ตอนที่279บุญคุณที่ช่วยชีวิต
พอนักข่าวพูดจบก็ตัดภาพเห็นคนเยอะแยะรุมล้อมกัน เต็มไปหมด
สุดท้าย กล้องถ่ายจับภาพโดยเฉพาะผู้หญิงที่นั่งอยู่หน้า โต๊ะและยิ้มให้กล้อง
พ่อลูกทั้ง3อึ้ง มองทีวีค้าง ไม่เชื่อว่าผู้หญิงในภาพนั้น เป็น คนที่พวกเขาคุ้นเคยที่สุด…
“คุณแม่
ชัดเจน เด็กทั้งสองรีบวิ่งไปที่หน้าทีวีจะกอดทีวีเพราะเห็น แม่ตัวเอง…..
หล่อนเปลี่ยนไปเป็นโม้ฮอนตั้งแต่เมื่อไหร่? เป็นนัก เขียนเมื่อไหร่?
อีกอย่าง เขาเรียกอะไรนะ (Years when his father couldn’t do it)
เป้หมิงโม่จ้อง! เขาไม่ไหวสะที่ไหน
“ สวัสดีคุณโม้ฮอน!เป็นอะไรที่คิดไม่ถึงมากคุณเป็นคน เดียวกันกับคุณกู้ฮอนที่เคยขึ้นศาลกับคุณเป้หมิงโม่ใช่มั้ย? สองปีนี้คุณหายไปไหน ?ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นโม้ นักข่าว สัมภาษณ์
กู้ฮอนยิ้มให้กล้องเวลาไม่ได้ร่องรอยไว้ที่หล่อนเพิ่มเติม เพียงหล่อนมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น “ยังไงทุกคนก็ยัง สามารถเรียกฉันกู้ฮอนได้นะคะ จะนามสกุลอะไรไม่สำคัญ หรอกค่ะ”
“ฮ่าๆงั้นดิฉันขอเรียกคุณกู้ฮอนดีกว่านะคะ คุณกู้ฮอนคะ พวกเรารู้ว่าคุณแฟให้กับคุณเป้หมิงโม่ตอนขึ้นศาลนั้นเรื่องนี้ (Years when his father couldn’t do it) งั้นพ่อของลูกคือคุณ เป้หมิงโม่หรอคะ ถ้าใช้ที่คุณกู้ฮอนทำก็แปลว่าแขวะอยู่หรอ คะ?นักข่าวถาม
กู้ฮอนยิ้มอ่อนให้กล้อง : การ ฉันไม่ได้อ้างอิงถึงใคร “ไม่ค่ะ อันผู้อ่านทุกคนใช้จิตน
“คุณกู้ฮอนคะถ้าสมมุติคุณเป้หมิงโม่เป็นพ่อในนั้นละคะ เขาไม่ไหวตรงไหน?ทุกคนรู้ประธานเหมิงโม่ของบริษัทเป็น มึงยังไม่ได้แต่งงานในสายตาของผู้คนทั้งหลายเขายังโสด ตอนนี้คุณบอกว่าเขาไม่ไหว ไม่กลัวว่าเขาจะโกรธหรือ คะ?”นักข่าวถามอย่างระวัง
กู้ฮอนยิ้มตอบ ฮ่าๆ เหมือนที่ฉันพูดเมื่อกี้ ฉันไม่ได้เขียน ว่าใครเป็นพ่อของลูก ถ้าคุณเป้หมิงโม่จะหาเรื่องฉัน ฉันก็ทำ อะไรไม่ได้ คงพูดได้ว่าเขาไม่ยอมรับตัวเองแหละค่ะ…
“ฮ่าๆ! คุณกู้ฮอนกล้าหาญมากเลยนะคะ! “นักข่าวได้ยินก็ หัวเราะตามขั้นตอนแรกที่คุณจะเขียนเรื่องนี้เพราะอะไรหรอ คะ?”
