ตอนที่ 581 เป่หมิงโม่โกรธ
เฟยเอ๋อพอกลับถึงบ้านเป่หมิงก็วิ่งเข้าห้องนอนของเธอทันที
ผ่านไปสักครู่เป่หมิงโม่นำฉิงฮัวกลับมาด้วย สีหน้าของเป่หมิงโม่เคร่งเครียดไม่ใช่เพราะเป่หมิงยี่เฟิงกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสองของตระกูลเป่หมิงและส่งผลกระทบด้วย
นับตั้งแต่เขาออกจากบริษัท ก็นั่งรถไม่เหมือนคนอื่น ไปที่อาคารซินดู เพราะเขาบอกเฟยเอ๋อตั้งแต่แรกว่าจะมาที่นี่เลือกชุดแต่งงาน
ตอนที่เขามาถึงที่นี่ ไม่เห็นมีใครสักคน ได้ยินเจ้าของร้านพูดว่าเฟยเอ๋อมาแล้ว แต่หลังจากที่พูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว ไม่นานก็รีบออกไปด้วยความรีบร้อน
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้วเข้ม เป็นผู้หญิงคนไหนกัน แล้วพูดอะไรกับเฟยเอ๋อ จนทำให้เธอไม่เลือกชุดแต่งงานแล้วก็จากไป อยากรู้ว่าเฟยเอ๋อให้ความสำคัญกับงานแต่งงานมากแค่ไหน
หลังจากกลับถึงบ้าน เป่หมิงโม่ขึ้นไปชั้นบนหน้าประตูห้องนอนของเฟยเอ๋อ เคาะประตูเบาๆ
รอสักครู่ ไม่เห็นเธอมาเปิดประตู
จากนั้นเขาใช้มือบิดลูกบิดประตูเบาๆ พบว่าประตูไม่ได้ล็อค
เขาเปิดประตู เห็นเฟยเอ๋อนั่งร้องไห้อยู่บนเตียง ไหล่ผอมบางของเธอสั่นเล็กน้อย
เป่หมิงโม่เดินไปถึงหน้าเตียงของเธอ : “ได้ยินเหล่าลี่บอกว่าวันนี้คุณไปเลือกชุดแต่งงาน แต่อยู่ไม่นานก็กลับมา บอกฉันมาซิ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
แต่เฟยเอ๋อกลับไม่สนใจเขา ยังคงร้องไห้อยู่บนเตียง
สิ่งที่เป่หมิงโม่เกลียดมากที่สุดก็คือเขาถามแล้วไม่มีคนตอบ
หลังจากที่เขายืนอยู่ในห้องนอนเฟยเอ๋อสักครู่ ไม่มีความอดทนมากพอ หันหลังเดินออกจากประตูไป
ตอนนี้เฟยเอ๋อลุกขึ้นมานั่ง : “คุณพูดว่า สองสามวันมานี้คุณทำอะไรลงไปบ้าง?”
เป่หมิงโม่หันกลับมา มองเฟยเอ๋อที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตานองหน้า น้ำเสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย : “ช่วงนี้บริษัทเกิดเรื่องนิดหน่อย….”
ตอนที่เป่หมิงโม่ยังไม่ได้พูดอะไรต่อ เฟยเอ๋อที่น้ำตานองหน้าแสดงความเย้ยหยันออกมา : “เหอะ….ออกไปดูการแสดงกับผู้หญิงถือเป็นเรื่องของบริษัทด้วยใช่ไหม? ทั้งวันทั้งคืนไม่กลับมา”
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้วมองเฟยเอ๋อ : “คุณรู้ได้อย่างไร ใครบอกคุณ?”
