บทที่ 557 ไม่ไป
สีหน้าที่มีความสุขตอนแรกๆ เปลี่ยนเป็นหน้าเคร่งทันทีเลย และยังพูดออกมาคำหนึ่งอย่างลำบากว่า: “ไป…”
อาจเป็นเพราะก่อนที่กู้ฮอนจะพาลูกเข้ามาก็เดาออกได้ว่า ท่านปู่เป่หมิงเห็นตัวเองจะเป็นแบบนี้ ดังนั้นพอได้ยินเขาไล่ตัวเองออกไปก็ไม่รู้สึกแปลกใจ
กู้ฮอนสัมผัสหัวของลูกเบาๆ ก้มหน้าบอกกับลูกว่า: “ที่รัก แม่กับคุณปู่มีเรื่องจะคุยด้วย เธอสองคนไปเล่นที่พี่พยาบาลตรงนั้นได้ไหม”
ทั้งสองคนต่างพยักหน้า จากนั้นบอกกับท่านปู่เป่หมิงว่า: “คุณปู่ครับ เราไปเล่นที่ตรงนั้นก่อนนะ” พูดจบก็ปล่อยมือท่านปู่เป่หมิงออก สองคนวิ่งเข้าไปในห้องสังเกตแล้ว
ตอนนี้เหลือแค่ท่านปู่เป่หมิงและกู้ฮอนสองคน
ท่านปู่เป่หมิงยังคงดูอารมณ์เสียอยู่
แต่กู้ฮอนหาเก้าอี้มาหนึ่งตัวไว้ข้างเตียง ดึงผ้าห่มของเขาขึ้นไปเล็กน้อย: “ท่านปู่เป่หมิง ฉันรู้ว่าท่านไม่ชอบฉัน คิดว่าฉันทิ้งเป่หมิงโม่และลูกสองคนเพราะเรื่องเงิน แต่ท่านยังรู้ไม่หมด”
กู้ฮอนหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าก็ดูใจเย็นลง พูดต่อว่า: “ตอนนั้นฉันต้องการเงินก็จริง เพราะฉันจะเอาเงินนั้นไปช่วยชีวิตคน…แต่ว่า เหมือนการตัดสินใจของฉันในตอนนั้นจะผิดแล้ว เพราะฉันก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายด้วย”
***
ถ้าร่างกายของท่านปู่เป่หมิงยังคงแข็งแรงอยู่ ไม่มีทางที่ฟังคำอธิบายของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเขาคิดว่าเธอเป็นคนหน้าเงิน
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เขาในตอนนี้ได้แต่นอนอยู่ตรงนี้ ไม่อยากฟังก็ต้องฟัง
กู้ฮอนเล่าเรื่องทำไมเธอต้องคลอดลูกให้คนอื่นเพื่อที่จะได้เงินให้ฟังสั้นๆ
ต่อมาก็พูดถึงว่าหลังจากที่เธอรู้ว่าเธอใช้ร่างกายไปแลกเงินช่วยชีวิตมาเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งที่หลอกใช้ตัวเอง และผู้หญิงคนนั้นยังเสียสละเธอเพื่อลูกสาวจริงๆ ของเขา หน้าตาเกลียดชังในตอนแรกของท่านปู่เป่หมิงก็อ่อนลงมาเยอะแล้ว
เมื่อกู้ฮอนเล่าเรื่องของตัวเองอยู่ ในใจของเธอเลือดไหลไม่หยุด แต่เธอก็ทนไว้ไม่ให้ตัวเองน้ำตาไหลออกมาสักหยดหนึ่ง เธอไม่อยากให้ท่านปู่เป่หมิงคิดว่าตัวเองกำลังทำให้เขาสงสารตัวเองอยู่
