ตอนที่ 669 เขาเริ่มจะหึงแล้ว 1
เพียงได้เห็นเป่หมิงโม่กำลังยืนอยู่ที่ประตู กำลังมองเธอแนวความขี้เล่น
ตาทั้งสองคู่หันมองกันเพียงช่วงเวลาสั้นๆ กู้ฮอนตกใจจนหันหลังกลับ
ในเวลานี้ปีศาจน้อยตัวหนึ่งปรากฏขึ้นบนไหล่ของเธอ พูดกับเธออย่างรุนแรง “กู้ฮอนนะกู้ฮอน เธอเนี่ยทำไมพูดไม่เคยจำ เจ้าบื้อนั่นให้เธอมาอาบน้ำ เธอก็ไปอาบน้ำแต่โดยดี แบบนี้ก็เหมือนหลงกลเจ้าบื้อนั่น เธอจะรอให้เขามากินเธอสินะ!”
ในตอนนี้นางฟ้าตัวน้อยก็โผล่ขึ้นมาบนไหล่อีกข้างหนึ่ง เขาปลอบโยนเธอและพูดว่า “กู้ฮอน ไม่ต้องกลัวนะ ในสองสามวันนี้เป่หมิงโม่เขาไม่ได้ทำอะไรกับเธอ เขาคงเพียงแค่มีเรื่องบางอย่างที่นึกขึ้นได้แล้วจะมาบอกเธอต่างหาก”
ในตอนนี้ก็ได้ยินเสียงของเป่หมิงโม่ ดูเหมือนว่ามันจะดังมาจากเหนือศีรษะของเธอ “โอเค โตๆกันแล้ว ยังจะเล่นเป็นแมว คุณก็เหมือนกับนกกระจอกเทศที่ชอบเอาหัวมุดลงดิน คนอื่นก็มองไม่เห็นแล้วงั้นเหรอ แต่คนก็ยังโผล่อยู่ข้างนอกนะ”
ใบหน้าของกู้ฮอนเริ่มแดง การอุปมาของผู้ชายคนนี้มันคืออะไร
เฮ้อ ช่างมันเถอะ เขาคงไม่ทำอะไรตอนกลางวันแสกๆหรอก
ก็คิดถึงสิ่งนี้ กู้ฮอนก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน ใบหน้าแดงก่ำ แล้วถามเขาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย “คุณ คุณเข้ามาได้ไง!”
เป่หมิงโม่ยืนพิงขอบประตู เอียงศีรษะไปมองกู้ฮอน ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะตอบคำถามของเธอ
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า กู้ฮอนกำลังดูตลกที่สวมใส่ชุดคลุมอาบน้ำของเขา
เข็มขัดที่ควรผูกไว้ที่เอว กลับถูกเธอผูกไว้ใต้หน้าอกเล็กน้อย ดูแล้วเหมือนกับพวกคาบสมุทรเกาหลี
ไม่เพียงแค่นั้น เสื้อคลุมตัวนี้ยังดูใหญ่เกินไปสำหรับหุ่นผอมเพรียวของเธอ
กระดุมที่อยู่ตรงกลาง แทบจะขยับไปอยู่ใต้รักแร้ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังสวมใส่ชุดกี่เพ้าทันที ถ้าผ่าปลายออกที่ต้นขาทั้งสองข้าง ก็จะดูมีชีวิตชีวา
“มองอะไร คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลยนะ” ตอนนี้จิตใจของกู้ฮอนกำลังอยู่ในความสับสน เธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังถามอะไรอยู่
เป่หมิงโม่ยืดตัวและเดินเข้าไปในห้องอย่างช้าๆ “นี่คือห้องนอนของผม ทำไมผมจะเข้ามาไม่ได้” พูดไปก็เอากุญแจสีทองแขวนไว้บนนิ้วชี้ของเขา
“คุณมาที่นี่ทำไม ไม่ใช่ว่าเรียกพวกเด็กๆไปแล้วเหรอ” กู้ฮอนพูดออกมา ก็กระทืบเท้าไปด้วย สมองของตัวเองเป็นอะไรไปแล้ว ช็อตไปแล้วเหรอ ถามตั้งมากมายแต่ก็ไม่เห็นจะทำอะไร แค่เตะเขาออกไปก็จบแล้ว
ไม่ต้องรอให้เธอไล่ เป่หมิงโม่ก็พูดว่า “ผมแค่จะมาบอกคุณ กระเป๋าที่คุณใส่เสื้อผ้าวางอยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้ว ผมเพิ่งจะคิดได้ว่าหลังจากคุณอาบน้ำเสร็จอาจจะไม่ได้เปลี่ยน เสื้อผ้าของผมที่นี่ หากคนจะใส่ ก็อาจจะทำให้คุณอยู่เหมือนในสภาพตอนนี้” พูดจบ ก็มองไปยังเธออีกครั้ง เขาก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่