จริงแล้วเรื่องนี้ฉันทำเพื่อลูกค่ะ ฉันหวังว่าลูกฉันจะเป็น “ แบบอย่างให้กับเด็กๆที่ไม่มีแม่เคียงข้าง แต่แม่ก็ยังรักพวกเขา อยู่ และฉันก็อยากมอบพลังให้แก่แม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะบอกให้พวก เขา ต้องแข็งแกร่ง อดทน ทําเพื่อลูก ไม่ท้อถอย!”
เวลาที่กู้ฮอนพูดคำนี้กล้องแต่ละกล้องถ่ายเต็มไปหมด คุณกู้ฮอนพูดได้ดีมากค่ะ!หวังว่าเพศหญิงทุกคนจะหา แรงบันดาลใจจากเรื่องนี้และติดตามผลงานของคุณฮอนนะ คะ ขอบคุณที่รับการสัมภาษณ์ค่ะ
และภาพก็ตัดไปตอนที่กู้ฮอนเซ็นลายเซ็นให้แฟนคลับ… หยางหยางและเฉิงเฉิงดูแม่ในทีวี น้ำตาจะไหล…
“ออ แม่….หยางหยางคิดถึงแม่…
“คุณแม่….”เฉิงเฉิงพูดเสียงแหบ น้ำตาไหลเงียบๆ เด็กทั้งสองทนความคิดถึงต่อแม่มา2ปี ตอนนี้เห็นแม่บน ทีวีก็อดไม่ได้…
เป๊หมิงโม่ขมวดคิ้ว
ตั้งแต่ผู้หญิงคนนี้กลับมาก็เหมือนข้อปริศนาดึงดูดเขา
เริ่มจากการเป็นลูกสาวของโม้วิ่งเฉิงและทำให้เขา หลงกลแล้วทิ้งเขาไว้ที่สวนสาธารณะ
ตอนนี้ยังเขียนหนังสือที่เรียก ว่า(Years when his father couldn’t do it) ขึ้นอีกและยังเปิดสาธารณะบนทีวีและ ยังพูดสัมภาษณ์ไปแบบนั้น บอกว่าเขาไม่ไหว!
มาก!
เป้หมิงไม่มองจ้อง
หล่อนยั่วเขาโมโหได้สำเร็จแล้วนะ! เขาจะรอดูว่าต่อไป หล่อนจะเล่นยังไงอีก
“คุณชายรอง วันนี้วันคริสต์มาส คุณนายหญิงถามว่าจะ ไปฉลองกับคุณหนูทั้งสองมั้ย”คนใช้รีบถามขึ้น
เป้หมิงโม่หยุดสักพัก เห็นเด็กทั้งสองที่กำลังร้องไห้ ขมวด
คิ้วตอบเสียงเบา : อืม” แล้วรีบเดินจากไป…
*
อาคารวัฒนธรรมของเมืองA
ทั้งตึกคนเยอะมากๆจนขึ้นฟีดของเมือง
คนอาจจะแปลกใจว่าจากในหนังสือพ่อของลูก เป็นเป้ห
มิงโม่รึเปล่า? นักเขียนโม้ฮอนกับเป้หมิงโม่ที่ร่ำรวยมหาศาลเขาเลยมี เรื่องอดีตไรกัน?
ในเวลาเดียวกัน ตึกนั้นก็ยังมีงานพบเจอแฟนคลับของซู ยิ่งหวั่นทำให้รู้สึกเงียบ
อีกแค่2-3คนเดินผ่านและขอถ่ายรูป
Jan ผู้ช่วยของชูยิ่งหวั่นมองจากชั้นสามลงไปตกใจมาก หล่อนเองก็อยู่ข้างกายซูยิ่งหวั่นเป็นเวลานานพอสมควร ฉะนั้น หล่อนก็พอจะรู้เรื่องของเป้หมิงโม่กับกู้ฮอนอยู่ ฉะนั้น หล่อน เป็นกู้ฮอนจริงๆ!สองปีก่อนที่แพ้ไป คิดว่าหล่อนนั้นจะหายไป แล้วสะอีกที่ได้ไหนเขียนหนังสือตามคนอื่นอีก!”
