ตอนที่ 641 แต่ละคนต่างมีความเห็นต่างกัน
เป่หมิงโม่ก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ของหยางหยาง ระหว่างเขากับกู้ฮอนเกิดเรื่องมากมายขึ้น ก็เพราะกู้ฮอนทำเพื่อหยูฟืน
พอเธอลงแรงลงใจไปเพื่อพวกเขา ได้กลับมาก็คือความหลอกลวงและจุดจบที่โหดร้าย
“ลูกพูดไม่ผิด แม่ของลูกเป็นแม่ที่ดีจริง”เป่หมิงโม่ก็รู้สึกจากใจ
หยางหยางเงยหน้ามองเป่หมิงโม่ ดูน่าเหลือเชื่อ ไอ้พ่อนกคนนี้ที่เอาแต่รังแกแม่ วันนี้พูดออกมาแบบนี้ได้ หรือว่าพระอาทิตย์จะขึ้นจากทิศตะวันตก?
เป่หมิงโม่ยืนขึ้น อุ้มหยางหยางขึ้นมาที่เตียง“วันนี้ย่าพูดเกินไป ทำร้ายจิตใจแม่ แต่ว่าลูกพูดแบบนี้กับเธอไม่ได้เข้าใจไหม ที่จริงเธอก็ดีกับลูก ถึงแม้ปกติจะเข้มงวดกับลูกไปหน่อย แค่เพราะเฉิงเฉิงออกไปจากนี่แล้ว ลูกก็คือหลานของเธอ เธออยากให้ลูกกับเฉิงเฉิงเก่งเหมือนกัน เข้าใจไหม?”
หยางหยางขมวดคิ้ว พระอาทิตย์ขึ้นมาจากทิศตะวันตกจริงด้วย ไอ้พ่อนกยังพูดกับแม่ดีๆไม่กี่คำ ก็พูดแทนย่าอีกแล้ว
เขาส่ายหัว“ย่ามองผมไม่ดีเท่าเฉิงเฉิง เอาแต่สร้างเรื่อง และหาความผิดให้ผม”
เป่หมิงโม่ก็รู้ว่าเจ้าเด็กหยางหยางนี่ แน่ใจเรื่องอะไรแล้วก็จะทำให้สุด ถ้ามีคนว่ากู้ฮอนไม่ดี เขาก็จะต่อต้านกับเขาแบบนี้
ตอนนี้เขาเป็นปรปักษ์กับป้าซินแล้ว ถ้าจะให้เปลี่ยนความคิดก็คงต้องใช้เวลา
แต่ว่าพอคิดถึงท่าทีของป้าซินวันนี้ ……
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้ว เธอเข้าใจผิดกู้ฮอนอย่างฝังลึกมากไป ดูเหมือนว่าต้องหาโอกาสคุยกับเธอดีๆ
“โอเค ตอนนี้ลูกนอนได้แล้ว มีอะไรเราค่อยคุย”เป่หมิงโม่พูดจบก็หมุนตัวออกไปจากห้องหยางหยาง
*
เฟยเอ๋อเห็นคนในห้องโถงต่างไปกันเกือบหมด นี่คือโอกาสดีๆที่เธอจะแสดงอาการต่อหน้าเจียงฮุ่ยซิน
เธอหมุนตัวออกไป แป๊บหนึ่งก็ถือแก้วหนึ่งเดินไปตรงหน้าเจียงฮุ่ยซิน
“ท่านนางเป่หมิง ใจเย็นๆนะคะ ชาแก้วนี้ฉันชงเองเลยค่ะ”
***
เจียงฮุ่ยซินรับชาของเฟยเอ๋อ พยักหน้า“ตอนนี้มีแต่เธอที่เชื่อฟังที่สุดแล้ว มา นั่งข้างๆฉัน”
เฟยเอ๋อยิ้ม นั่งลงไปข้างๆเจียงฮุ่ยซิน“ท่านนางเป่หมิง สุดท้ายสักวันเด็กๆจะเข้าใจความพยายามของคุณเองนะคะ”
