ตอนที่ 258 การต่อสู้ระหว่างลูกผู้ชาย
ป่ายมู่ชีรีบเข้ามาพยุงตัวซูยิ่งหวั่นไว้ แล้วมองหน้าเป่หมิงโม่ อย่างไม่พอใจมาก “เป่ยหมิงเอ้อ คุณเมาแล้วทำกับผู้หญิง แบบนี้เหรอ”
“มู่ซี อย่า….” ชูยิ่งหวั่นสะบัดมือของป่ายมู่ชีออก แล้วรีบ เข้าไปข้าง ๆ เปหมิงโม่ กุมมือเขาไว้ สีหน้าแสดงออกถึง ความเป็นห่วงเขามา “โม่ คุณดื่มมากไปแล้ว ไป ฉันจะส่งคุณ กลับบ้านนะ
เป่ยหมิง โม่ดื่มจนใบหน้าสีคมเข้มของเขากลายเป็นสีแดง ตาเยิ้มจนแทบจะลืมตาไม่ไหว ท่าทางเขาไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เมามากแค่ไหน เขาจ้องไปที่ป่ายมู่ชี แล้วพูดอย่างเยาะเย้ย ว่า “ข้าจะทำกับใครยังไง มันคือความสุขของข้า ทำไมเหรอ นายอกหักเหรอ ไอ่ป่ายเอ้ย เราเป็นพี่น้องกันมาแต่ไหนแต่ไร แล้ว นายนั่นแหละที่ไม่ใช่ลูกผู้ชาย”
ป่ายมู่ซีขมวดคิ้ว “นายว่าใครไม่ใช่ผู้ชายนะ”
“ว่านายนั่นแหละ” สีหน้าท่าทางเยาะเย้ยไม่เกรงใจ ใน สายตาที่มีนเมาแต่มีอารมณ์ที่ดูถูกเหยียบหยามไม่น้อย “เอะอะจะให้ข้าทะนุถนอมยิ่งหวั่น เอะอะก็เรียกเขา “อาซ้อ” คิดเหรอว่าข้าไม่รู้ ว่านายแอบชอบเธอมานานหลายปีแล้ว นายมันผู้ชายกระจอก ถ้าตอนนั้นนายบอกข้าสักคำว่าขอบ เธอ ข้าจะยกให้นายอย่างไม่มีข้ออ้างใดอยู่แล้ว”
ทันใดนั้น ป่ายมู่ซีทนฟังไม่ได้แล้วชกหน้าอันหล่อเหลา ของเหมิงโม่เข้าไปอย่างจัง
เป่ยหมิงโม่ถูกชกเข้าที่หน้าอย่างจัง เขาแทบจะล้มทั้งยืน ริม ฝีปากมีเลือดไหลออกมา
“โม่…ซูยิ่งหวั่นตะโกนเรียกชื่อเขาด้วยความตกใจ
สีหน้าของป่ายมู่ซีโกรธจนลุกเป็นไฟ “เป่หมิงเอ้อ อุตส่าห์ จริงใจกับนายมาตลอด แต่นายกลับพูดคำพูดแบบนี้ออกมา ต่อให้ข้าเคยชอบยิ่งหวั่น แต่มันก็คือเรื่องอดีต นายเคยพูด เองว่าจะไม่ทำให้ผู้หญิงคนนี้ต้องเสียใจ นายเคยสัญญาว่า ต่อให้ไม่ได้แต่งงานกับเธอนายก็จะดูแลเธอไปตลอดชีวิต แล้วทำไมตอนนี้ เพียงแค่ผู้หญิงที่ชอบหลานชายของนายคน เดียว มันทำให้นายต้องทิ้งยิ่งหวั่นไปเลยเหรอ นายใช่ลูก ผู้ชายหรือเปล่า”
“หยุดพูดเถอะมู่ชี” ซูหยิ่งหวั่นพยายามห้ามเขา
เมื่อพูดถึง ‘เขาชอบผู้หญิงที่ชอบหลานของตัวเอง” อา รมณ์ของเป้หมิงโม่ก็ลุกเป็นไฟแล้วร้องให้ฟูมฟายออกมา และทันใดนั้น เขาชกไปที่หน้าของป่ายมู่ชื่อย่าง รุนแรง. กำปั้นกระแทกเข้ากับหน้าผากของป่ายมู่ชีอย่างไร้ความ ปราณี
“นายไม่เห็นเหรอว่าในหนังสือพิมพ์นั้นพูดถึงข้ากับหยิ่ง หวั่นยังไง นายไม่รู้เหรอว่าคนทั้งโลกเขาพูดกันว่าโครงการ “หยิง” กำลังจะกลายเป็นงานสถาปัตยกรรมที่โรแมนติกที่สุด ในโลก นายไม่เห็นเหรอสายตาที่อิจฉามากมาย ข้าต้องทำ ยังไงวะ ถึงจะเรียกว่า “ไม่ทำให้เธอต้องเสียงใจ” หา…”
เขาชกไปหลายหมัด และทุก ๆ หมัดนั้นเข้าตัวของป่ายมู่ซี
หมด
ป่ายมู่ซีก็โต้กลับเขาอย่างไม่นิ่งเฉย
ทั้งสองแลกหมัดกันอย่างเมามัน.