เฟยเอ๋อลุกลงจากเตียง เดินไปอยู่ตรงหน้าเป่หมิงโม่อย่างช้าๆ : “ใครบอกฉันไม่สำคัญ ที่สำคัญคือฉันเป็นคู่หมั้นคุณ สองสามวันก่อนที่จะแต่งงานกับฉัน แต่กลับไปอยู่กับโสเภณีข้างนอกทั้งคืนไม่กลับมา”
****
โสเภณี! ตอนที่เฟยเอ๋อตะโกนว่าโสเภณี สายตาของเป่หมิงโม่จ้องมองไปที่ดวงตากลมโตของเธอ
เขาไม่ยอมให้ใครก็ตามมาเรียกกู้ฮวนว่าโสเภณี แม้แต่เฟยเอ๋อซึ่งกำลังจะแต่งงานกับเขา ขณะนี้ลมหายใจเย็นชาของเขาทำให้ห้องนอนที่ดูอบอุ่นกลายเป็นหนาวเย็นเข้ากระดูกชั้นใน
เฟยเอ๋อเองก็ตกใจที่เห็นอารมณ์ของเขาเช่นนี้ เธอหยุดร้องไห้ ดวงตาแดงก่ำของเธอจ้องมองชายตรงหน้าด้วยความกลัว
เธอเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเป่หมิงโม่และกู้ฮวนเป็นอย่างดี เธอรู้ว่ากู้ฮวนเป็นชีวิตเลือดเนื้อของเป่หมิงโม่ที่ไม่อาจเข้าไปแตะต้องได้
เพียงแต่ตอนที่เป่หมิงโม่กับเฟยเอ๋อใกล้จะแต่งงาน เขากับกู้ฮวนยังคงออกงานร่วมกิจกรรมสาธารณะด้วยกัน แสดงให้เห็นว่าไม่เห็นเฟยเอ๋ออยู่ในสายตาสักนิด
อีกทั้งซูยิ่งหวั่นยังเอาหนังสือพิมพ์มาให้เธอดู….
สำหรับความหึงหวงและเกลียดชังของกู้ฮวนยิ่งมีมากขึ้น เพื่อเป่หมิงโม่แล้วเธอให้กำเนิดบุตรถึงสองคน แต่ผู้หญิงที่จะเป็นเมียแต่งของเป่หมิงโม่มีเพียงแค่เฟยเอ๋อเท่านั้น
แต่ป่หมิงโม่ที่ต่อหน้า ตอนนี้ดูน่าสะพรึงกลัว ทำให้เฟยเอ๋อหายใจไม่ออก
เธอรอการระเบิดของภูเขาไฟในใจของเป่หมิงโม่ระเบิดออกมา แต่ไม่กี่วินาทีเป่หมิงโม่กลับหันหลังเตรียมเดินออกจากห้องนอนของเธอไป
แต่ตอนที่เขาจะออกไป เขาพูดกับเฟยเอ๋อด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “ต่อไปคุณห้ามเอ่ยชื่อกู้ฮวนให้ได้ยินต่อหน้าฉันอีก หรือห้ามดูถูกเหยียดหยามเธอ วันนี้ฉันถือว่าเป็นความผิดครั้งแรกของคุณ จะไม่ถือโทษโกรธคุณ แต่ถ้ายังมีครั้งหน้า ฉันจะคิดบัญชีกับคุณทั้งของเก่าของใหม่รวมเข้าด้วยกัน”
เป่หมิงโม่พูดถึงตรงนี้แล้วหยุดสักครู่ก่อนจะพูดต่อ : “อีกสองวันจะถึงงานแต่งงาน สองวันนี้ให้คุณคิดให้ดีว่าจะเป็นเจ้าสาวหรือไม่ ถ้าไม่ก็รีบพูดมาก่อน อย่าทำให้ฉันต้องเสียเวลา”
จากนั้นเดินออกจากห้องนอนของเธอโดยไม่หันกลับมามองเธอ ปล่อยเธอไว้ในห้องนอนของเธอ แล้วปิดประตูอย่างแรง
หลังจากนั้นสักครู่หนึ่ง รถของเป่หมิงโม่ถูกสตาร์ท จากนั้นรถขับออกไปไกล จนได้แทบไม่ได้ยินเสียง