เจียงฮุ่ยซินดื่มไปหนึ่งคำ จากนั้นก็ถอนหายใจยาว“เห้อ……หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น แค่ยัยผู้หญิงคนนั้นที่แสดงเก่งเกินไป เด็กๆไม่รู้เรื่องก็พอที แต่นี่โม่ก็ยังพูดแทนเธออีก เขาลืมแล้วหรือไงว่าเมื่อก่อนฉันทำอะไรบ้างให้เขา”
“ป้าซิน ป้าดีต่อผม ผมจำไว้ในใจเสมอมา”เป่หมิงโม่พูดพร้อมลงมาข้างล่าง
เฟยเอ๋อได้ยินเสียงเป่หมิงโม่ สีหน้าก็กังวล จากนั้นรีบลุกขึ้น เงยหน้ามองบันได
เป่หมิงโม่มาที่ห้องโถง เดินไปตรงหน้าเจียงฮุ่ยซิน“ป้าซิน ป้าเข้าใจผิดกู้ฮอนมากไปแล้วนะครับ ก่อนนี้ผมไม่ใช่แค่พูดดีๆกับเธอ แต่ผมยังสืบหาผลมาด้วย ดังนั้น ผมหวังว่าต่อไปป้าจะมีท่าทีที่ดีกับเธออีกหน่อย แบบนี้ เด็กๆจะได้ไม่โกรธป้า”
เจียงฮุ่ยซินมอง เป่หมิงโม่ด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก“โม่ ป้าจำเป็นต้องดีต่อเธอด้วยเหรอ จ่ายเงินไปของก็ต้องได้มาสิ ตอนแรกป้าทำขนาดนี้ก็เพื่อคุณ ตอนนี้คุณไม่ใช่แค่ไม่ดีต่อฉัน แต่ยังว่าป้าด้วย ใช่ ในเมื่อคุณบอกว่ามันเป็นจริง แล้วยังไงล่ะ?หรือป้ายังต้องบริการเธอดีๆอีกเหรอ?ส่วนเฉิงเฉิงกับหยางหยาง พวกเขาจะอาป้าก็ดี ไม่เอาเอาก็ได้ ป้าไม่สน ตอนนี้ป้าแน่ใจแค่ว่ายี่เฟิงเป็นหลานที่ดีคนหนึ่ง”
เป่หมิงโม่พยักหน้า“ป้าซิน ในเมื่อพูดถึงตรงนี้แล้ว ผมแค่อยากพูดกับป้า เป่หมิงยี่เฟิงหลานคนนั้น ไม่ใช่เขาแบบเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขาถูกคนหลอกใช้ ป้ารีบไปเตือนเขาหน่อยก็น่าจะดี”
“เหอะ มีคนหลอกใช้เขา หรือว่าคุณกลัวเขาจะเอาตระกูลเป่หมิงในมือคุณไป?โม่ อย่าคิดว่าคนแก่อย่างฉันวันๆอยู่แต่บ้าน เรื่องภายนอกจะไม่รู้อะไรเลย”พูดถึงตรงนี้ ก็หมุนตัวหยิบหนังสือพิมพ์มาจากโต๊ะน้ำชา
“บนนี้พูดไว้ชัดเจนดี โม่ ยี่เฟิงเป็นหลานที่ดี ถ้าพวกคุณอาหลานร่วมมือกัน ก็จะทำให้ตระกูลเป่หมิงก้าวหน้ามากขึ้น แต่ถ้าพวกคุณแต่ละคนยัยแค้นกันอย่างนี้ ไม่ช้าก็เร็วตระกูลเป่หมิงก็จะพ่ายแพ้อยู่ในมือพวกคุณสองคน คุณท่านเพิ่งจะฝังไป ป้าไม่อยากให้เขาเห็นตระกูลเป่หมิงที่สร้างมาเองกับมือพังอยู่ในมือพวกคุณไวขนาดนี้!”
