ตอนที่ 724 ความรักไม่มีราคา
“ รูปภาพนี้เธอได้มาจากไหน ? ” เจียงฮุ่ยซินถามอย่างระแวง แม้เรื่องที่ผ่านมาจะไม่มีผลกระทบอะไรสำหรับเธอแล้ว แต่เธอก็ยังอยากรักษาความระวังตัวไว้
เธอเข้าใจดี หวีหรูเจี๋ยจากไปแล้ว ของของเธอไม่มีนานแล้ว
ส่วนลู่ลู่……
เจียงฮุ่ยซินก็เคยแอบสั่งคนไปที่พักอาศัยที่เธอเคยอยู่ แต่คำตอบที่ได้คือ หายังไงก็หาไม่เจอ
เวลาผ่านไปนานแล้ว เจียงฮุ่ยซินก็ยอมแพ้กับการสืบหาข่าวลือของลู่ลู่
กู้ฮอนใช้นิ้วชี้ไปที่ลู่ลู่ : “ ฉันได้มาจากเธอเอง”
เป็นลู่ลู่จริงด้วย เธอยังมีชีวิตอยู่ …..
เจียงฮุ่ยซินคิดถึงจุดนี้แล้ว สายตาของเธอเผยความกังวลออกมาเล็กน้อย แต่ไม่นาน ก็โดนเธอกลบหมด
เธอมองกู้ฮอน ไม่รู้ว่าลู่ลู่จะพูดอะไรกับเธอบ้าง
“ รีบนั่งเร็ว ” ท่าทางเจียงฮุ่ยซินตอนนี้ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย
“ท่านนางเป่หมิง ท่านไว้ใจได้ ฉันไม่มีเจตนาร้ายอะไร ฉันก็แค่อยากรู้เรื่องของพวกท่านสามคนมาก” ท่าทางกู้ฮอนอ่อนโยนมาก สิ่งที่เธอฟังจากคุณ แม่ ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง มีแต่มาฟังกับเจียงฮุ่ยซิน ถึงจะสามารถรู้เรื่องที่ผ่านมาของพวกท่านได้มากขึ้น
และอาจจะรู้ว่าทำไมตัวเองถึงโดนทิ้งไป
เจียงฮุ่ยซินไม่ได้รีบเล่าเรื่องของพวกเธอให้เธอฟัง แต่กลับถามกู้ฮอน : “ เธอรู้จักลู่ลู่ได้ยังไง ?”
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว กู้ฮอนก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังสถานะของตัวเอง เธอยิ้มอ่อน : “ ฉันเป็นลูกสาวที่ลู่ลู่เคยทิ้งในตอนนั้น ”
ทันทีที่กู้ฮอนพูดสิ่งนี้ หัวใจของเจียงฮุ่ยซินก็สั่นสะท้านราวกับสายฟ้าที่ร้อง
เรื่องนี้ผ่านไปยี่สิบปีแล้ว เธอคิดว่าเรื่องนี้จะไม่มีใครมาเปิดเผยได้อีก
คิดไม่ถึงว่าคนที่นั่งอยู่ข้างตัวเอง คือลูกของลู่ลู่ โลกไม่สามารถคาดเดาได้จริงจริง
ผู้หญิงตั้งครรภ์แทนที่เธอเคยหาให้เป่หมิงโม่ เป็นลูกสาวที่หายตัวไปของลู่ลู่ !
เจียงฮุ่ยซินรู้สึกไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน : “ เธอ เธอพูดอะไรนะ เธอคือลูกสาวของลู่ลู่ ? ! ”
***
เจียงฮุ่ยซินมองกู้ฮอนตรงหน้าเธอ ใจเธอเหมือนถูกบีบอย่างแรง
มองกู้ฮอนที่พยักหน้าอย่างจริงจัง เธอยากที่จะยอมรับความจริงนี้
“คิดไม่ถึงจริงจริง ตอนนั้นพวกฉันคิดว่าเธอหายตัวไป ไม่คิดว่าผ่านไปนานขนาดนี้ ยังเจอกันได้ มันเป็นความมหัศจรรย์จริงจริง และเป็นเพราะลู่ลู่เธอมีบุญ ตอนนี้เธออยู่ไหน ไม่ได้เจอเธอมาหลายปีแล้ว อยากจะ ”เจียงฮุ่ยซินมีสีหน้าเร่งรีบ ราวกับว่าถ้ากู้ฮอนพยักหน้า เธอก็จะรีบลุกขึ้นยืนทันทีและไปหาแม่ของเธอ
กู้ฮอนลังเลเล็กน้อย ตอนนี้ร่างกายแม่พึ่งฟื้นตัวได้เล็กน้อย แต่เธอก็ยังรู้สึก ว่ายังไม่ถึงเวลา
อย่างน้อยก็ต้องเป็นตัวเองที่เปิดเผยเรื่องของเด็กให้แม่ฟังทีละนิด เพื่อไม่ให้หลังจากที่พวกท่านเจอกันแล้ว เจียงฮุ่ยซินจะเล่าเรื่องของตัวเองให้แม่ฟัง
กู้ฮอนรู้ว่าแม่มีแต่ความเกลียดกับครอบครัวเป่หมิง โดยเฉพาะเป่หมิงโม่
“ท่านนางเป่หมิง ช่วงนี้แม่ของฉันไม่ค่อยสบาย กำลังอยู่ในระหว่างการฟื้นตัว ฉันคิดว่าพวกท่านจะเจอกันคงต้องรออีกหน่อย”
จากความดีใจของเจียงฮุ่ยซินเมื่อกี้ กลายเป็นความผิดหวังเล็กน้อย : “ หรอ แบบนี้นี่เอง …..”