เส้นผมสองสามเส้นโผล่ออกมาจากหน้าผากของกู้ฮอน “ตลกอะไรนักหนา เอาล่ะความปรารถนาดีของคุณฉันรู้แล้ว กระเป๋าเสื้อผ้าฉันก็หาเจอแล้ว แบบนี้คุณก็ออกไปได้แล้วสิ”
***
กู้ฮอนพูดจบ ก็ก้าวออกไปข้างหน้า
ความหมายของเธอนั้นง่ายมาก อย่างแรกก็คือพูดส่งเป่หมิงโม่ อย่างที่สองก็คือจะเอากระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองที่อยู่ในตู้ออกมา เพื่อจะเปลี่ยนให้เรียบร้อย
แต่ว่า มนุษย์หรือจะสู้สวรรค์
สิ่งที่เธอไม่เคยคาดคิดเลยก็คือ เธอลืมไปว่าเสื้อตัวนี้เป็นของเป่หมิงโม่ มันไม่ใช่แค่ใหญ่เกินไป แต่ยังยาวอีกด้วย อีกครึ่งหนึ่งของเสื้อถูกลากไปกับพื้น
การก้าวของเธอนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นก้าวเล็กๆ สำหรับเธอแล้ว ก็เหมือนกับก้าวเล็กๆตอนมนุษย์ขึ้นไปดวงจันทร์
หลังจากนั้นต่อมา เธอก็ยังคงคิดถึงฉากในวันนี้ รู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเองที่ทำลงไปโดยไม่ใช้สมอง แทบอยากจะใช้สองปากของตัวเอง ถ้าหากว่าสองปากนี้สามารถจะทำให้ไม่เกิดเรื่องในภายหลังละก็……
เท้าของเธอที่ก้าวออกไป เหยียบบนชายของเสื้อคลุมอาบน้ำ
เนื่องจากชุดนั้นถูกมัดไว้แน่นเกินไป และผ้าไหมที่มีความลื่นนิดหน่อย สายรัดจึงขาดออกจากกัน
“อุ๊ยแม่…..” กู้ฮอนเซไปข้างหน้าสองสามก้าว และกรีดร้องออกมา เสื้อผ้าก็เปิดออกจากกัน
แล้วเปิดออกต่อหน้าเป่หมิงโม่……
เป่หมิงโม่ก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนี้กู้ฮอนก็ไม่รู้ว่าเขาทำได้อย่างไร
ในตอนที่เขาโน้มตัวลงไปประคองเธอ ประตูห้องที่เปิดอยู่ตั้งแต่แรก ปิดลงอย่างน่าอัศจรรย์
กู้ฮอนและเป่หมิงโม่พุ่งเข้าหากัน
ความมหัศจรรย์เกิดขึ้นอีกครั้ง ทั้งสองก็ล้มลงบนเตียงด้วยกันทั้งคู่
กู้ฮอนเหมือนจะมีลางสังหรณ์ว่าจะต้องมีเรื่องเกิดขึ้น เธอก็หดตัวเหมือนกับเม่นตัวน้อยๆ
แต่ เธอก็ไม่ใช่เม่น ร่างกายของเธอไม่ได้มีอาวุธพี่จะสามารถป้องกันตัวเองได้
เสื้อผ้าเพียงตัวเดียวที่ปกปิดร่างกายของเธอ ตอนนี้ได้กลายเป็นสิ่งที่ไร้ความหมายไปแล้ว
เป่หมิงโม่มองไปยังกู้ฮอนที่กำลังหลับตาอยู่ตรงหน้า มองไปยังร่างกายที่เขาเคยรักอย่างมากกำลังสั่นสะท้าน…..
ในที่สุดปีศาจที่ถูกผนึกไว้ในหัวใจของเขาก็หลุดออกจากมนต์สะกด และใช้มืออันทรงพลังทั้งสองข้างพาเธอมาไว้ในอ้อมแขน
“พวกเด็กๆอยู่ข้างล่างกันหมด หากพวกไม่เจอฉัน อาจจะขึ้นมาหาฉัน พวกเขามาเห็นพวกเราแบบนี้เข้าคงจะไม่ดี…”
กู้ฮอนยังคงนอนขดอยู่กับตัวเอง ไม่มีอะไรมาปกป้อง เธอได้แต่พูดในสิ่งที่คิดว่าจะเป็นเหตุผลที่ห้ามเป่หมิงโม่ได้
“เฮ้! เป่หมิงโม่ คุณหยุดเดี๋ยวนี้…. ฉันบอกแล้วว่าไม่ได้…..”
“ไม่ได้งั้นเหรอ เอ่อเหอะ คุณรู้ไหมว่าคำสองคำนี้เป็นสิ่งต้องห้ามที่ผู้ชายไม่อยากได้ยินในเวลาแบบนี้”
“เหอะ …. ไปให้พ้น! คุณได้ไม่ได้แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน….เฮ้ คุณอยากจะจูบที่ไหน”
“…….” ชายคนนั้นทำโดยไม่ได้พูดอะไร
จากนั้นไม่นาน