ตอนที่ 577 หน้าที่ของพี่ชาย
ตอนที่เขากัดฟันเตรียมรับการโดนเฆี่ยนนั้น กลับได้ยินเป่หมิงโม่บอกฉิงฮัวว่า “ตั้งแต่พรุ่งนี้ นายเชิญครูแต่ละวิชาที่เก่งที่สุดมาที่บ้าน ให้พวกเขาพยายามอย่างสุดความสามารถ ดึงคะแนนหยางหยางขึ้นถึงอันดับหนึ่งก่อนสอบปลายภาค”
ไม่นะ ไอ้พ่อนกจะหาครูสอนพิเศษเพื่ออัพเกรดตน ยอมโดนตียังดีกว่าอีก⊙﹏⊙!
***
หยางหยางพาความกลัวในใจตามฉิงฮัวไปพบเป่หมิงโม่ที่ห้องโถง
มองดูเป่หมิงโม่ที่กำลังดูเอกสารการเรียนของตน ตอนแรกคิดว่าวันนี้หนีไม่พ้นไม้เรียวแน่
แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึง สิ่งที่ทำให้เขากลัวกว่าการโดนตี— — ครูสอนพิเศษ
คุณว่าเชิญก็เชิญสิ แล้วยังจะให้ทำเรื่องที่ไม่สามารถทำสำเร็จได้อีก การสอบปลายภาคครั้งนี้ต้องได้ที่หนึ่งของห้อง!
แม้จะเคี้ยวหนังสือทั้งเล่มแล้วยัดเข้าไปในสมองน้อยนิดของเขา ก็ยากที่จะสำเร็จ ไม่รู้ว่าไอ้พ่อนกคิดยังไงจริงๆ หรืออาจจะเป็นวิธีใหม่ที่ไอ้พ่อนกใช้จัดการเขาก็ได้
ดูท่า การใช้ชีวิตในบ้านเป่หมิงต่อจากนี้จะลำบากแล้วล่ะ
แม้จะเป็นแบบนั้น หยางหยางก็ยังไม่ยอมละทิ้งความคิดที่จะชนะหยางหยางให้ได้
*
กู้ฮอนและเฉิงเฉิงพยายามมาครึ่งวัน ในที่สุดก็ทำให้ห้องทั้งหมดสะอาดสะอ้าน
แต่ว่าเธอก็ถูกปัญหาตรงหน้าทำให้ไม่สบายใจขึ้นมาทันที
นั่นก็คือจะแบ่งห้องกันยังไง
แม้แอนนิกับกู้ฮอนจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก แต่คนที่มาไกลยังไงก็เป็นแขก มารยาทจำเป็นก็ควรมี เพราะฉะนั้นเธอใช้ห้องนอนของหยางหยางทำเป็นห้องรับแขกให้กับแอนนิ
ตอนนี้เหลือเพียงห้องนอนของตนห้องเดียว แม้จะพักได้ถึงสามคน แต่เฉิงเฉิงและจิ่วจิ่วยังเด็กเกิน นอนด้วยกัน กลัวจะทำร้ายโดนทารกน้อย
ที่สำคัญตนและทารกน้อง ห่างกันนานมากแล้ว ในฐานะที่เป็นแม่ ยังมีอะไรที่สำคัญกว่าการได้อยู่กับลูกตัวเองอีกล่ะ?
