ซูยิ่งหวั่นตกใจหันกลับไป แล้วยิ้มกับ พยาบาลคนนั้นอย่างทําตัวไม่ถูก ได้แต่ส่ายหัว แล้วพูดเบา ๆ “ขอโทษทีนะคะ ฉันคงมาผิดห้อง คะ……รบกวนแล้วนะคะ……”
เมื่อพูดเสร็จ ซูยิ่งหวั่นที่สวมใส่รองเท้าส้นสูงนั้น รีบเดินจากไป ความจริงแล้ว ฉากเมื่อคืนที่เป้หมิงโม่ทะเลาะกับ
หยินปู่ฝัน เธอได้เห็นหมดแล้ว และเวลาเดียวกัน เธอก็ได้เห็นผู้หญิงที่ชื่อลู่ลู่คน นี้แอบติดตามกู้ฮอน จนกว่าหยินปู่ฝันจะเป็นลม แล้วล้มลงไป เธอถึงจะวิ่งออกมา…….
ซูยิ่งหวั่นสงสัยมาก ว่าลู่ลู่คนนี้คือใคร แต่วันนี้ เมื่อเธอแอบฟังบทสนทนาระหว่างเขา สองคนแล้ว เธอก็ได้คําตอบนั้นไป กู้ฮอน เธอไม่มีจุดอ่อนงั้นเหรอ ซูยิ่งหวั่นไม่เชื่อ
ในที่สุดกู้ฮอนก็ยุ่งอยู่กับเด็ก ๆ สองคนนั้น
เรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินไปเคาะประตูห้องหยิน ฝันข้างห้องเธอ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เมื่อโทรหาหยินปู่ฝันแล้ว เขากลับบอกว่า “ฮอนฮอน วันนี้ผมติดธุระที่อื่น จะไม่กลับโรงแรม แล้ว”
“ปู่ฝัน คุณเป็นยังไงบ้าง เมื่อคืนต้องขอโทษคุณจริง ๆ นะ…….. เจ๊บมากไหม”
เอ่อ….ผมไม่เป็นไรหรอก…… หยินฝันไม่ได้ บอกเธอว่าเขาเข้าโรงพยาบาล “ไม่ต้องกังวลเรื่อง ผมหรอก เมื่อคืนผมได้ยินคุณคุยโทรศัพท์ว่า หยางหยางเขามาเหรอ”
“อั้ม ปู่ฝัน คุณไม่เป็นอะไรจริง ๆ ใช่ไหม” กู้ฮอน ยังคงเป็นห่วงเขา
“ไม่เป็นไรจริง ๆ คุณไม่ต้องเป็นห่วงผมแล้ว วันนี้ อากาศดีนะ ไหน ๆ คุณก็มาเมือง S นี้ครั้งแรก ผม ว่าคุณพาลูก ๆ ไปเที่ยวสักวัน ไม่ต้องเป็นห่วงผม โอเคมั้ย” หยินปู่ฝันพู วยน้ำเสียงอันอบอุ่น กู้ฮอนก็รู้สึกหวั่นไหวไม่น้อยเหมือนกัน แล้วพยัก หน้าตอบ “ปู่ฝัน คุณต้องพักผ่อนเยอะ ๆ นะ อย่า เหนื่อยจนเกินไปล่ะ เรื่องเมื่อวานฉันขอโทษคุณ จริง ๆ —- ขนาดนี้ .ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าเป้หมิงโม่จะโมโห
เรื่องปกติอยู่แล้ว ถ้าคุณให้โอกาสผมรักคุณ ผม ก็จะอัดเขาให้ฟันล่วงไปหมดเหมือนกัน…..ฮา
ๆ …… หยินฝันหัวเราะอย่างผ่อนคลาย ที่เขาแพ้การต่อสู้นั้น ไม่ได้หมายถึงเขาสู้เป่หมิง โม่ไม่ได้จริง ๆ แต่เพราะว่าฮอนไม่ได้รักเขา “ปู่ฝัน ขอบคุณนะ …” เธอพูดคำนี้ด้วยความ เศร้า ขอบคุณเขาที่ยอมปล่อยวาง
เมื่อทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว
เป้หมิงโม่สวมใส่ชุดสูทราคาแพง แล้วนั่งไขว้ขาขึ้ เกียจอยู่บนโซฟานั้นความเงียบสงบ
แต่สองตาเหยี่ยวนั้นยังจ้องอยู่ที่ลูกชายทั้งสอง
ของเขา
เฉิงเฉิงสวมใส่ชุดสูทขนาดเล็กสไตล์อังกฤษ และ ทรงผมที่อ่อนนุ่มเซ็ตอย่างดูพิถีพิถัน แล้วนั่งอยู่ ตรงหน้าคุณพ่ออย่างเรียบร้อย บุคลิกเย็นชาเห มือนเป่หมิงโม่ไม่มีผิด นั่งอย่างเงียบ ๆ ตั้งแต่ต้น
จนจบ
แต่หยางหยางสวมชุดฮิปฮอปแบบสบาย ๆ ดูเป็น เด็กที่มีชีวิตชีวามาก
ทั้งสามพ่อลูกนั่งอยู่เงียบ ๆ จ้องตาซึ่งกันและกัน
เป็นเวลาสิบนาที
และนาทีที่สิบเอ็ด หยางหยางทนไม่ไหวอีกต่อไป ร่างกายเขาเหมือนมีเครื่องจักคอยทำงานอยู่
