ตอนที่ 749 กระดาษไม่อาจห่อไฟไว้ได้
ไม่รอให้หยินปู้ฝันเอ่ยพูด ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความเป็นทางการที่ยืนอยู่ด้านข้างของนายตำรวจหนุ่มที่จับเขามายังสถานีตำรวจ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มสว่างไสวก็ยื่นมือออกมา “ทนายความหยิน เป็นเรื่องเข้าใจผิดเรื่องหนึ่งกันจริงๆครับ”
เขาพูดแล้วคิดจะจับมือกับหยินปู้ฝัน แต่ก็มองเห็นกุญแจมือส่องแสงอยู่บนข้อมือของเขาในทันที
เขาหันกลับไปพูดกับนายตำรวจหนุ่มด้วยสีหน้าเข้มงวดว่า “ยังไม่รีบปล่อยทนายความหยินอีก”
นายตำรวจหนุ่มรีบไขกุญแจมือให้หยินปู้ฝัน
กุญแจมือถูกเอาออกไปแล้ว หยินปู้ฝันขยับข้อมือไปมา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน ในที่สุดความรู้สึกโมโหที่เขาเก็บเอาไว้มาโดยตลอดก็มีคนให้ระบายแล้ว ชี้นิ้วไปยังสองคนที่อยู่เบื้องหน้าบริภาสเขาไปหนึ่งคำรบ “นี่มันไม่เข้าท่าเกินไปแล้ว ตอนนั้นผมแสดงสถานภาพของผมไปแล้ว แต่พวกคุณไม่ยอมฟัง ผมจะรักษาสิทธิ์ในการฟ้องร้องพวกคุณอย่างแน่นอน! มีที่ไหน ไม่แยกแยะขาวดำก็พาคนมาที่สถานีตำรวจ เพื่อนร่วมงานสาวที่ถูกพามาที่นี่ด้วยกันพร้อมผมล่ะ รีบปล่อยเธอเร็วเข้า ถ้าหากว่ามีอะไรสูญเสียละก็ มาดูว่าผมจะคิดบัญชีกับคุณอย่างไร”
ผู้อำนวยการหวางใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ทนายความหยินใจเย็นๆก่อนนะครับ เมื่อสักครู่ผมก็เพิ่งจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับรูปคดีนี้กับเพื่อนร่วมงานมา มีคนร้องเรียนมาว่าในห้องของพวกคุณกำลังทำการธุรกิจผิดศีลธรรมกันอยู่ พวกเราถึงได้ส่งคนไป ถ้าพูดให้จริงจังกว่านี้ไม่ใช่ปัญหาของพวกเราฝ่ายเดียว เพื่อนร่วมงานหญิงที่คุณเอ่ยถึงคือคุณนายเป่หมิงสินะครับ เธอถูกประธานเป่หมิงรับกลับไปแล้วครับ”
คุณนายเป่หมิงคือคำเรียกที่ผู้อำนวยการหวางใช้เรียกกู้ฮอน ทำให้หยินปู้ฝันรู้สึกว่าไม่สบายใจอยู่บ้าง
เพียงแต่ว่าตอนนี้ไม่มีเวลาจะมาจุกจิกกับพวกเขามากมายขนาดนั้น ในเมื่อเป่หมิงโม่ออกหน้าแล้ว ตัวเองก็อาศัยบารมีของเขาด้วย
ไม่อย่างนั้นดูจากประสิทธิภาพในการจัดการเรื่องราวของตำรวจพวกนี้ พรุ่งนี้สามารถตรวจสอบเรื่องราวได้กระจ่างก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
หยินปู้ฝันรับของทั้งหมดของตัวเองกลับมา เดินออกมาจากสถานีตำรวจ เดิมผู้อำนวยการหวางยังอยากจะให้คนส่งเขากลับไปที่โรงแรมแมนดาริน แต่ว่าถูกเขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาดไปแล้ว
ตัวเองถูกพาขึ้นรถตำรวจมาจากที่นั่นภายใต้สายตาของผู้คน ถ้าหากว่ายังนั่งรถตำรวจกลับไปที่นั่นอีกล่ะ ก็คงจะขายหน้าไปจนถึงบ้านแล้ว