จิตใจละเอียดอ่อนอย่างเฉิงเฉิงมองออกว่าแม่กำลังกังวลอะไร เขายื่นมือน้อยๆชี้ไปที่โซฟา “คุณแม่ครับ พรุ่งนี้น้องสาวกลับมาแล้ว แม่นอนกับเธอเถอะครับ ผมนอนที่นี่ก็พอครับ”
กู้ฮอนรีบโบกมือ “ลูกรัก จะให้ลูกนอนที่นี่ได้ยังไงกันล่ะ? ลูกกับน้องต่างก็เพิ่งกลับมาอยู่กับแม่ทั้งนั้นนะ”
เฉิงเฉิงยิ้มให้กับกู้ฮอน “แต่ผมเป็นพี่ชายนะครับ พี่ชายต้องเสียสละให้น้องสิครับ คุณแม่อย่าห่วงเลยครับ”
กู้ฮอนนั่งลง จับหัวเฉิงเฉิงเบาๆ ยิ้มชื่นใจบนใบหน้า “ลูกรักโตแล้วจริงๆ มีความเป็นพี่ชายแล้ว”
พูดถึงนี่ เธอโอบเฉิงเฉิงไว้ในอ้อมอกอย่างซึ้งใจ “เฉิงเฉิง แม่จากลูกไปตั้งแต่ลูกยังเด็กมาก แม่ขอโทษจริงๆ หลังจากนี้ไปแม่จะชดเชยดูแลลูกดีๆดีไหม”
มือน้อยๆของเฉิงเฉิงโอบกอดกู้ฮอนแน่น ตาเขาก็เริ่มแดง “แม่ครับ ผมรู้ว่าตอนนั้นที่ทิ้งผมไปแม่ลำบากใจ ผมไม่เคยโทษแม่เลย และผมก็ไม่ต้องการให้ชดเชย แค่ได้อยู่กับแม่ผมก็ดีใจมากแล้วครับ ตอนนี้น้องยังเล็ก ยังต้องการให้แม่ดูแล”
ตอนนี้ กู้ฮอนก็เริ่มคิดถึงหยางหยาง ห้ามไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “ถ้าตอนนี้หยางหยางอยู่ด้วยจะดีแค่ไหน แบบนี้พวกเราก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว”
ขณะเดียวกัน หยางหยางกลับจากห้องโถงมายังห้องนอนตน ตอนนี้อารมณ์เขาย่ำแย่กว่าเมื่อกี้อีก
เขามอง ‘เชี่ย’ ที่เดินตามเขาตลอด แล้วล้มตัวลงบนเตียง ในเมื่อหนีไม่พ้นแล้ว งั้นก็ต้องเผชิญหน้ากับความจริงนี้แล้ว
คิดถึงนี่ เขาก็ดึงผ้านวมปิดหน้าหลับปุย
***
วันที่สอง กู้ฮอนและเฉิงเฉิงตื่นแต่เช้า
ไม่มีขี้เซาหยางหยาง เหมือนเวลากิจกรรมช่วงเช้าของพวกเขาเร็วขึ้นไม่น้อย
โดยเฉพาะกู้ฮอน สีหน้าเธอวันนี้ดีใจอย่างบอกไม่ถูก
ใช่แล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้เจอทารกน้อยแล้ว
“ติ๊ดติ๊ด……” เสียงรถที่ดังมาจากด้านนอกหน้าต่าง นั่นคือหยินปู้ฝันขับรถมารับพวกเขาไปสนามบิน
*
ไม่ช้า กู้เปิดประตูรถนั่งเข้ามา เฉิงเฉิงก็นั่งด้านหลังแล้วปิดประตูรถอย่างกระฉับกระเฉง แล้วเรียก “อรุณสวัสดิ์ครับ พ่อปู้ฝัน”
หยินปู้ฝันมองแม่ลูกทั้งสอง เรียกได้ว่าแต่ตัวทางการเลยทีเดียว “อรุณสวัสดิ์เฉิงเฉิง กู้ฮอน วันนี้พวกคุณเรียกได้ว่าแต่งตัวชุดทางการเลยนะเนี่ย”
“แน่นอนครับ วันนี้น้องสาวกลับมา วันนี้ผมกับแม่เตรียมตัวแต่เช้าเลยครับ” กู้ฮอนยังไม่ทันพูด เฉิงเฉิงก็ชิงตอบก่อน
“เอ๋?” หยินปู้ฝันขมวดคิ้วมองในรถ “หยางหยางทำไมไม่มาล่ะ คงไม่ใช่ยังนอนขี้เซาอยู่หรอกนะ นี่ก็ใกล้ถึงเวลารับไฟล์ทแล้วนี่นา”
กู้ฮอนหันมองเขาแล้วตอบ “ไม่ต้องรอเขาแล้ว แค่เราสองคนไปรับค่ะ”
“งั้นคงไม่ได้หรอก ยังไงก็ไปรับน้องสาว เขาเป็นพี่ชายต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ขี้เกียจจริงๆ ทีหลังต้องเสียเวลาสอนเขาแล้วล่ะ” หยินปู้ฝันพูด สตาร์ทรถแล้วขับมุ่งหน้าไปสนามบิน
