บทที่ 555 ดวงตาที่อยู่ด้านหลัง
ขณะนั้นมีพยาบาลคนหนึ่งออกมา หลังจากที่พวกเขาคุยกันไม่กี่ประโยคพยาบาลก็ไปแล้ว
คนนั้นยืนอยู่ที่เดิมได้สักพักก็หันหลังเข้าไปในห้องผู้ป่วย
ดูถึงตรงนี้ เป่หมิงโม่ขมวดคิ้ว: “เธอขยายภาพที่คนนั้นยืนอยู่นอกห้องผู้ป่วยเมื่อกี้หน่อย”
ฉิงฮัวถือมือถืออยู่ ย้อนวิดีโอกลับไปนิดหน่อย จากนั้นหยุดวิดีโอ และขยายภาพของคนนั้นอีก
นัยน์ตาอันคล้ายกับนกอินทรีของเป่หมิงโม่สังเกตคนนี้ แต่เนื่องจากข้อจำกัดของกล้องวงจรปิด เขายังคงดูหน้าคนนี้ไม่ออกอยู่ดี
ทันใดนั้น เหมือนฉิงฮัวจะเจออะไรเข้าแล้ว มือของเขาชี้ไปที่กระเป๋าเสื้อของคนนั้น: “เจ้านายดูสิครับ ตรงนี้ของเขาเหมือนมีอะไรบางอย่างใส่ไว้อยู่”
เป่หมิงโม่ตั้งตาดู เป็นสิ่งของที่เป็นกระดาษกองหนึ่งจริงๆ: “เปิดคลิปต่อ”
ฉิงฮัวกดปุ่มเล่นทีหนึ่ง
รอจนถึงคนนั้นออกมาจากห้องผู้ป่วยแล้ว ฉิงฮัวกดหยุดวิดีโออีกครั้ง
“เจ้านายดูสิครับ กระดาษที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขาหายไปแล้ว!”
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้วและพยักหน้าช้าๆ จากการหยุดวิดีโอสองครั้งนี้ เขาเจอลักษณะของคนนี้ได้บ้างแล้ว
ขณะนี้ สมองของเขากำลังค้นหาคนที่มีลักษณะตรงกับคนนี้อยู่
ฉิงฮัวจ้องตาโต ท่าทางดูโมโหมาก: “เจ้านายครับ ตอนนี้สามารถแน่ใจแล้วว่าคนนี้ก็คือคนที่เอาหนังสือพิมพ์เข้าไปไว้ในห้องผู้ป่วย เราพยายามจะปกปิดเรื่องนี้ไว้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคนนี้กลับอยากจะบอกเรื่องนี้ให้กับคุณท่านเป่หมิงรู้ นี่มันฆ่าคุณท่านชัดๆ เลย!”
พูดไปฉิงฮัวก็ทำหน้าจริงจังขึ้นมา ตาคู่นั้นส่องไฟแห่งความโกรธออกมา ตั้งแต่ที่เขามาถึงบ้านตระกูลเป่หมิง ทั้งบ้านมีแต่สองคนที่ดีกับตัวเอง คนแรกคือเป่หมิงโม่ ส่วนคนที่สองก็คือเป่หมิงเจิ้งเทียน
***
ฉิงฮัวโมโหจริงๆ แล้ว ถึงแม้ว่าคนในคลิปจะไม่ได้ฆ่าท่านปู่เป่หมิงตรงๆ แต่เขาทำแบบนี้ ก็เท่ากับเอามีดทื่อมาห่านเนื้อ ทำให้คนตายก็ไม่ใช่ อยู่ก็ไม่ใช่ จิตใจได้รับความทรมานทั้งวันทั้งคืน
เขาหันหลังกลับ ยื่นมือไปจับลูกบิดไว้แน่นๆ
ในเวลาเดียวกัน ไหล่ของเขากลับถูกเป่หมิงโม่จับไว้แน่นๆ: “เธอจะทำอะไร”
