ตอนที่471 หวั่นไหว
เมื่อหยางหยางพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงที่เย็น
เฉียบลอยเข้ามา
“เป่หมิง ซี หยาง!”
“หยางหยางหันมาโดยจิตใต้สำนึก สบตาที่คมกริบของเป่หมิงโม่คู่นั้นพอดี ร่าง เล็กอดไม่ได้ที่จะกระตุกไปทีหนึ่ง กะพริบตา แล้ว มปลอมๆ “ไอหยา ไอ้พ่อ พ่อสะบัดน้อง สาวคนนั้นทิ้งแล้วเหรอ….
“นายว่าล่ะ!”เป่หมิงโม่หรี่ตาขึ้น รวบแขนทั้ง สองข้างของหยางๆขึ้น “เรื่องความรักที่ตัวเอง ไปก่อมา ยังจะต้องให้ฉันช่วยนายแก้อีกเห 5a!”
แหม……เบาหน่อยครับ………………ร่าง เล็กตัวสั้นของหยางหยางถูกเป้หมิงโมรวบขึ้น กลางอากาศ ขาสั้นนั้นถีบไปมาอย่างมั่วชั่ว อะไรครับเนี่ย ไอ้พ่อ มากสุดพวกผมก็พอๆกัน แหละ!เชาเชานั่นที่พ่อไปเล่นด้วย เมื่อกี้ยัง เล่นละครหลอกลวงคนอื่นอยู่เลย ! ” เป้หมิง โม่ขมวดคิ้ว “Soso?เธอทำอะไร?”
คำพูดนี้ เป่หมิงโม่มองหน้าเฉิงเฉิงแล้วถาม เฉิงเฉิงเงยหน้าขึ้น “ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ เมื่อ ก็หยางหยางถูกคนดูดวงมาตาม คนดูดวงเขา บอกว่านอกจากแม่แท้ๆของพวกผมแล้ว ยังจะ มีแม่เลี้ยงอีกคน……..
“พวกนายก็เชื่อคนดูดวง?”
“ก็ต้องไม่เชื่ออยู่แล้วสิ!”‘หยางหยางโวยวาย “แต่ไอ้พ่อ ดวงความรักแย่ๆของพ่อก็เยอะด้วย
ไม่แน่วันไหนอาจจับมือผู้หญิงคนหนึ่งกลับมา แล้วให้พวกผมเรียกแม่หรอกนะ!
เป้หมิง โม่เก็บสายตา เงียบไปสักพัก จ้องมอง ลูกชายทั้งสอง พักหนึ่งพูดขึ้นว่า “ฟังไว้ ไม่ว่า พ่อจะแต่งกับใคร แม่ของพวกนายก็มีแค่คน
เดียว และมีได้แค่คนเดียว เธอก็คือกู้ฮอน! เข้าใจไหม?”
“จริงเหรอครับ?พ่อตัดสินใจไม่หาแม่เลี้ยงเห รอ?”สายตาหยางหยางเปล่งประกาย
“เฉิงเฉิงเม้มปากไม่พูดอะไร ใจเกิดเศร้า ขึ้นมานิดๆ ดูท่าทีแล้ว การตัดสินใจของพ่อก็ ไม่เคยเปลี่ยน เขาจะไม่แต่งกับแม่ ฉะนั้น เลย ใช้อีกวิธีมาแน่นอนว่าเป็นแม่เท่านั้น
เป้หมิงโม่ไม่ได้ตอบคำถามที่หยางหยางถาม กลับเปลี่ยนเรื่องดรงๆเลยว่า “ไหนบอกว่า
อยากจะมาเล่นที่เมืองไม่ใช่เหรอ?อยากจะ
ไปไหนอีก หม?”
เมื่อหยางหยางได้ยินคำว่าเล่น ก็มีชีวิตชีวาขึ้น มา ปัดไปมาแล้วยิ้มอย่างร่าเริง “ไอ้พ่อ เค้า อยากไปว่ายน้ำ…………..
“ไม่ได้ อากาศหนาวเกินไป!”เขายังไม่ได้คิดก็ ปฏิเสธหยางหยางไปแล้ว
ปากเล็กๆของหยางหยางก็ดึงขึ้นมา “งั้นผมจะ ไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ…….