กู้ฮอนถอนหายใจเบาๆ “ทีหลังสอนเขาก็ต้องเป็นหน้าที่ของเป่หมิงโม่แล้วล่ะ……”
นี่แฝงอะไรในคำพูดนี่หน่า
“กู้ฮอน ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ?” หยินปู้ฝันขับรถไปแล้วถาม
“พ่อปู้ฝันครับ หลังจากนี้หยางหยางก็อยู่ที่บ้านคุณปู่คุณย่าแล้ว ผมอยู่กับแม่ที่นี่ครับ” เฉิงเฉิงพูด
พูดถึงหยางหยางทีไร อารมณ์ดีๆของกู้ฮอนก็ลดน้อยลงทันที “ปู้ฝัน อย่าถามอีกเลย รอรับจิ่วจิ่วกลับมาฉันค่อยบอกคุณ”
กู้ฮอนไม่อยากพูดเรื่องของหยางหยาง เขาก็ไม่ถามอีก ตั้งใจขับรถไปสนามบิน
สนามบินเมืองA มีเครื่องบินนับร้อยลำบินขึ้นลงที่นี่
นึกถึงตอนที่ไปซาบาห์เหมือนเป็นแค่เรื่องของเมื่อวานนี้เอง
เงยหน้าขึ้นมองไฟล์ทบินที่แขวนอยู่ภายในอาคาร เครื่องที่มาจากซาบาห์ยังอีกชั่วโมงกว่าถึงจะถึง
พวกเขาเลยหานั่งในร้านกาแฟที่ใกล้ประตูทางออก
“พวกคุณยังไม่ได้ทานข้าวใช่ไหมครับ รับลูกสำคัญ แต่ร่างกายตัวเองสำคัญกว่านะ” หยินปู้ฝันพูด ยกมือเรียกพนักงานแล้วสั่งแซนด์วิชและนมร้อนให้กับกู้ฮอนและเฉิงเฉิง
การรอคอยนานมา กู้ฮอนทานอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แล้วยังคอยมองนาฬิกาและไฟล์ทบินที่สับเปลี่ยน
หยินปู้ฝันดูท่าทางกู้ฮอนแบบนี้ แล้วยิ้ม “กู้ฮอน ผมเคยเห็นคนรับไฟล์ทตั้งมากมาย แต่ไม่มีใครเหมือนคุณเลย ยังไม่ถึงห้านาทีก็ดูแล้วเจ็ดแปดรอบแล้ว คุณทานไปเถอะไม่ต้องห่วง ยังมีเวลาอีกเยอะ”
กู้ฮอนยิ้มอย่างเขิน “ทำไงได้ล่ะคะ ฉันกับทารกน้อยห่างกันนานมากแล้ว ตอนนี้สามารถอยู่ด้วยกันได้แล้ว นี่เป็นสิ่งที่ฉันรอคอยมาตลอด”
***
เวลาผ่านไป การรอคอยของกู้ฮอนใกล้เข้ามาทุกที
จนมีเสียงประชาสัมพันธ์ดังขึ้น “จากซาบาห์ถึงเมืองAไฟล์ทบินที่XXXXได้ลงจอดอย่างปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย เชิญญาติมิตรรับไฟล์ทเตรียมพร้อมรับไฟล์ท”
กู้ฮอนได้ยินประกาศ เก็บความรู้สึกตนไม่อยู่ รีบออกมาจากร้านกาแฟ ยืนหน้าประตูทางออก ตั้งหน้าตั้งตารอคอยร่างเล็กที่ตนคิดถึงทุกวันคืนปรากฏตัว
หยินปู้ฝันก็พาเฉิงเฉิงมาถึงข้างกู้ฮอน
ไม่นาน ก็มีคนออกมาจากทางออกแล้ว คนเริ่มออกมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ
กู้ฮอนตั้งสมาธิ สายตาไม่ละจากการค้นหาแอนนิและจิ่วจิ่วในฝูงผู้คน
แต่ว่า ผู้คนที่ออกมาเริ่มซาลงแล้ว กู้ฮอนเริ่มมีความผิดหวัง
หรือว่าแอนนิและจิ่วจิ่วไม่ได้นั่งมาไฟล์ทนี้ หรือพวกเขาอาจจะขึ้นเครื่องไม่ทัน……
กู้ฮอนหันหลัง ท่าทางเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ
หยินปู้ฝันยื่นมือตบบ่าปลอบเธอ
“มาม๊า……มาม๊า……”
ขณะที่กู้ฮอนถอดใจจะกลับไปนั้น ด้านหลังของเธอ เสียงนุ่มนิ่มกำลังเรียกเธอ
ใช่เธอ! ทารากน้อยของฉันกลับมาแล้ว!