เจียงฮุ่ยซินพูดจบ เอาแก้วชาในมือวางลงไปเสร็จ ก็ลุกขึ้นเดินไปที่บันได
เฟยเอ๋อเห็นสถานการณ์ ก็ตามไปติดๆ สองมือประคองเจียงฮุ่ยซิน ทั้งสองขึ้นไปข้างบน
เป่หมิงโม่มองทั้งสองคน ก็ถอนหายใจเบาๆ
*
เป่หมิงยี่เฟิงพาพ่อกลับไปส่งที่ทาวน์เฮาส์เสร็จ ในใจก็สับสนอย่างมาก
ด้านหนึ่งก็รู้สึกเศร้าที่ปู่เสีย อีกด้านหนึ่งก็โกรธที่ปู่ไม่เอาตระกูลเป่หมิงให้พ่อ
ถึงแม้ตระกูลเป่หมิงจะเป็นปู่ที่สร้างขึ้นมา แต่ว่าพ่อก็ออกแรงขยันไปไม่น้อยเช่นกัน ถือได้ว่ามีส่วนช่วยสร้างกันมา
แค่ภายหลังการปรากฏตัวของเป่หมิงโม่ ความเป็นพันธมิตรของปู่กับพ่อก็ถูกทำลายลง
พอต่อมา การเคลื่อนไหวของเป่หมิงโม่ก็มากขึ้นเรื่อยๆ บีบเป่หมิงเฟยหย่วนออกไป จากนั้นก็ดูแลจัดการตระกูลเป่หมิง จนถึงตอนนี้ก็กลายเป็นควบคุมตระกูลเป่หมิงไว้
ถึงแม้ตอนนั้นเป่หมิงยี่เฟิงยังเรียนอยู่ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้อะไร แค่ตอนนั้นเขาไม่สนใจอะไรตระกูลเป่หมิงมาก
แต่ตอนนี้เขากลับลงมือกับตระกูลเป่หมิง ก็เพื่อระบายความโกรธนี้แทนพ่อ
***
เป่หมิงยี่เฟิงแยกออกมาจากพ่อและแม่ กลับไปที่พักของตัวเอง อยากจะชนะเป่หมิงโม่ถึงแม้จะพูดว่าไม่ แต่ว่าจะตาต่อตาฟันต่อฟันต่อเขาจริงๆนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย
ระหว่างทางกลับไปก็คิดไตร่ตรองว่าตัวเองจะควรทำยังไง
ตอนนี้มีโอกาสดีๆอยู่ตรงหน้าตัวเอง นั่นคือก่อนหน้านี้ที่เขาทำข้อตกลงกับบริษัทเจียเม้าได้แล้ว
ถ้าหากพูดว่าเมื่อก่อนเขาแค่คนธรรมดาไม่มีชื่ออะไร คนในตระกูลเป่หมิงต่างคิดว่าตัวเองก็แค่ทายาทรุ่นที่สอง แต่ตอนนี้คะแนนแขวนไว้ตรงนั้นก็เลยไม่มีพูดถึงอีก
จัดการกับตระกูลเป่หมิงต้นใหญ่นี้ ตอนนี้ก็ต้องเริ่มจากฝ่ายออกแบบต่ำๆ
ต้องเริ่มจากฝ่ายออกแบบต่ำๆ เป่หมิงยี่เฟิงก็คิดถึงคนหนึ่ง เหล่าหวีหัวหน้าฝ่ายออกแบบ
พูดตามตรง ที่จริงความประทับใจของเป่หมิงยี่เฟิงต่อเหล่าหวีถือว่าโอเค ถึงแม้เขาดูเหมือนจะหูเบา ไม่มีความคิดเห็นของตัวเองเกินไป
แต่ก็ถือว่ามีความสามารถ งานออกแบบของเขาเป่หมิงยี่เฟิงก็เคยเห็นมาก่อน ถูกใช้ออกมาพูดได้แค่ว่าสไตล์ของเขาไม่ตรงตามที่ประธานหลัวต้องการ