ซูยิ่งหวั่นไม่พอใจจับราวเหล็กไว้แน่นๆมองไปด้านล่าง หล่อนกัดฟังพูน
“
แล้วไง?”ตอนนี้ดังแล้วไงหล่อนแย่งเฟยเอ๋อไม่ได้
หรอก….”
เพราะขนาดหล่อนเองก็แย่งเฟยเอ๋อไม่ได้
กู้ฮอนเซ็นเป็นเวลา3ชั่วโมงถึงจะจบ นักข่าวและแฟนคลับยังวนเวียนไม่ไปไหน
ยามได้กันผู้คนให้กู้ฮอนขึ้นรถอย่างปลอดภัยถึงชั้น
ใต้ดิน
หล่อนที่ใส่ส้นสูงที่นั่งลิฟต์ลงไปรถที่คุ้นเคยจอดอยู่ด้าน
หน้า
คนขับรถรีบลงรถมาเปิดประตูให้ หล่อนยิ้มแล้วเข้าไปนั่ง
“คุณพ่อโม้”
โม้จิ่งเฉิงนั่งอยู่ในรถยิ้มต้อนรับ “ฮอนวันนี้เซ็นได้ราบรื่น คุณพ่อยินดีด้วยนะ!”
ฮ่าๆ ต้องขอบคุณคุณพ่อมากว่าค่ะ ถ้าไม่ใช่ตลอดสองปี ที่พ่อให้กำลังใจนั้น ก็ไม่มีหนูในวันนี้หรอก” “เพราะหนูตั้งใจต่างหาก พ่อยังไม่ได้พูดเลยนะ เพราะหนู
เมื่อสองปีก่อนช่วยพ่อรอดพ้นอันตราย”
“…คุณพ่อคะ คำนี้พ่อพูดหลายรอบแล้วนะคะ ตอนนั้น เวลาจํากัดและบนเครื่องก็มีแค่หนูเป็นเลือดกรุ๊ปเดียวกับพ่อ…
ใช่ตอนนั้นหนูยัง มีครรภ์อยู่เลยก็ยังจะบริจาคเลือด ให้ …บุญคุณ พ่อจะไม่ลืม”โม้จิ่งเฉิงลูบหัวกู้ฮอน
กู้ฮอน”น่าเสียดาย ถึงเลือดเราจะกรุ๊ปเดียวกัน แต่ไม่ใช่ พ่อลูกกันจริงๆ….
โม้จึงเฉิงโอบกอดกู้ฮอนอย่างรักลูก “ลูก พ่อเคยบอกแล้ว ไม่ใช่หรอ หนูก็เปรียบเสมือนลูกของพ่อจริงๆ
กู้ฮอนนึกถึงเรื่องสองปีก่อน เมื่อเครื่องบินกำลังเริ่มออก เดินทาง โม้จิ่งเฉิงโดนคนลักรอบทำร้าย เพราะสถานะของเขา จึงจะนั่งเครื่องบินกลับมาทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่คิดว่า จะมาไม่ไหวตอนนั้น
โชคดีว่าตอนนี้กู้ฮอนก็อยู่บนเครื่อง ตอนนั้นหล่อนยังท้อง ถ้าคนท้องบริจาคเลือดอาจจะไม่ไหวแต่เวลาจำกัดสุดท้าย หล่อนก็ช่วยเขา…
“คุณพ่อคะ เพชรนี้เมื่อถึงมาเลเซียแล้วหนูค่อยคืนให้ป้า หรูเจี้ยนะคะ…
“ฮ่าๆ หล่อนบอกว่าให้เธอแล้ว เธอก็รับไว้เถอะ เมื่อคืนเรา
แสดงได้ดีมาก ไม่ใช่หรอ?”โม้จิ่งเฉิงนึกถึงเมื่อวานแล้วหัวเราะ
กู้ฮอนรีบพูด “เพชรนั้นแพงเกินไปค่ะ หนูรับไว้ไม่ได้ พูด จริงนะคะเมื่อวานตกใจมากหนูไม่เคยกล้าแบบนี้มาก่อนกลัวว่า เป้หมิงโม่นั้นยังไม่ติดกับนะสิ…”
“ฮ่าๆหนูทำได้ดีแล้ว! ไม่นาน เราก็จะมีฉากเด็ดๆดูกัน!”
