ตอนที่ 423 การทะเลาะกันระหว่างพี่น้อง
“คุณพ่อของผม……….มีด หมดสติไป กะทันหัน เขาเอ่ยพูดไม่กี่คำอย่างยากลำบาก เธอตกตะลึง ท่านปูเป้หมิงดีๆอยู่จะหน้ามืด หมดสติไปกะทันหันได้อย่างไร เธอบ้วนน้ำไป คําหนึ่ง คายฟองที่อยู่เต็มปากทิ้งไป “ไป! …” เขารู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง “ไปไหน” เธอจูงมือเขาเดินกลับเข้าไปในห้อง “เก็บ กระเป๋ากลับเมือง A ไง!”
เขามองท่าทางรีบเร่งของเธอ ความอุ่นร้อน จากฝ่ามือของเธอ ก็รู้สึกอบอุ่นในใจเขาโดย ไม่รู้ตัว……
เมือง A
เมื่อลงจากเครื่องบิน
ก็รู้สึกได้ถึงความเหน็บหนาวของอากาศใน
เมือง A ได้ในทันที
นี่เป็นสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างจากเมืองซา บาห์อย่างสั้นเชิง
และก็แช่แข็งความกระตือรือร้นของเธอที่มี ตอนอยู่เมืองซาบาห์ในชั่วพริบตาเดียว
ชั่วขณะกู้ฮอนยังไม่สามารถปรับตัวได้ งอแขน
กอดสะดุ้งเล็กน้อย
เป้หมิงโมถอดเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ของตัวเอง ออกมา คลุมไปบนไหล่ของเธอ “ใส่ซะ ระวัง
เป็นหวัด”
ทันใดนั้นก็จูงมือเธอเดินไปทางประตูใหญ่ของ
สนามบิน
“เดี๋ยวก่อน” เธอหยุดเท้า
“ทําไมหรือ” เขาขมวดคิ้ว
“พวกเรา…….แยกกันไปจะดีกว่า…….. เธอดึงมือ ออกจากมือใหญ่ของเขาตามจิตใต้สำนึก แหวนเพชรบนนิ้วนางบาดมือเขาเจ็บ
“คุณกำลังกลัวอะไร ” แววตาเขาแสดงออก อย่างชัดเจนว่าไม่สบอารมณ์ อาการของคุณ พ่อทำให้เขารู้สึกกังวลใจมากพอแล้ว เธอยัง
จะเล่นแง่อะไรอีก
“ฉัน……..
” เธอส่ายหน้าอย่างลังเล “คุณรับปาก ฉันว่าตอนนี้ยังไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ ระหว่างพวกเรา
หรือไม่ก็ เธอหวาดกลัวว่าจะถูกผู้คนมากมาย หน้านําว่า
.” คิ้วเขาขมวดล็ก ความอุ่นร้อนถูกแทนที่ ด้วยความหนาวเย็นในฝ่ามืออันว่างเปล่า “เป้หมิงโม คุณรีบไปเถอะ คุณพ่อของคุณยัง รอคุณอยู่นะ” เธอเอ่ยเร่ง กลัวว่าจะทำให้เขา เสียเวลา
เขาจ้องเขม็งมองเธอรอบหนึ่ง ในที่สุดก็ยอม ประนีประนอม สากร่างของเธอเข้ามา ประทับ จูบบนริมฝีปากเธอ “คืนนี้ผมจะไปหาคุณ รอผม!”
รู้สึกอาลัยอาวรณ์เล็กน้อยที่จะปล่อยมือเธอ ในไม่ช้า เขาก็ก้าวยาวๆออกไป……..
กู้ฮอนมองแผ่นหลังสูงใหญ่ของเขาอย่าง เลื่อนลอย หน่วยตาแดงระเรื่อไม่รู้ตัว
เห็นได้ชัดว่า เขาเป็นบิดาของเด็กๆ เธอเป็น มารดาของเด็กๆ
แต่ว่าทําไมความสัมพันธ์ถึงได้กลายเป็นเปราะ บางเช่นนี้
“เป้หมิงโม่ ถ้าหากว่าคุณรักฉันจริงๆแล้วล่ะก็ ทำไมยังจะต้องแต่งงานกับเฟยเอ๋ออีก…….
เธอ ม า ทอดถอนใจ พร้อมกับหัวใจที่ค่อยๆ ท้อแท้ลง
ฉิงฮัวที่ตามมาทีหลัง “คุณกู้ ตอนนี้เปียโนที่ทำ จากไม้สนสีแดงตัวนั้นถูกจัดการให้ส่งมาทาง อากาศแล้ว อีกสองวันก็จะส่งมาครับ
“อืม ขอบคุณคุณฉิงฮัว” กู้ฮอนกะพริบตาสองที อย่างอึดอัดใจ กลัวว่าฉิงตัวจะเห็นน้ำตาของ
เธอ
ฉิงฮัวหยุดฝีเท้า สงสัยเล็กน้อย “คุณกู้ คุณไม่
เป็นอะไรใช่ไหมครับ”
“ไม่… …… เธอสายหน้า
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ฉิงฮัวเอ่ย แล้วก็หมุนตัวตามฝีเท้าของเจ้านายไป
“เดี๋ยวก่อน” เธอตะโกนเรียกเขาอย่างเร่งรีบ
“ฉิง ว รบกวนคุณช่วยเตือนให้เขาใส่ยาที่
บาดแผลด้วย……
“ผมจะบอกให้ครับ” ฉ่ง วพยักหน้าแล้วจากไป กู้ฮอนที่ห่อร่างกายด้วยเสื้อกันหนาวของเป่า มิงโมเดินไปถึงประตูสนามบิน
เมื่อเงยศีรษะข็น ลมแห้งเย็นยะเยือกก็พัดเข้า
มาที่ใบหน้า
เธอสูดลมหายใจเย็น เรียกรถบัสคันหนึ่ง………
รถยนต์ของเป่หมิงโม่ขับไปถึงโรงพยาบาล กลางเมือง A อย่างรวดเร็ว
คุณชายรอง ในที่สุดคุณก็มาแล้ว” แม่บ้านวัง ยืนเฝ้ารออยู่ที่ประตูโรงพยาบาลได้สักพักหนึ่ง แล้ว
“คุณท่านล่ะ” เป้หมิงโม่ไม่ตอบอะไร ลงจาก รถยนต์ เดินตรงเข้าไปข้างในโรงพยาบาล “คุณท่านยังอยู่ที่ห้อง ICU ค่ะ.…………….