ขณะนี้เฟยเอ๋อนั่งอย่างอ่อนแรงคนเดียวบนพื้น น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอ แต่เธอก็ยังคงมองตรงไปยังพื้นกระดานสีแดงเข้ม
ตอนนี้เธอเหมือนว่าวที่พลิ้วไหลไปตามแรงลมพายุไม่หยุดหย่อน
ถ้าบังคับทิศทางตัวเองได้ไม่ดี ก็จะถูกลมพายุพัดกระหน่ำอย่างโหดเหี้ยม ทำให้เชือกเส้นเล็กๆ ที่ผูกมัดเธอไว้ขาดสะบั้น บางทีเธอยังอาจถูกฉีกขาดออกจากกัน บางทีอาจถูกทิ้งให้อยู่ในสถานที่หนาวเหน็บ
****
หยินปู้ฝันไปส่งหยางหยางที่บ้านเก่าเป่หมิง จากนั้นขับรถกลับไปที่บ้านกู้ฮวน
ขณะที่เข้าประตูไปก็พบเฉิงเฉิงนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟาคนเดียว
“เฉิงเฉิง แม่กับน้องไปไหนล่ะ?” หยินปู้ฝันถาม ก็ได้ยินเสียงน้ำจากในห้องน้ำดังออกมา
เขาหันกลับมานั่งที่โซฟา แล้วก็ทำเหมือนพี่ชายที่เอามือข้างหนึ่งวางพาดไว้บนไหล่น้อยๆ ของเฉิงเฉิง
“เฉิงเฉิง เป็นไงบ้างมีน้องสาวเพิ่มมาอีกหนึ่งคน รู้สึกอย่างไรบ้าง?” หยินปู้ฝันอยากถาม ตอนนี้มีน้องสาวเพิ่มมาอีกหนึ่ง อยากให้กู้ฮวนพิจารณาเรื่องแต่งงานอีกครั้ง
แน่นอนเฉิงเฉิงเข้าใจคำพูดของหยินปู้ฝันอย่างชัดเจน เธอรู้ชัดเจนว่าพ่อปู้ฝันมีความรู้สึกที่ดีกับแม่ของเธอ จนเกือบจะแต่งงานกัน
แต่เธอก็รู้ว่าแม้ว่าแม่จะมีความรู้สึกดีให้กับพ่อปู้ฝัน แต่ยังไปไม่ถึงขั้นตอนพูดเรื่องแต่งงาน
ที่จริงเฉิงเฉิงเองก็มีความเห็นแก่ตัวอยู่ นั่นก็คือหวังมาตลอดว่าในที่สุดพ่อและแม่จะได้เดินร่วมทางกัน นั่นถึงจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง
****
เฉิงเฉิงหันไปมองหยินปู้ฝัน : “จิ่วจิ่วน่ารักมาก หนูชอบ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่ได้มีความรู้สึกตื่นเต้นดีใจ
หยินปู้ฝันเลิกคิ้ว : แต่ฉันไม่เห็นหนูแสดงท่าทางดีใจมีความสุข หนูรู้สึกว่ามีน้องสาวแล้วหนูจะตกกระป๋องหรือเปล่า?”
เฉิงเฉิงส่ายหัว : “หนูเพียงแต่กำลังคิด ถ้าครอบครัวอยู่ด้วยกันก็จะดีมาก”
หยินปู้ฝันมีความสุขอยู่ในใจ ดูเหมือนระหว่างเขากับฮอนฮวนยังเล่นละคร พวกเด็กต่างก็อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์
เขาหายใจลึกๆ แล้วพูดออกไปอย่างช้าๆ : “อันที่จริงพวกลูกอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ฉันเองก็เต็มใจที่จะทำ”
เฉิงเฉิงเข้าใจความหมายของเขา แต่ก็แกล้งทำเป็นโง่ : “พ่อปู้ฝัน คุณมีวิธีที่ดีสามารถทำให้พ่อไม่ต้องแต่งงานกับคุณน้าเฟยเอ๋อ แต่มาแต่งกับแม่ไหม?”
