ตอนที่ 413 หยาดน้ำตาที่ปรากฏใน นัยน์ตา1
เธอส่งสายตาให้สัญญาณหวีหรูเจี้ยว่าอย่าเอ่ย เรื่องเหล่านี้ต่อหน้าตัวน้อย เพราะว่าตั้งแต่ต้นจบนั้นเธอบอกตัวน้อยเพียง แค่ว่า เป่หมิงโม่เป็น เทพเจ้าแห่งสุขา เป็นคน สารเลวคนหนึ่ง
” หยาดน้ำตาเอ่อคลอนัยน์ตาในชั่วพริบ ตา มองไปยังตัวน้อยอย่างตื่นเต้นชั่วครู่แล้ว เอ่ยตอบว่า “เธอ……เธอมีชื่อว่าอะไร
“กู้จิ๋วจิ๋วค่ะ”
“คืนวันนี้เธอพาเธอมาที่นี่……. เห็นได้อย่าง
ชัดเจนว่าหวีหรูเจี๋ยเดาอะไรบางอย่างออก กู้ฮอนพยักหน้า “ฉันพาจิ๋วจิ๋วมาเยี่ยมเขา ไม่มี อะไรมาก……..งไปกว่านั้น เขายังคงไม่รู้จักจั่ว จิ่ว ดังนั้นคุณป้าหวีหรูเจี้ยจะช่วยฉันรักษา ความลับนี้ไว้ได้หรือไม่คะ
หวีหรูเจี้ยไม่เข้าใจ มองไปยังแววตาอันแน่ว แน่ของกู้ฮอนแล้ว เธอก็ทำได้เพียงแค่พยัก หน้า “แม้ว่าฉันจะรู้สึกเสียดายแทนโม่ แต่ฉัน คิดว่าที่เธอทำแบบนี้จะต้องมีเหตุผลของเธอ อย่างแน่นอน……..ฮอน ให้ฉัน……..กอดเธอ หน่อยได้ไหม”
กู้ฮอนลังเลไปชั่วขณะ จากนั้นก็ยิ้มบางพลาง
ปล่อยมือ
“จิ๋วจิ๋วเด็กดี ให้คุณย่ากอดหน่อยได้ไหมคะ “อือ…… จิ่วจิ๋วตอบตกลงด้วยน้ำเสียงง่วงนอน ราวกับลูกสุนัขตัวน้อยจอมขี้เกียจ ตัวขี้เซา เกาะเต็มตัวไปหมดอย่างเธอนั้น ขี้เกียจจะ สนใจว่าใครอยากจะกอดเธอกัน กู้ฮอนพูดไปพลาง ส่งจิ๋วจิ๋วให้กับหวีหรูเจี้ยไป
พลาง
หวีหรูเจี้ยอ้าแขนเทียม อุ้มตัวน้อยแน่น
นัยน์ตาเอ่ยคลอไปด้วยหยาดน้ำตา…….. “กูฮอน…….ขอบคุณเธอ…… ” หวีหรูเจี้ยพิมพ์
ออกมา
ประโยคขอบคุณประโยคนี้ ทำให้กู้ฮอนนัยน์ตา แดงในชั่วพริบตา เธอรู้ว่าหวีหรูเจี้ยเอ่ยขอบคุณเธอที่คลอด ลูกสาวให้แทนเป่หมิงโม่ แต่สิ่งที่หวีหรูเจี๊ย ไม่รู้ก็คือ แท้จริงแล้วเธอยังคลอดลูกชาย ฝาแฝดคู่หนึ่งให้กับเป่หมิงโม่ด้วย และนี่ก็คือสิ่งที่โม้จิ่งเฉิงปิดบังหวีหรูเจี้ยอย่าง สุดความสามารถ เพราะโม้จิ่งเฉิงเคยพูดไว้ว่า ถ้าหากหวีหรูเจี้ยรู้ ว่าที่เมืองAยังมีหลานชายที่น่ารักอีกคู่หนึ่ง แล้วล่ะก็ เธอจะต้องกลับไปเมืองAโดยไม่ สนใจสิ่งใดอย่างแน่นอน!
