ตอนที่ 689 ทั้งลานกำลังวุ่นกับการหาคน 1
“อืม เรื่องนี้ฉันรู้แล้ว ตอนนี้เธออยู่ที่นั่นกับพ่อปู้ฝัน พวกเราก็อยู่ที่นั่น หากคุณครูโล่ถามหนูอีก หนูอย่าพูดออกไปเด็ดขาดรู้ไหม” กู้ฮอนเตือนหยางหยาง
เธอกลัวหยางหยางจะหลุดปากพูดออกไปเมื่อไหร่ ตอนนี้ท้องของลั่วเฉียวค่อยโตขึ้นตามกาลเวลา ถึงตอนนั้นโล่ฮานรู้เข้า ต้องแย่แน่ๆ
“แม่ คุณวางใจได้ คนนอกไม่เชื่อ หรือแม้แต่ลูกชายที่ฉลาดของคุณก็ไม่อยากจะเชื่อเหรอ? ผมรู้ว่าควรทำอย่างไรแล้ว ตีให้ตายยังไงผมก็จะไม่พูด” หยางหยางยิ้มแล้วพูด
กล่าวได้ว่า หยางหยางใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านตระกูลเป่หมิง แม้จะมีคนคอยรับใช้ และยังมีขนมที่กินได้ตลอดเวลา
พวกนี้ตอนที่เขามาแรกๆ นั้นดึงดูดใจเขาเล็กน้อย แต่ตอนนี้เขารู้สึกเบื่อแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ทุกวันต้องเจอกับคุณย่าที่จู้จี้จุกจิก และเฟยเอ๋อที่น่าเกลียด
ความสนุกที่เหลืออยู่ พูดคุยกับแม่และเฉิงเฉิง และเล่นเกมกับโล่ฮาน แข่งวิ่งกับเชี่ยและพูดคุยกับคุณครูในชั้นเรียน
“เอาล่ะ ไม่คุยกับหนูแล้ว แม่ยังมีธุระ จำคำพูดที่แม่บอกหนูไว้เข้าใจไหม” กู้ฮอนพูดเสร็จก็รีบวางสายทันที เธอไม่อยากให้คุณแม่ต้องรอเธอคนเดียวนานเกินไป
“แม่ ฉันส่งคุณกลับไป…” กู้ฮอนพูดแล้วหันไป แต่ไม่เห็นใครอยู่ที่สนามหญ้าข้างหลัง
กู้ฮอนตกตะลึงทันที แค่พูดสายแค่เวลาสั้นๆ ทำไมถึงไม่เห็นแม่แล้ว
“แม่ แม่ คุณอยู่ไหน?” กู้ฮอนตะโกน พร้อมกับตามหา
แต่นอกจากฝูงชนที่เดินไปมา ก็ไม่เห็นร่างของลู่ลู่
ร่างกายของเธอตอนนี้ดีขึ้นมาบ้าง หาดตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกะทันหันจะทำอย่างไร
เธอมาหยุดคุณหมอและพยาบาลที่เดินผ่านไปมา แล้วอธิบายถึงลักษณะการสวมใส่ของลู่ลู่ ดูว่าพวกเขาได้เห็นบ้างรึเปล่า
แต่สุดท้าย คำตอบที่ได้มาคือไม่เห็น
ครั้งนี้ทำให้กู้ฮอนกังวลมาก น้ำตาคลอเบ้าเธอยืนอยู่คนเดียวบนสนามหญ้า ราวกับเด็กที่ถูกผู้ใหญ่ทอดทิ้ง
ในเวลานี้เธอก็นึกขึ้นได้ทันที ให้โรงพยาบาลช่วยป่าวประกาศ ให้ทุกคนช่วยกันตามหา แบบนี้ถึงจะสามารถตามหาคุณแม่ได้เร็วที่สุด
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอวิ่งไปที่หน้าแผนกของโรงพยาบาลอย่างรีบร้อน ถามแผนกที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการประกาศ ไม่นานการออกประกาศของการตามหาลู่ลู่ก็ดังขึ้นในโรงพยาบาล
***
เวลาผ่านไป ท่องฟ้าค่อยๆ มืดลง ความยากลำบากในการตามหาลู่ลู่ก็ยากขึ้น
กู้ฮอนก็กังวลมากขึ้น
เธอเคยกังวลว่าแม่ของเธอจะนั่งรถเข็นออกจากโรงพยาบาลรึเปล่า แต่เมื่อถามรปภ.ที่ตรวจดูคนเข้าออกโรงพยาบาล
