ตอนที่ 650 ความสามารถของพ่อที่ซ่อนไว้
เขาปล่อยหนังยางรัดไปที่พื้น จากนั้นมองพื้นรอบๆ ดูว่ามีกิ่งไม้ที่เหมาะสมไหม
แป๊บหนึ่งเขาก็หาอันที่ค่อนข้างหนา ดูทนแข็งแรง
เป่หมิงโม่มองไก่ฟ้าคอแหวนอีกครั้ง มันยังคงร้อง“กุ๊กกุ๊ก”อยู่ พร้อมกับก้มหน้าลงจิกอาหารใต้ต้นไม้
เขาไม่กล้าละเลย รีบเอาหนังยางทั้งสองด้านมัดไว้ที่กิ่งไม้ทั้งสองฝั่ง
แป๊บหนึ่ง หนังสติ๊กธรรมดาๆก็เสร็จเป็นรูปเป็นร่างออกมา
หยางหยางแอบที่หลังของเป่หมิงโม่ มองขั้นตอนเขาทำหนังสติ๊ก ก็แค่สำหรับหยางหยางแล้ว เขาไม่รู้ว่ากิ่งไม้นี้กับหนังยางเอามาทำอะไร
ในยุคนี้ หนังยางถูกแทนที่ด้วยปืนลมมาตั้งนานแล้ว
ดังนั้นเป่หมิงโม่ทำพวกนี้ได้ ก็เพราะว่าตอนเด็กตอนอยู่ที่บ้านพักตากอากาศของคุณป้าฟาง เรียนรู้มาจากคนงาน
ไม่แค่นั้น เขายังฝึกจนยิ่งแม่นอีกด้วย
ตอนนั้น พอถึงหน้าร้อน เขาก็เอาหนังสติ๊กของตัวเองไปสถานที่ไม่ไกล
ที่นั่น มักจะมีนกกระจอกมาดูแล
สามถึงสองคน กลุ่มละสิบกว่าคน
เขาแค่โรยเมล็ดข้าวลงที่พื้นกว้าง จากนั้นก็ซุ่มโจมตีอยู่หลังกองหญ้าในที่โล่งนั้น
แป๊บหนึ่งก็ดึงดูดได้สองสามตัว
จากนั้นก็หยิบหนังสติ๊กขึ้นมา ใส่หินเล็กๆไปหนึ่งเม็ด เล็งเล็กน้อย พอปล่อยมือ จะต้องมีนกกระจอกสักตัวที่ตายตรงนั้น
***
ครึ่งชั่วโมงกว่าถัดมา เป่หมิงโม่ตัวน้อยก็สามารถเอาเชือกแขวนได้สิบกว่าตัว กลับไปที่บ้านพักของคุณป้าฟาง
จากนั้นก็จัดการง่ายๆกับคนงาน จุดไฟ แล้วใช้ไม้เหล็กเอานกกระจอกที่จัดการเรียบร้อยแล้ววางบนไฟย่าง กระบวนการย่างยังใส่พริกไทยและเกลือด้วย
สิบกว่านาทีถัดมา นกกระจอกย่างที่เนื้อสุกนอกนิ่มในนั้นก็สำเร็จไม้หนึ่ง
*
หยางหยางคิดไม่ถึง เขาไอ้พ่อนก ปกติดูเหมือนไม่สนใจเรื่องอะไร ท่าทางเย็นชานั้น
จู่ๆวันนี้กลับทำให้เขาเปิดโลกอย่างมาก
มือหนึ่งของเป่หมิงโม่จับหนังสติ๊กไว้แน่น มืออีกข้างหยิบหินเล็กๆจากด้านล่างมาหนึ่งชิ้น วางไว้บนยางรัด
จากนั้นหลับตาข้างเดียว และเล็งไปที่ไก่ฟ้าคอแหวนตัวนั้น แล้วค่อยๆเอาหนังสติ๊กดึงไปที่ด้านหลัง
เห็นโอกาสดี จากนั้นก็ปล่อยที่ดึงหนังสติ๊กไว้
“ฟิ้ว……”
เสียงของหนังสติ๊กไม่ดัง ไก่ฟ้าคอแหวนตัวนั้นตัวนั้นไม่ทันตั้งตัวก็ถูกฆ่าลงทันที
เห็นไก่ฟ้าคอแหวนถูกทำร้าย หยางหยางก็อดตื่นเต้นไม่ได้ และไม่สนว่าพ่อจะให้เขาทำไม
“โอ้โห……”หยางหยางร้องออกมาแล้ววิ่งไป
เป่หมิงโม่ก้มลงมองหนังสติ๊กที่ตัวเองทำ เลิกคิ้วขึ้น ดูเหมือนว่าไม่ได้ทำมาหลายปี ฝีมือก็ยังแจ่มอยู่
“พ่อ ดูสิ!”หยางหยางยืนข้างไก่ฟ้าคอแหวน ยื่นมือเตะไก่ ให้เป่หมิงโม่ดู
“โอเค เอาไก่ฟ้าคอแหวนตัวนี้ใส่ถุง ถือกลับไปด้วยกัน แม่ลูกเห็นแล้ว จะต้องตกใจ”เป่หมิงโม่ก็ยิ้มนิดๆ
หยางหยางถือว่าเห็นความสามารถของพ่อที่ซ่อนไว้ ก็นับถือเขามาก แต่ว่าก็แค่เล็กน้อย
เอาไก่ฟ้าคอแหวนใส่ในถุง แป๊บหนึ่งหยางหยางก็วิ่งไปตรงหน้าเป่หมิงโม่ ยื่นมือชี้ไปที่หนังสติ๊กเขาแล้วถาม“พ่อครับ นี่คืออะไร?ทำไมยิงได้เหมือนปืน?”
