ตอนที่ 525 เข้าใจพ่อผิดไปแล้ว1
พูดไปด้วย หยางหยางก็ใช้มือทำท่าทางบอกขนาดเล็กใหญ่ ท่าทีที่เหมือนกับอมความทุกข์ไว้พูดว่า “เห็นไหม น่องไก่ใหญ่ขนาดนี้ พึ่งจะกัดเข้าปาก ก็ถูกเขาทะเลาะจนมันหายไป สำหรับคนที่ชอบกินอย่างฉัน มันช่างโหดร้ายขนาดไหน?”
หยางหยางใช้วิธีบีบน้ำตาแบบนี้ เฉิงเฉิงก็ไม่ได้สนใจ
ถามเขาต่อ “เมื่อกี้รู้ไหมว่าแม่รีบเรียกเราตื่นทำไม?”
หยางหยางยังคงเกาหัว เฉิงเฉิงจ้องมองหยางหยางอย่างไม่น่าเชื่อ ยุ่งอยู่ทั้งวัน เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เจ้าคนนี้ช่างไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“ไฟไหม้เธอไม่รู้เหรอ” เฉิงเฉิงขึ้นเสียงสูง
เมื่อได้ยินคำว่าไฟไหม้ ดวงตาของหยางหยางจ้องมองไปที่พี่ชาย:“อ๋า ไฟไหม้เหรอ แล้วพวกเราทำไมไม่รีบหนีล่ะ ยังจะอยู่ที่นี่อีกทำไม?” พูดไปด้วย แล้วก็พลิกตัว กัดฟันทะเยอทะยานลุกขึ้นมา
เฉิงเฉิงคิดไม่ถึงว่า หลายปีมานี้หยางหยางผ่านช่วงความปลอดภัยมา นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริงๆ
เขาตบหลังหยางหยางเบาๆ:“เธอยังไม่รีไปนอนพาดดีๆ ตอนนี้พวกเราปลอดภัยแล้ว”
“ตกอกตกใจหมดเลย ตอนนั้นนึกว่าแม่แอบเผาไฟบนเตาไฟ หลังจากนั้นก็สะลึมสะลือตามมาถึงสวนสนุก แล้วก็โดนแม่ตี……” หยางหยางพูดเหมือนกับไม่เป็นธรรมกับเขา
จากนั้น เขาได้มองไปรอบๆ ในสายตาเกิดมองเห็นถึงความตื่นเต้นของสถานที่นี้ เดินไปหาเฉิงเฉิง:“เฮ้ เธอดูที่นี่สิ อย่าว่าฉันที่เก็บอารมณ์ไม่อยู่นะ เพราะว่าที่มันน่าสนใจมากเลยทีเดียว”
มาถึงที่นี่สักพักหนึ่งแล้ว เฉิงเฉิงไม่ได้สังเกตที่นี่จริง
เขามองไปรอบๆครู่หนึ่ง อดไม่ได้ที่ทำให้เขาประหลาดใจ
ห้องใต้ดินที่มีสองห้องนอนหนึ่งห้องรับแขก ดูจากเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งช่างเหมือนที่อยู่สำหรับเด็กมาก
“เฮ้ เธอพูดสิ อยู่สถานที่แบบนี้ฉันเล่นของฉันมันจะผิดอะไร นี่มันไม่ใช่ที่สำหรับเล่นเหรอ ยังมาโดนตีอีก” หยางหยางกำลังบ่น แล้วยื่นมือไปคลำที่ก้นตัวเองที่บวมขึ้นมา
“เธอยังรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเหรอ ตอนนี้ด้านนอกไฟลุกไหม้ขึ้นบ้านแล้ว พูดไปแล้ว เรื่องเล่นส่วนเรื่องเล่น เธอยังไม่รู้จักเรื่องไหนสำคัญหรือไม่สำคัญอีก”
เฉิงเฉิงใช้นิ้วมือชี้ไปที่มุมพื้นผนัง:“พึ่งเข้ามาไม่กี่นาทีก็ทำหลอดไฟเสียไปแล้ว”
หยางหยางกวาดสายตาไปมองเศษหลอดไฟที่ถูกกวาดมากองไว้ แล้วก็เงียบ
“เธอรู้ไหมของพวกนั้นคืออะไร?” เฉิงเฉิงใช้นิ้วมือชี้ไปที่ด้านข้างโซฟา ถังไวน์ไม้และตะแกรงไม้
หยางหยางมองไปกะพริบตาหนึ่ง รู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยามเล็กน้อย:“ก็แค่พวกถังไม้ผุๆและพวกขวดกระป๋องต่างๆไม่ใช่เหรอ”
เฉิงเฉิงได้เพียงแต่ส่ายหัว:“พูดเรื่องของเก่าเหล้าไวน์ที่มีชื่อเสียงเธอก็ไม่รู้ ฉันจะยกตัวอย่างง่ายๆให้เธอดู ของพวกนี้ถูกเธอเตะเสียหายหมด น่องไก่ของเธอชาตินี้หมดไปแล้ว ลูกของเธอหลานของเธอก็ไม่ได้กินน่องไก่แล้ว”
ปากของหยางหยางอ้าเหมือนรูปตัวโอ สายตาจ้องมองแต่พี่ชาย:“เด็กดี……ดูไม่ออกจริงๆ พ่อนี่ ซ่อนของสำคัญไว้ในห้องนี่”
ลำตัวเล็กๆของเฉิงเฉิงเกือบจะเซ:“เป่หมิงซีหยาง เธอใช้สำนวนไม่เป็นก็อย่าใช้มั่ว เธอรู้หรือไม่นั่นมันหมายความว่าอย่างไร?”
