อนที่ 660 คุณนี้มันหมา 2
กู้ฮอนโกรธจนหน้าแดงขึ้นมา “คุณนี้มันไร้ยางอาย หรือว่าคุณคิดว่าเอาเปรียบฉันน้อยไปล่ะ ”
“เหอะ ในเมื่อคุณพูดว่าผมเอาเปรียบคุณไปไม่น้อย งั้นคุณจะแคร์อะไร ”เป่หมิงโม่มองกู้ฮอนอย่างแกล้งๆ
“คุณ! หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว คุณหันหลังไปเดี๋ยวนี้ ถ้าฉันยังไม่ได้พูดอะไรอย่าหันกลับมา ” กู้ฮอนมองบนใส่เป่หมิงโม่ คิดไตร่ตรองอยู่ในใจเงียบๆ แผนชั่วของไอ้คนเจ้าเล่ห์นี้เกือบสำเร็จแล้ว
ที่จริงเป่หมิงโม่ก็ไม่มีกะจิตกะใจจะแกล้งเธอแล้ว หมุนร่างกายกลับไปอย่างท่าทางขี้เกียจ
“ผมหันหลังแล้ว ให้เวลาคุณห้านาที ถ้าภายในห้านาทียังเปลี่ยนไม่เสร็จ ผมก็จะหมุนตัวกลับไป ”
เขาพูดเสร็จ ก็เปิดไฟดูเวลาของนาฬิกาข้อมือขึ้น เริ่มจับเวลา
กู้ฮอนพ่ายแพ้ต่อเขาจริงๆ เธอรีบเอาเสื้อผ้าที่เปียกถอดออกทีละชิ้นแล้วเอาวางไว้ข้างๆ
เป่หมิงโม่ได้ยินเสียงเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ดังมาจากด้านหลัง ใจอันชั่วร้ายของเขาก็เริ่มอยู่ไม่สงบขึ้นมา
ตอนนี้บนไหล่ข้างซ้ายของเขาก็มีเป่หมิงโม่น้อยยืนอยู่บนไหล่ บนหัวมีเขาโผล่ออกมา ในมือถืออาวุธเหล็กสามงาบ “เฮ้ย! แกฟังที่กู้ฮอนพูดเหรอ เธอบอกให้หันไปแกค่อยหันไปเหรอ อย่าลืมนะ ว่าเธอเป็นผู้หญิงของแก แกไม่จำเป็นต้องฟังที่เธอพูด ทำตามที่ใจแกเรียกร้องก็ได้แล้ว ”
เป่หมิงโม่เลิกคิ้ว พูดถูกต้องจริงๆ ผู้หญิงที่คลอดลูกให้ตัวเองตั้งสองคน อีกอย่างไม่กี่ปีมานี้ ก็เป็นคู่สามีภรรยาที่เก่าแก่แล้ว ยังจะแคร์อะไรอีก
ในตอนที่เขาคิดอยากจะหมุนตัวกลับไปนั้น บนไหล่ขวาของเขา ก็ปรากฏเป่หมิงโม่น้อยที่มีแสงอยู่บนหัว เขาพูดว่า “แกทำแบบนี้ไม่ได้ ถึงแม้กู้ฮอนจะคลอดลูกให้แก แต่ว่าไม่กี่ปีมานี้เธอก็ต้องเลี้ยงลูกด้วยความยากลำบาก แกยังทำใจกล้าที่จะทำร้ายจิตใจเธอได้อีกเหรอ? ถ้าหลังจากนี้แกอยากมีเธอล่ะก็ งั้นก็อย่าหันกลับไป ”
“เฮ้ย! อย่าไปฟังมัน แกเป็นผู้ชายที่มีสิทธิ์อำนาจสูงสุดทุกอย่าง ไม่ต้องไปแคร์เรื่องพวกนี้ ถ้าแกอยากได้ ก็ไม่มีใครห้ามแกได้ ” ปีศาจเป่หมิงโม่น้อยด้านซ้ายใส่ไฟต่อไม่หยุด
แต่ว่าเทวดาเป่หมิงโม่น้อยด้านขวาก็ไม่ยอมแพ้ “แกเป็นผู้ชาย อย่ารังแกกลั่นแกล้งกู้ฮอนที่เสียสละเวลาตั้งหลายปีเพื่อทุ่มเทให้แก ถึงแม้ภายนอกแกจะดูเย็นชา แต่ว่าในใจของแกก็ปรารถนาความรักและครอบครัวเป็นอย่างมาก ”
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้ว ถูกสองตัวนี้พูดซะจนหัวสมองสับสนไปหมดแล้ว
สุดท้ายเขาก็กัดฟันสู้ พูดกับปีศาจน้อยเป่หมิงโม่ในใจเสียงเบาว่า “ไสหัวไป! ”
เทวดาเป่หมิงโม่น้อยยิ้มให้เป่หมิงโม่ “อย่างนี้ซิคุณถึงเป็นลูกผู้ชายตัวจริง! ”
เป่หมิงโม่ถอนหายใจออกมายาว ลูกผู้ชายตัวจริงนี้เป็นยากจริงๆเลยนะ
ถึงแม้ไม่คิดที่จะหมุนตัวกลับไป แต่ก็ยังคงแกล้งกู้ฮอนเหมือนเดิม
ก้มมองนาฬิกาแล้วพูดเสียงอ่อนโยนว่า “เหลืออีกหนึ่งนาที ”