เธอหันหลังเรียกคนใช้ที่เดินผ่านมาพอดี : “ ไป ไปที่ห้องฉัน หยิบกล่องสีแดงที่อยู่ในตู้มา”
คนใช้ตอบรับ
ไม่นาน กล่องเคลือบสีแดงแกะสลักอย่างสวยงาม ขนาดเท่ากล่องคอมพิวเตอร์วางอยู่บนโต๊ะกาแฟ
“ตอนนี้ร่างกายลู่ลู่ไม่ค่อยแข็งแรง ฉันก็ไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร เธอเอาสิ่งนี้กลับไปบำรุงร่างกายให้เธอเถอะ ” เจียงฮุ่ยซินพูดแล้วเปิดกล่อง
กู้ฮอนอดไม่ได้ที่จะตกใจ มองไม่ออกว่าท่านทางเป่หมิงจะลงทุนเช่นนี้
โสม เขากวาง รังนก ปลิงทะเล ถั่งเช่า ทั้งหมดบรรจุในกล่องที่แตกต่างกันอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นมัดด้วยเชือกฝ้ายสีแดงบนผ้าไหมสีเหลือง ซึ่งดูมีเกียรติและหรูหรามาก
“ท่านนางเป่หมิง ของราคาสูงส่งแบบนี้ ฉันจะรับไว้ได้ยังไง อีกอย่างร่างกายแม่ฉันตอนนี้ก็ดีขึ้นไม่น้อยแล้ว ของพวกนี้ท่านเก็บไว้เองเถอะ ” กู้ฮอนส่ายมือปฏิเสธต่อเนื่อง เธอคิดไม่ถึงว่าเจียงฮุ่ยซินจะทำเพื่อแม่แบบนี้
เมื่อเห็นการปฏิเสธของกู้ฮอน ใบหน้าของเจียงฮุ่ยซินก็เปลี่ยนไปอีกครั้งทันที และน้ำเสียงของเธอก็ดูไม่มีความสุข : “ ทำไม หรือว่าความเป็นเพื่อนระหว่างฉันกับแม่ของเธอเทียบกับสิ่งนี้ไม่ได้? เราเป็นเพื่อนที่ทำงานหนักมาด้วยกัน เคยผ่านความทุกข์ยากมาด้วยกัน อย่าบอกว่าฉันให้อะไรเธอแบบนี้เลย แม้จะให้อีกสิบเท่าก็เทียบกับมิตรภาพระหว่างเราไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าเธอกับฉันดีกันตั้งแต่ตอนแรก แทบจะใส่กางเกงตัวเดียวกันเลย”
ฟังเธอพูดแบบนี้แล้ว กู้ฮอนก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธแล้ว : “ ท่านนางเป่หมิง งั้นฉันขอบคุณแทนคุณแม่ด้วย ”
เจียงฮุ่ยซินยิ้ม พยักหน้าอย่างพอใจ ยื่นมือจับมือของกู้ฮอน ความเมตตาที่หายไปนานนั้นปรากฏบนใบหน้าของเธออีกครั้ง : “ ฮอน ฉันยังอยากจะขอโทษเธอ อยากจะกรุณาเธอให้อภัยที่หลายปีนี้ฉันทำไม่ดีกับเธอ ได้ไหม ในฐานะคุณนายของตระกูลเป่หมิง คุณท่านทำงานหนักอยู่ข้างนอก ฉันก็ต้องดูแลครอบครัวนี้ ดูแลคนโตคนเล็ก ยังต้องระวังคนนอกที่มีเจตนาร้ายกับตระกูลเป่หมิง”
พูดถึงจุดนี้แล้ว เจียงฮุ่ยซินถอนหายใจยาว : “ ตอนนั้นมีการต่อสู้ระหว่างโม่และคุณท่าน เพื่ออำนาจในการควบคุมตระกูลเป่หมิง เขาให้ฉันหาผู้หญิงที่สามารถตั้งครรภ์แทน ตอนนั้นเธอก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าฉันพอดี และดูเหมือนต้องการเงินมาก ความประทับใจแรกของฉันที่มีต่อเธอคือผู้หญิงโลภเงิน หลังจากนั้นเธอก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งโดยการแอบเลี้ยงหยางหยางให้โตขึ้น และก็ค่อยค่อยเข้าใกล้โม่มากขึ้น ฉันจึงคิดว่า เธออยากจะใช้ลูกหาเงินจากโม่ …..”