“.………ท่านโม่เหลือบมองลูกชายไปทีหนึ่ง ไอ เด็กนี่สามนําไม่พ้นจากคำว่าน้ำเลยนะ ดูก็รู้ว่า เป็นสาวก ! “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใน
เมืองAมีชื่อเสียงกว่าเมืองSตั้งเยอะ ไว้กลับไป เมืองAค่อยพานายไปก็ไม่สาย”
“โห่ ไม่เอาครับ…….ถ้ารอกลับเมืองA ก็ไม่รู้อีก เลยว่าวันเวลาไหนพ่อจะว่าง วันนี้ผมจะไปให้
ได้……ไปตอนนี้เลย……..
ภายใต้การอ้อนวอนของหยางหยาง เป้หมิงโม่ ก็ขับรถ พาลูกชายทั้งสองมาถึงพิพิธภัณฑ์
สัตว์น้ำในเมืองS
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทั่วไปมักเป็นสถาบันที่ รวบรวม เลี้ยงดูและโชว์การแสดงสัตว์น้ำ ก่อนที่จะเข้าไป เป่หมิงไม่หาเวลาโทรหากู้
ฮอน——
เสียงริงโทนดังเป็นเวลานาน เธอถึงจะรับ “ฮัล
โหล…………..
“ยังยุ่งอยู่เหรอ?”
“อืม……”เธอกดเสียงให้เบาลง “ตอนนี้ฉันยุ่ง อยู่นิดนึง เดี๋ยวรอฉันกลับไปค่อยพูด นายดูแล
ลูกๆ ๆล่ะ”
ຄິດໆໆໆ
เป้หมิงโม่ทําตาขวางใส่โทรศัพท์ ผู้หญิงคนนี้ กล้าวางสายเขาเมื่อโทรกลับไปอีกครั้ง เธอ
ปิดเครื่องแล้ว! ร่างเล็กของหยางหยางวิ่งตรงไปที่พิพิธภัณฑ์
แล้ว
เฉิงเฉิงกลับรออยู่ข้างๆขาของเป้หมิงไม่เงย หน้ามองพ่อที่ขมวดคิ้ว “พ่อครับ เป็นอะไรไป ครับ?”
เป้หมิงโม่ก้มแล้วมองลงมา ดูท่าทีจริงจังของ เฉิงเฉิง ใจเขาก็อ่อนลงอย่างไร้สาเหตุ ท่าที อ่อนโยนลง “ไม่มีอะไรครับ เข้าไปกันเถอะ เฉิงเฉิงเดินอยู่ข้างๆคุณพ่อ ราวกับเป็นสุภาพ บุรุษ ไม่ว่าสองพ่อลูกจะไปถึงไหน ก็ยังคง รักษาความใจเย็นและความสง่าที่ควรมี หยางหยางราวกับว่าเป็นหมัดตัวน้อยกระโดด ไปมาในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
ลืมตา กลมโด มองซ้ายมองขวาเงยหน้าขึ้น ลงมองดูไปมา ตู้ใสพวกนั้นมีพืชทะเลหลาย ชนิดลอยอยู่ และยังมีสัตว์ทะเลหลายอย่างใน นั้น แสดงต่อหน้าไอ้ตัวเล็กนี้อย่างมีชีวิตชีวา เขาตะโกนอย่างตื่นเต้น——
“ากช่าๆ ไอ้พ่อ พ่อดูส์ เต่านาตัวนั้นเหมือน พอไหม?” “อันนั้นมันเต่าทะเลมันแตกต่างจากเต่านา โดยสิ้นเชิง!”เป่หมิงไม่บอกอย่างไม่ตลก ไอ่ เด็ก กล้าแอบหลอกด่าเขาทางอ้อมๆ แหะๆ ป่าวครับ…….หยางหยางวิ่งห่างไปไม่กี่ เมตรอย่างกวนตีน แล้วชี้ไปหาปลาที่ดูแปลก ประหลาดตะโกนว่า “โอ้โห ไอ้พ่อ…….ตัวนี้ เหมือนพ่อมาก ฮ่าๆๆ……
“ผมก็ว่าละ! ไอ้พ่อแม้แต่เต่านาก็เทียบไม่ติด! “เป๊หมิง หยาง นายคันหนังใช่ไหมเนี่ย!