เพียงแต่ตอนที่จากไป หยินปู้ฝันบอกว่าต้องการให้พวกเขาเอ่ยขอโทษเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงและเกียรติยศของเขาและกู้ฮอนกลับมาบนโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ด้วยสีหน้าจริงจังมาก
เมื่อออกจากสถานีตำรวจแล้วก็เรียกรถแท็กซี่ข้างทางไปยังโรงแรมแมนดาริน จากนั้นก็ขับรถของตัวเองกลับบ้าน
หลังจากถึงบ้านเขาก็โทรศัพท์หากู้ฮอน
ได้ยินว่ากู้ฮอนบอกว่าตัวเองถึงบ้านแล้ว หยินปู้ฝันก็เอ่ยปลอบเธอสองสามประโยค ให้เธอพักผ่อนดีๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว
*
เป่หมิงโม่กลับมาถึงบ้านอย่างรวดเร็ว หลังลงจากรถแล้วก็มีลมเย็นพัดผ่านมา ถึงได้นึกออกว่าเสื้อของตัวเองคลุมอยู่บนตัวกู้ฮอน
ก็ไม่เป็นไร เขากลับไปที่ห้องหนังสือของตัวเองใหม่อีกครั้ง ใช้มือนวดไปที่ข้างขมับเบาๆ
ดึกดื่นขนาดนี้ยังจะสร้างเรื่องขึ้นมาได้อีก นี่ทำให้เขาปวดหัวมากจริงๆ
เดิมที่หน้าประตูบ้านพักอยากจะว่ากู้ฮอนสักหน่อย แต่เมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารของเธอแล้ว สุดท้ายตัวเองก็ไม่ได้เปิดปาก
ในมือเขาถือโทรศัพท์มือถือ จู่ๆก็คิดได้ว่าบนเว็บไซต์ยังมีคลิปตอนที่กู้ฮอนถูกจับอยู่
ในเมื่อเรื่องราวจัดการเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ต้องให้เรื่องราวถูกเผยเป็นวงกว้างอีก คลิปในเว็บไซต์ต้องรีบลบทิ้งอย่างรวดเร็ว
***
เป่หมิงโม่คิดถึงตรงนี้ ก็ตัดสินใจเปิดเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงเว็บไซต์นั้นขึ้นมาดูอีกครั้ง
ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจก็คือ บนหัวข้อของคลิปวิดีโอมีชื่อของกู้ฮอนปรากฏอยู่
อีกทั้งด้านล่างของคลิปวิดีโอตรงที่ใส่ความเห็นก็เต็มไปด้วยข้อความตำหนิด่าว่าต่างๆนานาจนทำให้คนไม่สามารถทนดูต่อไปได้
เป่หมิงโม่กำหมัดแน่นจนมีเสียงกระดูกลั่นกร๊อบ ตอนแรกเขาสงสัยว่าเป็นถังเทียนจื๋อที่ลงมือทำทั้งหมด แต่ตอนนี้ดูแล้วจะไม่ใช่สไตล์ของเขา
แม้ว่าเขาจะใช้กู้ฮอนมาข่มขู่ตัวเอง แต่ก็สามารถมองออกว่าเขาก็แค่บังคับตัวเองเท่านั้นเอง
ความจริงแล้วเขาไม่ได้คิดร้ายอะไรกับกู้ฮอนเท่าไร อย่างน้อยในตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น
อย่างนั้น ยังจะมีใครที่จะมีเป้าหมายเป็นกู้ฮอนอีก คลิปวิดีโอนี้โพสต์บนอินเทอร์เน็ตก็เพื่อทำให้ชื่อเสียงของเธอแปดเปื้อน
หรือว่าจะเป็นซูยิ่งหวั่น เธอเคยทะเลาะกับกู้ฮอนและจบไม่ดีบ่อยครั้ง ถ้าหากว่าซูยิ่งหวั่นจงใจทำให้ชื่อเสียงเธอแปดเปื้อนล่ะก็ ใช้วิธีนี้ก็สะดวกราบรื่นทุกอย่างจริงๆ
ไม่คิดเรื่องอื่นแล้ว เรื่องลบคลิปวิดีโอต้องมาก่อน
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาฉิงฮัว
ตอนนั้นฉิงฮัวกำลังเตรียมตัวจะพักผ่อน ตอนนี้เขากับเป่หมิงโม่ล้วนกลายเป็นคนที่ดึกดื่นไม่หลับไม่นอนไปแล้วทั้งคู่ ไม่ถึงเที่ยงคืนก็นอนไม่หลับ
เขากำลังพยายามเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลคนท้อง รวมไปถึงการดูแลเด็กทารกอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
นับตั้งแต่ความสัมพันธ์ระหว่างลั่วเฉียวเป็นไปในทางที่ดีแล้ว เขาก็เริ่มมุมานะเรียนรู้เอาไว้เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรจะต้องใช้
โทรศัพท์มือถือที่อยู่ด้านข้างดังขึ้น ฉิงฮัวรีบกดรับโทรศัพท์ “เจ้านาย มีอะไรจะสั่งหรือครับ”
เป่หมิงโม่ส่งที่อยู่เว็บไซต์นั้นให้กับฉิงฮัว จากนั้นก็บอกเขาว่าให้ทำลายทิ้งอย่างรวดเร็วที่สุด อีกทั้งไม่สามารถให้ปรากฏขึ้นบนอินเทอร์เน็ตได้อีก
ฉิงฮัวไม่กล้ารีรอ รีบเปิดเว็บไซต์ดู เมื่อเห็นหัวข้อของคลิปวิดีโอก็ตะลึงค้าง
รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงเกียรติยศของกู้ฮอนก็รีบใช้ความสัมพันธ์และกำลังคนอย่างรวดเร็ว ไม่ช้าคลิปวิดีโอนั้นก็สูญหายไปจากเว็บไซต์
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เป่หมิงโม่ก็ได้รู้ว่าบนเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงเว็บไซต์นั้นไม่มีคลิปวิดีโอนั้นแล้วถึงจะรู้สึกโล่งใจ
*
ขณะที่เป่หมิงโม่และฉิงฮัวสองคนช่วยกู้ฮอนจัดการเรื่องราวอยู่นั้น
กู้ฮอนก็ยังคงไม่ได้เข้านอนเช่นกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานีตำรวจกลายเป็นเงามืดที่อยู่ในสมองของเธอจนถึงตอนนี้ รบกวนจนเธอไม่สามารถนอนหลับได้
จนกระทั่งเวลาตีสาม ในที่สุดก็ทนไม่ไหวง่วงหลับไป
*
เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันแถลงข่าวในการลงนามสัญญาระหว่าง บริษัทGTและบริษัทเป่หมิง
กู้ฮอนนอนไปไม่กี่ชั่วโมงก็ตื่นขึ้นมาแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็รีบไปที่ โรงแรมแมนดาริน
เธอหยิบเอกสารที่จัดการเรียบร้อยแล้วให้กับปี้เหอที่มาเช้ามากเช่นเดียวกัน
สำหรับเรื่องเล็กๆที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย
นี่ทำให้กู้ฮอนโล่งใจไม่น้อย
วุ่นวายกับการจัดงานแถลงข่าวและสถานที่จัดงานกับปี้เหอแล้ว
ในระหว่างนั้น สื่อมวลชนต่างๆที่ได้รับเชิญก็มาถึงที่นี่ไม่ขาดสาย
บริษัทGTจับมือกับบริษัทเป่หมิง ไม่เพียงแต่เท่านี้ กระทั่งประธาน บริษัทGTที่ไม่เคยเปิดเผยใบหน้าก็จะปรากฏตัวในวันนี้ด้วย นี่เป็นข่าวใหญ่ที่มีค่าและหาได้ยากมาก
ไม่เพียงแต่นักข่าวของสื่อมวลชนที่มา กระทั่งตัวแทนทางภาครัฐก็ถูกส่งมาด้วย นี่เป็นโอกาสที่ดีที่พวกเขาจะสร้างความสำเร็จทางการเมืองได้
ในงานแถลงข่าวผู้คนเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงเสียงดังวุ่นวาย