***
กู้ฮอนฟังเจียงฮุ่ยซินพูดแบบนี้แล้ว เธอจึงเข้าใจทันทีว่าทำไมตอนนั้นเธอต้องทำกับเธอแบบนั้น และเริ่มเข้าใจเธอมากขึ้น
“ท่านนางเป่หมิง ในเมื่อพูดถึงขั้นนี้แล้ว บางอย่างฉันจำเป็นที่จะต้องพูดกับท่านให้ชัดเจน “กู้ฮอนเล่าว่าเธอทำอะไรเพื่อรักษาอาการป่วยของหยูฟืน สำหรับประสบการณ์ในภายหลัง เธอไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมาก
เพราะเธอรู้สึกว่าที่เจียงฮุ่ยซินเข้าใจตัวเองผิด ก็มาจากเพียงการตั้งครรภ์แทน
“ฮอน ฉันเข้าใจเธอผิดจริงจริง เธอเป็นคนดี แม้จะทำเพื่อแม่เลี้ยงของเธอ เธอยังสามารถเสียสละขนาดนี้ได้ คราวหลังเธอไม่ต้องเรียกฉันว่าท่านนางเป่หมิงแล้ว เรียกฉันว่าป้าซินก็พอ แต่แค่คุณท่านจะไม่ได้ยินเท่านั้น ”เจียงฮุ่ยซินถอนหายใจ
ตอนนี้ ความค้างคาใจก็หายไปหมดแล้ว อารมณ์ของกู้ฮอนก็สบายลงไม่น้อย : “ ป้าซิน ที่จริงก่อนไม่กี่วันที่คุณท่านเป่หมิงจะเกิดเรื่อง ฉันเคยพาเด็กไปเยี่ยมเขา ตอนนั้น ฉันได้เล่าเรื่องของฉันให้ท่านฟังหมดแล้ว แม้ท่านจะยังไม่สามารถพูดได้ไหลลื่น แต่ท่านก็บ่งบอกให้ฉันรู้ว่าท่านเข้าใจแล้ว ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงฮุ่ยซินก็ติดต่อกับพินัยกรรมที่ได้รับการแก้ไขโดยคุณท่านทันที
เธอได้อ่านก่อนการแก้ไข และชื่อของกู้ฮอนอยู่บนเงื่อนไขเพิ่มเติม ซึ่งถูกลบออกในภายหลัง
เริ่มแรกเธอยังไม่เข้าใจว่าทำไม ตอนนี้เธอเข้าใจดีแล้ว
โลกไม่สามารถคาดเดาได้จริงจริง
เจียงฮุ่ยซินหยิบรูปภาพขึ้นมาอีกรอบ มุมปากมีรอยยิ้ม เหมือนจะย้อนกลับไปความทรงจำของตอนนั้น
เธอพูดพึมพำคนเดียว และเหมือนจะพูดให้กู้ฮอนฟังด้วย : “ ช่วงเวลาตอนนั้น แม้จะลำบากมาก แต่พวกเราใช้ชีวิตได้มีความสุขมาก เวลาไร้ความรู้สึกจริงจริง ตอนนี้…..” เจียงฮุ่ยซินส่ายหัว
เธอเงยหน้ามองนาฬิกาบนกำแพง: “ ฮอน เธอไม่ต้องรีบกลับหรอก รอทานมื้อเย็นด้วยกันก่อนค่อยไป”
กู้ฮอนคิด ท่านเจียงฮุ่ยซินให้ยาบำรุงกับแม่ และความเข้าใจผิดระหว่างเธอกับท่านก็ถูกฉีกขาดแล้ว
ตัวเองก็ไม่มีอะไรให้หลีกเลี่ยงแล้ว เธอพยักหน้า จากนั้นก็คิดเรื่องได้ขึ้นมาอีก : “ ป้าซิน ฉันขอโทษแทนหยางหยางด้วย ได้ยินว่า ตั้งแต่ที่เขากลับมาตระกูลเป่หมิง มักจะทำให้ท่านโกรธ ….”
