ตอนที่482 ลูกๆที่ไม่ได้พบกันนาน2 เสียงอ่อนโยนของตัวน้อยด้งเข้ามาในโทรศัพท์ ทันที … นี่แน่ะๆๆ ‘เจ้าเทพสุขา’เลย ตีให้กลาย เป็นขนม
“ทารกน้อย” แอนนิพูดขึ้น “เธอกำลังทำอะไร
พอได้ยินถึงตรงนี้ หัวใจของกู้ฮอนก็บีบรัด เธอก้า
โทรศัพท์แน่น แล้วรีบถามขึ้น “แอนนิ เกิดเรื่อง
อะไรขึ้น
เอ่อ ไม่มีอะไร….. แอนนิรีบพูดอธิบายกับฮอน “แค่ตอนนี้ลูกสาวของเธอกำลังใช้แปรงขัด ห้องน้ำ ขัด’เจ้าเทพสุขาของเธออยู่ …อโทษนะ กู้ฮอน เมื่อครู่ฉันไม่น่าบอกเธอเลย ว่า’เจ้าเทพ สุขา ทําให้เธอก็วางสายจากแก ตอนนี้แกกำลัง แก้แค้นอยู่…เหมือนว่าภาพนั้นจะถูกทำลายไป
ฮอนรู้สึกโล่งใจ อดที่จะหัวเราะไม่ได้ “ไม่ เป็นไร อีกไม่นานถ้าจิ๋วจิ๋วยังเอาขนมออกมาไม่ได้ ฉันจะถ่ายรูปล่าสุดของพ่อเธอกลับไปด้วย เหอะๆ
ทุกครั้งที่นึกถึงตอนที่ตัวน้อยหันไปเห็นรูปถ่าย ของโม่ แล้วเธอก็หยุดชะงักไปทันที ในใจ
ของกู้ฮอนก็รู้สึกสุขใจ
ไม่มีเรื่องอะไรน่าสนุกไปกว่านี้อีกแล้วแอนนิเองก็รู้สึกสุขใจเช่นเดียวกัน เธอยิ้มตาหยี แล้วยื่นโทรศัพท์ไปให้จิ๋วจิ๋วตรงหน้า “เหอะๆ
โทรคัพท์จาก…….. “จิ่วจิ่วตั่นเต้น มีอเล็กที่อวบอ้วนโยน “แม่ๆ…..”
แปรงขัดห้องน้ำทิ้ง แล้วทุบลงไปบนรูปภาพ ใบหน้าหล่อเหลาปนโกรธแค้นของเป่หมิงโม่อย่าง
ไร้ความปรานี
ไม่ ตอนนี้น่าจะเป็นใบหน้าไร้ยางอายมากกว่า “ทารกน้อย เมื่อครู่แม่ไม่ได้ตั้งใจจะวางสายของ
ลูกนะจ๊ะ ให้อภัยแม่ได้ไหม”
น้ำเสียงของกู้ฮอนอ่อนหวาน เหมือนถูกเคลือบ “แม่ คุณน้าแอนนิบอกว่า’เจ้าเทพสุขา จับแม่ไปอีก
ด้วยน้าผึ้ง
แล้ว แม่ไม่ต้องกลัวนะ จิ่วจิ๋วเพิ่งจะตีมันไป ทำให้
เขาเหม็นไปแล้ว เฮอะ”
เห็นได้ชัดว่า ตัวน้อยที่ไร้เดียงสาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เจ้าเทพสุขา ‘ เป็นพ่อของเธอเอง แต่กู้ฮอนก็ไม่
คิดที่จะให้เธอรู้เช่นกัน
ถึงแม้จะโหดร้ายไปหน่อย แต่ถ้าตัวน้อยรู้ว่าเป่ห มิงโมเป็นพ่อของเธอ ก็คงจะไม่มีความสุข พอคิดถึงหกวันหลังจากนี้ เธอกับเป่หมิงโม่ก็ต้อง
ทางใครทางมัน
เขาแต่งงานกับภรรยาของเขา
เธอก็ใช้ชีวิตของเธอ
มุมปากของเธอรู้สึกเจ็บปวด เธอก๋าโทรศัพท์แน่น แล้วบีบรอยยิ้มออกมาเพื่อปลอบลูก: แหะๆ ลูก เป็นเด็กดีดีจริงๆ ไม่เศร้าใจแล้ว…..แม่ก็ยังปกติดีอยู่ไม่ใช่หรือไงจับ”
แงๆ…เมื่อไหร่แม่จะมารับจิ๋วจิ๋ว” ตัวน้อยนุ้ยปาก ใบหน้าเจ้าเนื้อหา หน้าน้อยใจ จิ่วจิ๋วให้น้ำเกลือ หมดไปนานแล้ว แม่จะให้จิ๋วจิ๋วรออกถึงเมื่อ ไหร่………….
