บทที่552 บริษัทเกิดเรื่องแล้ว
เขายืนอยู่ที่เดิมดูแม่ลูกสามคนนั้นที่เดินมาหาเขา มุมปากมีรอยยิ้มบางๆ ไหลออกมา
“ลุงคนสวย! แม่ดูลุงคนสวยสิ…” หยางหยางดิ้นไปมาดิ้นตรงหลังของกู้ฮอนอย่างตื่นเต้น
กู้ฮอนก็ตะลึงมาก ไม่คิดว่าวันนั้นที่ลาจากกันที่บ้านพักตากอากาศ ยังไม่ถึงสองวันก็เจอกันอีกแล้ว
“บังเอิญจริงๆ เลย คุณกู้ เรามาเจอกันที่นี่อีกแล้ว” Notonยิ้มพยักหน้าให้เธอ
จากนั้นก็ได้เห็นหยางหยาง: “ฮาฮา สงสัยผมจะทำตามสัญญาของเราเร็วๆ นี้แล้ว”
พอหยางหยางได้ยินเขาพูดถึงคำสัญญานั้น ก็ดิ้นไปดิ้นมาจะให้กู้ฮอนปล่อยเขาลงมา
หลังจากที่ลงมาที่พื้นแล้ว เขารอไม่ได้เลยที่จะวิ่งไปข้างๆ Noton สำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าหนึ่งรอบ: “ลุงคนสวยหล่อขึ้นอีกแล้วครับ”
Notonยิ้มและยกมือขึ้นมาสัมผัสหัวเล็กๆ ของหยางหยางเบาๆ: “เธอก็ไม่แย่นิ”
หยางหยางฟังแล้วก็ดีใจ มือเล็กปัดฝุ่นเล็กๆ น้อยๆ ที่ยังหลงเหลือออก และใช้น้ำเสียงภูมิใจพูดว่า: “นี่คือชุดที่ผมเตรียมไว้จะขึ้นไปเวทีรับรางวัลเลยนะ”
พูดจบ หยางหยางก็ทำสีหน้าตื่นเต้นพูดอีกว่า: “ลุงคนสวยพูดจริงๆ หรอครับ งั้นก็สอนผมทำย่างปีกไก่อร่อยๆ สิครับ”
กู้ฮอนใช้มือเดียวลากหยางหยางมา: “มีใครคนไหนที่เจอหน้ากันแล้วก็ให้เขามาสอนลูกทำปีกไก่”
“ฮาฮา ไม่เป็นไรหรอก ถ้ารับปากกับหยางหยางแล้ว ผมก็จะทำตามสัญญา”
Notonพูดจบ ก็ยิ้มและโบกมือให้กับเฉิงเฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆ กู้ฮอน: “Hi …”
เฉิงเฉิงก็พยักหน้ากับเขาอย่างมีมารยาท
“ว้าย ขอโทษจริงๆ ที่ให้พวกคุณยืนอยู่ข้างนอกนานขนาดนี้ มีเรื่องอะไรก็ขึ้นไปบนรถก่อนแล้วค่อยคุยกันเถอะ” Notonพูดจบก็หลีกทางให้พวกเขา มือทำท่าเชิญพวกเขาขึ้นรถ
***
กู้ฮอนเห็นNotonทำท่าทางเชิญพวกเขาขึ้นรถแล้ว เธอก็มิอาจปฏิเสธได้
หลังจากที่พูดคำว่าขอบคุณกับเขาแล้วก็พาเด็กสองคนขึ้นไปบนรถ
เทียบกับความร้อนผ่าวข้างนอกแล้ว อยู่ในรถรู้สึกเย็นฉ่ำมากเลย
กู้ฮอนพาเด็กนั่งอยู่ตรงโต๊ะที่อยู่ข้างหน้าต่างของรถ
หลังจากที่Notonขึ้นมาบนรถก็ปิดประตูรถ จากนั้นเอาน้ำผลไม้ออกมากี่ขวดวางไว้บนโต๊ะ หลังจากนั้นก็เอาขนมประณีตออกมาวางไว้ที่โต๊ะ
“คุณกู้ครับ ทานกับเด็กด้วยกันเลย ไม่ต้องเกรงใจเลยนะ”
“ได้เลยครับ! ผมหิวจนท้องร้องตั้งนานแล้ว” หยางหยางยื่นมือเล็กออกมาอยากจะจับอาหารที่อยู่ในจาน