นี่เป็นเรื่องที่โม้จิ่งเฉิงไม่ยินยอมที่จะเห็นเป็น อย่างมาก!
*
ภายในห้องที่เต็มไปด้วยความมืดมิด มีเพียง แค่ริมหน้าต่างที่มีแสงจันทร์สลัวๆส่องเข้ามา เป้หมิงโม่นอนอยู่บนเตียง ข้างเตียงยังมีเสา เหล็กที่ห้อยขวดน้ำเกลืออยู่ขวดหนึ่ง สายน้ำ เกลือสีใสลากยาวจากขวดน้ำเกลือมายังหลัง มือข้างหนึ่งที่วางอยู่นอกผ้าห่มของเป่หมิงโม่ ดวงตาคู่นั้นของเขาปิดสนิท หลับลึกเป็นอย่าง มาก
ไม่เหมือนกับตอนตื่น ที่มีลักษณะท่าทางยิ่ง ยโส คิดว่าตัวเองใหญ่ที่สุด
เขาในตอนนี้นั้น ดูผ่อนคลายและใจดีมาก ราวกับว่าหลายปีมานี้ ไม่เคยได้นอนหลับ อย่างสงบสบายใจแบบนี้มาก่อน
ความเกลียดชังที่สะสมมาเป็นเวลายาวนาน ทำให้เขารู้สึกไร้เรี่ยวแรง
ทว่ากลับถูกตาข่ายแห่งความอาฆาตแค้นร้อย รัดพันแน่น หมดสิ้นหนทางที่จะปล่อยตัวเอง
ให้เป็นอิสระ……..
ทันใดนั้น ประตูภายในห้องก็ถูกผลักให้เปิด
ออกอย่างเงียบงัน
กู้ฮอนอุ้มตัวน้อยเดินเข้ามาอย่างหลบๆซ่อนๆ
แอนนิก็ตามหลังมาติดๆ
“หม่าม้า………….……… ตัวน้อยทำปากจู่เอ่ย
เสียงกระซิบ
“ชู” กู้ฮอนรีบปิดปากจิ่วจิ๋ว มองไปทางแอนนิ แล้วเอ่ยว่า “เธออุ้มตัวน้อย ฉันจะไปดูเขา ก่อน”
เธอเอ่ยพูดแล้วส่งจิ๋วจิ๋วให้แอนนิ จากนั้นก็ ย่องเบาไปจนถึงข้างเตียงของเป่หมิงโม่ เธอจ้องมองใบหน้าอันสงบนิ่งของเขาภายใต้
แสงจันทร์
ปลายนิ้วไม้วาดไปตามโครงคิ้วอย่างเบามือ คิดถึงตอนที่เขาไม่สนใจอันตรายใดๆ ปกป้อง เธออย่างสุดชีวิต เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับ
ใจ….
เขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
เธอถึงจะถอนหายใจเบาๆด้วยความโล่งอก หันหน้ากลับไปทางแอนนิ โบกไม้โบกมือส่ง สัญญาณให้พวกเธอเดินเข้ามา
จากนั้นก็อุ้มตัวน้อยวางเธอไว้ข้างหมอนของ เป้หมิงโม่ “จําเรื่องที่หม่าม้ากำชับได้ไหมคะ” ตัวน้อยกะพริบตาปริบๆ “จำได้ค่ะ!”