เป้หมิงโม่เดินเข้าใกล้มาดู เปลี่ยนสีหน้าทันที เฉิงเฉิงก็เบิกตากว้าง มองดูปลาที่ลอยช้าๆใน
นั่นคือปลาบล็อบพืช
ว่ากันว่า เป็นปลาที่มีสีหน้าที่เศร้าที่สุดในโลก เพราะว่ามันมีหน้าตาที่ตลก สายตาทั้งสองที่ดู ใส อ จมูกใหญ่ที่กลมโต และมุมปากที่หย่อน ลง……มองใครก็ทําสีหน้าที่หน้าสงสาร อย่างไรก็ตาม สัตว์ที่มีหน้าตาน่าเกลียดดูหมิ่น ไส้ หยางหยางก็จะนำมาเปรียบเทียบกับไอ้พ่อ ของเขาอย่างไม่เกรงใจ “ว้าว พวกนายรีบดู ยังมีปลาที่ปล่อยดอกไม้ไฟ ได้อีกด้วย……..หยางหยางรู้สึกประหลาดใจต่อ ปลาม้าลายที่สามารถเรืองแสงสีเขียวอย่าง
เป้หมิงโม่ก็ยังคงเอามือเท้าสะเอวที่กระเป๋า
ตามหลังเด็กสองคนนี้อย่างเท่ๆ เขามองดูหยางหยางที่ซุกซน เฉิงเฉิงที่นั่ง
เงียบ ความรู้สึกภูมิใจที่เป็นคุณพ่อก็บังเกิด ถึงแม้ว่าส่วนมากหยางหยางจะไม่ค่อยน่าเชื่อ ถือ แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ กู้ฮอน
ไม่ได้ทิ้งท้ายความเศร้าไว้บนตัวลูกเลย หยาง หยางใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่เขาขาดแคลนที่สุด
แต่พอมาดูเฉิงเฉิง อยู่เคียงข้างเขามาหลายปี
ก็ติดนิสัยจากเขามาบ้าง
แค่ว่า ความรู้เหตุรู้ผลของเฉิงเฉิงก็ทำให้เขา รู้สึกสบายใจในบ่อยครั้ง
“พ่อครับ พ่อไม่มีความสุขเหรอครับ?”เฉิงเฉิง
ถามอย่างระมัดระวัง
เป้หมิงโม่สายหัวเบาๆ มุมปากกระดกขึ้นเล็ก น้อย “นายรู้สักพ่อไม่มีความสุขเหรอ? ” เฉิงเฉิงเม้มปาก อ้าแขนน้อยออก แล้วกอดไป เขาเรียวยาวของคุณพ่อ เอาหัวมุดข้างๆต้นขา ของพ่อ ถูไถอย่างเบาๆ “ผมรู้ว่าพ่อไม่ชอบ มาสถานที่แบบนี้ พ่ออยากไปไหน พวกผมก็จะ ไปกับพ่อด้วยโอเคไหม?”
