ตอนที่ 242 พยานทางเวลาที่มีน้ำหนักมากที่สุด
“ฆ่าคน” เป็หมิงโม่เอ่ยตำหนิ “หลักฐานล่ะ”
“รอยนิ้วมือบนมีดของคนร้าย รวมถึงพยานบุคคลใน เหตุการณ์ที่เกิดเหตุ ก็คือหลักฐานที่มีน้ำหนักมากที่สุด” ดวงตาทั้งคู่ของเหลียงหยู่เบิกกว้าง ท่าทางตรงไปตรงมา
มุมปากเป่หมิงโม่ยกขึ้น ราวกับว่ากำลังฟังเรื่องตลก อย่างไรอย่างนั้น โบกมือ ส่งสัญญาณให้ฉิงฮัวนำข้อมูลออก มา
เหลียงหยู่เพิ่งจะเห็นรายละเอียดข้อมูลที่ฉิงฮัวนำออกมา คือแฟ้มจดบันทึกคดีที่ทางฝ่ายตำรวจทำให้กับกู้ฮอนหนึ่ง ฉบับ รวมถึงรายงานหลักฐานที่ทางฝ่ายตำรวจเป็นผู้รวบรวม เขาตกตะลึงเล็กน้อย “พวกคุณมีสิ่งนี้ได้อย่างไรกัน”
สิ่งเหล่านี้เป็นเอกสารลับของสถานีตำรวจ
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้ในสิ่งนี้” เป้หมิงโม่เหยียดปาก นิ้ว เรียวยาวเคาะเป็นจังหวะบนโต๊ะ เอ่ยเสียงเย็น “คดีความในคืนนั้น เชื่อว่าพลเมืองเมือง A ทุก คนล้วนแล้วแต่จำได้ คืนวันนั้นฝนตกหนักไปทั่วเมือง A สมมติว่าเป็นไปตามที่รายงานของพวกคุณฝ่ายตำรวจกล่าว ไว้ แล้วเพิ่งจะเก็บมีดของคนร้ายได้ใกล้ๆกับถนนหวางปู่ตัน ในตอนเช้า ถ้าอย่างนั้นหลังจากถูกฝนตกหนักชะล้างทั้งคืน รอยนิ้วมือก็ควรจะถูกล้างสะอาดไปแล้ว จะมีรอยนิ้วที่ชัดเจน อย่างนี้จากไหนให้พวกคุณหาพบ ยิ่งไปกว่านั้นศพของผู้ตาย ก็ถูกพบที่คูเมืองอีกด้วย เหลียงหยู่ไม่รู้สึกว่ามันแปลกหรือ ฆาตกรมีความสามารถในการนำศพไปทิ้งที่ข้างแม่น้ำแล้ว ทำไมถึงไม่ทิ้งมีดลงในแม่น้ำไปด้วยกันเลยล่ะ กลับมาโยน ทิ้งในสนามหญ้าที่ทางตำรวจสามารถค้นและตรวจสอบได้ ง่าย เห็นได้ชัดเจนอย่างมาก นี่เป็นมืดคนร้ายที่ถูกคนโยนทิ้ง หลังจากฝนหยุดตก แม้ว่ารอยนิ้วมือของเธอจะถูกทิ้งไว้บน มีดของคนร้าย แต่ก็ไม่สามารถตัดออกไปได้ว่ามีคนให้ร้าย คิดจะโยนความผิดให้กับคนอื่น”
เหลียงหยู่ซะงักไปชั่วครู่ รีบหยิบรายงานออกมาตรวจสอบ อย่างละเอียดอีกครั้ง
แววตาดุดันของเป่ยหมิงโม่หรี่ลง น้ำเสียง เย็นลึกเอ่ย “ในเมื่อรายละเอียดของคดีมีจุดที่น่าสงสัย ก็ไม่ ควรจะฟันธงว่าเธอเป็นฆาตกรเหลียงหยู่ควรที่จะปล่อยคน เดี๋ยวนี้”
“ไม่” เหลียงหยู่ส่ายศีรษะหนักแน่น “แม้ว่าเมื่อสักครู่ที่คุณ กล่าวมาจะมีเหตุผล แต่คดีความแบบไหนที่ผมไม่เคยพบเจอ ก็ไม่สามารถตัดออกไปได้ว่ากู้ฮอนแสร้งทำให้เรื่องราวมี ความสลับซับซ้อน จงใจสร้างข้อสงสัยมากมาย ลวงให้คิด ว่าถูกโยนความผิดให้!”