กู้ฮอนสงบนิ่งสักพัก มองท่านปู่เป่หมิงอย่างจริงใจและพูดว่า: “ขอโทษจริงๆ ค่ะท่านเป่หมิง ใช้เวลาของท่านมากขนาดนี้ ที่ฉันบอกเรื่องของตัวเองให้ท่านฟังแค่อยากให้ท่านรู้ว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงหน้าเงิน และยิ่งไม่ใช่ผู้หญิงที่ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะเข้าไปอยู่ในบ้านตระกูลเป่หมิง ฉันก็แค่ไม่อยากให้พวกท่านเข้าใจฉันผิด เพราะตอนที่ฉันตัดสินใจจะมีลูกให้กับเป่หมิงโม่ฉันยังไม่รู้เขาเป็นคนแบบไหน เบื้องหลังของเขาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ตอนนี้ก็ดีแล้ว เป่หมิงโม่จะแต่งงานแล้ว ลูกๆ ก็จะมีคุณแม่ที่รักเขามากด้วย ฉันก็สามารถออกไปจากชีวิตของเป่หมิงโม่ได้แล้ว ไม่มารบกวนชีวิตสงบสุขของพวกคุณอีกแล้ว”
สิ่งที่ควรพูดก็พูดหมดแล้ว กู้ฮอนลุกขึ้น: “ท่านปู่เป่หมิง วันนี้ที่ฉันพาลูกๆ มาที่นี่ ตอนแรกคืออยากจะมาเยี่ยมแม่จริงๆ ของฉัน เธออยู่ในโรงพยาบาลเดียวกับท่าน แล้วฉันก็พาลูกมาเยี่ยมท่านด้วย ยังไงท่านก็เป็นคุณปู่ของพวกเขา ไม่ว่ายังไงฉันก็ควรทำแบบนี้อยู่แล้ว”
กู้ฮอนพูดจบก็โบกมือให้กับลูกๆ ที่อยู่ในห้องสังเกต จากนั้นพูดกับท่านปู่เป่หมิงว่า: “ถ้าท่านเกลียดฉันขนาดนี้ งั้นฉันจะรออยู่ข้างนอก ท่านอยู่กับลูกเลย ฉันไม่รบกวนแล้ว”
เฉิงเฉิงและหยางหยางเห็นแม่โบกมือให้ รู้ว่ากำลังเรียกเขาเข้าไปอยู่
“แม่คุยกับคุณปู่เสร็จแล้วหรอ แล้วเราจะไปหาคุณยายไหม” เฉิงเฉิงมาหากู้ฮอน แล้วดูคุณปู่ที่นอนอยู่บนเตียง
กู้ฮอนนั่งลง สัมผัสหัวของลูกเบาๆ: “พวกเธออยู่กับคุณปู่ก่อนเลย แม่ไปถามพี่พยาบาลว่าอาการของคุณปู่เป็นไงบ้าง”พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นไปที่ห้องสังเกต
ท่านปู่เป่หมิงที่นอนอยู่บนเตียงในที่สุดก็รู้จักผู้หญิงคนนี้ที่เขาคิดว่าเป็นคนหน้าเงินมาตลอดแล้ว
เขาไม่ใช่คนไร้เหตุผล แต่ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เป่หมิงโม่ล้วนเป็นคนแบบนั้นหมด เขาเลยคิดว่ากู้ฮอนก็เป็นคนแบบนั้นด้วย
ตอนนี้รู้แล้วว่าเขาคิดผิดแล้ว ผู้หญิงคนนี้น่าสงสารเกินไปแล้ว
“ไม่…ไป…”
ท่านปู่เป่หมิงพูดสองคำนี้ออกมาสุดแรง ถึงแม้มันจะง่ายมาก แต่ในนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่มีต่อกู้ฮอน
“แม่ คุณปู่บอกว่าไม่ให้แม่ไป…” เฉิงเฉิงพูดจบก็ดึงเสื้อของกู้ฮอนไว้
เฉิงเฉิงรู้ว่าทั้งคุณปู่และคุณย่าไม่มีใครชอบแม่มาตลอด แต่ตอนนี้คุณปู่บอกว่าไม่ให้แม่ไป เขารู้สึกดีใจและตะลึงมาก นี่แสดงว่าคุณปู่ยกโทษให้แม่แล้วใช่ไหม
***
เมื่อกู้ฮอนกำลังหันหลังไปจะออกไป แต่ถูกเฉิงเฉิงดึงเสื้อไว้ เธอก็ได้ยินคำว่า “ไม่ไป”ของท่านปู่เป่หมิงแล้ว
แต่เธอก็หันหลังอย่างตกใจมาก ก็เหมือนอย่างที่เธอพูด ไม่ได้อยากให้สงสาร แต่อยากให้เข้าใจ
เธอมองท่านปู่เป่หมิง ใบหน้าสวยกลับนิ่งมาก: “ท่านหมายความว่าให้ฉันอยู่ที่นี่ต่อ?”