จากนั้นร่างเล็กๆเต็มไปด้วยเนื้อนุ่มนิ่มก็หมอบ คลาน นึกถึงตัวเองมักจะนอนคว่ำอยู่บนเตียง แล้วจูบไปที่จระเข้ของเล่น ดังนั้น เธอจึงทำ ปากเขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าของเป่หมิงไม่ แต่ว่าภายในห้องมืดจังเลย ตัวน้อยหยีตาเพ่ง มองก็ยังมองเห็นหน้าตาของเขาไม่ชัดเจน
เท่าไร……
ช่างมันเถอะ ทำใจให้สงบ แล้วก็ประทับจูบลง
ไป
“บ๊วะ มัวะ ม๊วะ…
เสียงจูบที่เต็มไปด้วยน้ำลายดังขึ้นหลายครั้ง ภายในห้องที่มีแสงสลัวอย่างเงียบๆ
เสียงป๊อบๆจากปากของตัวน้อยดังขึ้น จูบจน ใบหน้าของเป่หมิงโม่เต็มไปด้วยน้ำลาย………
“ขอบคุณคุณที่ช่วยชีวิตหม่าม้านะคะ………
ตัวน้อยเพิ่งจะเอ่ยประโยคนี้จบ ก็มีลมเย็นพัด ผ่านมาทำให้มุมหนึ่งของผ้าม่านหน้าต่างเปิด ออก แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาบนใบหน้าหล่อ เหลาเย็นชาของเป่หมิงไม่
ตัวน้อยนัยน์ตาเบิกโต ตกใจตัวแข็งทื่อ
“แง……” กรีดร้องเสียงตะลึง ร่างร่วงลงไปบน
หมอน……
วินาทีถัดมา ของเหลวเปียกอุ่นไหลออกมา จากกางเกงของตัวน้อย……. กู้ฮอนตกตะลึง!
แอนนิลนลาน
“อือ…… เป้หมิงโม่เหมือนกับว่ามีปฏิกิริยา
ตอบโต้เล็ถน้อย
น้อยเบิกนัยน์ตาหวาดกลัว ยังไม่ทันจะเอ่ยคำ ว่า เทพเจ้าสุขา สี่คำนี้จบ ก็ถูกกู้ฮอนปิดปาก ลนลานอุ้มขึ้นมา……
ในเวลาเดียวกัน เป้หมิงโม่ที่หลับลึกก็ขมวดคิ้ว
นิดๆ
ราวกับว่ากําลังอยู่ในฝันอันยาวนาน เขาฝันเห็นว่าตัวเองตกลงไปในทะเล ถูก
ปลาหมึกน้อยตัวหนึ่งรัดพันใบหน้าแน่น ทำให้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเปียกชื้น เขา อยากจะยกมือดึงมันออกไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ ไม่มีแรง.
ทันใดนั้น เหมือนกับว่าได้ยินเสียงร้องไห้ของ เด็กอันน่าฟังจากปลาทะเลประเภทหนึ่ง เขา ตะลึงจนใจสั่น
จากนั้น ปลาหมึกตัวน้อยที่แปะอยู่บนใบหน้า เขาก็คลายออกอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเขาก็ได้
รับอิสรภาพกลับคืนมา……..
เขาพยายามลืมตาขึ้น เพื่อค้นหาปลาทะเล น้อยที่ส่งเสียงร้องไห้ราวกับเด็กทารกตัวน้อย ทว่าไม่ว่าอย่างไรก็หาไม่เจอ………
ตามองน้ำทะเลที่กำลังจะท่วมมิดเขา ของเขา สําลักในสําคอทันที แล้วนัยน์ตาคมปลาบดุจ เหยี่ยวก็เปิดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เขาสูดลมหายใจลึกเย็นเฮือกใหญ่! ไม่เห็นปลาหมึกตัวน้อย ไม่เห็นปลาทะเลตัว
น้อย ยิ่งไปกว่านั้นไม่เห็นมหาสมุทร
ที่แท้ก็เป็นแค่ฝันตื่นหนึ่ง!
แสงสลัวอันเลือนรางปรากฏในนัยน์ตา เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ทันใดนั้น ความเจ็บปวด
ก็ลุกลามไปตามเส้นปลายประสาทหลังจากได้ รับบาดเจ็บ “ด……” เขาร้องโอยออกมาตาม
จิตใต้สํานึก
“คุณตื่นแล้วหรือ” น้ำเสียงนุ่มสั่นดังขึ้นข้างหู ของเขา