แววตาเยียบเย็นของเหมิงโม่จ้องไปที่เหลียงหยู่หลาย
วินาที แววตาที่เย็นยะเยือก คล้ายกับว่าสามารถทำให้เหลี ยงหยู่กลายเป็นน้ำแข็ง! “เธอไม่ได้ฆ่าคน!” เป่ยหมิง โม่เอ่ยทีละคำ “เพราะว่าเธอใน
คดีความนั้น มีหลักฐานระบุว่าเธอไม่ได้อยู่ที่สถานที่เกิดเหตุ
นั้นเลย! เธออยู่ด้วยกันกับผมตลอด!”
ฉิงฮัวสีหน้าตกตะลึง มองไปยังเหลียงหยู่ที่บีบบังคับให้ เจ้านายต้องเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกู้ฮอนออก มาเสียมิได้
เหลียงหยู่ตกตะลึง “คุณชายเป้หมิงอยู่กับเธอด้วยกัน ทั้ง
คืน” “จึงฮัว- เหมิงโม่ขมวดคิ้ว เอ่ยเสียงต่ำ
ฉึงฮัวรีบหยิบคอมพิวเตอร์ออกจากกระเป๋าคอมพิวเตอร์ พกพา เปิดหน้าจอ วางไว้เบื้องหน้าเหลียงหยู่
“ใช่ เหลียงหยู่ คดีความในคืนนั้น เจ้านายของผมอยู่ด้วย กันกับคุณกู้ตลอด เขาเป็นพยานทางเวลาที่มีน้ำหนักมาก ที่สุดของคุณกู้”
ฉิงฮัวชี้ไปยังหน้าจอแสดงภาพคอมพิวเตอร์ “สิ่งที่คุณเห็น ในตอนนี้ คือคดีความในคืนนั้นที่ผมดึงมาจากกองพลตำรวจ จราจร ภาพของกล้องวงจรปิดบนถนน แม้ว่าคืนนั้นฝนจะ ตกลงมาอย่างหนัก แต่ว่ายังคงสามารถมองเห็นรถป้าย ทะเบียน AX0000 คันนี้ได้อย่างชัดเจน ก็คือเจ้านายของผม คืนนั้นเวลา 23.05 นาที เจ้านายของผมกำลังซิ่งรถอยู่กับ ตำรวจจราจร แต่ทว่าเวลาของผู้ตายที่ปรากฏในรายงานเป็น เวลาประมาณ 23 นาฬิกา ตอนนั้นคุณกู้ก็อยู่บนรถของเจ้า นายผม ขออนุญาตสอบถามเธอจะปลีกตัวไปฆ่าคนได้ อย่างไร”
เหลียงหยู่จ้องมองไปยังภาพของกล้องวงจรปิด คิ้วขมวด
เป็นปม ต่อมา ฉิงชั่วก็เปิดภาพอีกชุดหนึ่ง “ที่นี่ คือเวลาประมาณ 24 นาฬิกาในคดีความ ณ ชานเมือง A ดึงมาจากภาพกล้อง วงจรปิดในโรงแรมรัก..”
ตอนที่เอ่ยถึงโรงแรมรักนั้น จึงฮัวมองสีหน้าท่าทางของ เจ้านายอย่างระมัดระวัง เขารู้ว่าจริงๆแล้วตอนแรกเจ้านาย ไม่อยากจะนำภาพเหล่านี้ออกมาเปิดเผยต่อหน้าตำรวจ แต่ ว่าไม่มีทางเลี่ยง ฉิงฮัวทำได้เพียงแค่พูดต่อไปเท่านั้น
“เหลียงหยู่เห็นแล้วหรือยัง ขับรถจากถนนหวางปู่ดันไปถึง โรงแรมรัก จำเป็นต้องใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงพอดีถึงจะถึงจุดหมาย ภาพแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าคุณกู้กำลังจองห้องพักอยู่ที่แผนกต้อนรับของโรงแรมรัก ส่วนรถของเจ้านายผมนั้นก็จอดอยู่ด้านนอกโรงแรมรัก ทั้ง สองคนออกจากที่นั่นในตอนเช้าของวันถัดไป ดังนั้นสามารถ พิสูจน์ได้ว่า คดีความในคืนนั้น เจ้านายของผมกับคุณกู้อยู่ ด้วยกัน ขออนุญาตสอบถามคุณกู้จะเอาเวลาไหนไปฆ่าคน แล้วก็ทิ้งศพกัน”
เหลียงหยู่สีหน้าขรึม ไม่อยากที่จะเชื่อภาพบนหน้าจอ คอมพิวเตอร์ที่ตัวเองมองเห็น
ฉิงฮัวเอ่ยตอบ “จอภาพเหล่านี้เป็นของจริง อย่างแน่นอน เหลียงหยู่สามารถไปรวบรวมจากกองพล ตำรวจจราจร ได้ด้วยตัวเอง หรือจะไปโรงแรมรักตรวจสอบ หลักฐานก็ได้!”