และนำรูปภาพของลู่ลู่ให้พวกเขาดู แต่พวกเขาก็ตอบกลับมาอย่างมั่นใจว่าไม่เห็นเธอออกไป
เรื่องนี้สำหรับกู้ฮอน เป็นข่าวดี อย่างน้อยคุณแม่ก็ยังอยู่ในโรงพยาบาล
กู้ฮอนกลับไปที่ห้องกระจายเสียงเพื่อรอข่าว
พยาบาลที่คอยอยู่กับเธอ เห็นว่าเธอมีปฏิกิริยาที่ร้อนรนขนาดนี้ จึงตบไหล่ของเธอเบาๆ อย่างปลอบโยน: “คุณกู้ คุณวางใจเถอะ คุณลู่ลู่ต้องไม่เป็นอะไร รปภ.ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ หากพวกเขาเห็น ก็จะบอกเราเป็นคนแรก”
กู้ฮอนหันไปยิ้มให้เธอ แต่ก็ปิดซ่อนอารมณ์กังวลของเธอไม่ได้
แม้ว่าคำพูดของพยาบาลจะหวังดีกับเธอ ให้เธอผ่อนคลายบ้าง แต่ความเป็นแม่ลูก ความรู้สึกเป็นห่วง เธอจะนิ่งนอนใจได้อย่างไร เพียงเพราะคำพูดปลอบโยนเพียงไม่กี่คำ
กู้ฮอนรออยู่ที่ห้องประกาศ เป็นเวลานาน แต่ก็ไม่มีข่าวใหม่ๆ มา เธอก้มมองนาฬิกา คุณแม่หายตัวไปก็หนึ่งชั่วโมงแล้ว
เธอรู้สึกว่าไม่ควรรอข่าวอยู่ที่นี่โดยไม่ทำอะไร
หากตัวเองออกไปตามหา แบบนั้นก็จะมีความหวัง; แต่เมื่อรอเป็นเวลานาน เพียงแต่จะยิ่งทำให้คนเหนื่อยล้ามากขึ้น
กู้ฮอนหันไปพูดกับพยาบาลว่า: “ขอโทษ รอไม่ไหวแล้วจริงๆ ฉันจะออกไปตามหา คุณช่วยรออยู่ที่นี่ หากได้ข่าวใหม่อย่างไรก็โทรหาฉันนะ”
พูดแล้ว เธอก็หยิบกระดาษและปากกาบนโต๊ะ รีบเขียนเบอร์มือถือของตัวเองลงไป จากนั้นก็รีบออกไป
ดึกแล้ว ทุกแผนกของโรงพยาบาลก็ปิดลง ดังนั้นคนจึงน้อยลงเยอะมาก
เหลือเพียงผู้ป่วยแผนกฉุกเฉินเพียงบางส่วน
แต่ถึงอย่างนั้น การตามหาลู่ลู่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
เวลานี้ การประกาศตามหาลู่ลู่ ยังคงประกาศทุกๆ สามถึงห้านาที
แม้ว่าโรงพยาบาลจะไม่รู้ว่าลู่ลู่คือใคร แต่พวกเขารู้ดีว่าลู่ลู่เป็นคนที่ถูกเป่หมิงโม่โฟกัสให้อยู่ที่นี่
หากเธอหายไปจากที่นี่ หรือเกิดอะไรขึ้น ก็เป็นความประมาทของพวกเขา ซึ่งจะทำให้เป่หมิงโม่ขุ่นเคืองได้
ความถี่ในการประกาศ สำหรับโรงพยาบาลใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว
การประกาศจะไม่ประกาศตลอดเวลา แม้ว่าจะเป็นเรื่องร้อนใจ แต่การทำเช่นนี้จะทำให้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกเดือดร้อน และจะมีแนวโน้มที่ตรงกันข้าม
ไม่เพียงแค่นั้น โรงพยาบาลยังจัดบุคลากรบางส่วน กลุ่มละสองคน กระจายไปทั่วโรงพยาบาลเพื่อตามหา
อย่างไรก็ตาม ประการแรกจำนวนคนที่สามารถนำไปใช้งานได้มีจำกัด ประการที่สองไม่สามารถส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานปกติของโรงพยาบาลได้ ประการที่สามไม่ว่าจากพื้นที่ชั้นไหนถึงกี่ชั้นก็ตามของโรงพยาบาลแห่งนี้ ถือว่าใหญ่มาก ดังนั้นจึงต้องใช้เวลามาก