เป่หมิงโม่หยิบหนังสติ๊กส่ายไปมาตรงหน้าหยางหยาง“เรียกว่าหนังสติ๊ก ตอนเด็กพ่อเคยใช้ ก็คล้ายๆกับปืนที่ลูกเล่นแหละ แต่ว่าอันนี้ถือว่าเป็นบรรพบุรุษของปืนของเล่น”
“อ้อ!”หยางหยางเข้าใจทันที ปกติเขาเคยได้ยินเพื่อนพูดถึงสิ่งนี้เหมือนกัน แค่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“พ่อครับ เอาอันนี้ให้ผมได้ไหม ……”ในที่สุดหยางหยางทนไม่ไหวจึงถาม
เขากับเฉิงเฉิงเหมือนกัน กล้าขอเอาอะไรกับเป่หมิงโม่ที่ไหน ปกติแล้วพ่อให้อะไร เขาก็รับไว้
เป่หมิงโม่พยักหน้า ตีไก่ป่าได้ และหยางหยางยังเชื่อฟังมากกว่าที่เขาคิดไว้อีก ในใจมีความสุข“ได้ อันนี้ก็ให้ลูกไป แต่ว่าเอาไปยิงเล่นมั่วซั่วไม่ได้นะ ได้ยินไหม”พูดจบก็เอาหนังสติ๊กยื่นให้หยางหยาง
หยางหยางยื่นมือไปรับ เหมือนได้รับของมีค่า นี่มันน่าตื่นเต้นกว่าที่เขาให้เครื่องเล่นเกมเสียอีก
เป่หมิงโม่มองนาฬิกา ตอนนี้สี่โมงกว่าแล้ว คิดไม่ถึงว่าเวลาจะเดินไปไวขนาดนี้
เขาตบไหล่หยางหยางเบาๆ“โอเค เราก็ควรกลับกันได้แล้ว”
หยางหยางตอบอย่างเชื่อฟัง
เป่หมิงโม่หยิบเข็มทิศออกมา ตั้งที่ตั้ง จากนั้นก็พาหยางหยางกลับไป
ในป่านั้น สองพ่อลูกกลับมาอย่างประสบความสำเร็จ เฉิงเฉิงที่อยู่ริมแม่น้ำเหมือนจะไม่แย่เท่าไหร่เช่นกัน
หลังจากถังเทียนจื๋อแนะนำเขา ตอนแรกที่เห็นปลาติดเบ็ด แต่ว่ายังหุนหันพลันแล่นไปหน่อย ตอนเอาไม้เบ็ดยกขึ้นมา ปลาก็หลุดไป
เพราะว่าปลามีความเคยชิน นั่นก็คือตอนแรกพวกมันจะแค่กลืนและคายออกสองที
ต่อมาพอเขาล้มเหลวอยู่สองสามครั้ง และจับจุดได้แล้ว ยิ่งตกเบ็ดก็ยิ่งสำเร็จ
***
เฉิงเฉิงรู้เทคนิคการตกปลาแล้ว ปลาในถังเล็กๆข้างขาเขาจากหนึ่งตัวเป็นสองตัว ไม่กี่ชั่วโมงก็มีห้าตัวใหญ่ๆ
กู้ฮอนยิ้มแล้วเอามือลูบหัวเขาเบาๆ
บ่ายทั้งวันนี้ คนที่หลบไปนอนในเต็นท์ ต่างถูก ถังเทียนจื๋อปลุกให้ตื่นหลังจากเป่หมิงโม่พาหยางหยางออกไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
พวกเขาต่างขมวดคิ้ว ถืออุปกรณ์ พาเด็กๆเข้าไปในป่าสักสองสามรอบ หรือก็ทำตามคนตกปลา ทำไม้เบ็ด แล้วเอาเบ็ดลงน้ำ แต่ไม่ใส่เหยื่อปลา
ในใจพวกเขาชัดเจน ยังไงซะกิจกรรมครอบครัว ดูเผินๆเหมือนจะร้ายแรง ก็แค่ทำให้เหมือนว่าทำเต็มที่แล้ว ไม่ว่าจะได้หรือไม่ ถึงตอนนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนก็ปล่อยให้พวกเขาหิวไม่ได้