พวกเขาหัวเราะ
แต่ไม่มีคนเห็น ไม่ไกลมีรถหรูคันหนึ่งจอดไว้ ในรถ เป็น
เป้หมิงโม่ เยือกเย็น…
หลังจากโม้จึงเฉิงไปได้ไม่นานเขาก็ได้ขับไปอีกทาง
โรงพยาบาลA
นี้เป็นโรงพยาบาลเอกชน ช่วยรักษาคนรวยโดยเฉพาะ
ปีนี้เมือง หิมะตกเร็วกว่าปกติ
ท้องฟ้าแจ่มใสแต่ก็หนาวอยู่ดี หิมะก็ไม่ละลาย
สวนหรือหลังคาโดนหิมะปกคลุมไปหมด
ไหนๆก็มีต้นคริสต์มาสมีกระดิ่งหลายสีๆไปหมด
“ฮ่าๆ ยิ่งหวั่น ไม่ต้องทำแล้ว….แบบนี้ฉันไม่สวย…
“ใครบอกเฟยเอ๋อไม่สวย? ในสายตาทุกคนเฟยเอ๋อสวย เหมือนเดิม สวยกว่าแต่ก่อนอีก!”
สวนหลังบ้านผู้หญิงที่นั่งรถเข็นบนหัวใส่ที่คาดผมปีศาจ น้อย ที่กำลังเขิลอาย ซูยิ่งหวั่นก็สวมหมวกคริสต์มาส ทั้งสอง หัวเราะสนุกสนาน…
เป่หมิงโม่เห็นภาพนี้
ก้าวขายาวไปตรงหน้ารถเข็นหญิงสาว
เฟยเอ๋อ ข้างนอกหนาวทำไมไม่เข้าไปด้านใน?” เฟยเอ๋อมองคนตัวสูงที่หุ่นดีใส่เสื้อโค้ทยาวรู้สึกหล่อเป็น
อย่างมาก แต่ในสายตาเฟยเอ๋อเขาหล่อตลอดเวลา…
“โม่ เธอกลับมาแล้วหรอ? นี้เป็นที่คาดผมที่ยิ่งหวั่นให้ฉัน สวยมั้ย?”
เฟยเอ๋อ ไปที่คาดผมแล้วยิ้มเพราะรอยแผลเต็มหน้า ของหล่อนเลยทำให้ยิ้มนั้นดูปืน
เหมือนเห็นแผลที่หน้าหล่อนเป่หมิงโม่ถอนหายใจตลอด
เขาจับมือหล่อนอย่างอ่อนโยนขนาดมือก็มีแต่รอยแผล
“เฟยเอ๋อสวยตลอด แต่วันนี้หนาว ร่างกายเธออ่อนแอ เดี่ยวเป็นหวัด ฉันพาเธอเข้าไปนะ? ”
เขาพูดอย่างอ่อนโยน ซูยิ่งหวั่นมอง ถึงแม้ตลอดสองปีนี้ หล่อนเคยเห็นเขาอ่อน โยนใส่เฟยเอ๋อไม่ใช่รอบแรก แต่ทุกครั้งที่เห็น หล่อนรู้สึก เหมือนใจโดนแทง