กู้ฮอนเงยหน้า ความมืดหม่นหายไปในพริบตา เธอหันกลับไปมองเห็นแอนนิมือหนึ่งอุ้มจิ่วจิ่ว อีกมือเข็นรถเข็นกระเป๋าเดินทางเดินมาทางพวกเขา
วันนี้จิ่วจิ่วใส่ชุดสีชมพูลายดอกลูกไม้ รองเท้าสีแดงสดคู่หนึ่งสวมอยู่ที่เท้า
บนหน้าที่ตุ้ยนุ้ยของเธอ ตาที่โตเหมือนตุ๊กตาสว่างแป๋วๆ
เธอกำลังยกมือน้อยอันอ้วนกลมของเธอให้กับกู้ฮอน
“ทารกน้อย แม่อยู่นี่……” กู้ฮอนก็โบกมืออย่างดีใจ
แอนนิยิ้มพยักหน้าให้กับกู้ฮอน แล้วหยุดเดิน นั่งลงแล้วปล่อยจิ่วจิ่วลงพื้น “ทารกน้อย ไปหามาม๊าเร็ว”
จิ่วจิ่วพยักหน้า วิ่งเรียกไปอย่างดีใจ “มาม๊า” มือน้อยกางออกช่วยทรงตัว วิ่งเข้าหากู้ฮอนทีละก้าวละก้าว
กู้ฮอนยิ้มทั้งน้ำตาแล้วนั่งลง กางแขนรอลูกสาวตน
เพื่อรอการพบหน้ากันของแม่ลูกครั้งนี้ เธอรอมาสองปีเต็มๆ แม้แต่ก่อนเธอก็เคยอยู่กับจิ่วจิ่วที่ซาบาห์ แต่ยังไงซะนั่นก็บ้านนอกต่างเมือง
“ทารกน้อยของฉัน ให้มาม๊าดูหนูดีๆสิ” กู้ฮอนอุ้มจิ่วจิ่วขึ้น ดีใจมากจริงๆ มองยังไงก็ไม่พอ ยังไงก็หอม(แก้ม)ไม่พอ
หยินปู้ฝันจูงมือเฉิงเฉิงยืนข้างเธอ พวกเขาเห็นแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเช็ดตาที่เริ่มแดงด้วย
คนที่รู้เรื่องราวของแม่ลูกคู่นี้ ก็คงจะดีใจด้วยกับการพบกับใหม่ของพวกเขา
แอนนิรีบเช็ดตาตัวเอง แล้วเข็นรถไปข้างกู้ฮอนยิ้มพูด “กู้ฮอน หน้าที่ของฉันก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว”
“ขอบคุณมากนะแอนนิ ที่ผ่านมาเธอดูแลจิ่วจิ่วลำบากแย่เลย ที่ช่วยทำหน้าที่แม่แทนฉัน” กู้ฮอนตอนนี้น้ำตาท่วมหน้าไปหมดแล้ว
สำหรับเธอแล้ว แอนนิเป็นผู้มีพระคุณสำหรับเธอและจิ่วจิ่ว ยื่นมือช่วยในตอนที่พวกเธอลำบาก
“กู้ฮอน อย่าพูดแบบนี้เลย ฉันก็ยังคงพูดคำเดิม ถ้าไม่มีจิ่วจิ่วคอยอยู่ข้างกายฉัน ให้กำลังใจฉัน วันนี้ฉันจะเป็นยัง นึกภาพไม่ออกเลย”
***
เวลารวมตัว มักจะเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์เรามีความรู้สึกแข็งแกร่งที่สุด กู้ฮอนและแอนนิก็เช่นกัน