“เฮ้ย เวลาจะเดินอะไรเร็วขนาดนั้น! คุณขี้โกง ” กู้ฮอนรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อ
ในตอนนั้นเป่หมิงโม่ ก็ไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ ผ่านไปแป๊บหนึ่งก็เริ่มนับถอยหลัง “สิบ……”
“เก้า……”
“แปด……”
จนเป่หมิงโม่นับถึง“หนึ่ง ” ก็หมุนตัวกลับมาอย่างแรง
“อร๊าย! ” ซิปเสื้อผ้าของกู้ฮอนยังไม่ทันได้ดึงขึ้นมา มือก็สั่นไปหมด
ซิปค้างอยู่ครึ่งหนึ่งขยับไม่ได้
สายตาที่โกรธและเขินของเธอจ้องมองไปที่เป่หมิงโม่ “โทษคุณ จะมานับถอยหลังอะไร คุณดูสิ่งที่คุณทำ ” พูดไปด้วยก็ใช้มือออกแรงดึงหัวซิปไปด้วย
เป่หมิงโม่ยิ้มๆ “นี้จะมาโทษผมได้ยังไงล่ะ ” พูดไปด้วยแล้วเขาก็เดินมาที่ด้านหน้าของกู้ฮอน
ก้มมองตำแหน่งที่หัวซิปค้างอยู่ ค้างอยู่ตรงด้านล่างหน้าอกพอดี
เขาไม่สนใจว่ากู้ฮอนจะยินยอมหรือไม่ จับมือของเธอไว้อีกทางหนึ่ง แล้วเอาอีกมือหนึ่งดึงซิปที่อยู่ด้านล่างขึ้น ดึงซิปขึ้นด้วยมือเดียว
นานมากแล้วที่ไม่ได้ยืนใกล้เป่หมิงโม่มากขนาดนี้ ได้ดมกลิ่นเฉพาะของร่างกายของเขาแล้ว ใจของกู้ฮอนก็เริ่มสั่นไหวขึ้นมา
เป่หมิงโม่ได้กลิ่นร่างกายที่พิเศษของกู้ฮอนอีกครั้ง ในใจรู้สึกตุ้มๆต่อมๆหัวใจเต้นไม่ตรงจังหวะขึ้นมา
ในตอนที่เขากำลังจะก้มลงมาจูบกู้ฮอนนั้น เธอกลับพูดว่า “คุณรีบรูดซิปขึ้นให้ฉันเร็วๆหน่อย ลูกๆยังรอพวกเราอยู่บนรถนะ ”
คำพูดนี้ ช่วยชีวิตกู้ฮอนได้จริงๆ
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้วนิดหน่อย ความรู้สึกนั้นถูกเธอตีไปไกลสุดขอบฟ้าแล้ว
เขาเริ่มใช้แรงดึงรูดขึ้นลงไปมา
“คุณทำเบาๆหน่อยได้ไหม อย่าทำซิปพังล่ะ อีกอย่าง คุณอย่าเอามือมาแต๊ะอั๋งไปทั่ว อนุญาตให้อยู่ที่ตำแหน่งของซิปเท่านั้น ” กู้ฮอนเพิ่งพูดจบ ก็รู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมา
พูดแบบนั้นไปทำไมอา ไม่ใช่เผยความรู้สึกที่อยากจะปิดซ่อนออกมาแล้วเหรอ
กู้ฮอนสำหรับเป่หมิงโม่นั้น ถึงแม้จะอยู่แค่เอื้อม แต่ก็รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ไกลมากๆ
“พวกคุณต้องการให้ผมช่วยอะไรไหม? ” ในตอนนั้น เสียงของถังเทียนจื๋อก็ดังออกมาจากประตูรถ
ที่จริงเป่หมิงโม่พากู้ฮอนลงจากรถมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ใช่เวลาไม่นานมากนัก แต่ว่าเขาก็อยากจะมาดูสถานการณ์
เขาไม่ได้เปิดไฟฉายโทรศัพท์ แต่ก็สามารถมองเห็นแสงเล็กๆจากรถได้ ว่าเงาดำทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน
เสียงนี้ เหมือนกับน้ำเย็นราดลงบนหัวเขาอีกครั้ง ทำให้เขากลับมาเย็นชาอีกครั้ง
กู้ฮอนแก้มแดง ในใจรู้สึกลุกลี้ลุกลน ความรู้สึกนี้เหมือนถูกใครบางคนจับได้
เธอพูดอย่างติดอ้างว่า “ซิปฉันมันค้างอา เขาช่วยฉันรูดซิปน่ะ พวกเราไม่ได้ทำอะไรกัน ”
เป่หมิงโม่ทำหน้าตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รูดซิปขึ้นอย่างระมัดระวัง
หลังจากผ่านไปสองนาที ในที่สุดก็ทำสำเร็จ