ไม่ต้องพูดถึงเป่หมิงโม่ก็ไม่ใช่ว่าใช้ของใครก็ได้ สามารถอยู่ในที่ที่มีแต่คนเก่งๆแบบตระกูลเป่หมิงได้ และยังรับผิดฝ่ายออกแบบมาได้ตั้งหลายปี ความสามารถก็ไม่เลวแล้ว
ถ้าหากเขาสามารถนำออกไปใช้ได้นั่นก็ดีมาก ……
เป่หมิงยี่เฟิงคิดถึงตรงนี้ ก็หยิบโทรศัพท์โทรหาเหล่าหวี
ตอนนี้เหล่าหวีเพิ่งมอบหมายงานให้คนอื่นๆในฝ่ายออกแบบ ถึงแม้ยอมรับภาพออกแบบของเป่หมิงยี่เฟิง แต่ว่ามีบางอย่างยังต้องทำให้สมบูรณ์แบบ งบประมาณของงานก็ยังต้องการตรวจสอบต่อไปด้วย
เขาหยิบโทรศัพท์ เห็นเป็นสายของเป่หมิงยี่เฟิง ก็แปลกใจนิดๆ วันนี้ไม่ใช่ว่าเป็นวันฝังศพของประธานคนก่อนของตระกูลเป่หมิงเหรอ ตอนนี้ควรจะยุ่งอยู่กับเรื่องพิธีสิ ทำไมโทรหาตัวเองได้?
เขาขมวดคิ้ว รีบกลับไปที่ห้องทำงานตัวเอง แล้วรับสาย“คุณชายเป่หมิง มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
เป่หมิงยี่เฟิงยิ้ม“หัวหน้าหวี เลิกงานแล้วมาหาผมที่ร้านตุ๋นเซียง ผมมีเรื่องจะปรึกษาคุณพอดี”
เหล่าหวีได้ยินก็คาดไม่ถึง รีบพูด“คุณชายเป่หมิง มีอะไรกำชับผมเดี๋ยวผมทำให้ก็พอแล้วครับ ไม่ต้องออกแรงท่าน”นั่นคือ เป่หมิงยี่เฟิงที่รู้จักในนามผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา แต่ว่าความจริงเขาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสอง แล้วยังเป็นคนในตระกูลเป่หมิงอีก ตัวเองก็แค่พนักงานของเขาเท่านั้น
“หัวหน้าหวี คุณคือผู้อาวุโสของตระกูลเป่หมิง อย่าปฏิเสธสิ ได้ยินว่าร้านตุ๋นเซียงมีเมนู‘อายุมั่นโชคมั่งมี’ที่ดังมากเราไปชิมกันเถอะ เคนะ ตามนี้ ผม รอคุณที่ห้องชูไซ่เป่หมิงยี่เฟิงไม่รอให้เหล่าหวีพูดอะไร ก็วางสายไปเลย ขับรถไปที่เมือง
“คุณชายเป่หมิง……”เหล่าหวียังอยากพูดอะไร แต่เขาก็ได้ยินเสียงสายไม่ว่างพูดเข้ามา
เขาเก็บโทรศัพท์ ถอนหายใจเบาๆ
มันชิมเมนู‘อายุมั่นโชคมั่งมี’ที่ไหนล่ะ ที่จริงในใจเขาเข้าใจดี นี่คืองานเลี้ยงที่หงเหมินอย่างหนึ่ง
ตอนนี้ท่านปู่เป่หมิงเสียแล้ว คนของตระกูลเป่หมิงจะต้องแบ่งหุ้นส่วนของบริษัทกันแน่