“ผมจะต้องไปตรวจสอบให้ชัดเจนด้วยตัวเองอย่าง แน่นอน!” เหลียงหยู่คาดไม่ถึงว่า กู้ฮอนกับคุณชายเป่หมิง เอ้อที่แท้จะมีความสัมพันธ์กันแบบนี้!
เหมิง โม่ใบหน้าเย็นชา ยืนขึ้นมา
ร่างสูงตระหง่านแผ่รัศมีเย่อหยิ่ง มองไปที่เหลียงหยู่ เอ่ย
เสียงต่ำ-
“ผมพูดไปแล้วว่า ผมไม่ได้มาประกันตัวคน ผมต้องการให้ คุณปล่อยคน!”
เหลียงหยู่ถูกท่าทางเย็นยะเยือกของเขาทำให้สั่นสะท้าน สามารถทำให้คุณชายรองเป่หมิงมารับคนถึงที่ คาดว่าจะ ต้องเป็นคนที่เขาค่อนข้างให้ความสำคัญอย่างแน่นอน! “ตอนนี้ยังไม่สามารถทำได้! แม้ว่าคุณชายเป่หมิงยินยอมที่ จะเป็นพยานทางเวลาแล้วก็ตาม ก็ยังต้องหลังจากที่ผม ยืนยันแล้วว่าหลักฐานที่ระบุว่าไม่ได้อยู่ในสถานที่เกิดเหตุที่ พวกคุณให้มานั้นเป็นความจริงหรือไม่ ถึงจะปล่อยตัวเธอ ได้!” เป่ยหมิงโม่เลิกคิ้ว รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่หัวหน้าทีม สืบสวนคดีอาชญากรรมจะซื่อสัตย์ทุ่มเทต่อตำแหน่งหน้าที่ การงานจริงๆ ไม่หวาดกลัวต่ออ่านาจคุกตามที่มาจากตระกูล เป็หมิงเลยแม้แต่น้อย
“ถ้าอย่างนั้น เหลียงหยู่คงต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการ ทำงานแล้วล่ะ รีบเร่งตรวจหาความจริง เพื่อที่จะหลีกเลี่ยง การกล่าวหาคนบริสุทธิ์ ทำให้ฆาตกรตัวจริงหลบหนีไปได้ อย่างลอยนวล!” ประโยคพูดอันเยียบเย็นของเป่ยหมิง โม่เต็ม ไปด้วยการเหน็บแนมประชดประชัน
กล่าวจบ เขาหันกลับหลังอย่างเย็นชา ก้าวเดินออกไปจาก ประตูห้องทำงาน
ฉิงฮัวมองเหลียงหยู่ครั้งหนึ่ง รีบเอ่ยพูด “เหลียงหยู่เคยคิด ไหมว่า หย่วนซู่ผิงมีฐานะเป็นคุณนายของตระกูลกู้ หลังจาก เธอเสียชีวิต ใครจะเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดล่ะ ยิ่ง ไปกว่านั้น คนตระกูลกู้ไม่ได้แสดงความโศกเศร้าอะไร มากมายต่อการตายของเธอ โดยเฉพาะลูกสาวของหย่วนซู่ ผิง กู้อันขี ระยะนี้ก็ยังคงเที่ยวเล่นที่ในต์คลับอย่างสนุกสนาน มาก ไม่เห็นเงาแห่งความโศกเศร้าเสียใจเลยแม้แต่น้อย” “ความหมายของคุณคือ” เหลียงหยู่เลิกคิ้ว
ฉิงตัวยิ้มนิดๆ “เหลียงหยู่ เรื่องราวมากมายไม่สามารถ มองแค่ผิวเผิน แม้ว่าโลกใบนี้ คดีความลูกสาวฆ่ามารดา แทบจะน้อยมาก แต่ ถ้าหากว่าพวกเธอไม่ใช่แม่ลูกแท้ๆ ล่ะ สิ่งที่ผมควรพูดก็พูดหมดแล้ว เหลียงหยู่ คุณกรุณาปล่อย คุณกู้ออกมาเร็วๆเถอะ ไม่อย่างนั้นผมล่ะกลัวจริงๆว่าเจ้านาย ของผมจะโกรธขึ้นมา รื้อสำนักความมั่นคงสาธารณะเฉิงเป่ ยก็ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
สีหน้าเหลียงหยู่ขาวซีด
ฉิงฮัวหันหลังกลับ เร่งความเร็วให้ทันฝีเท้าของเจ้านาย
เมือง A เรือนจำที่ 1
กู้ฮอนยังคงคลุมร่างกายด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่ ขดตัวนอน อยู่บนเตียงในเรือนจำอย่างเงียบๆ
เธอไม่รู้ว่าตัวเองนอนไปนานเท่าไรแล้ว กำแพงสูงทั้งสี่ ด้านภายในเรือนจำ ทำให้มองไม่เห็นเลยว่าเป็นกลางวัน หรือกลางคืน อาหารที่ทางเรือนจำนำมาให้ก่อนหน้านี้ เธอไม่ได้กินสัก
ค่าหนึ่ง
หัวใจ เงียบสงบราวกับผืนน้ำนิ่ง ไร้ซึ่งความโกรธ
แต่ว่าเธอคิดถึงลูกๆมากจริงๆ คิดถึงหยางหยางและเฉิง
เฉิง.