ใจล็กๆของเป่หมิงโม่สั่นคลอน การเอาใจใส่ ของเฉิงเฉิงทำให้เขาเริ่มหวั่นไหวเล็กน้อย เขานั่งลง ให้เท่ากับส่วนสูงของลูก ยึดปลาย นิ้ว หยาบกร้านของเขาออกไปอย่างไม่น่า เชื่อ ค่อยๆปรับคิ้วที่ขมวดตึงของเฉิงเฉิงให้ คลี่คลาย “เฉิงเฉิง พ่อไม่ได้เป็นคุณพ่อที่ดีคน หนึ่ง ไม่คุ้มค่าที่ให้นายมาเอาอกเอาใจอย่าง ระมัดระวังแบบนี้”
แม่เคยบอกว่า ระหว่างลูกกับพ่อแม่ ไม่ ต้องการเอาอกเอาใจ แค่ทุ่มเทจริงใจก็พอแล้ว ฉะนั้นพ่ออย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมไม่ได้เอาอก เอาใจพ่อ แค่อยากให้พ่อมีความสุขบ้าง บ หน้าเฉิงเฉิงที่ไร้เดียงสาไม่มีพิษมีภัย ทำให้ เป้หมิงไม่ใจอ่อนขึ้นมา เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง ถอนหายใจแล้วยิ้ม โตมา ขนาดนี้ กลับต้องให้ลูกชายมาท่าให้ตัวเองมี
ความสุข
“นายรู้สึกว่าพ่อไม่มีความสุขเหรอ?”เขาถาม
อย่างเบาๆ
“อืม”เฉิงเฉิงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “แม้ว่าทุก คนจะคิดว่าพ่อเข้าหายาก แต่ในสายตาผม พ่อ ก็แค่ใช้ลักษณะภายนอกที่ดูเข้มงวดเย็นชามา นําพรางความทุกข์ในใจ…….พ่อถูกคุณปู่บังคับ ให้ทําเรื่องที่ไม่ชอบ ฉะนั้นไม่มีความสุข พ่อไม่ ชอบการมีอยู่ของผม ก็เลยไม่มีความสุข พ่อ ไม่สามารถแต่งงานกับคนที่ตัวเองรักได้ ดังนั้น ยิ่งไม่มีความสุข…
“……….”สําคอของเป้หมิงโม่ตึงทันที ราวกับว่ามี ความไม่เป็นท่าบางอย่างถูกลูกชายดูออก เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อก่อนเขาเย็นชาไร้เยื่อ ใยต่อเฉิงเฉิงขนาดนี้ เด็กคนนี้ไม่แม้แต่จะโทษ เขา แต่กลับเป็นห่วงเขาอยู่บ่อยๆ แคร์เขา มัน ทำให้เขารู้สึกผิดไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน วินาทีนี้ เขารู้สึกโชคดีที่ลูกชายคู่นี้ได้สืบทอด ความเมตตาและความอดทนของกู้ฮอน เงียบไปสักพัก ใช้น้ำเสียงที่แหบ กว่าเขาจะ
พูดขอโทษที่มีต่อเฉิงเฉิงมาเจ็ดปีที่สายไปนี้ ..ที่แท้พ่อที่อยู่ในสายตานายไม่มีความสุข แบบนี้เลย………ขอโทษ เฉิงเฉิง…….
เฉิงเฉิงเงยหน้าขึ้นมองตรงเข้าไปในรูม่านตา คําของคุณพ่อ ซึ่งเป็นความอ่อนโยนที่เฉิงเฉิง ไม่เคยเห็นมาก่อน…….
เพราะว่าคำว่า ‘ขอโทษ’จากคุณพ่อนี้ เกิดมา จนถึงเจ็ดปีนี้ ขอบตาเฉิงเฉิงก็แดงขึ้นมาทันที เ ม า ง “พ่อครับ.………..
ไอ้ตัวเล็กกลั้นไม่ไหวอีกแล้ว กระโจนเข้าอ้อม แขนของคุณพ่อ มุดหัวเสียใจอย่างเงียบๆ ในตอนเด็ก เฉิงเฉิงล้มลงต่อหน้าคุณพ่อครั้ง แล้วครั้งเล่า แต่ทุกครั้งคุณพ่อก็ปล่อยมือจาก ไป ปล่อยให้เขาดิ้นรนร้องไห้ด้วยน้ำตา…….. แต่ในวินาทีนี้ เขาโหยหาอ้อมกอดของคุณพ่อ
นี้เป็นเวลาเจ็ดปี!
“พ่อครับ……ช่วยบอกผมที นี่คือฝันเห รอ…..เฉิงเฉิงกลัวมากว่านี่จะเป็นแค่ฝัน เป่หมิงไม่ถอนหายใจ มือสั่นเล็กน้อย ท่าที แข็งทื่อลูบที่หลังของลูกชาย ยิ้มอย่างขมขื่น ไปทีหนึ่ง “ถ้านี่เป็นฝัน งั้นพวกเราก็ห้ามตื่น
มา….”
เฉิงเฉิงตัวสั่น เข้าใจความหมายของคุณพ่อ
ทันที น้ำตาคลอเบ้า……..
