ตอนที่ 682 วุ่นวาย 2
“เจ้านาย หรือว่ามันจะใช้ชื่อปลอม? ลองไปถามหาคนที่เข้าออกในวันนั้นที่แผนกต้อนรับดีมั้ย?” ฉิงฮัวมองเจ้านาย
เป่หมิงโม่จุดบุหรี่มวนนึง แล้วสูบ: “นายถามแผนกต้อนรับก็ไม่มีประโยชน์อะไร วันวันนึงพวกเธอต้องต้อนรับแขกเป็นร้อยๆ คน คงจำมันไม่ได้หรอก มันเข้าออกที่นี่บ่อยมาก เห็นที่ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้นมันคงพักอยู่ที่นี่ตลอด”
ถังเทียนจื๋อคนนี้ดูท่าจะไม่ง่าย เขาจงใจทิ้งหลักฐานเบื้องหน้าไว้ แต่พอถึงจุดสำคัญกลับไปทิ้งหลักฐานอะไรเอาไว้เลย
“นายไปตรวจสอบดูหน่อย ว่าวันไหนเป็นวันซ่อมบำรุงลิฟต์ในโรงแรม” บางทีอาจจะหาเบาะแสรอบๆ ลิฟต์ได้
ฉิงฮัวพยักหน้า จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฝ่ายขนส่งของโรงแรม
***
จากนั้นไม่กี่นาที ฉิงฮัวก็วางสาย
“ฝั่งนั้นตอบกลับมาว่าไงบ้าง?” เป่หมิงโม่มองฉิงฮัวที่กำลังทำสีหน้าซับซ้อน
“เจ้านาย ทางฝ่ายขนส่งของโรงแรมบอกว่า วันก่อนเกิดเรื่องขึ้นไม่กี่วันลิฟต์เคยเกิดการขัดข้อง แต่ว่าหลังจากที่พวกเขาติดต่อบริษัทที่รับผิดชอบเรื่องลิฟต์แล้ว ทางฝั่งนั้นก็ส่งคนมาไม่นานก็ซ่อมส่วนที่ขัดข้องเสร็จ” ฉิงฮัวมองหน้าเป่หมิงโม่ที่กำลังคิดหนัก: “เจ้านาย มันมีปัญหาอะไรเหรอครับ?”
“นายบอกพวกเขาที ให้คนที่รับผิดชอบซ่อมลิฟต์มาที่นี่หน่อย มีอะไรจะถามเขา”
ฉิงฮัวพยักหน้า แล้วจัดการทันที
ไม่นาน ชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบกว่า ก็ถูกเลขาด้านนอกพาตัวเข้ามาในออฟฟิศ
เป่หมิงโม่เงยหน้ามอง เขาสวมชุดช่างสีเทาฟ้าๆ บนตัวก็มีรอยคราบน้ำมัน
นี่เป็นครั้งแรกที่เข้าได้เข้ามาในห้องของประธานเป่หมิง เขายืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเป่หมิงโม่ พร้อมกับก้มหน้าและทำอะไรไม่ถูก
“เชิญนั่ง ผมมีเรื่องจะถามคุณ” เป่หมิงโม่ทำท่าให้เขานั่งลง
“ทะ..ท่านประธานเป่หมิง ผมเนื้อตัวสกปรก ของของท่านในนี้มันแพง ผมกลัวจะทำให้สกปรก มีอะไร ท่านถามได้เลยครับ” ช่างซ่อมลิฟต์ดูประหม่ามากๆ
เป่หมิงโม่เห็นว่าแม้ว่าภายนอกจะมีท่าทีไม่น่าดูก็ตาม แต่ตัวเขาก็ยังมีความเป็นมิตรอยู่
“ไม่เป็นไร ผมเห็นคุณดูประหม่า นั่งก่อนแล้วค่อยคุยกัน”
ฉิงฮัวเห็นว่าช่างซ่อมยังไม่กล้านั่งลง เลยขมวดคิ้ว: “ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ ให้นายนั่งลงแล้วค่อยตอบ”
น้ำเสียงของเขาจู่ๆ ก็แข็งขึ้นมา แต่ว่าก็ได้ผล ช่างซ่อมคนนั้นตกใจจนนั่งลงบนเก้าอี้ด้านหลังของตน
เป่หมิงโม่มองไปที่เขา:“ ลิฟต์ในโรงแรมแมนดารินเป็นคุณที่ซ่อมบำรุงตลอดใช่มั้ย? ”