ซูหยิ่งหวั่นได้แต่ยืนร้องให้อยู่ข้าง ๆ “หยุดสู้กันได้แล้ว โม่… มู่ซี… ฉันขอร้องหยุดสู้กันได้แล้ว….”
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความโกรธและอารมณ์ร้อนของ ชายทั้งสอง ก็ไม่ได้หยุดต่อสู้กันเพราะเธอ
เขาแลกกันหมัดต่อหมัด
ป่ายมู่ชีหลบกำปั่นของเป่หมิงโม่ไปแล้วตะโกนพูดไป “ก็ ใช่ไง นายมันบ้าไปแล้ว นายเป็นคนดัง คนทั้งโลกคิดว่านาย ที่เป็นเป้หมิง โม่นั้นเป็นคนดี เป็นผู้ชายที่โรแมนติก เอะอะก็ ออกสื่อกับคนนี้คนนั้น นายจะให้หยิ่งหวั่นเอาหน้าไปไว้ไหน นายสร้างภาพไปด้วย แต่อีกมุมของชีวิตนายมันเหี้ยแค่ใหน ดูสภาพนายตอนนี้สิ เมาเหล้าเอะอะใส่อารมณ์ ใช้กำลัง อย่างเดียว ไอ่เป่หมิงเอ้อที่ปกติแล้วเป็นคนใจเย็น เป็นคนที่
น่าให้ความเคารพมันหายไปไหนแล้ววะ”
ผั้วะ….
เป็นอีกหมัดที่เกือบทำให้จมูกของป่ายมู่ชีหัก
“ข้าเมาแล้วหาเรื่องแล้วจะทำไม ข้าจะใช้ชีวิตแบบไหนมัน เกี่ยวอะไรกับนาย” เป่ยหมิงโม่ชกไปที่ใบหน้าของเขาอย่างไม่ ยั้งมือ เหมือนเก็บกดมานานหลายเดือน..
“กว่าสิบปีแล้ว ที่นายเปาหมิงเอ้อพรากความสาวของยิ่ง หวั่นไป นายจะทำร้ายเธอแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่” ป่ายมู่ชี ตะโกน “ผู้หญิงคนนั้นมันหนีไปกับหลานชายของนายเป่หมิง ยี่เฟิงไปแล้ว ทำไมนายถึงไม่เคยยอมรับความจริงสักที ผู้ หญิงเลว ๆ แบบนั้นมันคู่ควรให้นายไปคิดถึงทุกวันเหรอ เมื่อ ใหร่จะตื่นจากฝันสักที มองให้ชัดเจนหน่อยคนที่อยู่ข้างนาย มาตลอดคือยิ่งหวั่นนะเว้ย”
ผิ้วะ..*
เขาเหมือนบ้าไปแล้ว ทุกกำปั้นของเป่หมิง โม่ชกลงไปที่ ร่างกายของป่ายมู่ชี. “หุบปากไปซะ ข้าไม่เคยจมอยู่กับผู้หญิงเลว ๆ คนนั้น นับ ประสาอะไรถึงต้องคิดถึงมันทุกวัน มันจะไปไหนกับใครยังไง ก็เรื่องของมัน อย่าเอ่ยถึงผู้หญิงที่สมควรตายคนนั้นอีก…*
พริบ ผิ้วะ พริบ ผั้วะ…
ทั้งสองต่อสู้กันอย่างเมามันกันอีกครั้ง….