ท่านปู่เป่หมิงพยักหน้าอย่างลำบาก: “ขอ…โทษ…” เขาเป็นคนอะไร น้อยครั้งที่เขาจะขอโทษกับการกระทะของตัวเอง ถึงแม้ว่าเขาก็รู้ว่าเขาทำผิดแล้ว
แต่ในขณะนี้ เขาขอโทษแล้ว
มีหลายครั้งที่ใช้แค่คำพูดง่ายๆ ก็สามารถทำให้ความเข้าใจผิดหายไป แต่มีหลายคนที่กลัวเสียหน้าจะไม่ยอมทำแบบนี้
กู้ฮอนยิ้มอ่อน: “ท่านเป่หมิง ขอบคุณที่เปลี่ยนมุมมองกับฉันค่ะ”
เฉิงเฉิงเห็นแม่และคุณปู่ดีกัน ก็ดีใจจนยิ้มออกกว้างๆ เลย
ท่านปู่เป่หมิงหัวเราะสองทีอย่างลำบาก ตาของเขาเริ่มหาอะไรบางอย่างในห้องนี้ “อ่า…อ่า…”
นี่คือเสียงที่ใช้เรียกเป่หมิงโม่ ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่มากับเป่หมิงโม่กู้ฮอนก็รู้แล้ว
ถึงแม่ว่าเช้านี้เธอกับเป่หมิงโม่จะทะเลาะกัน แต่เธอก็ไม่อยากเล่าให้ท่านปู่เป่หมิงฟัง
เธอยิ้มพูดกับท่านปู่เป่หมิงว่า: “เป่หมิงโม่ไปทำงานแล้ว”
ท่านปู่เป่หมิงยิ้มพยักหน้าเล็กน้อย ตอนนี้เขาก็ดีกับลูกชายแล้ว เป็นห่วงเขาเป็นด้วยแล้ว
นี่อาจจะเป็นเหมือนกับคนส่วนใหญ่ที่ป่วยแล้วจะเปลี่ยนนิสัยมั้ง
ขณะนี้พยาบาลก็เดินเข้ามา บอกกับกู้ฮอนว่า: “คุณกู้คะ ถึงเวลาแล้ว ท่านเป่หมิงควรพักผ่อนแล้วค่ะ”
กู้ฮอนพยักหน้า เธอจับมือลูกสองคนดูท่านปู่เป่หมิง: “ตอนนี้ไม่เช้าแล้ว พยาบาลบอกว่าท่านควรพักผ่อนแล้ว งั้นฉันกับลูกก็ไปก่อนนะคะ ท่านไม่ต้องห่วงนะ ถ้าว่างฉันก็จะพาพวกเขามาเยี่ยมท่านค่ะ”
ท่านปู่เป่หมิงพยักหน้า
ความรักระหว่างเฉิงเฉิงและท่านปู่เป่หมิงลึกซึ้งมาก เขาโบกมือให้กับท่านปู่เป่หมิงว่า: “คุณปู่ครับ ท่านต้องพักผ่อนเยอะๆ นะ ผมกับหยางหยางดีมาก พ่อก็ดีมากเหมือนกัน ท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
ดูกู้ฮอนและเด็กๆ ค่อยๆ หายไป ท่านปู่เป่หมิงเริ่มน้ำตาไหล
กู้ฮอนพาลูกๆ เดินอย่ที่ทางเดินที่เงียบมาก ขณะนี้มือถือของเธอก็ดังขึ้น พอเปิดดูเป็นหยินปู้ฝันโทรมา
“กู้ฮอน จะมาทำงานเมื่อไหร่ เธอไม่อยู่ผมยุ่งเหยิงมากเลยรู้ไหม เธอกับลูกเป็นไงบ้าง”
ฟังเสียงของหยินปู้ฝัน ในใจอบอุ่นขึ้นมา ช่วงที่ไม่อยู่สำนักงาน หยินปู้ฝันจะส่งข้อความให้เธอบ่อยๆ เพื่อถามสถานการณ์ของเธอ
เธอยิ้ม “ฉันกับลูกๆ ดีมาก ตอนนี้ฉันอยู่ในเมืองAแล้ว”
สีหน้าของหยินปู้ฝันตื่นเต้นมาก: “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกผมล่ะ ถ้ากลับมาแล้วเราไปกินข้าวด้วยกันไหม”