ช่างซ่อมคนนั้นรีบลุกขึ้นยืน: “ลิฟต์ที่นั่นเป็นผมที่ซ่อมบำรุง มาหลายปีแล้วครับ”
เป่หมิงโม่พยักหน้า ยืนมือทำท่าให้เขานั่งลงอีกครั้ง
“ฉันได้ยินมาว่าก่อนที่เรื่องจะเกิดไม่กี่วัน ลิฟต์เกิดขัดข้อง สรุปแล้วเรื่องมันเป็นยังไง? ”
“ที่จริงแล้วลิฟต์ตัวนั้นไม่ได้ขัดข้องอะไรร้ายแรง ครั้งนั้นปัญหาเกิดจากเซนเซอร์พื้นลิฟต์มีบางอย่างผิดปกติ มีแขกที่จริงจะขึ้นไปชั้น7 แต่ว่าลิฟต์กลับไปหยุดที่ชั้น9 ผมเปลี่ยนตัวเซนเซอร์ใหม่ ลิฟต์ก็กลับมาทำงานตามปกติ แถมหลังจากนั้นก็ใช้ได้ตามปกติมาตลอด”
เป่หมิงโม่ได้ฟัง แล้วก็พยักหน้า: “ตอนที่นายซ่อมลิฟต์อยู่นั้น นายทำคนเดียวหรือว่ามีคนอื่นคอยช่วยด้วย? ”
ช่างซ่อมคนนั้นคิดอยู่ครู่: “ที่จริงแล้วผมคนเดียวก็ได้ แต่ชิ้นส่วนที่พังไป ที่ผมมันหมดแล้ว จึงโทรศัพท์ให้คนที่บริษัทช่วยส่งคนมาอีกหนึ่งคน”
“ความหมายของนายคือ ขณะที่นายกำลังซ่อมลิฟต์อยู่ก็มีคนอีกคนอยู่ด้วย? ” ฉิงฮัวพูดแทรก
ช่างซ่อมคนนั้นรีบพยักหน้า
“ตอนที่นายกำลังทำงานอยู่ นายรู้มั้ยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่? ” ฉิงฮัวเดินไปที่ข้างหน้าช่างซ่อมแล้วถามต่อ
“หลังจากที่เขาเอาของที่ผมต้องการมาให้ มันพอดีกับตอนที่ต้องเช็กสภาพลิฟต์ ตอนที่ผมเปลี่ยนชิ้นส่วนที่พัง ก็เลยสั่งให้เขาไปเช็กสภาพ จนผมเปลี่ยนชิ้นส่วนเสร็จ เขาก็เช็กสภาพเสร็จพอดี” ช่างซ่อมพยายามนึกถึงเรื่องราวในตอนนั้นทุกรายละเอียด
“นายรู้จักคนที่เอาอะไหล่มาให้มั้ย? ”
“ไม่รู้จักครับ ที่จริงแล้วพวกเราช่างซ่อม คนที่สำนักงานใหญ่ นอกจากหัวหน้าของเราไม่กี่คน ก็ไม่ได้เจอคนอื่นเลย”
“งั้นถ้าให้นายไปที่บริษัทหาคนคน นั้น นายแน่ใจนะว่านายจำเขาได้มั้ย? ”
***
ช่างซ่อมพยักหน้า มองไปที่เป่หมิงโม่อย่างหนักแน่น: “ผมจำได้รับ”
เป่หมิงโม่มองไปที่เขา: “ดีมาก”จากนั้นก็มองฉิงฮัว: “นายพาเขาไปที่บริษัทของพวกเขา หาคนที่เช็กสภาพลิฟต์กับเขาตอนนั้นออกมา”
ฉิงฮัวพยักหน้า จากนั้นก็ตบไปที่ไหลของช่างซ่อม: “พวกเราไปกันเถอะ”
ช่างซ่อมเห็นว่าตัวเองไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ในที่สุดเส้นประสาทที่ตึงก็คลายออก
เขาลุกขึ้นยืน แล้วโค้งให้เป่หมิงโม่ จากนั้นก็หันหลังแล้ววิ่งเหยาะๆ ตามฉิงฮัวออกไป
“เดี๋ยวก่อน” เป่หมิงโม่ครุ่นคิดสักพัก จึงเรียกฉิงฮัว
ฉิงฮัวหยุดเดิน แล้วพูดกับช่างซ่อม: “นายรอฉันอยู่ข้างนอกแป๊บนึง” จากนั้นก็เดินเข้าไปหาเป่หมิงโม่อีกครั้ง: “เจ้านาย มีเรื่องอะไรให้ผมจัดการครับ? ”