ตอนที่ 675 เรื่องยากที่แก้ด้วยตัวเอง 2
“ฆาตกรที่ฆ่าคุณ ตอนนี้ผมพบตัวเขาแล้ว เมื่อถึงเวลาจะนำมันเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อปลอบโยนดวงวิญญาณของคุณบนสรวงสวรรค์ มา พวกเราสองพ่อลูกมาดื่มกัน” เขาหยิบไวน์ออกมาพร้อมแก้วสองใบ วางไว้บนแท่นบูชา
ฉิงฮัวรีบหยิบขวดไวน์ขึ้นมา แล้วเติมไวน์ลงในแก้วทั้งสองใบ
เป่หมิงโม่หยิบแก้วขึ้นมาใบหนึ่ง มองไปยังรูปถ่ายของคุณท่านเป่หมิงบนป้ายหลุมฝังศพ ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “พวกเราสองพ่อลูก เป็นคนพิเศษจริง ๆ ตอนที่คุณมีชีวิตอยู่ พวกเราสองคนก็บอกไม่ได้ว่าจะเป็นน้ำกับไฟ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเข้ากันไม่ได้ ในเมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้นี้ผมก็ไม่ยอมแพ้ บอกได้แต่เพียงว่านี้เป็นภาพสะท้อนคุณในตอนที่ผมยังเด็ก ไม่ใช่เหรอ ไม่อย่างนั้นเพียงเพราะแม่ของผมไม่สวยเหมือนกับภรรยาที่ตายไปแล้วของคุณ คุณก็ไล่เขาไปไขว่คว้าหาอดีต เหตุการณ์ก็คงจะไม่เป็นอย่างวันนี้”
พูดจบก็เงยหน้าขึ้นและยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม
เป่หมิงโม่พูดถึงเรื่องนี้ แม้ว่าฉิงฮัวจะรู้เรื่องเพียงเล็กน้อย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เป่หมิงโม่พูดออกมา ไม่แปลกใจเลยที่เจ้านายจะทำตัวเหมือนพ่อลูกอย่างสมัยที่นายท่านยังมีชีวิตอยู่
เป่หมิงโม่หยิบแก้วไวน์ใบที่สองขึ้นมา “โลกใบนี้ไม่แน่นอน ก็เหมือนกับความสัมพันธ์ของเราสองคน หลังจากที่ต้องจนมุมมาหลายปี ผมเคยคิดว่า ความเกลียดชังที่มีต่อคุณคงจะอยู่กับตัวไปตลอดชีวิตแต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจก็คือ หลังจากที่คุณป่วยหนัก ผมกลับเปลี่ยนไปมีความคิดแบบนี้ นี่ก็คงเหมือนความสัมพันธ์ของคุณกับคุณป้า แม้ว่าผมไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างพวกคุณ อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณต้องไล่เธอออกจากตระกูลเป่หมิง และจะเป็นจะตายก็ไม่ให้กลับมา แต่ผมรู้ว่าในใจของคุณทั้งสองคนยังห่วงใยกัน แล้วเป็นอย่างไร ตอนนี้คุณย้ายไปอยู่กับคุณป้าแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกคุณดีขึ้นบ้างหรือยัง”
เป่หมิงโม่หันกลับมาและเดินไปยังสุสานของคุณป้าฟางที่อยู่ด้านข้าง “คุณป้า ความสัมพันธ์ของคุณกับพ่อตอนนี้ดีขึ้นบ้างแล้วหรือยัง แม้ว่าคุณจะเป็นป้าของผม แต่ในใจของผม ก็นับถือคุณเหมือนแม่มาตลอด การตายของคุณเป็นเรื่องที่ผมไม่คาดคิดจริง ๆ สุขภาพร่างกายของคุณดีมากมาโดยตลอด หลังจากเกิดเหตุการณ์กับพ่อ ผมคิดว่าการจากโลกนี้ไปของคุณมีเงื่อนงำอยู่ภายใน แม้ว่าผมจะไม่ได้งมงาย แต่ก็หวังอยู่ว่าคุณจะมาบอกผมในความฝัน บอกกับผมว่าสุดท้ายแล้วใครกันที่ทำร้ายคุณ ผมจะล้างแค้นให้คุณให้ได้”
พูดจบก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งพร้อมดื่มไวน์
จากนั้นเป่หมิงโม่ก็ปักธูปสามดอกลงบนหลุมฝังศพของทั้งสองคน
จากนั้นก็หันไปหาฉิงฮัว “พวกเรากลับกันเถอะ”
*
ในเวลาเดียวกัน กู้ฮอนก็กำลังขับรถไปโรงพยาบาลคนเดียว เธอไม่ได้พาเฉิงเฉิงมาด้วย นั้นก็เป็นเพราะยังไม่ได้เตรียมตัวว่าจะแนะนำเด็ก ๆให้แม่รู้จักได้อย่างไร
โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเป่หมิงโม่ แม้ว่าจะเคยได้ยินแม่พูดว่าเป็นเพื่อนเก่าของเป่หมิงเจิ้งเทียน แต่เมื่อได้พบกับเรื่องนี้ เธอก็คงจะรับไม่ได้แน่นอน
นอกจากนี้ก็ไม่ต้องการให้แม่ต้องมากังวลเรื่องกับเรื่องของตัวเอง เธอทุกข์ทรมานมาเกือบทั้งชีวิตแล้ว ตอนนี้ก็ควรจะได้มีช่วงเวลาของความสุข ปล่อยให้เธอได้จัดการเรื่องของตัวเธอเองดีกว่า
***
กู้ฮอนเดินเข้าไปในโรงพยาบาลพร้อมดอกไม้และกล่องขนม
ดอกไม้เป็นดอกคาร์เนชั่นที่ซื้อจากร้านดอกไม้หน้าโรงพยาบาล สำหรับของว่างนั้นเธอซื้อที่ร้านด้าวเซียง ที่มีชื่อเสียงของ เมือง A อันที่จริงคือเธอก็ไม่รู้ว่าแม่ของเธอชอบกินอะไร
เพียงแต่ปรึกษาพนักงานที่ร้าน และซื้อขนมน้ำตาลต่ำและใส่เกลือน้อยเพื่อให้เหมาะสำหรับผู้ป่วย
เธอเปิดประตูและเดินเข้าไปในห้องสังเกตการณ์ กล่าวทักทายกับคุณหมอที่เข้าเวรและเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย
เธอพบว่าบนตัวของแม่ที่มีสายของอุปกรณ์อยู่ ได้ถูกถอดออกหมดแล้ว
ลู่ลู่ยังคงหลับอยู่
กู้ฮอนวางของลงบนโต๊ะข้างเตียงอย่างเบามือ จากนั้นก็กลับไปยังห้องสังเกตการณ์ “คุณหมอ ทำไมอุปกรณ์ของแม่ฉันถึงถอดออกหมดแล้ว”
คนที่เข้าเวรวันนี้ คือคุณหมอวัยกลางคนที่ใส่แว่นขอบสีทอง
เขาหยิบสมุดบันทึกออกมาและแสดงให้กู้ฮอนดู “คุณกู้ จากการสังเกตอาการและการรักษาของเราในช่วงที่ผ่านมา อาการของคุณลู่เริ่มดีขึ้น ดูจากร่างกายของเธอก็ยังแข็งแรงดี ดังนั้นการฟื้นตัวจึงค่อนข้างเร็ว เครื่องเหล่านั้นจึงไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป จากนี้เธอก็เป็นแค่ผู้ป่วยธรรมดา คุณสามารถมาที่นี่ได้บ่อย ๆ พาเธอออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ช่วงเวลาที่เธอนอนมาก็ค่อนข้างจะยาวนาน ต้องฝึกกายภาพร่างกายไม่ออกแรงมาก ในช่วงแรกขยับขาและเท้าเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพื่อให้เธอกลับมาเคลื่อนไหวได้โดยเร็ว ฉันเชื่อว่าไม่นานคุณก็คงจะทำให้คุณแม่ฟื้นตัวและออกจากโรงพยาบาลได้ในเร็ววัน”
กู้ฮอนรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น หมอกและควันที่ถูกเป่หมิงโม่ทิ้งไว้ ล้วนถูกพัดพาหายไปหมดแล้ว
แม้จะสามารถฟื้นตัวได้ในไม่ช้า จากนี้เธอและแม่ก็จะพาเฉิงเฉิงและจิ่วจิ่ว วันดี ๆใกล้เข้ามาแล้ว
กู้ฮอนกลับไปที่ห้องผู้ป่วยอีกครั้ง โดยขจัดอารมณ์ไม่ดีทั้งหมดออกไป
แม้ว่าจะมีคนทำความสะอาดห้องผู้ป่วยทุกวัน แต่เธอก็ทำความสะอาดอีกครั้งอย่างระมัดระวัง
“กู้ฮวนมาแล้ว…..” ลู่ลู่ตื่นขึ้นมา สองสามวันนี้เธอพักผ่อนได้ดีเป็นพิเศษ และทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็ได้เห็นลูกสาวของตนเองกำลังทำความสะอาดห้องอยู่
กู้ฮอนยืดตัวขึ้นและรีบเดินไปข้างเตียง “แม่ ฉันปลุกคุณหรือเปล่า”
ลู่ลู่ส่ายหน้า “ไม่ได้รบกวนฉันเลย มาตรงนี้จะทำให้งานเธอล่าช้านะ”
“ไม่เลย ฉันเพิ่งได้ยินจากหมอว่าตอนนี้อาการป่วยของคุณดีขึ้นมากแล้ว และตอนนี้ก็สามารถออกไปสูดอากาศได้แล้ว อีกแป๊บเดียวฉันจะพาคุณออกไป” กู้ฮอนพูดจบ ก็ปรับเตียงขึ้น เพื่อให้แม่ลุกขึ้นนั่ง