แต่กลับถูกกู้ฮอนตีมือทีหนึ่ง: “บอกเธอกี่ครั้งแล้ว ถ้าคนอื่นเอาของให้เธอกินต้องบอกขอบคุณก่อน จากนั้นต้องไปล้างมือถึงจะกินได้”
หยางหยางทำหน้ามุ่ย หันหลังกระโดดลงจากที่นั่งไปล้างมือท่างล้างมือ จากนั้นก็เงยหัวขึ้นพูดกับNotonว่า: “ขอบคุณลุงคนสวยครับ”
Notonยืนพิงอยู่ตรงตู้เย็น ถือน้ำผลไม้และพยักหน้าให้กับหยางหยางอย่างสง่า
“คุณNotonคะ คุณไปท่องเที่ยวต่อแล้วไม่ใช่หรอ แต่ทำไมถึงมาอยู่ที่ได้หรอคะ” กู้ฮอนมีความสงสัยอยู่เล็กน้อย
Notonดื่มน้ำผลไม้คำหนึ่ง: “ความจริงผมก็ท่องเที่ยวอยู่ตลอดอยู่แล้ว แค่ในช่วงนี้ผมจะอยู่ที่นี่สักระยะเวลาหนึ่ง”
พูดไปเขาก็ยื่นมือขาวใสของเขาออกมา ยื่นนิ้วชี้ออกมาอยู่ตรงหน้ากู้ฮอน: “คุณลืมข้อตกลงระหว่างเราสองคนแล้วหรอ”
พอกู้ฮอนได้ยินคำใบ้ของเขาเข้าก็เข้าใจทันทีเลย และยิ้มแบบรู้สึกผิด: “Noton ขอโทษนะที่เรียกคุณว่าเป็นคนอวดรู้อีกแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอก” พูดไปเขาก็เห็นเฉิงเฉิงที่อยู่ข้างๆ กู้ฮอน ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเขานั่งเรียบร้อยดีมาก ขนาดอาหารที่อยู่บนโต๊ะเขาก็ไม่แตะสักนิดเลย
Notonไปเข้าใกล้เฉิงเฉิง ยิ้มมองเขา: “เด็กชายเฉิงเฉิงครับ เธอไม่ชอบขนมของที่นี่หรอ เธออยากกินอะไรบอกผมมา ผมลองคิดดูว่าจะทำยังไง”
เฉิงเฉิงมองNoton: “ขอบคุณลุงNotonครับ ตอนนี้ผมยังไม่หิวเลย”
ได้ยินคำตอบกลับของเฉิงเฉิงแล้ว Notonก็แค่ยิ้มอ่อน เปิดฝาน้ำผลไม้ที่อยู่ข้างหน้าเฉิงเฉิงให้เขา ยื่นไปในมือของเขา: “ผมดูออกได้ว่าตอนนี้เธอหิวมาก แต่มีบางเรื่องอยู่ในใจของเธอ ทำให้เธอกินไม่ลง ใช่ไหม”
Notonพูดถูกแล้ว อันที่จริงเฉิงเฉิงกินไม่ลงก็เพราะมีเรื่องอยู่ในใจ เขาพยักหน้าเบาๆ
“อ่อ เป็นแบบนี้นี่เอง” Notonขมวดคิ้ว ครุ่นคิดสักพักและพูดต่อว่า: “ความจริงในชีวิตของเรานั้นจะเจอเรื่องกังวลหลายเรื่องมาก บางเรื่องเราสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง และยังมีบางเรื่องที่เราไม่สามารถแก้ปัญหาได้เอง เธอเข้าใจความหมายของผมไหม”
เฉิงเฉิงพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็พูดกับNotonว่า: “ลุงNotonครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้ผมน่าจะแก้ปัญหาด้วยตนเองไม่ได้ แล้วควรจะทำยังไงดีอ่ะครับ”