แน่นอนว่าถังเทียนจื๋อก็เข้าใจความคิดของคนพวกนี้ มองท่าทางขี้เกียจของพวกเขา อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว
ไม่รู้จริงๆว่าจัดกิจกรรมครอบครัวแบบนี้ไป สุดท้ายจะมีความหมายอะไรไหม
เขาเดินช้าๆไปตามแม่น้ำ มองครอบครัวที่มีท่าทีดูตั้งใจ พวกเขาได้ปลามากี่ตัว
ตอนเขามาที่กู้ฮอนกับเฉิงเฉิง มองเห็นถังเล็กๆของเฉิงเฉิง มีปลาหลายตัวแล้ว
“เหอะเหอะ เฉิงเฉิงสุดยอดจริงๆ ถ้าไม่มีใครพูด คนอื่นคงคิดว่าคนมีฝีมือมาตกปลาแน่นอน”ถังเทียนจื๋อชื่นชมเขา ไม่ใช่แบบชมเพื่อเอาใจเด็ก แต่ชมออกมาจากใจจริง
แค่ตอนที่เขาชมเฉิงเฉิงนั้น ในใจอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เด็กฉลาดแบบนี้ทำไมเป็นลูกเป่หมิงโม่นะ
“Noton คุณชมเกินไปแล้ว”กู้ฮอนก้มลงมองนาฬิกา เวลาก็เย็นมากแล้ว
เธอเริ่มกังวลขึ้นมา มองพระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว แต่ว่ายังไม่เห็นเป่หมิงโม่กับหยางหยางออกมาจากป่าเลย
สองพ่อลูกคงไม่ได้เกิดเรื่องหรอกนะ เธอมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นจริงๆ
กู้ฮอนมองถังเทียนจื๋ออย่างกระวนกระวาย“Noton ตอนนี้ก็เย็นแล้ว แต่ว่าหยางหยางกับพ่อเขายังไม่กลับมาเลย ฉันห่วงว่าพวกเขาจะเกิดเรื่องจัง คุณให้คนไปหาพวกเขาสองคนได้ไหม?”
ถึงแม้ถังเทียนจื๋อไม่หวังให้หยางหยางเกิดเรื่อง และเขาก็ค่อนข้างชอบหยางหยาง มันถือว่าเป็นความบังเอิญแหละ
แต่ว่าเป่หมิงโม่นั้น เขาก็ไม่คาดหวังว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่เพราะอะไร แต่ความแค้นของพวกเขายังไม่หายดี จะให้เขาหายไปง่ายๆแบบนี้ได้ไงล่ะ
ถังเทียนจื๋อก้มหน้าลงมองนาฬิกา ขมวดคิ้วคิด“อือ เย็นแล้ว เดี๋ยวผมกลับไปจัดการก่อน ให้คนสองคนไปรับพวกเขาคุณกู้ไม่ต้องกังวลมากไปนะครับ บางทีพวกเขาอาจจะอยู่ระหว่างทางกลับมาแล้ว ผมว่าคุณเป่หมิงในเมื่อสามารถดูแลบริษัทตระกูลเป่หมิงที่ธุรกิจใหญ่ขนาดนั้นได้ เขาก็น่าจะไม่ธรรมดาน้อยไป”
กู้ฮอนได้ยินถังเทียนจื๋อพูดแบบนี้ ในใจก็หนักแน่นขึ้นมาหน่อย “หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ”
ถังเทียนจื๋อกลับไปที่เต็นท์ตัวเอง
แป๊บหนึ่ง เขาก็ส่งคนสองคน หยิบอุปกรณ์ช่วยเหลือธรรมดา เข้าไปในป่า
ตอนนี้เองคนรวยหกนิ้วก็ออกมาจากป่า
“เห้อ นี่พวกคุณจะไปไหนเหรอ?”คนรวยหกนิ้วถามสองคนนั้น
หนึ่งในนั้นตอบ“ตอนนี้มีสองพ่อลูกยังไม่ออกมาครับ พวกเราจะเข้าไปหา ใช่สิ พวกคุณออกมาเห็นพวกเขาไหมครับ?”