หยางหยางส่ายหัว “……”
เฉิงเฉิงไร้ซึ่งคำพูด:“ศัพท์คำนี้เปรียบเปรยว่าลับหลังผู้คน แล้วซ่อนผู้หญิงไว้ในห้อง เข้าใจไหม”
หยางหยางฟังเฉิงเฉิงพูดสั่งสอนตัวเอง รู้สึกอดทนไม่ไหว:“รู้แล้ว รู้แล้ว เธอก็เพียงแค่เรียนหนังสือก่อนฉันไม่กี่ปีเท่านั้นเอง”
“โชคดีที่แม่เป็นคนตีเธอ ถ้าพ่ออยู่นะ เธอต้องไหว้พระขอพรแน่” เฉิงเฉิงถอนหายใจ
เสียงพูดพึ่งจบลง กู้ฮอนอารมณ์ฟึดฟัดกลับมาถึงห้องใต้ดิน
ราวกับมองไม่เห็นเด็กทั้งสอง แล้วนั่งลงบนโซฟา
เฉิงเฉิงและหยางหยางจ้องมองตากัน ไม่รู้ว่าเกิดสถานการณ์อะไรขึ้น
“แม่……” เฉิงเฉิงระมัดระวังอย่างรอบคอบค่อยๆเดินเข้าไปตรงหน้าของกู้ฮอน ยื่นมือเล็กๆไปดึงแขนของเธอ
“ช่างน่าโมโหจริงๆ……” กู้ฮอนยังอยู่ในอารมณ์โกรธเป่หมิงโม่ บ่นพึมพำอยู่คนเดียว
เฉิงเฉิงหันหน้าไปมองหยางหยาง คิดว่า 80% แม่ยังมีอารมณ์โกรธอยู่
หยางหยางทำปากหงิกงอ นอนคว่ำอย่างเชื่อฟังและไม่กล้าพูดอะไร
เรื่องแย่ๆแบบนี้ ก็ต้องตัวเองเนี่ยแหละที่มาช่วยหยางหยางจัดการก็เราเป็นพี่ชายเขานิ เฉิงเฉิงกำลังครุ่นคิด แล้วก็ดึงแขนกู้ฮอน:”แม่ อย่าโกรธเลยนะ……”
กู้ฮอน จับผ้าปิดปากไว้ในมืออย่างแน่นหนา แล้วโยนมันลงบนพื้นอย่างแรง:”จะให้ไม่โกรธได้อย่างไร ทำเพื่อเขาทั้งนั้น แต่เขาก็ไม่สนใจ……”
เฉิงเฉิงพูด:”แม่ เขาก็เป็นคนแบบนี้แหละ ทำอะไรไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา แต่เมื่อกี้ฉันพึ่งสั่งสอนเขาแทนแม่ไป”
“อื่ม เด็กดีของแม่ รู้จักช่วยแม่แล้ว……” กู้ฮอนมองดูร่างตัวเล็กๆของเฉิงเฉิงอย่างปลื้มใจ รู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันใด
จากนั้นก็แตะมืออันเล็กๆของเฉิงเฉิง
แต่ไม่กี่วินาทีผ่านมา ใบหน้าของเธอก็ค่อยๆบึ้งตึงขึ้น มองไปที่เฉิงเฉิงอย่างสงสัย “อืม? เธอสั่งสอนใครนะ?”
แม่ถามกลับ ทำให้เฉิงเฉิงมึนงง
ดวงตาโตๆกะพริบจ้องมองไปที่กู้ฮอน แล้วพูดช้าๆว่า:”เมื่อตะกี้ผมสั่งสอนหยางหยางไปแล้วครับ เมื่อกี้แม่กลับมาไม่ใช่โกรธหยางหยางหรอกหรือครับ?”
กู้ฮอนร้อนตัวทันที ที่แท้เฉิงเฉิงนึกว่าตัวเองโกรธหยางหยาง แต่เมื่อเห็นเด็กๆฉลาดขึ้นทุกวัน ในใจก็รู้สึกปลื้มไม่น้อย
ใบหน้าที่หมองคล้ำของเธอ ก็มีน้ำมีนวลขึ้นอีกครั้ง
เธอยกใบหน้าอันเรียวเล็กของเฉิงเฉิงขึ้นมายังเบาๆ:”เฉิงเฉิงลูกรักโตแล้ว เป็นแบบอย่างของพี่ชายคนหนึ่งแล้ว สามารถแบ่งเบาภาระให้แม่แล้ว
พูดไปด้วย กู้ฮอนก็หันหน้าไปดูหยางหยางที่นอนคว่ำหน้าอยู่ด้านข้างซึ่งไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
เผอิญหยางหยางก็กำลังสังเกตท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปของตัวเอง สายตาเลยปะทะกัน
เห็นเพียงหยางหยางตกใจหันกลับอย่างรวดเร็ว แม้แต่ลมหายใจยังเบาบาง
กู้ฮอนจ้องมองเขา เจ้าตัวเล็กนี่ทำให้เธอทั้งโกรธและทั้งหัวเราะ
ปกติแล้วตัวเองดีกับพวกเด็กๆมากเกินไป ให้ท่าเขามากขึ้นไป พอมาถึงวันนี้เขาทำอะไรไม่รู้จักเกรงกลัวเลย ไม่รู้จักแยกแยะ
ในเมื่อเฉิงเฉิง คิดว่าเธอกำลังโกรธหยางหยาง อย่างนั้นก็เล่นละครให้เต็มที่ วันนี้จึงขอใช้โอกาสนี้เพื่อสั่งสอนเขาแน่นอนว่ามันอาจไม่ใช่โอกาสที่ดี