กู้ฮอนถอนหายใจเบาๆ “ช่วงนี้เกิดเรื่องขึ้นมาไม่น้อยเลย ตอนนี้ฉันมาหาแม่ที่โรงพยาบาลกลางอยู่”
“งั้นผมไปตอนนี้เลย ตั้งแต่ที่ไอ้เป่หมิงโม่พาคุณน้าจากเมืองS ผมก็ไม่เคยเจอท่านอีกแล้ว” หยินปู้ฝันวางเอกสารที่เพิ่งเซ็นชื่อเสร็จไว้บนโต๊ะทำงาน
หยิบเสื้อจากที่แขวนเสื้อ ออกไปจากสำนักงานแล้ว
***
ไม่นานหยินปู้ฝันก็ขับรถไปถึงโรงพยาบาลกลางเมืองAแล้ว
เขาดูเลขห้องที่กู้ฮอนให้เขา ไม่นานก็หาห้องVIPที่ลู่ลู่อยู่เจอแล้ว
เขาเพิ่งผลักประตูออก ผ่านกระจกห้องสังเกตเห็นกู้ฮอนพาลูกๆ เฝ้าอยู่ข้างเตียงของลู่ลู่
หยินปู้ฝันยิ้มเดินไปที่ด้านหลังของกู้ฮอนเบาๆ ตบไหล่เธอเบาๆ ทีหนึ่ง
“อ่า…” กู้ฮอนดูแม่ที่นอนอยู่ ในใจกังวลมาก
จู่ๆ ก็โดนตบทีหนึ่ง เธอตกใจจนหัวใจเกือบเต้นผิดจังหวะ
หันหน้าไปดูเห็นว่าคือหยินปู้ฝันจึงถอนหายใจออก ยื่นมือไปทุบหน้าอกของเขาทีหนึ่งอย่างโมโห จ้องตาสดใสคู่นั้น: “อย่ามาแกล้งคนแบบนี้ได้ไหม!”
ลูกๆ เห็นหยินปู้ฝันมาแล้ว ต่างดีใจมากทั้งสองเลย
“พ่อปู้ฝัน…”หยางหยางเรียกและยื่นมือไปกอดต้นขาของเขา “หายไปไหนตั้งหลายวัน”
หยินปู้ฝันก้มลงไปอุ้มหยางหยางขึ้นมา และยังยื่นมือไปสัมผัสหัวของเฉิงเฉิงอีกด้วย ทำสีหน้าน่าสงสาร: “เธออย่ามาโทษคนอื่นเลย อะไรคือฉันหายไปไหนตั้งหลายวัน คือแม่เธอเองที่พาพวกเธอไปไหนก็ไม่รู้ตั้งหลายวัน”
หยางหยางหัวเราะ:“ช่วงนี้เราไปบ้านพักตากอากาศของคุณย่าแล้ว แต่คุณย่าป่วย และยังไฟไหม้อีกด้วย…”
“หยางหยาง…”กู้ฮอนรีบห้ามหยางหยางไว้ เรื่องที่เกิดขึ้นกี่วันนี้ทำให้ปวดหัวมากเลย ไม่ต้องพูดถึงยังดีกว่าอีก
หยินปู้ฝันมองกู้ฮอน สีหน้าเป็นห่วงและถามว่า: “ทำไมเกิดเรื่องเยอะขึ้นมาเยอะขนาดนี้ ไม่บอกผมเลย แต่ยังดีที่เห็นพวกเธออยู่ตรงนี้กันดีๆ ผมก็สบายใจแล้ว”
เมื่อก่อนหยินปู้ฝันก็รู้เรื่องที่คุณป้าฟางและท่านปู่เป่หมิงไม่ถูกกัน สุดท้ายย้ายออกจากบ้านตระกูลเป่หมิง
แต่ไม่คิดว่าจะโชคร้ายขนาดนี้ ตัวเองก็ป่วยอยู่ ขนาดบ้านพักตากอากาศที่ตัวเองตั้งใจทำมาอย่างเสียหายหมดเลย
นี่ก็คือชีวิต
หยินปู้ฝันหันไปดูลู่ลู่ที่ยังคงนอนอยู่: “ตั้งแต่ที่เป่หมิงโม่รับคุณน้าออกมาจากเมืองS ผมก็ไม่รู้ว่าท่านรักษาอยู่ที่ไหนแล้ว”
พูดจบ เขาก็เงยหน้าดูรอบๆ: “ห้องVIP ดูแลใกล้ชิดยี่สิบสี่ชั่วโมง ที่นี่ก็ไม่แย่นะ การรักษาก็ถือว่าเยี่ยมมาก เห็นได้ว่าเป่หมิงโม่ก็ไม่ได้ใจดำขนาดนั้น ไม่เสียดายที่คุณดีกับเขาขนาดนี้”