“ถ้าเป็นเรื่องที่ตัวเองจัดการไม่ได้ ความจริงก็มีอยู่สองวิธีสามารถลองดูได้ วิธีแรกก็คือ เธอสามารถบอกเรื่องนี้ให้กับพ่อแม่ของเธอ ให้เขาช่วยแก้ปัญหา ส่วนวิธีที่สองก็คือ ถ้าไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาได้ งั้นก็ไม่ต้องไปแก้แล้ว เพราะมันไม่ถือว่าเป็นเรื่องเลยด้วยซ้ำ มาปวดหัวกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องมันเสียเวลามากเลย ถ้าจะเป็นแบบนี้เรานำเวลาไปทำเรื่องที่เราสามารถทำได้ไม่ดีกว่าหรอ รอวันหลังเรามีความสามารถพอแล้วค่อยกลับมาแก้ไขอีกที ก็ยังไม่ถือว่าสายเกินไป”
Notonพูดไปสัมผัสเส้นผมของเฉิงเฉิงเบาๆ ไป: “ได้แล้ว ลูกผู้ชายน้อย ตอนนี้ปัญหาที่เธอต้องแก้ก็คือปัญหาของท้องเธอ มีแต่กินอิ่มนอนอิ่มแล้ว จึงจะมีแรงไปเผชิญหน้าได้”
***
เฉิงเฉิงพยักหน้า: “ขอบคุณลุงมากๆ นะครับ” จากนั้นก็หยิบขนมมาหนึ่งชิ้นและเริ่มทาน
กู้ฮอนยิ้มดูNotonพูดคุยกับเฉิงเฉิงอยู่ข้างๆ มีความอดทน และวิธีก็ง่ายที่จะให้เขายอมรับได้
อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเป่หมิงโม่ขึ้นมาอีกครั้ง วิธีสั่งสอนของเขาเทียบกับNotonแล้วก็คือคำว่า:โหดร้ายและง่าย
นิสัยเด็กเล็กของเฉิงเฉิงหมดหายไปตั้งนานแล้ว พูดได้ว่าทุกอย่างนี้เป็นผลมาจากเป่หมิงโม่ล้วนๆ
“คุณกู้?” Notonเห็นกู้ฮอนมีท่าทางใจไม่อยู่กับตัว เลยยื่นมือไปเรียกคำหนึ่ง
ในขณะนี้กู้ฮอนจึงถูกเรียกสติกลับมา เธอยิ้มอย่างเกรงใจ: “เมื่อกี้กำลังคิดเรื่องอยู่”
“เรื่องมันไม่ได้เอามาแค่คิด แต่ต้องปฏิบัติด้วย เนื่องจากว่าคุณไม่ได้อายุน้อยเหมือนกับเฉิงเฉิง ผมก็จะไม่พูดอะไรมากแล้ว” Notonยกมือขึ้นมาดูนาฬิกา ยกคิ้วขึ้นมา: “เวลาไม่เช้าแล้ว ผมควรพาพวกคุณกลับไปในเมืองแล้ว”
พูดจบ เขาก็ไปที่ห้องขับรถสตาร์ทรถขึ้นมา
“ลุงคนสวยครับ ผมก็อยากจะไปนั่งข้างหน้าครับ” หยางหยางกระโดดลงมาจากที่นั่ง ยกขนมและน้ำผลไม้ไว้วิ่งไปที่ห้องขับรถ
Notonหันหน้าไปดูหยางหยางที่นั่งลงเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าสวยงามมีรอยยิ้มโผล่ขึ้นมา: “สงสัยฉันจะต้องไปเตรียมที่นั่งเด็กในรถมาตัวหนึ่งแล้วแหละ”
จากนั้นก็หันกลับไป คาดเข็มขัดนิรภัยให้หยางหยาง และเอาเข็มขัดไว้หลังคอของเขาอย่างละเอียดอ่อน เผื่อเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมาจะได้ไม่รัดโดนคอของเขา
หลังจากที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว Notonกลับไปนั่งใหม่: “นักขับรถรองน้อยหยางหยางครับ พวกเราออกเดินทางได้หรือยังครับ”
ในมือหยางหยางถือน้ำผลไม้อยู่และยื่นออกไปข้างหน้า: “ออกเดินทางครับ!”