“เจ้านาย ผมจะไปสืบคนที่อยู่ในคลิป จับเขามาถามว่าทำไมต้องทำกับคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเลือดเย็นแบบนี้” ฉิงฮัวหรี่ตาลงเล็กน้อย ทนความโกรธที่อยู่ในใจไว้ ถ้าเขาหาคนนั้นเจอจริงๆ สงสัยจะไม่ใช่แค่เหมือนอย่างที่เขาพูดว่าถามแค่นั้นง่ายๆ หรอก
เป่หมิงโม่เข้าใจความรู้สึกของฉิงฮัวในตอนนี้ดี ความจงรักภักดีที่มีต่อเขาพ่อลูกสองคน ฉิงฮัวเป็นคนที่ได้มายากมากเลยจริงๆ
แต่ในตอนนี้ พวกเขากลับขาดสติไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งห้ามฝ่ายตัวเองวุ่นวายด้วย
เป่หมิงโม่ให้ฉิงฮัวหันกลับมา มือหนึ่งจับคอเสื้อของเขาไว้ นัยน์ตาเย็นชาจ้องตาเขาไว้แรงๆ ใช้ระดับเสียงที่มีแต่พวกเขาได้ยินพูดว่า: “ตอนนี้เรายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเผชิญ เธอไปสืบได้ แต่ห้ามทำอะไรเข้าใจไหม”
พูดจบ เป่หมิงโม่ปล่อยมือออก
ฉิงฮัวก็เปิดประตูเดินออกไป
เป่หมิงโม่หันหน้าไปดูคุณพ่อที่หลับสนิทอีกครั้ง จากนั้นก็ออกจากห้องผู้ป่วยไป
ขณะนี้ข้างในอาคารผู้ป่วยในเงียบมาก ทางเดินที่ถูกแสงไฟส่องจนอย่างกับเป็นกลางวันนอกจากพยาบาลที่มาเดินตรวจเป็นบางครั้งแล้วไม่มีคนอื่นอีกแล้ว
เขาย้อนกลับไปคิดคนเมื่อกี้ คนนั้นคือตั้งใจจะให้คุณพ่อรู้ข่าวที่คุณป้าฟางเสียชีวิต
แสดงว่า เขาก็น่าจะรู้ข่าวนี้ล่วงหน้าแล้ว
คนนี้ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่จะรู้ว่าใครเป็นคนเผาบ้านพักตากอากาศ หรือคนนี้ก็อาจจะเป็นคนที่ลงมือทำก็ได้…
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกเหมือนด้านหลังของตัวเองมีตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองตัวเองอยู่ มีร่างคนหนึ่งปรากฏอยู่ด้านหลังตัวเองตลอด
ถึงแม้ว่าคนนี้ไม่ลงมือทำกับตัวเอง แต่กลับทำร้ายคนรอบข้างของตัวเองอยู่ตลอด…
คนที่สามารถใช้ความเจ็บปวดของคนรอบข้าง มากระทบถึงเป่หมิงโม่อย่างถุกจุด…
จู่ๆ ก็มีชื่อของคนหนึ่งโผล่เข้าไปในหัวของเขาทันที–ถังเทียนจื๋อ!
ไม่นานเขาก็นึกถึงมือของหวีหรูเจี๋ยที่ถูกไว้ในโถใบหนึ่งซึ่งใช้ฟอร์มาลินแช่ไว้…
ใช่แล้ว มีแต่ถังเทียนจื๋อที่จะทำเรื่องแบบนี้!