เป่หมิงโม่ดูท่าทางมีอำนาจ แต่ว่าตั้งแต่เป่หมิงยี่เฟิงเข้ามา รูปแบบก็เริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยซึมซับอิทธิพลรอบๆด้านขึ้นมา
เจ้านายให้ไป จะไม่ไปก็ไม่ได้ เหล่าหวีเอาข้อมูลในมือเก็บเสร็จ ก็ปิดห้องทำงานของตัวเอง
*
ร้านตุ๋นเซียงอยู่ที่ตัวเมืองของเมืองA ที่มีชื่อที่สุดก็คือ‘อายุมั่นโชคมั่งมี’เรียกอีกอย่างว่าเมนู ‘พระกระโดดกำแพง’
ทุกวันต่างมีคนดังมากันเยอะมาก ดังนั้นอยากมาจองโต๊ะที่นี่ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
***
เป่หมิงยี่เฟิงขับรถแป๊บหนึ่งก็ถึงร้านตุ๋นเซียง เขาลงจากรถ พนักงานสาวต้อนรับด้านหน้าก็ยิ้มแล้วเดินเข้ามา“คุณชายเป่หมิง โต๊ะที่ท่านจองพร้อมแล้วค่ะ ตามฉันมาได้เลยค่ะ”
ตระกูลเป่หมิงมีอิทธิพลมากในเมืองA พอเขาโทรหาเหล่าหวีเสร็จ ก็โทรหาเจ้าของร้าน
เจ้าของร้านจิตใจเบิกบานมีความสุขมาก ปกติคนของตระกูลเป่หมิงเชิญยากมาก วันนี้ได้ยินว่าเป็นคุณชายเป่หมิงจะมาจองโต๊ะที่นี่ ก็ถือว่าไว้หน้าพวกเขามาก
ดังนั้นจึงรีบให้ลูกน้องนำแขกที่กำลังทานข้าวในห้องชูไซ่เชิญไปที่ห้องวีไอพีห้องอื่น จากนั้นก็ดูพนักงานทำความสะอาดด้านในให้สะอาดใหม่อีกครั้งด้วยตัวเอง
พอเป่หมิงยี่เฟิงถูกพนักงานสาวต้อนรับมาที่ ห้องชูไซ่ เจ้าของร้านก็มีใบหน้ายิ้มแย้ม“เหอะเหอะ คุณชายเป่หมิง ท่านเป็นแขกที่มีเกียรติมาก วันนี้จะสั่งอะไรจากร้านผมครับ?”
เป่หมิงยี่เฟิงดึงเก้าอี้มานั่ง เจ้าของร้านยื่นเมนูให้เขาเองกับมือ
เป่หมิงยี่เฟิงไม่มองสักนิด ได้แต่โบกมือ“ได้ยินว่า‘อายุมั่นโชคมั่งมี’ของพวกคุณไม่เลว งั้นเอามาอย่างหนึ่ง อย่างอื่นคุณก็ดูแล้วจัดมาละกัน ผมมีแค่สองคน”
เจ้าของร้านพยักหน้า“เป่หมิงยี่เฟิงกรุณารอก่อน ผมจะให้พ่อครัวเตรียมให้ท่าน”พูดจบ ก็หมุนตัวหยิบเหล้าขาวขวดหนึ่งจากพนักงานที่ตามมาข้างหลังวางลงที่โต๊ะ“คุณชายเป่หมิง นี่คือเหล้าดีที่ร้านเล็กๆเอาเข้ามาครับ ผมให้ท่าน ต่อไปช่วยกรุณาพวกเราด้วยนะครับ”
เป่หมิงยี่เฟิงมองเหล้า โบกมือแล้วพูด“วันนี้ผมมาคุยธุระที่นี่ ความปรารถนาดีของคุณผมรับไว้แล้ว แต่ว่าเหล้านี่ไม่จำเป็นต้องดื่มหรอก”
เจ้าของร้านพยักหน้า หยิบมาแล้วก็พาพนักงานออกมาจากห้องวีไอพีด้วย