ตอนที่ 691 เขาคือใคร 1
เธอหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ข้างเตียงขึ้นมา ต่อสายเบอร์โทรศัพท์ของห้องกระจายเสียงที่ระบุไว้ในบัตรโทรศัพท์ บอกพวกเขาว่าพวกเขามาถึงแล้ว และแสดงความขอบคุณต่อพวกเขา
เมื่อวางโทรศัพท์ เธอก็กดกริ่งเรียกที่อยู่เหนือหัวเตียง
ผ่านไปชั่วครู่ก็มีเสียงเคาะประตูเบาๆดังขึ้น
ลู่ลู่ที่เมื่อครู่สามารถดึงสติอันน้อยนิดกลับมาได้อย่างไม่ง่ายนักก็ถูกทำให้ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนยิ่งกว่าเดิม
เธอคว้าแขนของกู้ฮอนที่เตรียมจะไปเปิดประตูเอาไว้ เอ่ยอย่างเคร่งเครียดว่า “ลูก เขามาแล้ว ลูกอย่าไป พวกเราไม่ส่งเสียงอะไร เขาก็จะไม่รู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่”
กู้ฮอนยิ้มบางให้กับคุณแม่ “คุณแม่คะ คุณแม่วางใจเถอะ เมื่อสักครู่หนูเรียกพยาบาล เธอมาเพื่อตรวจร่างกายให้กับคุณแม่ค่ะ”
เธอเอ่ยพลางยื่นมือออกไปดึงมือเธอออกจากมือของตัวเองอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน เดินไปทางประตู
เมื่อเปิดประตูออกมาก็มีนางพยาบาลคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู “เมื่อสักครู่เป็นคุณที่กดกริ่งเรียกใช่ไหมคะ”
กู้ฮอนพยักหน้า “เมื่อสักครู่คุณแม่ของฉันออกไปข้างนอก กลับมาแล้วก็ดูเหมือนว่าจะได้รับความตื่นตระหนกอะไร หวังว่าพวกคุณจะช่วยตรวจเธอสักหน่อยค่ะ”
นางพยาบาลพยักหน้า “คุณรอสักครู่นะคะ ฉันจะไปเรียกคุณหมอมาค่ะ” เอ่ยแล้วก็หมุนตัวเดินจากไป
ผ่านไปชั่วครู่ นางพยาบาลก็นำคุณหมอสองคนเดินมาที่ห้องพักผู้ป่วยของลู่ลู่
พวกเขาเริ่มทำการตรวจร่างกายให้กับลู่ลู่
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง กู้ฮอนก็เห็นว่าการตรวจของพวกเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงรีบสอบถามว่า “คุณหมอคะ คุณแม่ของฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ หลังจากกลับมาแล้วถึงได้ไม่มีสติ”
หนึ่งในคุณหมอเอ่ย “คุณกู้ครับ ผมอยากสอบถามคุณสักหน่อย ตอนที่คุณพาเธอออกไปได้พบกับใคร คุยอะไรบ้างไหมครับ”
กู้ฮอนส่ายหน้า “ฉันพาคุณแม่ออกไปเดินเล่นที่สนามเท่านั้นเอง พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของสภาพอากาศแค่นั้นเองค่ะ หลังจากฉันรับโทรศัพท์สายหนึ่งก็หาเธอไม่เจอแล้วจนถึงเมื่อครู่นี้ ฉันถึงได้พบเธอแอบอยู่ในห้องน้ำของห้องพักผู้ป่วย สภาพจิตใจของเธอตึงเครียดเป็นอย่างมาก”
***
คุณหมอที่ได้ยินกู้ฮอนเล่าให้ฟังแล้วก็เอ่ยกับเธอว่า “คุณกู้ครับ คุณแม่ของคุณได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักจึงทำให้หมดสติไป จนระยะนี้ถึงได้ฟื้นคืนสติขึ้นมา แม้ว่าอาการป่วยของเธอจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ว่าเมื่อได้รับการกระตุ้นบางอย่าง เธอก็จะมีอาการประสาทหลอนอยู่บ้าง ทำเรื่องราวบางอย่างที่ตัวเธอเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ แม้กระทั่งกระทำสิ่งที่รุนแรงมากเกินไปได้”
กู้ฮอนพยักหน้า ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง “เขา” ที่คุณแม่พูดติดปากกลับไปกลับมาไม่หยุดอาจจะปรากฏตัวขึ้นมาจริงๆในตอนที่ตัวเองโทรศัพท์ก็ได้