Notonขับรถบ้านสีขาวออกไปยังในเมืองตามทางหลวง
*
หลังจากที่เป่หมิงโม่พากู้ฮอนและลูกมาถึง ‘เย่โม่ฮอนหวี’แล้ว ก็ได้รับสายจากบริษัท
ในสายนั้นบอกว่าหลังจากที่ผ่านเรื่องของคราวที่แล้วไป ทุกฝ่ายทุกแผนกทำงานอย่างมีความกระตือรือร้น ราคาดัชนีหุ้นของบริษัทเป่หมิงเริ่มกลับมาเป็นสภาพเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงแล้ว
แต่ว่าในสองวันนี้เหมือนจะเกิดปรากฏการณ์แปลกๆ ขึ้นมา ถึงแม้ว่าแนวโน้มของหุ้นมั่นคงแล้วและยังมีการเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่จะมีการถ่ายโอนและซื้อกลับอยู่ถี่มาก
ความจริงมันเป็นการกระทำที่ปกติมาก แต่ที่มันแปลกคือผู้ขายไม่ใช่คนเดียวกัน แต่เหมือนผู้ซื้อจะเป็นกลุ่มที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า
เป่หมิงโม่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน มือหนึ่งจับดินสอไว้หมุนไม่หยุด อีกมือหนึ่งถือมือถืออยู่
หลังจากที่ฟังรายงานเสร็จ เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย: “การกระทำซื้อเข้าขายออกแบบนี้เป็นส่วนแบ่งเท่าไหร่แล้ว”
“มีประมาณสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว” อีกฝั่งของมือถือตอบ
“อืม รู้แล้ว แจ้งผู้รับผิดชอบทุกแผนกมาประชุมที่ออฟฟิศผม เดี๋ยวผมก็กลับไปแล้ว”
เป่หมิงโม่พูดจบก็วางสายลง จากนั้นก็คว้ากุญแจสีทองออกมาดอกหนึ่ง เปิดตู้นิรภัยข้างหลังเขาที่ฝังอยู่ในผนังออกมา เอาเอกสารการยกให้ที่ดินที่เตรียมให้กู้ฮอนเซ็นชื่อและสัญญาออกมา
ถึงแม้ว่าบริษัทจะเกิดปัญหาขึ้นมาเล็กน้อย แต่เป่หมิงโม่ก็ยังอยากจะเอาวิลล่าหลังนี้ให้กับกู้ฮอนก่อน แล้วค่อยกลับไปจัดการเรื่องต่อ
เขาวางแผนทุกอย่างอย่างมีระบบ
แต่ก็ยังมีอีกเรื่องที่เขาคาดคิดไม่ถึง: หลังจากที่กู้ฮอนเห็นสัญญานี้แล้ว จะมีปฏิกิริยาการตอบสนองหนักขนาดนี้
ไม่ต้องพูดถึงปฏิเสธเซ็นชื่อ และยังโยนสัญญาไปที่ตัวเขาอีก
ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือหลังจากนั้นเธอพาลูกสองคนเดินเข้าไปในเมืองเอง โดยที่ไม่ต้องการให้ฉิงฮัวส่ง
ในระหว่างที่เดินทางไปบริษัทนั้น ฉิงฮัวมองเป่หมิงโม่ที่นั่งอิงอยู่บนเบาะผ่านกระจกหลังอยู่ตลอด
เป่หมิงโม่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา
ในความทรงจำของเขานั้น น้อยครั้งที่จะเห็นเป่หมิงโม่มีสภาพแบบนี้ รู้สึกมีเรื่องกังวลในใจหนักมาก
“เจ้านายครับ บริษัทเกิดเรื่องอะไรหรอ” ฉิงฮัวเป็นห่วงเป่หมิงโม่มากจริงๆ ทนมานานมากแล้ว ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป
***
เป่หมิงโม่ตอบรับ และเอ่ยพูดขึ้นมาช้าๆ: “เธอสั่งคนไปสืบหน่อยว่าในช่วงกี่วันนี้คนที่ซื้อหุ้นบริษัทเป่หมิงเป็นใครบ้าง”
ฉิงฮัวตอบรับ คว้ามือถือออกมาสั่งคนไปสืบ
*
อาคารบริษัทเป่หมิง
ผู้รับผิดชอบของแต่ละแผนกได้รับการแจ้งแล้วก็มาถึงในห้องประชุมเล็กๆ ข้างๆ ออฟฟิศของเป่หมิงโม่
พวกเขานั่งอยู่หน้าโต๊ะประชุม แต่ละคนสีหน้าเคร่งเครียด คุยซุบซิบกัน
หลังจากที่เกิดเรื่องคราวก่อนขึ้นมา พวกเขาพอได้ยินว่าจะประชุมในใจก็จะวิตกกังวล ไม่รู้ว่าตัวเองจะเผชิญกับเรื่องอะไรอีก
เมื่อเผชิญวิกฤตแห่งสื่อและผู้ซื้อหุ้นครั้งที่แล้ว ตอนนี้ได้จัด รปภ.นอกเครื่องแบบที่หน้าอาคารเป่หมิงไว้หลายคน เมื่อทุกครั้งที่เจอบุคคลน่าสงสัยหรือนักข่าว ก็จะถูกพวกเขาไล่ไปโดยไม่มีคนสังเกต
ดังนั้น หน้าประตูอาคารเป่หมิงในตอนนี้ดูสงบมาก
ฉิงฮัวขับรถเข้าไปจอดตรงที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินอย่างราบรื่น
หลังจากที่ลงจากรถ เป่หมิงโม่จัดเสื้อสูทที่มีงานประณีตของเขาชุดนี้ จากนั้นฉิงฮัวเดินอยู่ข้างหน้า พาเขาเข้าไปในลิฟต์ที่ตรงขึ้นไปยังออฟฟิศของเขา
*
ในห้องประชุม ขณะที่ผู้รับผิดชอบของแต่ละแผนกกำลังรู้สึกกังวลใจอยู่
จู่ๆ ประตูใหญ่ของห้องประชุมก็เปิดออกมา เป่หมิงโม่เดินเข้ามาเร็วอย่างกับบิน ข้างหลังตามด้วยฉิงฮัว
เห็นประธานมาแล้ว ทันใดนั้น ในห้องประชุมเงียบกริบเลย
ทุกคนยืนขึ้นพร้อมกัน น้อมตัวลงทักทายเป่หมิงโม่
รอเป่หมิงโม่นั่งลงแล้ว คนอื่นๆ จึงค่อยๆ นั่งลง
เห็นแต่เป่หมิงโม่นั่งพิงหลังเก้าอี้ จากนั้นคว้ากล่องบุหรี่ประณีตออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เอาออกมาหนึ่งอันถืออยู่ในปาก ฉิงฮัวที่อยู่ข้างๆ รีบเอาไฟแช็กออกมาจุดไฟให้เขา
การกระทำนี้ทำให้คนที่นั่งอยู่ตกใจ พวกเขานึกขึ้นสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงแรมโม่ตี้กั๋วเมื่อไม่กี่วันก่อนได้ทันที ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่สัมผัสฉากที่ทำให้ขนลุกนั้นเลย