อาจเป็นเพราะฤทธิ์ของการดื่มเหล้า ความอึดอัดของทั้ง สองที่สะสมมายาวนานก็ได้ปลดปล่อยออกมา..
“โม่… มู่ซี… ฉันขอร้อง หยุดสู้กันได้แล้ว …” ซูยิ่ง หวั่นล้มนั่งลงข้างถนนและร้องไห้อย่างขมขึ้น จะให้เธอรู้สึก อย่างไร ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ต่อหน้าสื่อทั้งหลาย แม้ว่า โม่จะกอดเขาไว้แล้วบอกประกาศกับทุกคนว่าเธอคือผู้หญิง ของเขา แต่คำว่า “ความรัก” ที่เธอได้จากเขานั้น มันช่างเย็น ชาเหลือเกิน
“เป่ยหมิงเอ้อ วันนี้ข้าจะต่อยให้นายตื่นจากความจริง…”
“สู้ข้าให้ได้ก่อน”
พรึ่บ ตั๋ว….
การต่อสู้ระหว่างชายทั้งสองคนนี้ ในที่สุดป่ายมู่ซีล้มลงกับ พื้นและจนเขาลุกขึ้นไม่ไหวอีก….
เสื้อของเป้หมิง โม่เต็มไปด้วยคราบเลือด เขาหายใจหอบ เหนื่อยมาก ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์นี้ หมัดทุกหมัดที่ชกไป ที่ป่ายมู่ชีนั้น เพื่อจะบ่งบอกถึงการที่ไม่ยอมแพ้และไม่ให้ใคร เหยียบย่ำตัวเองได้.
จู่ ๆ เป่ยหมิงโม่ก็ชกไปที่กำแพงอย่างแรง
เสียงดังสนั่นจนทำให้ซูยิ่งหวั่นตกใจ น้ำตาไหลพรากออก มา “โม่….คุณอย่าทำร้ายมู่ซีอย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย…”
“ยิ่งหวั่น เธอเห็นชัดเจนแล้วยัง ผู้ชายที่เธอรักมาเป็นสิบปี เคยทำให้เธอผิดหวังขนาดนี้ไหม” ป่ายมู่หัวเราะขึ้นมา “เป่ยหมิงเอ้อ นายยอมรับเถอะ ยอมรับ..”
“ไปให้พ้น” เหมือนเขาจะพูดแทงใจของเป่ยหมิงโม่ แล้ว ตะโกนด้วยความโกรธ ไปเลยไปให้พ้นหมด”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นด้วยความทรุดโทรมและความเหนื่อย ล้าแล้วค่อย ๆ เดินโซเซจากไป
ซูยิ่งหวั่นร้องไห้เสียใจอยู่ข้างหลังเขา “อย่าทิ้งฉันไป
ไม่ว่าเธอจะร้องไห้เขาหยุดยังไง เขาก็แกล้งทำเหมือนไม่ ได้ยิน ค่อย ๆ เดินจากไปไกล
โม่เดินออกจากตรอกซอยร้านเหล้านั้น เดินโซเซ ถึงปากทางด้วยความมีนเมา
แอลกอฮอล์ขึ้นสมองไม่พอแล้วยังต้องใช้แรงทั้งหมดที่มีสู้ กับป่ายมู่ชี ตอนนี้เขาหมดแรงจนแทบเดินต่อไม่ได้แล้ว
เขาพยายามหยิบมือถือออกมาเพื่อจะโทรหาฉิงฮัวให้มา รับเขากลับบ้าน ระหว่างที่เดินไปแล้วเอามือล้วงกระเป๋าหยิบ มือถือไป ด้วยความไม่ตั้งใจเขาทำมือถือตกลงพื้น
พยายามก้มลงเพื่อเก็บมือถือ…
ทันใดนั้นก็มีมือของผู้หญิงที่สวมถุงมือไว้หยิบมือถือเขา ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ทำให้เขารู้สึกตกใจ
และขณะที่เขากำลังจะเงยหน้าขึ้นก็รู้สึกเวียนหัวจนล้มลง
กับที่
“ระวัง…”
ทันใดนั้น มีเสียงนุ่มนวลของผู้หญิงและรู้สึกได้ว่ามีคน กำลังพยุงตัวเขาไว้จากข้างหลัง
“ใครเหรอเนี่ย” เขาถามด้วยสัญชาตญาณ
มองด้วยตาเบลอ ๆ เขาเห็นผู้หญิงที่ใส่หน้ากากไว้ใน พริบตาเขามองไม่ออกว่าเธอคือใคร แต่พอได้จ้องสายตา ของเธอแล้ว เขากลับตะลึงขึ้นมา.. แล้วเอื้อมมือไปเกาะผู้หญิงคนนั้นไว้ “เธอ…”
ใครจะไปรู้ เขาถูกผู้หญิงคนนั้นปฏิเสธ เธอพยายามจะ หลบหน้าเขา “คุณจำผิดคนแล้ว..