นึกถึงก่อนหน้านี้ที่ตัวน้อยเป็นหวัดแล้วต้องให้น้ำ เกลือ หัวใจของกู้ฮอนก็ทนไม่ได้ เธอครุ่นคิดอยู่ พักหนึ่ง “หกวัน ลูกรออีกหกวัน แม่จะไปรับลูก กลับมา ดีไหมจ๊ะ”
หกวัน เป้หมิงโม่ก็จะออกไปจากชีวิตของเธอแล้ว ก็ควรให้ทารกน้อยกลับมาอยู่กับเธอได้แล้ว “ว้าว จริงหรือคะ ”
“ฮาๆ จริงจ้ะ”
“ได้ค่ะ ดีจังเลย แม่เยี่ยมที่สุด” ตัวน้อยร้องดีใจ ด้วยเสียงที่ไม่ซัดทางโทรศัพท์ แล้วหันไปยิ้มให้ แอนน์ “คุณน้าแอนนิแม่บอกว่าอีกหกวันจะมารับ หนูแล้ว”
ตัวน้อยทําท่าอวด น่ารักจนแอนนิหน้าแดง แอนนิรีบรับโทรศัพท์มา ยิ้มพร้อมถามขึ้น “กู้ฮอน จิ่วจิ่วพูดว่าอีกหกวัน ครั้งนี้เธอแน่ใจนะ”
“แอนนิ พูดตามตรงฉันก็ยังรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจ แต่ ฉันก็ไม่สามารถปล่อยให้ลูกอยู่ที่เมืองซาบาห์โดย ไม่ดูแลไม่ได้” กู้ฮอนลูบคิ้ว “เธอก็รู้นี่ ฉันกลัวว่า เรื่องในตอนนั้นจะเกิดขึ้นกับจิ่วจิ๋วอีก ฉันกลัว ว่าเป้หมิงโม่จะทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งลูกสาวไป
“กู้ฮอน ถึงฉันจะไม่รู้ว่าระหว่างเธอกับเป่หมิงโม่นั่นมันเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันรู้สึกว่า บางทีเรื่องราว มันอาจจะไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่เธอคิดก็ได้ แต่ว่า ถ้าเธอไม่สบายใจ ฉันสามารถอยู่ดูแลจิ๋วจิ๋วที่ เมืองซาบาห์ต่อได้”
แต่ฉันก็อยากรับเธอกลับมา” กู้ฮอนพูดอย่าง หนักแน่น “ฉันคิดถึงแกแล้ว ฉันอยากอยู่กับแก ให้ แกได้เติบโตอย่างมีความสุข หกวัน แอนนิเธอรอ ฉันอีกหกวัน ได้ไหม”
“อืม ฉันเคารพการตัดสินใจของเธอ ดูแลตัวเอง
ดีๆนะ รู้ไหม”
แหะๆ ขอบใจนะ แอนนิ”
สิบห้านาทีต่อมา กู้ฮอนหิ้วสัมภาระแล้วรีบลงจาก ลิฟต์
ตอนที่เธอจะเช็คเอาท์ที่เคาน์เตอร์บริการ ถึงรู้ว่า เป้หมิงไม่ได้ดำเนินการให้เธอเรียบร้อยแล้ว เธอวิ่งออกจากโรงแรม เธอก็เห็นเป่หมิงโม่ขับรถ
คันเทจอดอยู่ข้างทาง
รถถูกล้างจนสะอาดเงาวับ เหมือนกับว่าไม่เหลือ ร่องรอยรถเปื้อนโคลนที่ขับออกมาจากพุ่มไม้เมื่อ
คืนนี้แล้ว
มันสะอาดจนพูดไม่ออก
ดึงดูดสายตาคนเดินถนนหลายคนให้หยุดมอง โดยเฉพาะชายขับรถแท็กซี่ที่นั่งนิ่งราวกับรูปปั้น
ที่ส่งสายตาที่อิจฉาออกมา
เธอลากกระเป๋าสัมภาระ สายลมเย็นในยามเช้า พัดโชยมา ทําให้เธอต้องขยับคอเสื้อโดยอัตโนมัต
เธอรีบร้อนล้างหน้า ทำให้เธอยังไม่ทันจะได้หรื ผมเรียบร้อย แค่ใช้แปรงหวีผมหวีลวกๆไปสอง
ครั้ง และสยายอยู่บนบ่า
ไม่นาน ผู้ชายในรถก็เปิดประตูรถ แล้วตรงมาที่
เธอ
ใบหน้าของเขาเย็นชา
ดวงตาใสคู่นั้นแต่ทว่ากลับมืดมน จ้องมองเธอ
อย่างเย็นชา
จากนั้น ก็คว้าสัมภาระในมือของเธออย่างไม่พูด ไม่จา แล้วเอาไปวางไว้ท้ายรถ
เขาหมุนตัว เปิดประตูรถ แล้วพูดออกมาสองคำ อย่างเท่ๆว่า “ออกรถ”
เขาเป็นแบบนี้มาตลอด ใบหน้าเย็นชา และไร้
ความรู้สึก
ราวกับว่าในอดีต เขาคือธารนํ้าแข็งพันปี ที่ไม่มี
ใครสามารถจะละลายได้
ถึงแม้ว่าเธอจะคุ้นเคยกับใบหน้าไร้ความรู้สึกแบบ
นี้ของเขาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงยังคงรู้สึก
เจ็บแปลบ
คนที่เมื่อคืนกอดเธอไว้ในอ้อมกอด ผู้ชายที่จูบ เธออย่างเห็นอกเห็นใจ ผู้ชายที่บอกให้เธอเรียก เขาว่าสามีครั้งแล้วครั้งเล่า คือเขาในตอนนี้จริงๆ
หรือ
นับถอยหลังอีกหกวันจะสิ้นสุดการแต่งงานแทน โชคดี ที่ความฝันนี้ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว เธอก้าวเข้าไปในรถอย่างไม่ลังเลระหว่างทาง รถวิ่งได้อย่างราบรื่นบนถนนสาย
หลัก
เขาสวมถุงมือสีดำ บังคับพวงมาลัย โดยไม่พูด
อะไรตลอดทาง
บรรยากาศภายในรถ ค่อนข้างเย็นยะเยือก