ตอนที่ฉิงฮัวขับรถพาเป่หมิงโม่มาถึงที่นี่ ก็ห่างจากเวลาที่จะเริ่มงานแถลงข่าวไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว
ตอนนี้กู้ฮอนที่อยู่มุมหนึ่งของสถานที่จัดงานแถลงข่าว มองนาฬิกาไปพลาง รอการมาถึงของเป่หมิงโม่อย่างร้อนใจไปพลาง สุดท้ายแล้วเธอก็ทนไม่ไหว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปหาฉิงฮัว
“คุณผู้หญิง ผมกับเจ้านายอยู่ที่ลานจอดรถใต้ดินแล้วครับ พวกเราจะรีบขึ้นไปในเร็วๆนี้” ฉิงฮัวได้รับโทรศัพท์จากกู้ฮอนก็รีบตอบกลับไป
***
กู้ฮอนบอกฉิงฮัวว่า ให้เขาพาเป่หมิงโม่ไปที่ห้องรับรองก่อน รอจนงานแถลงข่าวเริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้วค่อยมาที่สถานที่จัดงาน
ฉิงฮัวทำตามคำแนะนำ มาถึงห้องรับรองที่อยู่ไม่ไกลจากสถานที่จัดงานนัก
“ประธานเป่หมิง คุณมาแล้ว” คนที่พูดก็คือโม้จิ่งเฉิง เขานั่งอยู่ในห้องรับรองคนเดียว ไม่มีคนอยู่เป็นเพื่อนสักคนเดียว
เป่หมิงโม่พยักหน้าให้เขา “ประธานโม้มาเช้ามากจริงๆ” จากนั้นก็หาที่นั่งที่หนึ่งนั่งลง
สักพักกู้ฮอนก็มาถึงห้องรับรอง
เธอทักทายโม้จิ่งเฉิงก่อน จากนั้นก็พยักหน้าให้กับเป่หมิงโม่
เป่หมิงโม่ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องคลิปวิดีโอเมื่อคืนอีก เมื่อวานหลังจากที่เขาเห็นท่าทางแบบนั้นของกู้ฮอนแล้วก็ตัดสินใจว่าจะปล่อยให้มันค่อยๆเงียบหายไปในสถานการณ์ที่เธอไม่รู้ นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดและก็ทำร้ายเธอได้น้อยที่สุด
ในไม่ช้าก็ถึงเวลาแล้ว ในฐานะที่ปี้เหอเป็นผู้รับผิดชอบจัดการเรื่องราวที่นี่ เป็นพิธีกรตลอดงานแถลงข่าว
นักข่าวของสื่อต่างๆและแขกผู้มีเกียรติที่เข้ามาสังเกตการณ์ท่านอื่นๆล้วนนั่งประจำที่แล้ว
หลังจากสิ้นเสียงเพลงชั่วครู่ โม้จิ่งเฉิงกับเป่หมิงโม่ก็ถูกพนักงานสาวที่ทำหน้าที่เชื้อเชิญแขกกิตติมศักดิ์มาถึงโต๊ะข้างเวทีแถลงข่าว
บนโต๊ะมีสัญญาความร่วมมืออยู่สองฉบับ
ปี้เหอประกาศเริ่มงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ โม้จิ่งเฉิงและเป่หมิงโม่เข้าประจำที่นั่ง
ก่อนอื่นเป็นโม้จิ่งเฉิงเอ่ยพูดก่อน
ในฐานะประธานบริษัทที่อยู่เบื้องหลังของบริษัทGTวันนี้เป็นครั้งแรกที่เปิดเผยหน้าตา เหล่านักข่าวล้วนไม่อยากพลาดโอกาสที่ดีแบบนี้ แสงแฟลชกระพริบไม่ขาดสาย
โม้จิ่งเฉิงยิ้มบางๆ เผชิญหน้ากับเหล่านักข่าวที่อยู่ด้านล่างเวที อธิบายง่ายๆว่าบริษัทGTย้ายสำนักงานมาที่เมืองนี้ทำไม
จากนั้นก็จัดแสดงแบบแปลนตึกสำนักงานใหญ่ใหม่ชั่วครู่
สุดท้าย เขาก็ยิ้มพลางเอ่ยว่า “สาเหตุที่พวกเราตัดสินใจมาที่นี่ ทั้งหมดก็เป็นเพราะว่าบริษัทเป่หมิง ผมคิดว่าวันหลังพวกเราจะต้องติดต่อกันอย่างแน่นแฟ้นมากกว่านี้แน่นอน เรียบร้อย ผมพูดเพียงเท่านี้ก็แล้วกัน ถัดมาก็เชิญประธานเป่หมิงมาพูดสักสองสามประโยคบ้างนะครับ”