ยังไม่รอให้กู้ฮอนพูดจบ เจียงฮุ่ยซินส่ายมือต่อเนื่อง พร้อมกับรอยยิ้มเมตตาที่เธอเคยมี : “ ไม่จำเป็น ไม่จำเป็น ยังไงเขาก็เป็นหลานชายของฉัน จะมีที่ไหนที่คนเป็นย่าจะมาถกเถียงกับหลานชาย ? แต่ก็ต้องโทษฉัน เธอก็รู้ว่าเฉิงเฉิงโตที่ตระกูลเป่หมิงมาตั้งแต่เด็ก พูดอย่างไม่เกินจริงเลยว่า ฉันก็เป็นคนเลี้ยงเขาให้โตเอง พอห่างจากฉันกะทันหัน ฉันก็จะรู้สึกว่างเปล่า พอหยางหยางมา ฉันก็กระทำนิสัยที่ชอบทำกับเธอ แต่นิสัยของเขาเหมือนกับโม่ตอนเด็กมาก”
“ป้าซิน รบกวนท่านแล้ว ในเมื่อท่านคิดถึงเฉิงเฉิงขนาดนี้ คราวหลังฉันจะพาเขามาเยี่ยมท่าน”กู้ฮอนเข้าใจความรู้สึกของเจียงฮุ่ยซินตอนนี้มาก
“งั้นก็ดีมากเลย พอถึงเวลาเธอก็พาเขามาเล่นที่นี่ และพักด้วยกันที่นี่เลย เรามีบ้านเยอะมาก อีกอย่างห้องของเฉิงเฉิงก็เก็บไว้ให้เขาตลอด” เจียงฮุ่ยซินรอไม่ได้ที่จะให้เฉิงเฉิงมาที่นี่แล้ว
เพราะแบบนี้ กู้ฮอนกับเจียงฮุ่ยซินนั่งสนทนาบนโซฟาเป็นเวลานาน วันนี้อารมณ์เจียงฮุ่ยซินดี ยังสั่งให้ครัวทำอาหารต้อนรับกู้ฮอนเป็นพิเศษ
ไม่นาน อาหารหลากหลายวางอยู่หน้ากู้ฮอน นี่เป็นการต้อนรับที่ดีที่สุดตั้งแต่เธอมาตระกูลเป่หมิง
ทำให้กู้ฮอนไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงดี
***
มองไปที่จานเจ็ดใบชามแปดใบบนโต๊ะ มันดูอลังการและอุดมสมบูรณ์มาก
เจียงฮุ่ยซินและกู้ฮอนนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวใหญ่
“ฮอน เธอดูสิ ในสายตาของคนนอก ครอบครัวของเป่หมิงนั้นสูงส่งและโดดเด่นมาก แต่ดูที่โต๊ะอาหารที่ว่างเปล่านี้อีกครั้ง ใครจะรู้ได้ถึงความรกร้างว่างเปล่าและเบื้องหลังของตระกูลเป่หมิง มองภาพที่ร้างเช่นนี้บางครั้งฉันก็อยากจะตามคุณท่านไปจริงจริง ฉันก็จะได้ไม่ต้องอยู่ที่นี่เพื่อเฝ้าห้องนี้และบ้านเปล่า” เจียงฮุ่ยซินกล่าวเบาเบาพร้อมกับรอยยิ้มขมขื่นบนใบหน้าของเธอ
กู้ฮอนมองไปที่เจียงฮุ่ยซิน ครั้งหนึ่งเธอเคยรู้สึกว่าท่านถูกล้อมรอบไปด้วยคนรับใช้ตลอดทั้งวัน และเธออยากจะสูงส่งแค่ไหนก็ต้องสูงส่งแค่นั้น
เมื่อเห็นฉากดังกล่าว เห็นรอยยิ้มอันขมขื่นบนใบหน้าของเธอ แม้ว่าภายนอกท่านจะสวยงามหรูหรา แต่เธอก็เป็นเพียงคนน่าสงสารที่มีเกียรติอยู่ที่นี่เท่านั้น
ในระหว่างที่เจียงฮุ่ยซินรำลึกคิดพวกนี้ จึงได้ยินเสียงเท้าที่เร่งรีบจากห้องโถง
“ฮอน เธอนั่งอยู่ตรงนี้ก่อน ฉันไปดูก่อน ” เจียงฮุ่ยซินพูดแล้วยืนขึ้น แล้วเดินไปห้องโถง
เธอพึ่งถึง ก็เห็นว่าเป่หมิงโม่เดินเข้ามาจากข้างนอก และฉิงฮัวที่ตามหลังเขา
ไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อไหร่
ฉิงฮัวเข้ามาแล้วยื่นร่มให้คนใช้หน้าประตู