ตอนที่ 677 เวรกรรม 1
พอกู้ฮอนได้ ก็แอบคิด:เพื่อนแม่คนที่จะแต่งงานกับคุณท่านเป่หมิงหรือว่าจะเป็นคุณแม่ของเป่หมิงโม่ หวีหรูเจี๋ย?
แต่ว่าเธอไม่ได้ถามคนเป็นแม่ และก็ฟังเรื่องราวที่แม่เล่าต่อ
ลู่ลู่พูดต่อ: “ผ่านไปไม่นาน แม่ก็ได้รู้จักกับพ่อของลูก จากนั้นก็มีหนู ตอนนั้นแม่ก็ยังเป็นนักร้องอยู่ ทำงานยุ่งมาก จึงขอให้เพื่อนคนนั้นช่วยดูแลลูกที่ยังเป็นทารกอยู่ จนถึงวันหนึ่งแม่ที่กำลังแสดงอยู่ก็ได้รับข่าวที่น่ากลัวมา”
กู้ฮอนฟังไปก็รู้สึกตื่นเต้น ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวถามออกไป: “แม่ สรุปแล้วมันเรื่องอะไรกัน?”
***
ลู่ลู่มองกู้ฮอนที่ทำสีหน้ารีบร้อน แสงแห่งความโศกเศร้าฉายในดวงตาของเธอ: “จู่ๆ แม่ก็ได้รับข่าวมาว่าลูกหายไป……” เธอพูดถึงตรงนี้ น้ำตาที่คลอเบ้าก็ไหลออกมา
ในใจกู้ฮอนรู้สึกไม่ได้เป็นอย่างมาก เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าของเธอขึ้นมา เช็ดน้ำตาบนหน้าของผู้เป็นแม่
“แม่ ไม่ต้องเสียใจนะ หนูกลับมาอยู่นี่แล้วไง ต่อไปพวกเราแม่ลูกจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน จะไม่แยกจากกันแล้วนะ” พูดถึงตรงนี้เธอก็ถามต่อ: “แม่ หนูหายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณท่านเป่หมิงล่ะ ไม่ใช่ควรที่โทษเพื่อนของแม่คนนั้นเหรอ?”
ลู่ลู่พยักหน้า: “ลูกพูดไม่ผิด ที่จริงแล้วแม่ก็แค้นเพื่อนแม่คนนั้นมากๆ แต่ถ้าหากตอนนั้นเป่หมิงเจิ้งเทียนไม่ทะเลาะกับเธอ เธอก็คงไม่ทำลูกหายหรอก ที่จริงแล้วสิ่งที่เธอเจอมันก็ค่อนข้างน่าเศร้า เพราะว่าเท่าที่แม่รู้ ที่เป่หมิงเจิ้งเทียนขอเพื่อนแม่คนนั้นแต่งงาน ก็เพราะเธอคล้ายกับอดีตภรรยาที่เสียไปแล้วของเขา แถมระหว่างพวกเขาก็มีลูกนั่นก็คือเป่หมิงโม่คนเมื่อกี้”
กู้ฮอนได้ยินทันใดนั้นก็สูดหายใจเข้าลึก เพื่อนแม่คนนั้นที่แท้ก็คือหวีหรูเจี๋ย!
อีกอย่างที่คิดไม่ถึงก็คือ คนที่ดีกับเธอมาตลอดอย่างหวีหรูเจี๋ยจะเป็น ‘ตัวการ’ ที่ทำเธอหายไป
ประสบการณ์ชีวิตของเป่หมิงโม่ก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้น ที่เขาเกลียดแม่เขา ที่แท้ตอนเป็นเด็กเขาต้องอยู่ท่ามกลางการทะเลาะกันของพ่อกับแม่
ลู่ลู่เล่าเรื่องอย่างรวบรัด จากนั้นก็หันมองลูกสาว ก็เห็นเธอกำลังคิดอะไรอยู่ และสีหน้าก็เปลี่ยนไปไม่ค่อยดีนัก
“กู้ฮอน ลูกเป็นอะไรไป?”