โม้จิ่งเฉิงยกมือขึ้นเป็นท่าทางเชื้อเชิญ จากนั้นก็เป็นคนแรกที่ปรบมือ
ผู้คนล้วนเบนกล้องไปทางเป่หมิงโม่
เป่หมิงโม่นั่งอยู่ที่ด้านหลังโต๊ะด้วยใบหน้าจริงจัง แม้ว่าเขาจะไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก่อน แต่ก็ยังพูดไม่กี่ประโยคง่ายๆอย่างสง่าผ่าเผย ถือว่ารับมือผ่านไปได้
ถัดมาก็เป็นช่วงเวลาแห่งการลงนามข้อตกลง
หลายขั้นตอนล้วนดำเนินการได้ราบรื่นเป็นอย่างมาก
ตอนที่เหตุการณ์กำลังจะจบอย่างสวยงามก็มีนักข่าวจากสื่อหนึ่งที่อยู่ด้านล่างเวทีลุกขึ้นมา
จากนั้นก็หยิบภาพคลิปวิดีโอหนึ่งขึ้นมาถามเป่หมิงโม่ “ประธานเป่หมิง เมื่อคืนที่นี่ ภายในโรงแรมแมนดารินของคุณเกิดเรื่องราวที่ไม่ดีงามขึ้น ไม่ทราบว่าคุณได้ยินมาบ้างหรือไม่”
เมื่อประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมา คนที่อยู่ในสถานที่จัดงานล้วนฮือฮาขึ้นมาในทันที
ใบหน้าของเป่หมิงโม่ขรึมลง คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องคลิปวิดีโอนี่จะหลุดออกไปจนได้
เขาหันหน้ากลับไปมองกู้ฮอนที่อยู่บริเวณหน้าประตูของสถานที่จัดงาน ตอนที่เธอได้ยินคำถามนี้ สีหน้าก็ขาวซีดในทันที
เขาไม่อาจยอมให้เรื่องนี้ทำร้ายกู้ฮอนได้ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโมโห “ผมขอให้คุณไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก ทั้งหมดล้วนเป็นความเข้าใจผิดกัน ถึงเวลานั้นพวกคุณจะเข้าใจเองว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
แต่นักข่าวคนนั้นดูเหมือนว่าจะไม่อยากยอมแพ้ “ประธานเป่หมิง คุณตอบคำถามแบบนี้เป็นการหลีกเลี่ยงมากเกินไปหรือไม่ จากที่ผมทราบมา หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น ก็มีคนลงคลิปวิดีโอที่ตำรวจจับคนบนอินเทอร์เน็ต เพียงแต่ช่างไม่บังเอิญเอาเสียเลยก็คือคลิปวิดีโอนี้หายไปอย่างไร้ร่องรอยภายในชั่วข้ามคืน ไม่รู้ว่าการกระทำแบบนี้ทำไปเพื่อเรียกคืนภาพลักษณ์ให้กับทางโรงแรมแมนดารินใช่หรือไม่ อีกทั้งหัวข้อบนคลิปวิดีโอยังเอ่ยถึงผู้หญิงที่มีชื่อว่ากู้ฮอนด้วย คดีลักพาตัวเด็กหลายปีก่อนหน้านี้ ก็ดูเหมือนว่าคุณจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้หญิงที่ชื่อกู้ฮอนคนนี้”
เสียงของนักข่าวเพิ่งหยุดลงก็ได้ยินเสียง ‘ตึง’ ของประตูในสถานที่จัดงานดังขึ้น
เป่หมิงโม่มองไปตามเสียง กู้ฮอนไม่อยู่แล้ว
***
ในเวลาเดียวกันนั้น สายตาของผู้คนล้วนหยุดอยู่ที่บานประตูสถานที่จัดงาน
พวกเขาหยุดชะงักไปชั่วขณะแล้วก็หันหน้ากลับมา ความสนใจของพวกเขาล้วนไปรวมอยู่ที่เป่หมิงโม่ที่นั่งเป็นประธานอยู่บนเวทีงาน
จึงไม่ได้สังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู
“ประธานเป่หมิง คุณจะไปไหนครับ