พอนึกถึงตรงนี้ เส้นประสาทของเป่หมิงโม่ก็ตรึงไปหมด ความจริงก็เป็นเรื่องระหว่างเขาสองคนเอง ไม่ว่าถังเทียนจื๋อจะทำกับตัวเองเขาก็ไม่แคร์
แต่เขากลับมาทำคนในครอบครัวของตัวเอง นี่ทำให้เป่หมิงโม่รู้สึกว่าต้องรีบหาเขาให้เจอ ไม่อย่างนั้นเขาจะสร้างเรื่องที่เยอะกว่านี้ขึ้นมา ทำร้ายคนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย
เป่หมิงโม่เดินไปโดยไม่รู้ตัว จนมาถึงไหนก็ไม่รู้ เขาเงยหัวขึ้นดูเลขห้องผู้ป่วยข้างๆ นี่คือห้องผู้ป่วยที่คุณแม่ของกู้ฮอนนอนอยู่พอดีเลย
เขาผลักประตูออกมาเบาๆ พยาบาลที่เป็นเวรอยู่ข้าในเห็นเป่หมิงโม่มา รับลุกขึ้นมาโน้มตัวทักทายเขา: “คุณเป่หมิงคะ”
เป่หมิงโม่พยักหน้าเล็กน้อย เขาเห็นลู่ลู่กำลังนอนอยู่บนเตียงเงียบๆ
ต่อมา คิ้วที่เขาขมวดอยู่ก็คลายออกแล้ว ในดวงตาส่องแสงอ่อนโยนออกมา
เพราะเขาเห็นข้างๆ ลู่ลู่ มีคนหนึ่งที่คุ้นเคยมากกำลังนอนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยอยู่ เห็นได้ว่าหลับลึกแล้ว
และบนโต๊ะข้างเตียงก็มีดอกไม้ช่อหนึ่งที่เหมือนของคุณพ่อวางอยู่
เขาถามพยาบาลเสียงเบาว่า: “คนป่วยห้องนี้อาการเป็นไงบ้างแล้ว”
พยาบาลเปิดใบบันทึกดูและบอกว่า: “คุณเป่ยหมิงคะ อาการของคุณลู่ลู่ถือว่าไม่ได้หนักแล้ว กี่วันนี้ผู้เชี่ยวชาญของเราก็ได้สำรวจอาการของเธอและรักษาระยะแรกแล้ว รวมๆ แล้วอาการก็มีการพัฒนาที่ดีขึ้น คาดว่าน่าจะทำการรักษาอีกไม่กี่ครั้งเธอก็สามารถตื่นขึ้นมาได้แล้ว”
เป่หมิงโม่พยักหน้าเล็กน้อย ทำท่าห้ามพูดให้กับพยาบาล
จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยเบาๆ
ยืนอยู่ข้างๆ ลู่ลู่สองแม่ลูกเงียบๆ กว่าแม่ลูกคู่นี้จะเจอกันได้ แต่กลับมาเจอเรื่องแบบนี้อีก
มองไปที่กู้ฮอน มุมปากของเขาโผล่รอยยิ้มออกมาอีกแล้ว วันนี้สิงโตน้อยของเธอตัวนี้โมโหแล้ว หน้าตาโมโหของเธอกับสภาพปกติของเธออย่างกับเป็นคนสองคนเลย
สิ่งที่เธอพูดก็ไม่ใช้ไม่มีเหตุผล ความรักคือช่วยกันกันและกัน อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ไม่สามารถหนึ่งแยกเป็นสองหรอก ไม่อย่างนั้นคนที่ถูกทำร้ายจะไม่ใช่แค่คนเดียว
ถึงแม้ว่าเหตุการณ์วิวล่าที่เกิดขึ้นในตอนเช้า คือวิธีชดเชยอย่างหนึ่งที่ตัวเองมีต่อกู้ฮอน แต่เรื่องมันไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจผิดแล้วอยู่ดี
ในห้องผู่ป่วยตอนกลางคืนก็เย็นๆ อยู่ ขณะนี้กู้ฮอนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเล็กน้อย