หยินปู้ฝันได้ยินแทบกระอักเลือด เป่หมิงโม่ทำร้ายฮอนฮอนมาตั้งนาน แล้วทำให้ต้องพวกเขาทั้งสองกลับมาหวนคืนดีกัน อีกอย่างตัวเองก็มีใจให้ฮวนฮวน
เขามองเฉิงเฉิงด้วยสายตาลำบากใจ : “ฉันยังไม่มีวิธีดีๆ อะไรนั่นหรอก ไม่อย่างนั้นก็ให้ฮวนฮวนพิจารณาเลือกคนอื่นอีกครั้ง?”
เฉิงเฉิงพยักหน้า : “เลือกคนอื่นก็ได้ เป่หมิงซีหยางดูโทรทัศน์ จนถึงวันเสาร์วันอาทิตย์ดูรายการนัดบอร์ดของสถานี บางครั้งก็น่าหัวเราะ ไม่อย่างนั้นพาแม่ไปที่นั่นก็ได้”
หยินปู้ฝันเคร่งเครียดชั่วขณะ เด็กคนนี้ไม่เคยเห็นตัวเขาเป็นผู้สมัครให้แม่เธอเลือกเลยสักนิด
เรื่องการแต่งงานใหม่ของกู้ฮวน ดูท่าสำหรับหยินปู้ฝันแล้วเป็นเรื่องเกินกำลัง
เขาลูบใบหน้า ถามเฉิงเฉิงด้วยรอยยิ้ม : อ้อ ช่วงนี้ไม่เห็นพวกเธอ พวกเธอไปเที่ยวที่ไหนกันมา?”
เฉิงเฉิงหยิบแก้วน้ำจากโต๊ะขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ : “พ่อปู้ฝัน คำถามนี้คุณควรไปถามเป่หมิงซีหยาง ดูเหมือนเขาจะเป็นนักเล่าเรื่อง ใส่โน่นเติมนี่เล่าให้คุณฟังได้ทั้งวัน แต่ถ้าเรียกให้หนูเล่าเรื่องในวันที่ผ่านมาพวกนั้น ก็คงบรรยายได้ไม่แค่กี่คำ”
หยินปู้ฝันสงสัยเล็กน้อย : “หนูจะบรรยายว่าอย่างไร?”
“มหัศจรรย์ น่าจดจำ เซอร์ไพรส์ ล้มเหลว” เฉิงเฉิงพูดจบก็กระโดดลงจากโซฟา หันหลังวิ่งกลับไปที่ห้องนอนตัวเอง
ตอนนี้หยินปู้ฝันถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังคนเดียวบนโซฟา ศอกทั้งสองข้างของเขาวางอยู่หน้าตัก เอามือทั้งสองข้างเท้าคางไว้
ดูท่าในสายตาของเด็กๆ ตัวเองคงเป็นได้แค่พ่อบุญธรรม
****
เป่หมิงโม่ขับรถออกไป เฟยเอ๋อนั่งอย่างอ่อนแรงกับพื้น
ผ่านไปสักครู่ มีเสียงฝีเท้าจากชั้นล่างดังขึ้นมา จากนั้นเสียงฝีเท้านั้นค่อยๆ ดังเข้ามาใกล้ แล้วมาหยุดอยู่ที่ประตูห้องนอนเธอ
“ก๊อก…ก๊อก….” เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น
เฟยเอ๋อใช้มือเช็ดน้ำตาที่อยู่บนหน้าทั้งสองข้าง เธอเข้าใจว่าเป่หมิงโม่ตัดใจจากเธอไม่ได้จึงกลับมา
เธอจัดการอารมณ์และเสื้อผ้าของตัวเอง รีบวิ่งไปเปิดประตู
แต่ที่ทำให้เธอผิดหวังก็คือ เมื่อเธอเปิดประตูก็เห็นคนรับใช้คนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู ในมือของเธอถือถุงกระดาษสีเหลือง
“คุณเฟยเอ๋อ มีผู้ชายคนหนึ่งให้ฉันนำมาให้คุณ” ขณะพูดเธอส่งถุงกระดาษให้เฟยเอ๋อ
เฟยเอ๋อขมวดคิ้ว ในเมืองนี้นอกจากเป่หมิงโม่แล้ว เธอก็ไม่รู้จักคนอื่น แล้วทำไมถึงมีคนส่งของมาให้เธอ
เฟยเอ๋อถือถุงกระดาษ แล้วปิดประตูอีกครั้ง
เธอนั่งบนเตียง หยิบ USB สีขาวออกมาจากถุงกระดาษ
หยิบ USB ออกมาแล้ว เธอเองคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ ว่าใครเป็นคนส่งมาให้เธอ?