“สรุปว่ามันเกิดเรื่องอะไรกันแน่ อยู่ดีๆทำไมถึง ได้หน้ามืด หมดสติกะทันหันได้!” เขาขมวดคิ้ว นําเสียงไม่ยอมให้ใครพบแม้แต่ความตื่น ตระหนกตกใจ ก่อนวันตรุษจีนหนึ่งวัน คุณพ่อ เพิ่งจะโทรศัพท์มาหาเขา แค่เพียงไม่กี่วัน จะ หน้ามืด หมดสติกะทันหันได้อย่างไรกัน “………..ฉันก็ไม่ทราบแน่ชัด…… แม่บ้านวัง สายหน้า “ตอน พบคุณท่านนั้น คุณท่านก็ หมดสติล้มอยู่บนพื้นแล้วค่ะ”
“คนอื่นๆล่ะ ลูกหลานล้วนอยู่บ้านกันหมด ไม่มี
ใครสักคนรู้เลยหรือ ” แม่บ้านวังตอบไม่ได้
เป้หมิง โมระงับความโกรธ รีบร้อนไปยังห้อง
ICU
“โม่……. เจียงฮุยชินน้ำตารินไหล เธอกลับมา
แล้ว………
สามีภรรยาเป้หมิงเฟยหย่วน ยืนเฝ้าอยู่ที่ข้าง
เตียงเงียบๆ
เป่หมิงยีนนั่งแผ่อยู่บนโซฟา ดื่มเหล้าอย่าง
กลัดกลุ่ม
เมื่อเป้หมิงโม่เห็นชายชราที่มีผมสีขาวโพลน สวมหน้ากากให้ออกซิเจนอยู่บนเตียงผู้ป่วย
น้น ใจเขาก็สั่นขึ้นมา
ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน คุณพ่อก็ป่วยจนลุกไม่ขึ้น ชะแล้ว
เป่หมิงเจิ้งเทียนลืมตาขึ้นมาเห็นเป้หมิงโม่ นัยน์ตา ทอประกายชั่วครู่
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หน้ามืด หมดสติไป กะทันหัน ใบหน้าที่เส้นประสาทเป็นอัมพาตไม่ ว่าอย่างไรก็แสดงอารมณ์ออกมาไม่ได้
“ท่านปูอยากจะส่งเสียง ทว่าสามารถออก เสียงได้แค่สองสามพยางค์อย่างไม่ชัดเจน
“รอง……”
ใครจะไปคิดว่า เป้หมิงเง็งเทียนที่ถึงแม้อายุจะ มากแต่ร่างกายยังแข็งแรงในวันก่อน มาวันนี้ จะกลายเป็นไม้ใกล้ฝั่งเสียแล้ว
“คุณพ่อผมกลับมาแล้ว” เป้หมิงโม่เอ่ยเสียง แหบแห้ง จับมือของเป่หมิงเจิ้งเทียน “ขอโทษ ที่ผมมาช้าไป
จู่ๆเป่หมิงเจิ้งเทียนก็หน่วยตาแดงระเรื่อ มือสั่น ระริก อือฮืออาอาพูดไม่ออกแม้แต่ประโยค
เดียว
ทว่ากลับใช้สายตาบอกกับลูกชายว่า เขารอ ประโยคที่เต็มไปด้วยความจริงใจประโยคนี้ “คุณพ่อ” รอมานานหลายปีแล้ว……..
หรือไม่ก็ คําว่า “ขอโทษ” ของเป้หมิงโม่ ทําให้ เขารู้สึกละอายใจ
ในบรรดาลูกชายทั้งสามคน เขารักลูกชายคน โตมากที่สุด ตามใจคนสุดท้องมากที่สุด ชื่นชม คนรองมากที่สุด แต่ทว่าเขาก็ติดค้างคนรอง มากที่สุด……..
เป้หมิงโม่สูดลมหายใจลึกเย็น แล้วก็หันกลับ ไปคํารามเสียง ถามคนที่นั่งอยู่ในห้องทันที
“ใครสามารถบอกผมได้บ้างว่า มันเกิดอะไรขึ้น กันแน่” เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ไปเมืองซาบาห์ครั้งหนึ่ง
ใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าไปวัน ๆ เหมือนคนเมาหรือ คนที่อยู่แต่ในโลกแห่งความฝันไม่กี่วัน พอก ลับมาก็เหมือนกับว่ามีภาพลวงตาบนโลกที่ ผ่านมาแล้วหลายปี แท้จริงแล้วผิดพลาดอะไรไป ถึงได้ทำให้คุณ พ่อหน้ามืด หมดสติจนต้องเข้าโรงพยาบาล อย่างกะทันหัน