จู่ๆ เสียงแกรักดังขึ้น-
เสียงประตูเหล็กดัง
“กู้ฮอน คุณสามารถไปได้แล้ว!” เสียงตำรวจประจำคุก
เสียดแทงแก้วหูเธอ
เธอนึกว่าตัวเองกำลังฝัน ร่างกายยังคงนอนอยู่ไม่ได้ ขยับเขยื้อน
ตำรวจประจำคุกเปิดประตูเหล็ก เดินเข้ามา ใช้กระบอง ตำรวจดันไปที่ร่างของเธอ “ลุกขึ้น คุณสามารถไปได้แล้ว!”
ครั้งนี้ กู้ฮอนรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แท้จริง ร่างกายปวด เมื่อยดิ้นรนลุกขึ้นมา ยังคงรู้สึกไม่ค่อยเชื่อ เอ่ยถามเสียง แหบ “ฉัน….สามารถไปได้จริงๆหรือ ออกไปจากที่นี่”
ตำรวจประจำคุกพยักศีรษะอย่างรำคาญ “ถูก ต้อง! เบื้องบนบอกว่ามีคนที่ยอดเยี่ยมมากคนหนึ่งเป็นพยาน ทางเวลาให้กับคุณ ดังนั้นคุณสามารถไปได้แล้ว!”
“พยานทางเวลา” กู้ฮอนใจสั่น
เดินตามหลังตำรวจประจำคุกที่น่าเธอไปเอาสิ่งของที่ก่อน หน้านี้ถูกอายัดไว้ จากนั้นก็ก้าวออกจากเรือนจำ
แต่ว่า ตอนที่ถูกจับกุม เป็นเพราะว่าเธอถ่ายโฆษณาครีม กันแดดอยู่จึงไม่ทันเปลี่ยนบิกินี่ ที่ในตอนนี้ยังคงสวมอยู่บน ร่าง มีเพียงแค่ผ้าขนหนูผืนใหญ่ผืนเดียวที่พันร่างกายอย่าง
น่าอาย
ชั่ววินาทีที่ประตูเหล็กเปิดกว้าง เธอถูกแสงสว่างบาดตา
ทันที
“หลังจากออกไปแล้วก็ทำตัวดีๆ อย่ากลับมาอีก!” ตำรวจ ประจำคุกกล่าวจบ จากนั้นประตูเหล็กก็ถูกปิดลง
ท้องฟ้าสีคราม ลมเย็นพัดโชยผ่านไป อบอุ่นเล็กน้อย เธอปิดตาลง ค่อยๆสูดลมหายใจเอาอากาศสดชื่น เป็นครั้งแรกที่พบว่า ความรู้สึกหลังจากออกจากเรือนจำที่แท้ ถึงดงามอะไรเช่นนี้
แต่เมื่อลืมตาขึ้น ก็มองเห็นรถHummerหุ้มเกราะขับมา จอดบริเวณถนนฝั่งตรงข้ามเรือนจำอย่างกล้าหาญ!
เป่ยหมิงโม่เปิดประตูอย่างรวดเร็ว ร่างสูงใหญ่เดินข้าม ถนนที่มีรถสัญจรไปมา ก้าวเดินมาหาเธออย่างรวดเร็ว.
ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชานั้น ปรากฏภาพชัดเจนในแววตา ของเธอ หัวใจของเธอสั่นระรัว
“เป่หมิง..”
คำว่า โม่ ยังไม่ทันได้พูดออกมา ก็โดนเขาพุ่งพรวดข้าม มากอดเธอเต็มอ้อมกอด!