เป่หมิงโม่รีบถอดเสื้อสูทของตัวเองลงมา เอาของที่อยู่ข้างในออกมาใส่ที่กระเป๋ากางเกง จากนั้นเอาเสื้อห่มที่กู้ฮอนเบาๆ
อาจจะเพราะความอุ่นที่ร่างกายของเขาอยู่ติดกับเสื้ออยู่ หรือาจเป็นเพราะกลิ่นพิเศษที่อยู่ติดกับเสื้อนั้น ตัวของกู้ฮอนไม่สั่นอีกแล้ว รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะแล้ว
เป่หมิงโม่หันหลังออกไปห้องผู้ป่วย บอกกับพยาบาลเบาๆ ว่า: “พวกคุณต้องติดตาใกล้ชิด พยายามให้เขาหายดีเหมือนเดิม”
พยาบาลพยักหน้าแรงๆ: “คุณเป่ยหมิงไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เราจะทำให้ดีสุด”
หลังจากที่เป่หมิงโม่เดินออกมาจากห้องผู้ป่วย เดินไปได้ไม่ไกลก็ได้รับสายของฉิงฮัว
“เจ้านายครับ เมื่อกี้ผมไปห้องปฏิบัติหน้าที่ของเขามา ดูตารางการเป็นเวรของเขา หาพยาบาลที่เป็นเวรวันนั้นได้แล้ว แต่ตอนนี้เธอพักผ่อนแล้ว จะมาทำงานอีกทีตอนบ่ายของพรุ่งนี้ แต่ผมได้ที่อยู่ของพยาบาลคนนั้นมาแล้ว พรุ่งนี้จะให้คนไปหาเธอที่บ้าน”
เป่หมิงโม่พยักหน้า: “จำไว้นะ เรื่องนี้ต้องทำให้มันปกปิดหน่อย อย่าให้อีกฝั่งสังเกตได้ ฉันไปรอเธอที่ชั้นล่าง”พูดจบเขาก็วางสายลง
ในบนรถ ฉิงฮัวที่นั่งที่คนขับรถอยู่หันหัวไปดูเป่หมิงโม่ที่นั่งอยู่ข้างหลัง: “เจ้านายครับ เรื่องที่สืบคนนั้นผมจัดการเรียบร้อยแล้ว แน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอื่นรู้”
เป่หมิงโม่พยักหน้า เขายกมือนวดกลางคิ้วของตัวเอง ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องเผชิญคือ นอกจากพวกที่ทำกับหุ้นบริษัทเป่หมิงซึ่งยังสืบรายละเอียดไม่ได้ ตอนนี้ยังมีอีกคนหนึ่งที่ซ่อนอยู่ด้านหลังของพวกเขาอยู่
แต่ที่แน่ใจคือ เหมือนพวกเขาแบบมีเป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายนั้นก็คือตัวเอง
ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วระหว่างพวกนั้นมีความเกี่ยวข้องกันอะไรอีกไหม
ถ้ามีความเกี่ยวข้องกันจริงๆ ไม่ว่าสืบเงื่อนงำข้อไหนได้ก่อน อีกฝั่งหนึ่งก็จะออกมาเอง
“เจ้านายครับ เราจะกลับบ้านของคุณกู้ไหม” ฉิงฮัวดูเป่หมิงโม่ สีหน้าของเขาแสดงความเหน็ดเหนื่อยออกมาแล้วนิดหนึ่ง
เป่หมิงโม่แค่ส่ายหัว จากนั้นใช้น้ำเสียงเหน็ดเหนื่อยพูดว่า: “กลับบ้านใหญ่”
ฉิงฮัวสตาร์ทรถ โรลส์รอยซ์สีดำที่เป่หมิงโม่นั่งอยู่หายไปในพลบค่ำ
บ้านใหญ่ตระกูลเป่หมิงในเวลานี้ แสงไฟสว่าง แต่ในบ้านหลังใหญ่โตไม่เห็นคนเลย ทำให้ดูเงียบเหงาผิดปกติ