***
คนรวยหกนิ้วได้ยิน ก็มั่นใจกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าสองพ่อลูกคู่นั้นที่หายไปต้องเป็นคู่ที่เดิมพันกับพวกเขาแน่นอน
เขาอดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้ม ยักไหล่พูด“พวกเราไม่เห็น น่าจะหลงทางแหละครับ หรือว่าก่อนหน้านี้ที่พวกเขาเดิมพันกับพวกเรา ตอนนี้อาจจะแพ้จนไม่กล้าเสนอหน้าเลยก็ได้”
พูดแล้วก็หันไปยิ้มให้ลูกชายตัวเอง
ที่จริงพ่อลูกคนรวยหกนิ้วเข้าป่าไปแล้วก็ไม่ได้เดินไปไกลมาก สุดท้ายก็คิดว่าหาอาหารในบริเวณค่ายเอา
ถึงแม้จะอยู่ใกล้ค่าย แต่ว่าพวกเขาก็ไม่ได้อยู่นานเกินไป หนึ่งคือพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะมากิจกรรมน่าเบื่อแบบนี้อยู่แล้ว สองคือพวกเขามีโชคแล้ว ก็ตอนที่พวกเขาว่าจะยอมแพ้แล้วกลับไปค่ายนั้น ก็เจอเห็ดโดยบังเอิญ
พวกเขาไม่พูดอะไรเอาเห็ดพวกนี้ใส่ในถุง
มีของสิ่งนี้อยู่ พวกเขารู้ว่าสองพ่อลูกเป่หมิงโม่เข้าไปในป่าลึก ก็คงหาพวกนี้ไม่เจอ
“ลูกชาย ดูเหมือนว่าครั้งนี้เดิมพันเราจะชนะแหละ อย่าสนใจสองพ่อลูกจอมปลอมนั่น บนรถก็ยังไม่ให้ที่นั่งเรา ต่อไปเขาคือเบ๊ลูก สั่งสอนเขาดีๆเลยนะ ไป เรากลับไปนอนกัน ตอนมืดพ่อเตรียมพิธีรับน้องให้ลูกแล้ว”คนรวยหกนิ้วฮัมเพลงขึ้นมาอีกครั้ง
ตอนที่ถังเทียนจื๋อให้สองคนเข้าไป เพิ่งเข้าไปในป่าได้ไม่นาน เป่หมิงโม่ก็พาหยางหยางออกมาที่ค่ายอีกทางหนึ่ง
เป่หมิงโม่ทำหน้าบึ้งอีกครั้ง แต่หยางหยางยิ้มร่าเริง
ไหล่เล็กของเขาแบกถุงพะรุงพะรัง ที่เอวยังแขวนหนังสติ๊กของเป่หมิงโม่ด้วย
“แม่ครับ……”หยางหยางมองเห็นเฉิงเฉิง และกู้ฮอนที่หน้าดูร้อนใจอยู่ข้างแม่น้ำจากที่ไกลๆ
ตอนนี้เองเฉิงเฉิงก็เก็บเบ็ด กำลังนับปลาที่ตกมาได้ทั้งวันบ่าย
กู้ฮอนได้ยินเสียงหยางหยาง ก็ถือว่าหินก้อนใหญ่หายไป
เธอเงยหน้ามอง หยางหยางตัวสกปรก นอกจากดินโคลนแล้ว บนหัวและตัวยังมีเศษซากกิ่งไม้แห้งๆเน่าเปื่อยจำนวนหนึ่งด้วย
ด้านหลังหยางหยาง คือเป่หมิงโม่ที่เดินเข้ามาเนิบๆ
เป่หมิงเอ้อนี่ยังจะเสแสร้งอีก ตัวของเขาไม่ต่างอะไรกับหยางหยางเท่าไหร่ แต่ในเมื่ออย่างนี้แล้ว เขายังเงยหน้าเชิดอก เดินอย่างแมนๆ เดินเข้ามาที่ตัวเอง
พอพวกเขาเดินมาตรงหน้าตัวเอง กู้ฮอนก็ชักหน้าใส่ มองสองพ่อลูก“พวกคุณเล่นสนุกพอแล้วไม่กลับมา คนของNotonเพิ่งจะไปตามหาพวกคุณ ”
เป่หมิงโม่ยิ้มอย่างเยือกเย็น“เขาใจดีให้คนไปหาพวกเราขนาดนี้ พระอาทิตย์ขึ้นจากตะวันตกเสียจริง”