เธอออกแรงสูดเอากลิ่นอันคุ้นเคยของชายหนุ่ม นิ่งเงียบ ไปไม่กี่วินาที ทันใดนั้น น้ำตาก็ไหลร่วงลงมาเป็นสาย อาการ ตื่นตระหนกตกใจและความหวาดกลัว อารมณ์น้อยใจที่ไม่ ได้ความเป็นธรรมกับความทรมานที่อดกลั้นมาตลอดขณะอยู่ ในเรือนจำล้วนเปิดเผยออกมาทั้งหมดในตอนนี้!
“ฮือ..” ร่างบางเล็กของเธอ ร้องไห้ในอ้อมกอด ของเขา…
เป่ยหมิง โม่กอดเธอเงียบๆ ตบไหล่ที่ถูกกั้นด้วยผ้าขนหนูผืน
ใหญ่ของเธอเบาๆ
เวลาราวกับถูกหยุดอยู่ในขณะนั้น
“ทำไมไม่บอกผม” เขาถอนหายใจ ในน้ำเสียงมีความ สงสารอ่อนโยน “ที่โรงแรมรักในคืนนั้น คุณควรจะบอกผม ว่า คุณไม่ใช่ลูกสาวกู้เชิงเทียน”
ร่างของเธอสั่น เงยศีรษะขึ้นจากอ้อมแขนของเขา เอ่ย อย่างตะลึง “คุณล้วนทราบแล้ว”
“ผมส่งคนไปตรวจสอบมา” เขาหลุบตา ดวงตาสีดำมืดลึก กวาดมองใบหน้าเล็กสาลี่ต้องฝน “ตระกูลกู้มีปัญหามาก ความจริงแล้วกู้อันนี้ต่างหากที่เป็นลูกสาวของหยูฟืน ใช่หรือ ไม่”
เธอพยักหน้า ยิ้มรันทด “.ฉันโง่มาก ใช่หรือไม่ ถูกคน หลอกมา 20 กว่าปี ทว่าคนนั้นกลับไม่เพียงแต่ไม่ใช่แม่แท้ๆ ของฉัน ทั้งยังหลอกใช้ฉันมาตลอด..คืนวันนั้นฉันเสียใจ มาก ฉันไปถึงตระกูลกู้เผชิญหน้ากับเธอ แต่ว่าฉันไม่รู้จริงๆ ว่าหลังจากนั้นหย่วนซู่ผิงเสียชีวิตได้อย่างไร….ทำไมพวก เขาถึงใส่ร้ายฉัน แท้จริงแล้วหยูฟันโหดร้ายมากที่จะกำจัด ฉัน..”
ในที่สุดกู้ฮอนก็ทนไม่ไหวพูดออกมาจนหมดเปลือก แล้ว ร้องไห้ในอ้อมแขนของชายหนุ่มผู้เป็นเหมือนพระเจ้าคนนี้
เป่ยหมิงโม่ลูบไปตามเส้นผมยาวของเธอ “ผู้คนมักจะเปิด เผยด้านที่อัปลักษณ์ที่สุดในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด ไม่ต้อง คิดเรื่องพวกนี้แล้ว ทุกอย่างให้ผมจัดการเอง”
คำพูดที่ทรงพลังของเขา ทีละคำ ทีละคำ กระทบใจของ
เธอ
สิ่งที่เรียกว่า ความตื้นตันนั้นมันเอ่อล้นใจของเธอ
“.เป่หมิงโม่ ตำรวจประจำคุกบอกกับฉันว่ามีคนเป็น พยานทางเวลาให้กับฉัน คนคนนั้นคือคุณใช่ไหม เป็นคุณใช่ หรือไม่…คุณช่วยเหลือฉันอีกครั้งแล้ว….”
เหมือนกับครั้งนั้นที่บาร์เซโลนา เขายังช่วยเธอจากสภาพ การตกนรกทั้งเป็น
เธอซาบซึ้งใจลึกๆ แต่ก็รู้สึกขัดแย้ง….อันที่จริงแล้วต่อ หน้าเขา เธอซุกซ่อนความลับอัน ยิ่งใหญ่เอาไว้ ทว่าความลับเรื่องหยางหยางนี้ เธออดทนได้ ลำบากยิ่งขึ้น
ในขณะที่จุดประสงค์ของเขายังไม่ชัดเจน เธอไม่กล้าที่จะ สารภาพกับเขาจริงๆ
เขาเม้มปาก นิ้วมือแกร่งลากผ่านผมซอยด้านหน้าผากเธอ แววตามืดลึกมองไปที่เธออย่างมั่นคง “ดังนั้น คุณเตรียมตัว ที่จะตอบแทนผมอย่างไร”