แล้วในนี้มันมีอะไร?
*****
ตอนที่เธอสงสัย โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เป็นเบอร์แปลกๆ แต่เธอดูเหมือนจะรู้สึกว่าโทรศัพท์นี้กับ USB อาจมีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกัน
“ฮัลโหล….”
ได้ยินเสียงต้นสายพูดด้วยเสียงเยาะเย้ย : “เฟยเอ๋อ พวกเราเจอกันอีกแล้ว….”
เฟยเอ๋อใบหน้าแข็งทื่อ จากนั้นเธอใช้มือป้องปากตัวเองไว้ทันที พูดเสียงเบาๆ : “เมื่อกี้ฉันได้รับ USB เป็นคุณใช่ไหมที่ส่งมา”
ปลายสาย ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่น มองเห็นโซฟาในห้องอาคารตระกูลเป่หมิงตรงข้าม นั่งไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ บนศีรษะเขาสวมหมวกเบสบอลสีดำ
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย : “เฟยเอ๋อ ช่วงนี้มีเรื่อง อยากให้คุณช่วยทำแทนฉันที”
เฟยเอ๋อขมวดคิ้ว : “สมองคุณมีปัญหาหรือไง ครั้งที่แล้วที่พวกเราเจอกันที่ฟาร์มนั้นทำให้ฉันเกือบตายเพราะคุณ ฉันยังจะต้องทำอะไรให้คุณอีก ขอบอกคุณไว้ก่อน ฉันทำลายหลักฐานที่สเปนไปแล้ว ตอนนี้คุณจะขู่ให้ฉันทำอะไรให้คุณ อย่าหวังว่าจะเป็นไปได้”
ชายสวมหมวกเบสบอลยิ้มอย่างเย็นชา : “โอ้? คุณแน่ใจว่าจะเป็นอย่างนั้นใช่ไหม? ที่จริงสิ่งของที่สเปนสำหรับฉันไม่คุ้มค่าที่จะเอ่ยถึงหรอก คุณดู USB ก่อนดีกว่า แล้วพวกเราค่อยมาเจรจา”
พูดจบ เขาก็วางสายโทรศัพท์
ชายสวมหมวกเบสบอลนั่งไขว่ห้าง มองโทรศัพท์ด้วยสายตาหรี่เล็ก : “ฉันไม่เชื่อคุณหรอกว่าจะไม่โทรศัพท์มา”
สีหน้าของเฟยเอ๋อเปลี่ยนไป ใน USB มีอะไรกันแน่ ถึงทำให้ชายคนนั้นมั่นใจอย่างนี้ว่าเธอต้องไปหาเขา
แต่ที่นี่เธอไม่มีคอมพิวเตอร์ ตอนที่ร้อนรนกระวนกระวายใจอยู่นั้น เธอนึกถึงห้องหนังสือของเป่หมิงโม่มีคอมพิวเตอร์อยู่เครื่องหนึ่ง