำของสองเพื่อน สนิทไปตลอดกาล หยางหยางที่อาเจียนจนมีสีหน้าขาวซีด ยิ้มได้สดใสงดงามยิ่งกว่าตอกไม้ ทั้งยังชูสองนิ้วที่เชยเป็น อย่างมาก ส่วนเฉิงเฉิง สวมผ้าปิดปากขนาดใหญ่ สวมชุด กระโปรงยาว ยืนแข็งที่ออยู่ข้างกายหยางหยาง ราวกับหุ่น กระบอก
เพียงแต่ไม่มีใครเห็นว่า ปากของเฉิงเฉิงภายใต้ผ้า ปิตปากนั้นมันกระตุก..
หลังจากเที่ยวเล่นไปแล้วรอบหนึ่ง หยางหยางเพิ่งจะค้น พบว่าพี่น้องของเขา เฉิงเฉิง ไม่ว่าจะเป็นรถไฟเหาะตีลังกา หรือว่าเป็น เครื่องเล่นไวกิ้งส์ ซิงซ้าสวรรค์…. โดยสรุปแล้ว จะขึ้นที่สูงลงที่ต่ำใดๆก็ตาม เฉิงเฉิงล้วนเล่นด้วยใบหน้าที่ สงบนิ่ง
แต่ทว่า ก็แทบไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่ออารมณ์ตื่นเต้น ของหยางหยางเลย เขายังคงจับมือเฉิงเฉิงอย่างตื่นเต้น ครั้งที่เล่นหนึ่งอย่าง ก็ต้องถ่ายรูปด้วยกันหนึ่งรูป! ทุก
และที่โง่เง่าก็คือ นอกจากทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปไม่หยุดแล้ว สองพี่น้องนี่มีท่าทางการแสดงออกคือคนหนึ่งชูสองนิ้ว คน หนึ่งราวกับหุ่นกระบอกคนดำ เกือบจะเป็นการคัดลอกที่ เหมือนกันไม่มีผิดในรูปภาพทุกใบ! ตึงๆๆ สองพี่น้องผู้ไม่รู้จักเหนื่อยล้ามาถึงด้านหน้าบ้านผี
สิ่ง
“เข้าไปไหม” หยางหยางแยกเขี้ยวถาม
เฉิงเฉิงชะงักฝีเท้า สายศีรษะเหมือนกับก่อนหน้าเมื่อถึงทุก สถานที่ “ไม่ไป”
“เฮ้อ….นายไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้คำพูดใหม่ๆบ้าง หรือ” หยางหยางมองบน ลากกิ่งบังคับเฉิงเฉิงเข้าไปในบ้าน ผีสิง “มีครั้งไหน ที่นายไม่ได้แสร้งแกล้งทำท่าทางหวาดกลัว ให้ตายก็ไม่ไปเล่น! ผลลัพธ์หลังจากนั้นทุกครั้งนายล้วนสงบ นิ่งไม่มีอะไรเทียบได้ กลับกันคนที่ตกใจจนเข่าอ่อนนั้นเป็น ฉัน.. ”
ในที่สุดหยางหยางก็ลากเฉิงเฉิงเข้าไปในบ้านผีสิง…
สุดท้าย หยางหยางเดินออกมาอย่างโมโหมาก “เฮอะ บ้านผีสิงอะไรกันเนี่ย! ไม่น่าตกใจเลยสักนิด! เขี้ยวของผีดูด เลือดตัวนั้นดูปลอมมากใช่ไหม ตอนที่ผีผู้หญิงนั่นบินผ่านไป เส้นลวดที่อยู่ด้านหลังของเธอมันชัดมากใช่ไหม ท่านพญา ยมที่อยู่ในห้องโถงนรกนั่น ตอนที่ใบหน้าโดนแสง คอนแทคเลนส์สีเขียวนั่นก็ปลอมมากใช่ไหม..เฮ้อ น้อง สาวดำ เธอว่าใช่หรือไม่ใช่”
หยางหยางหันกลับไปมอง เพิ่งจะเห็นว่าเป่หมิงซิเฉิงอาศัย ถังขยะใบเล็กด้านข้าง ถอดผ้าปิดปากออกอาเจียนอย่าง หนัก. ({(_ใครจะไปคิดว่า เฉิงเฉิงผู้ไม่หวาดกลัวต่อการ ทะยานขึ้นฟ้า แท้จริงแล้วจะหวาดกลัวการเข้าเมืองยมบาล ล่ะ…
ดังนั้น ด้านหน้าบ้านผีสิง สองพี่น้องที่ถ่ายรูปด้วยกันจึง เปลี่ยนเป็นอย่างนี้
เฉิงเฉิงโค้งตัวงออาเจียนข้างถังขยะใบเล็ก หยางหยาง ยืนอยู่ข้างๆ ครั้งนี้ เผยรอยยิ้มสดใส ซูมือสองนิ้ว!
นี่เป็นความทรงจำแสนงามในวัยเด็กจริงๆ แน่นอนว่า เฉพาะหยางหยาง O(ก_n)0.