เหมือนว่าเธอกลัวเขาจับผิดได้อะไรอย่างนั้น เธอรีบดึงมือ ออก หันหลังแล้วรีบเดินจากไป.
ร่างกายของเป้หมิงโม่อ่อนแรง เขาล้มลงไปอีกครั้ง แต่เขา พยายามมองผู้หญิงคนนั้น ด้วยสมองที่กำลังมีนมัวอยู่ เขา บ่นเสียงอยู่ในปากตัวเอง
“ฉิงฮัว…จิงฮัวนายเห็นแล้วยัง ใครว่าเธอตายไปแล้ว เธอยังไม่ตาย.. ข้าเห็นเธอแล้ว.. เร็วเข้าสิ..รีบตาม เธอไป..”
ในเวลาเดียวกัน ใต้แสงดาวของออสเตรเลียอีกฟากหนึ่ง
กู้ฮอนที่กำลังเตรียมของให้ลูกชาย จู่ ๆ ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่
หัวใจ
เมื่อเห็นสีหน้าเธอดูแปลก ๆ หยินปู้ฝันรีบเข้ามาหาเธอ แล้วค่อย ๆ พยุงตัวเธอนั่งลงข้างเตียง “เกิดอะไรขึ้น รู้สึกไม่ สบายรึเปล่า”
กู้ฮอนส่ายหัว พยายามจะบอกเขาว่าไม่ต้องกังวล “ฉันไม่
เป็นไรหรอก..” เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกแปลกประหลาด แบบนี้ แล้วใช้มือค่อย ๆ ลูบที่ท้องน้อยของเธอ “ปู่ฝัน มันคือ อาการแพ้ท้องรึเปล่า ฉันรู้สึกไม่สบายใจมากเลย..พรุ่งนี้ ไปร่วมพิธีมอบรางวัลของเฉิงเฉิง มันจะเกิดปัญหาอะไรไหม”
หยินปู้ฝันส่ายหัวแล้วยิ้มตอบเธอ “ติ้งต้องน่ะ มีผมอยู่ ทั้งคนจะกลัวอะไรอีก คุณไม่ต้องกังวลหรอกว่าคนบ้านเป่ห มิงจะเห็นคุณในงาน สิ่งแรก เฉิงเฉิงไม่ได้บอกกับคนในบ้าน ว่าเขาได้รับรางวัลนี้ เพราะฉะนั้นคนในบ้านเขาไม่มีทางรู้ เรื่องนี้หรอก เรื่องที่สองก็คือเป่หมิงโม่…ตอนนี้เขาก็ เหมือนผีเสื้อตัวหนึ่งใช้ชีวิตเอ้อระเหยติดอยู่กับการดื่มต่ำ เกสรดอกไม้ของสาวสวยในรอบตัว คงไม่มีทางหรอกที่เขา จะมาใส่ใจรายละเอียดของลูกชายเขา”
ม่านตาของกู้ฮอนขยายเล็กลง เขารู้คิดสบายใจขึ้น
พยักหน้าเล็กน้อย “บางทีฉันอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ มี แค่ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้ฉันอยากไปหาเฉิงเฉิงมากแค่ไหน ยืนอยู่เคียงข้างเขา แล้วบอกให้โลกได้รับรู้ว่าเขาคือความ ภาคภูมิใจของคนเป็นแม่..”