กู้ฮอนดึงสติ กระโดดออกมาจากความคิดมั่วซั่ว เธอจัดการความรู้สึกตัวเองอยู่ครู่ จากนั้นก็พูดขึ้น: “แม่ หลายปีที่ผ่านมาเพื่อที่จะตามหาหนูแล้วแม่คงจะลำบากมาไม่น้อย”
“เห้อ ความลำบากที่เจอมาแต่ก่อนเทียบกับตอนนี้แล้ว แม่คิดว่ามันคุ้มค่า สวรรค์ยังพอมีเมตตากับแม่อยู่บ้าง ผู้คนตั้งมากมายสุดท้ายแม่ก็ยังหาลูกจนเจอ” ใบหน้าของลู่ลู่มีความยินดี
*
กู้ฮอนคุยกับลู่ลู่อยู่อีกสักพัก แต่เธอก็เริ่มไม่มีความกล้าที่จะบอกแม่เรื่องที่เธอตั้งครรภ์แทน
แม่จงเกลียดจงชังคนตระกูลเป่หมิงกับหวีหรูเจี๋ยขนาดนี้ ถ้าหากรู้ว่าตนมีลูกให้กับเป่หมิงโม่ถึงสองคนคง…….
เธอกังวลจริงๆ ว่าเพราะเรื่องนี้จะทำให้แม่ โกรธจนเป็นอะไรไป
เห็นทีความลับนี้คงต้องปิดไว้ในส่วนลึกในใจ จะให้มันแดงออกมาไม่ให้เด็ดขาด
ขณะเดินทางกลับ เธอก็คิดมากตลอดสงบลงไม่ได้เลย เบื้องหน้าก็มีปัญหาใหม่งอกขึ้นมาอีก นั่นก็คือพวกลูกๆ จะอธิบายกับแม่ยังไง?
พวกเด็กยังว่าง่ายหน่อย เธอไม่รู้อะไรเลย แม้แต่เป่หมิงโม่ก็ปฏิบัติต่อเธอเหมือนผีในห้องน้ำเท่านั้น
แต่ว่าเฉิงเฉิงกับหยางหยางล่ะ? ถึงแม้พวกเขาจะเพิ่งเจ็ดขวบ แต่ถ้าพวกเขารู้เรื่องพวกนี้ จะคิดยังไง?
อีกอย่างพวกเขายายหลานอีกไม่นานก็คงจะได้เจอกัน ดูเหมือนว่ายังมีอีกหลายเรื่องมากๆ ที่ต้องคิด
แต่ว่าตอนนี้ใช้เวลาที่ตัวเองไม่ค่อยยุ่ง มาช่วยดูแลแม่ให้หายดีก่อน เรื่องหลังจากนี้ก็คงต้องจัดการทีหลัง ตอนนี้ฉันแทบไม่มีเวลาคิดมากเลย
เช่นวันนี้ ที่แม่พูด เธอมั่นใจแล้วว่าถึงแม้เป่หมิงโม่จะทำดีก็แม่ยังไง แม่ก็คงไม่ชอบเขาอยู่ดี แถมจะยิ่งอคติ
เห้อ……นี่เป็นเวรกรรมของเธอกับแม่และตระกูลเป่หมิงจริงๆ …….
***
เรื่องราวที่ลู่ลู่เล่าให้กู้ฮอนฟัง ราวกับบทในละครทีวี ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีจริงๆ
เมื่อเธอกลับมาถึงบ้าน มองดูนาฬิกาตอนนี้ดึกมากแล้ว
เฉิงเฉิงได้รับข้อความจากทางโรงเรียนว่าพรุ่งนี้ต้องไปเรียน เพราะงั้นจึงนอนแต่หัวค่ำ
ที่จริงจิ่วจิ่วอยากจะเล่นต่ออีกหน่อย แต่ว่าแอนนิกับลั่วเฉียวกังวลว่าเธอจะเสียงดังรบกวนเฉิงเฉิงพักผ่อน จึงแค่กล่อมเธอจนหลับและไปเข้านอน
กู้ฮอนกลับมาถึงบ้านก็รู้สึกเหนื่อยไปทั้งกายและใจ กู้ฮอนไม่ได้คุยกับเธอจนดึก
หลังจากเธอกับเฉิงเฉิงกลับมา ก็เผชิญหน้ากับปัญหาของวิธีการจัดการกับลั่วเฉียว ตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์ ที่จริงเธอคิดว่าเปิดห้องพักสักห้องก็โอเคแล้ว
แต่ว่ากู้ฮอนไม่โอเค ผู้หญิงตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องใหญ่ ไม่สามารถมองข้ามได้ อยู่ในห้องพักตัวคนเดียวไม่มีใครดูแล ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมาคงจะจัดการไม่ไหว
สุดท้ายแอนนิก็พูด: “งั้นเอางี้ ลั่วเฉียวกับฉันนอนห้องเดียวกันก็ได้ ฉันเคยท้องมาก่อนก็พอจะรู้บ้างว่าต้องดูแลยังไง”