ภายใต้แสงแดดสดใสงดงามนี้ หยางหยางและเฉิงเฉิงผู้ ไม่เข้าใจโลกของผู้ใหญ่ กำลังพยายามสร้างความทรงจำอัน งดงามในสวนสนุกสำหรับเด็กก่อนที่จะเดินทางไปต่าง ประเทศ
แต่บิดาของเหล่าเด็กๆ เป็หมิงโม่ก็ขับรถออกจากบ้านตระ กูลเป่ยหมิงภายในวันเดียวกัน
ตลอดทางฉิงฮัวตรวจสอบพบข้อมูลของตระกูลกู้แล้วใน คืนนั้น ก็รีบรายงานเจ้านายในทันที
แววตาของเป่ยหมิง โม่เย็นเยียบมืดมิดอยู่เสมอ
รถHummerสีดำเรียบง่าย เคร่งขรึมมุ่งตรงไปยังสำนัก ความมั่นคงสาธารณะเฉิงเป่ยเมือง A เนื่องจากตระกูลเป๋หมิงมีเครือข่ายเส้นสายมากมายใน วงการการทหารการเมือง ก่อนที่พวกเขาจะมาได้มีการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดต่อล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นเหมิงไม่เข้า ออกสำนักความมั่นคงสาธารณะได้อย่างไม่มีใครมาขัดขวาง
ฉิงฮัวเดินอยู่ข้างเจ้านาย ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเฉียบ ขาดและรวดเร็ว ตรงเข้าไปยังห้องทำงานของหัวหน้าทีม สืบสวนคดีอาชญากรรม เหลียงหยู่
เหลียงหย่วางสายโทรศัพท์ อธิบดีเพิ่งจะกำชับเขาเป็น พิเศษในโทรศัพท์ว่า จำเป็นต้องจัดการคดีของหย่วนซู่ผิง อย่างจริงจัง เขาเงยหน้ามองชายหนุ่มผู้เย็นชาที่เดินเข้ามา “คาดว่าท่านนี้คงจะเป็นคุณชายรองตระกูลเป่หมิง คุณชาย เป่หมิงโม่”
มิฉะนั้นใครจะมีความสามารถมากขนาดนี้ เชิญให้อธิบดี สำนักความมั่นคงสาธารณะเมือง A ออกคำสั่งด้วยตัวเอง
เป่ยหมิง โม่ที่เมินเฉยมาโดยตลอด ไม่เอ่ยพูดอะไรตรงไป นั่งเก้าอี้หนังหน้าโต๊ะทำงานของเหลียงหยู่ ใบหน้าเย็นชา
นึงหัวตามมาอยู่ด้านข้าง หยักหน้า เอ่ยอย่างมีมารยาท “ไหนๆเหลียงหยู่ก็รู้จักตระกูลของเจ้านายผม ก็ควรจะเดาได้ ถึงจุดประสงค์ที่เรามาในครั้งนี้ ถ้าอย่างนั้นผมไม่อ้อมค้อม แล้วกันนะ ได้ยินมาว่าคุณเป็นหัวหน้าผู้นำทีมผู้จับกุมคุณกู้ ฮอนด้วยตัวเอง” เหลียงหยู่พยักหน้า เผยรอยยิ้ม “ไม่ผิด กู้ฮอนเป็นคนที่ผม จับกลับมาด้วยตัวเองจริง” คาดการณ์ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังผู้ ต้องสงสัยกู้ฮอนของคดีความนี้นั้นแกร่งจริงๆ พลางเอ่ยต่อ “หลังจากการสืบสวนหาหลักฐานและข้อกล่าวหาจากพยานผู้ พบเห็นเหตุการณ์ของพวกเราฝ่ายตำรวจ พวกเรามีเหตุผล ให้เชื่อว่า กู้ฮอนถูกต้องสงสัยว่าได้วางแผนฆาตกรรมหย่วน ซูผิง ถ้าหากว่าคุณชายเหมิงตั้งใจมาเพื่อประกันตัวกู้ฮอน อย่างนั้นก็คงต้องขอโทษด้วย…”
“ไม่ใช่ประกันตัว! แต่ต้องการให้คุณปล่อยคน!” เป่หมิง โม่เอ่ยตัดบทสนทนาเหลียงหยู่อย่างเยือกเย็น
“ปล่อยคน” เหลียงหยู่เอ่ยเสียงสูง “นี่เป็นคดีความผิดทาง อาญาร้ายแรง การประกันตัวระหว่างรอคอยการพิจารณาคดี ยังไม่แน่นอนว่าจะเป็นไปได้ ไม่ต้องพูดถึงการปล่อยคนเลย! ผมรู้ว่าคุณชายเป่ยหมิงมีความสามารถไม่น้อยเลย แต่ว่าการ ฆ่าคนต้องได้รับโทษจำคุก ต่อหน้ากฎหมายแล้วทุกคนล้วน เท่าเทียมกัน!”