ประตูใหญ่ค่อยๆ เปิดออก ฉิงฮัวขับรถเข้ามา
“คุณชายเป่ยหมิงครับ”หลังจากที่รถจอดเรียบร้อย บริกรคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาเปิดประตูรถ
หลังจากที่เป่หมิงโม่ลงจากรถ เงยหัวขึ้นดูบ้านหลังนี้ จากนั้นตามฉิงฮัวเดินเข้าไปในห้องโถง
***
เฟยเอ๋ออยู่ในบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิงคนเดียวทั้งวันแล้ว ใช้สถานะคู่หมั้นของเป่หมิงโม่มาอยู่ที่นี่ เหล่าคนใช้ต่างเคารพเธอกันหมด
แต่เจียงฮุ่ยซินที่เป็นแม่สามีในอนาคต กลับไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไหร่เลย นอกจากตอนกินข้าวเช้า อยู่บนโต๊ะอาหารพูดกับเธอหนึ่งประโยคว่า: “เธอมาแล้วหรอ” จากนั้นก็ไม่มีอะไรคุยด้วยอีกแล้ว
เวลาอื่นเจียงฮุ่ยซินจะอยู่ในห้องนอนตัวเองอย่างเดียว บางครั้งก็จะออกมาข้างนอกสูดอากาศบ้าง แต่พอเวลานี้เธอจะถือมือถืออยู่ตลอดเวลา พูดไม่หยุดว่า: “เธอนี่นะ ตอนนี้ที่บ้านเกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ขึ้นมา เธอกลับมาครั้งหนึ่งไม่ได้เลยหรอ มีงานอะไรสำคัญกว่าเรื่องในบ้านอีก จะบอกเธอนะ นี่มันเกี่ยวกับฐานะที่เธออยู่ในบ้านตระกูลเป่ยหมิงเลยนะ…”
ทุกบ้านต่างมีความยากลำบาก คนจนเป็นแบบนี้ คนรวยก็เหมือนกัน
ตั้งแต่ที่เป่หมิงโม่ทิ้งเฟยเอ๋อไว้ที่บ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิง ก็ติดต่อเขาไม่ได้อีกแล้ว
แม้กระทั่งเธอถามทุกคนในบ้านเป่ยหมิง สิ่งที่ตอบกลับเธอมีแค่ “ไม่รู้”สองคำ
ช่างมันแล้ว แค่สามารถอยู่ในบ้านเป่ยหมิง ไม่ว่าจะโดนอะไรเธอก็ยอม
ตอนกลางคืน เมื่อเฟยเอ๋ออยู่บนเตียงคนเดียวนอนไม่หลับ ก็ได้ยินข้างล่างมีเสียงประตูใหญ่เปิดออกมา
จากนั้นแสงไฟรถส่องเข้ามาในห้องของเธอผ่านผ้าม่าน
และก็คือเสียงที่เธอยากได้ยินที่สุก: “คุณชายเป่ยหมิง”
วินาทีนี้เฟยเอ๋อดีใจจนเป็นบ้าแล้วจริงๆ ใส่ชุดนอนอยู่ไปเปิดประตูห้องและวิ่งลงไปข้างล่าง
“โม่ คุณกลับมาแล้วหรอ” ขณะนี้จะบอกว่าเฟยเอ๋อดีใจจนร้องไห้ก็ไม่เวอร์ เธอวิ่งเข้าไปกอดเป่หมิงโม่ไว้แน่นๆ
เป่หมิงโม่ได้แต่ยืนอยู่กับที่ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ฉิงฮัวรีบเดินไปข้างๆ เฟยเอ๋อ: “คุณเฟยเอ๋อครับ วันนี้เจ้านายเหนื่อยมากแล้ว มีเรื่องอะไรพรุ่งนี้ค่อยคุย”
พูดจบ เขาอยากจะดึงเฟยเอ๋อออกจากเจ้านาย
แต่เนื่องจากว่าเธอใส่ชุดนอนอยู่ รู้สึกว่าไม่รู้จะทำไงดี
เป่หมิงโม่เห็นท่าทางแบบนี้ของฉิงฮัว ส่ายหัวอย่างปวดหัว