ตลอด คนอื่นใช้เวลาหนึ่งวันเท่ากับหนึ่งปี แต่เขา ใช้เวลาหนึ่งวินาทีเท่ากับหนึ่งปี โถ่วเอ้ย ไอ่พ่อนก คุณแม่ขอให้พ่อดูแลพวกผมดี
ๆ นะครับ แต่นี่พ่อมานั่งที่อจ้องหน้าพวกผม เหมือนซอมบี้แบบนี้ มันเรียกว่าดูแลพวกผมยังไง เป้หมิงโม่มองดูหยางหยางอย่างเฉยเมย “แล้ว นายจะให้ทําไง”
ในใจท่านโม่กำลังคิดว่า ‘กูมีเวลามานั่งจ้องหน้า พวกมึงแค่นี้ ก็ถือว่าบุญแค่ไหนแล้ว ยังเรียกร้อง อะไรอีก’
สําหรับท่านโม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการ เลี้ยงลูกมาก่อนเลย สรุปเขาสั้น ๆ ได้เลยว่า มือ
ใหม่หัดเลี้ยงดังนั้น การเลี้ยงลูกในความคิดง่าย ๆ เขาก็คือใช้ ตา ‘มอง’ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้นแล้ว “เห้อ เค้าทนไม่ไหวแล้ว อยู่นี่ก็เหมือนโรงเก็บศพ เลย ไร้ชีวิตชีวาจริง ๆ ” หยางหยางอึดอัดจนทน ไม่ไหวแล้วลึกขึ้นกระโดดเต้นบนโซฟาเหมือน แมวป่า……
เป้หมิงโม่ยื่นมือไปจับปลอกคอเสื้อหยางหยางมา อย่างง่ายดาย แล้วจ้องหน้าหยางหยางที่เหมือน ไก่น้อยกำลังดิ้นรนอยู่ “ไอ่เด็กแสบ นั่งลงเงียบ ๆ เดี๋ยวนี้นะ”
“นั่งหาน้องสาวอะไรครับ ไอ้พ่อนก ปล่อยผมนะ ปล่อยมือ …..”สองมือเล็กของหยางหยางบีบมือ เป้หมิงไม่อยากสุดกําลัง “ผมมาเมือง S ครั้งแรก นะ แน่นอนว่าต้องออกไปเที่ยวข้างนอกสิ ใคร อยากมานั่งจ้องหน้ากันกับพวกนายสองคนเล่า” “เป้หมิง หยาง นาย คมีมารยาทบ้างนะไอ้เด็ก น้อย อายุน้อย ๆ จะพูดจาแบบนี้ได้ไง” ท่านโม่หรี่ ตาเล็กลง แสดงสีหน้าโกรธ และไม่ยอมปล่อยมือ เขา
ผมแค่ทักทายน้องสาวผมเอง ไม่ได้เหรอ พ่อก็ ” ชอบทักทายครอบครัวบ่อย ๆ ไม่ใช่เหรอ” หยาง หยางเหลือบมองเป่หมิงโม่ด้วยความโกรธ เฉิงเฉิงทําหน้าตกใจ
คำว่า ‘น้องสาวตัวเอง ‘ ของหยางหยางทำให้เขา ต้องตกใจหน้าซีดไปเลย
ท่านไม่สีหน้าเย็นชา นายไปเอาน้องสาวมาจาก ไหน””คุณพ่อครับ หยางหยางมัน……” เฉิงเฉิงบ
อธิบายแทนหยางหยาง ไม่คิดว่า หยางหยางจะขัดจังหวะอีกครั้ง “น้อง
สาวของผมมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก เยอะจนนับไม่ถ้วน แฮะ ๆ ๆ …….
ท่านโม่ชักสีหน้าเบื่อหน่าย “ทั้งวันทั้งคืนพูดแต่ เรื่องจีบสาว เป้หมิงซีหยาง นายไปเรียนเรื่องพวก นี้จากใครมา”
“ฝึกจากพ่อมาไง” หยางหยางหลุดปากออกมา แล้วชักสีหน้าใส่เขา “พ่อก็ทำแบบนี้กับคุณแม่ไง ทําจนคุณแม่ผมต้องตั้งท้อง แล้วคลอดผมกับเป
มิง เฉิงออกมา พ่อแหละที่เป็นนักล่าสาว” คํากล่าวหาของหยางหยางทำให้เป้หมิงโม่หัวร้อน จนทนไม่ไหว “เป่หมิง ซิ หยาง ใครเล่าเรื่องพวกนี้ ให้นายฟัง”
“ไอ้หยา ผมไม่อยากไร้สาระกับพ่อแล้ว ปล่อยมือ
สีหน้าหยางหยางบูดบึ้ง เขาจะไม่ยอมพูดหรอกว่า
ทั้งหมดนี้อาสามเป็นคนสอนมา เหอะ “บอกแล้วไงให้พูดจาเพราะ ๆ ไอ้ตัวแสบ นายไม่ จําคําพูดของพ่อเมื่อสองปีก่อนเลยเหรอ หา” ใบ
หน้าเป๊หมิงโม่กระตุก เขาจําเรื่องตั้งแคมป์ของ สามพ่อลูกเมื่อสองปีก่อนได้อย่างชัดเจน ตอนนั้น เขาสอนไอ่ตัวแสบนี้อย่างเคร่งครัด ว่าห้ามพูดจา ไม่เพราะ แต่ทําไมสองปีต่อมา ไอ้ตัวแสบนี้ยัง เหมือนเดิม