แต่ว่าคนคนนั้นเป็นใครกันแน่ คุณแม่นั้นไม่เคยพูดถึงมาก่อนเลย
“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ อย่างนั้นฉันอยากจะขอถามสักหน่อยว่าฉันควรจะทำอย่างไรเมื่อพบเจอสถานการณ์แบบนี้คะ” กู้ฮอนสอบถาม
คุณหมอพูดกับนางพยาบาลที่อยู่ข้างกายประโยคหนึ่ง หลังจากเธอหมุนตัวเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วย
คุณหมอคนนั้นก็พูดกับกู้ฮอนว่า “วิธีการแท้จริงแล้วนั้นง่ายมาก ก็คือไม่ให้เธอได้รับความกระทบกระเทือนแบบนี้อีกก็พอแล้วครับ พูดคุยสนทนากับเธอให้มากๆ กระจายสมาธิของเธอออกไป แล้วก็นวดร่างกายเธอให้ทั้งร่างเธอผ่อนคลายบ่อยๆครับ”
กู้ฮอนพยักหน้าไม่หยุด จดจำคำพูดทั้งหมดที่คุณหมอบอกเอาไว้
ผ่านไปชั่วครู่ นางพยาบาลคนนั้นก็ยกถาดเข้ามาแล้วยื่นเข็มฉีดยาให้กับคุณหมอ
“คุณกู้ครับ เนื่องจากตอนนี้สภาพอารมณ์ของเธอค่อนข้างตึงเครียด ผมจะฉีดยาให้เธอเข็มหนึ่งก่อน เพื่อให้เธอสงบลงมา” คุณหมอเอ่ยจบก็หมุนตัวไปฉีดยาให้กับลู่ลู่เข็มหนึ่ง
ในไม่ช้า ลู่ลู่ก็ค่อยๆหลับไปเพราะฤทธิ์ยา
คุณหมอและนางพยาบาลก็ออกไปจากห้องพักผู้ป่วย
กู้ฮอนมองคุณแม่ที่นอนอยู่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรกเสียจริง
ไม่รู้ว่าคนที่คุณแม่ไม่อยากพบคนนั้นมาเพื่อพบเธอโดยเฉพาะหรือว่าพบโดยบังเอิญครั้งหนึ่งกัน
ถ้าหากว่าเป็นอย่างหลัง แบบนั้นก็พูดง่ายหน่อย แต่ว่าถ้าหากเป็นอย่างแรกแล้วจะทำอย่างไรดี เขารู้ที่อยู่ของคุณแม่แล้ว
อย่างนั้นเขาจะทำอะไรต่อไปกัน
แท้จริงแล้วสิ่งพวกนี้ล้วนไม่ใช่ปัญหา แต่ที่สำคัญคือระหว่างพวกเขาเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
ตอนเย็นก่อนกลับไป เธอรบกวนให้นางพยาบาลช่วยดูคุณแม่หน่อย ถึงจะวางใจขับรถกลับไปยังบ้านของหยินปู้ฝัน
“กู้ฮอน ทำไมวันนี้เธอถึงได้กลับมาดึกขนาดนี้กัน สีหน้าของเธอดูแล้วไม่ค่อยดีเท่าไรด้วย” ลั่วเฉียวที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟาในห้องรับแขกก็หมุนตัวกลับมาถาม
หยินปู้ฝันที่อยู่ข้างเธอที่ได้ยินก็รีบหันหน้ากลับมา “กู้ฮอน คุณแม่ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง”
กู้ฮอนนั้นสภาวะอารมณ์ยุ่งเหยิงมาก เธอไม่ได้ยินแม้กระทั่งที่พวกเขาถามตัวเอง
หยินปู้ฝันเห็นเธอไม่ตอบสนองก็รีบลุกขึ้นจากโซฟา เดินไปอยู่เบื้องหน้าเธอในไม่กี่ก้าว มองใบหน้าที่มีคำว่าเศร้าหมองเขียนอยู่
“กู้ฮอน วันนี้เจอเรื่องอะไรกวนใจหรือ ลองพูดกับพวกเราสิ พวกเราอาจจะช่วยเสนอความคิดได้”
ในตอนนี้เอง กู้ฮอนถึงได้มีสติขึ้นมา เธอเงยหน้ามองหยินปู้ฝัน “ขอบคุณนายที่เป็นห่วงนะ เพียงแต่เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร”
จากนั้น เธอก็อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลให้พวกเขาฟังอย่างง่ายๆ
หยินปู้ฝันคิ้วขมวด “อ้างอิงจากสภาพการณ์ที่เธอเล่า คุณป้าได้พบกับคนคนหนึ่ง อีกทั้งคนคนนั้นยังอาจจะเป็นบุคคลที่ทำให้คุณป้าหมดสติไปในครั้งก่อน”
กู้ฮอนเชื่อมโยงสถานการณ์บางส่วนที่ตัวเองเข้าใจแต่ก่อนและตอนนี้เข้าด้วยกัน ‘เขา’ คนนั้นก็มีความน่าสงสัยอยู่บ้างจริงๆ