ในยามเช้า หลังจากที่กู้ฮอนโทรหาหยินฝัน เสร็จ ว่าจะกลับไปหาเป้หมิงโม่กับลูกทั้งหลาย พูดคุยกันสักหน่อย
แต่ก็ถูกข้อความที่ไม่คุ้นเคย ทำให้ใจเธอ วุ่นวายขึ้นมา——
(คุณกู้ฮอน สวัสดีค่ะ ได้ข่าวว่าคุณตามหาคุณ พ่อและคุณแม่แท้ๆมาตลอด ในสถานการณ์ที่ บังเอิญครั้งหนึ่ง ฉันได้รู้จักกับหญิงสาวคน หนึ่ง ตามที่เธออธิบายมาแล้ว เหมือนว่าคุณจะ เป็นลูกสาวที่เธอแยกจากกันเป็นเวลาหลายปี แต่น่าเสียดาย เธอโชคร้ายได้เกิดอุบัติเหตุ ทางรถยนต์ในเมื่อเช้านี้ ตอนนี้อยู่ใน
สถานการณ์ที่เฉียดตาย อยากจะเจอหน้าคุณ สักครั้ง ได้โปรดให้คุณรีบมาที่โรงพยาบาล ประชาชนลำดับหนึ่งของเมืองS สถานการณ์ ฉุกเฉินมาก!
——จาก:ผู้ที่หวังดีให้แม่ลูกพวกคุณได้กลับมา พบกันอีกครั้งโดยเร็วที่สุด
ปฏิกิริยาแรกที่กู้ฮอนได้รับข้อความนี้ ก็คือคน ที่ส่งข้อความนี้ ต้องรู้ประวัติภูมิฐานเธอ
แน่นอน!
เธอไม่สามารถแน่ใจว่านี้เป็นการหลอกลวง หรือเปล่า แต่ใจกลับหวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ ถูก เธอกลัวว่าถ้าหากคนที่เกิดอุบัติเหตุคนนั้น
คือแม่แท้ๆของเธอจะทำยังไงดี?
เธอคาดความหวังสุดท้าย รีบไปโรงพยาบาล
ด้วยรถแท็กซี่
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไปมาที่ล็อบบี้ของโรง พยาบาล กู้ฮอนไม่รู้จะเริ่มหายังไง ทําได้เพียงมาที่แผนกข้อมูลที่ประตูพร้อมกับ
ความคิดที่จะลองเท่านั้น
“สวัสดีค่ะคุณพยาบาล ไม่ทราบว่าวันนี้มีหญิง วัยกลางคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์มา ที่นี่หรือเปล่าคะ?”
“หญิงวัยกลาง?เหมือนมีคนหนึ่ง คุณลองไป
ถามที่ห้องฉุกเฉินตรงหน้านี้ดูนะคะ พยาบาล หญิงผู้ดูแลให้คำปรึกษาพลางพูดแล้วชี้ให้เธอ ไปที่ตำแหน่งโดยประมาณของห้องฉุกเฉิน
“โอเค ขอบคุณค่ะ”กู้ฮอนกล่าวขอบคุณ แล้ว
รีบวิ่งไปทางท
ฉากนี้ ทำให้เธอนึกถึงตอนนั้นที่คิดว่าโม้จิ่ง เฉิงเป็นพ่อของตนเอง และได้ถามพยาบาล หญิงที่แผนกต้อนรับเหมือนวันนี้
แค่ว่า ตอนนั้นกลับไม่ได้อะไรเลย แล้วตอนนี้
ล่ะ?
กู้ฮอนมาถึงหน้าประตูห้องฉุกเฉิน พยาบาล บอกเธอ เช้านี้มีผู้หญิงคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุ ทางรถยนต์ ตอนนี้กำลังอยู่ในการผ่าตัด
ฉุกเฉิน
ทางโรงพยาบาลก็พยายามติดต่อกับครอบครัว
ของผู้ป่วย
กู้ฮอนไม่กล้าที่จะตอบรับเป็นสมาชิกครอบครัว ไปเรื่อย ทําได้เพียงรอตรงหน้าห้องฉุกเฉิน เดินไปเดินมา
ทันใดนั้น มีเสียงลอยมาจากข้างหลังเธอ “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณเป็นครอบครัวของผู้
ป่วยคนนั้นที่อยู่ในห้องฉุกเฉินหรือเปล่าคะ?” กู้ฮอนหันกลับไปมอง ตรงหน้าเป็นหญิงสาวที่ อายุประมาณยี่สิบต้นๆ