“ผมรู้ เพราะฉะนั้นผมถึงอิจฉาหมิงโม่ไง เขามีคุณ มีเฉิง เฉิง และมีหยางหยาง แถมไม่พอยังมีลูกน้อยในท้องคุณ ด้วย…* หยินปู่ฝันกอดไหล่เธอไว้แล้วยิ้มพูด “ฮอน บางที สิ่งที่ผมจะพูดกับคุณมันอาจทำให้คุณต้องอึดอัดใจมากขึ้น แต่ผมแค่อยากจะบอกกับคุณตรง ๆ ว่าผมชอบคุณแล้ว ผมก็ ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่….บางที อาจจะเป็นตอนที่ได้พบเจอกับคุณครั้งแรกที่ทางเดินนั้น หรือ อาจจะเป็นเพราะว่าผมรู้ว่าคุณคือแม่ของหยางหยาง.. แต่ ผมจะไม่บังคับคุณอย่างไรหรอก คุณเองก็อย่ารู้สึกกดดัน คิด ซะว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว..”
” ข้างในจิตใจของกู้ฮอนก็รู้สึกหวั่นไหวไม่น้อย เมื่อ จ้องหน้าหยินปู่ฝันแล้วมีค่าพูดหลาย ๆ คำที่พูดไม่ออก
“เหอะ ๆ เป็นไรไปเหรอครับ หวั่นไหวเพราะผมแล้วล่ะสิ นี้ ดีนะเพิ่งได้รู้สึกตอนนี้ ที่จริงแล้วผมหยินปู้ฝันก็มีเสน่ห์ไม่แพ้ ใครเลยนะ รูปร่างหน้าตาก็ดี แถมคารมไม่เป็นรองใครอีก เป็นปู่ฝันที่ดูดีจริง ๆ ว่าไหม คงไม่แพ้ให้กับเป่หมิงโม่หรอก อย่าลังเลเลย เป็นของผมเถอะเร็ว ๆ ๆ รีบมาเป็นของผมเร็ว เข้า…” เขาแกล้งพูดจาหลงตัวเองเพื่อให้เธออารมณ์ดีขึ้น
มา
“ที่ ๆ . ” กู้ฮอนอดขำไม่ได้ “หยินปู่ฝัน ขนาดสารภาพ ความในใจแล้วยังผีบ้าผีบอขนาดนี้ โลกนี้คงไม่มีใครจะ เพี้ยนได้เท่าคุณแล้วล่ะ”
“เหอะ ๆ .” หยินปู้ฝันเอามือแตะกลางอก “เธอได้ยิน ใหม เสียงหัวใจผมแตกสลายแล้ว..ทำไมถึงว่าการ สารภาพของผมนั้นเป็นเรื่องเพี้ยนไปได้ ฮอน คุณทำร้าย จิตใจผมมากไปแล้ว..ฮือ ๆ ..” “พอได้แล้ว” กู้ฮอนบ่นด้วยสีหน้าที่กำลังยิ้มอยู่ “รีบช่วย เก็บของดีกว่า พรุ่งนี้ต้องบินไปซิดนีย์แต่เช้าเลยนะ”
“รับทราบครับเจ้านาย”
เมื่อเห็นหยินปู้ฝันลงมือช่วยเก็บของ เธอก็ได้มีเวลานั่ง พัก…ตอนนี้ นอกจากเรื่องของลูก ๆ แล้ว เธอไม่กล้าคิด เรื่องอื่นอีกแล้ว..
เธอเคยทำร้ายต่อยี่เฟิงแล้ว ตอนนี้ต่อหน้าของหยินปู้ฝัน เธอคงไม่อยากทำร้ายเขาอีก..
ณ เมือง A คฤหาสน์หรูตระกูลเป่ยหมิง
ไออุ่นสีทองจากแสงอาทิตย์ค่อย ๆ พัดผ่านหมอกสีขาว จาง ๆ ยามเช้า ทุกสรรพสิ่งเริ่มต้นวันใหม่