ตอนที่ 761 คุณพ่อที่ไม่ได้เจอกันนาน
ตอนนี้แอนนิก็ได้อุ้มจิ่วจิ่วออกมาจากร้านอาหาร เธอได้ยินว่าเป่หมิงโม่ออกมาแล้ว
แต่กู้ฮอนก็ได้มีการเตรียมการ เธอก็เลยไม่กลัวว่าเป่หมิงโม่จะรู้จัก
และยังมีผู้ชายคนนี้นั่งอยู่บนโซฟา ซึ่งคนอื่นไปเล่นอยู่ข้างนอก
จิ่วจิ่วก็รู้สึกถึงความประหลาดใจ ก็เลยถามอย่างเบา ๆ ว่า “คุณแม่ เขาเป็นใครหรือ ?”
กู้ฮอนเห็นแอนนิอุ้มจิ่วจิ่วออกมา ทันใดนั้นก็รู้สึกตกใจ
จะสำเร็จหรือไม่ก็มีใบหน้าที่แบบนั้น
กู้ฮอน แอนนิ ลัวเฉียวและเฉิงเฉิง ล้วนแต่มีความตื่นเต้นกันทั้งนั้น
เป่หมิงโม่เห็นใบหน้าของจิ่วจิ่ว ก็เปลี่ยนสีหน้าแล้วพูดว่า “คุณแม่ ห้องน้ำ…..ห้องน้ำ”ร่างกายก็กำลังขยับอยู่
แอนนิก็ได้ทำการพยักหน้าให้กับเป่หมิงโม่อย่างเขินอาย “ขอโทษด้วย ลูกสาวของฉันไม่ค่อยสบายเท่าไหร่” หลังจากพูดเสร็จเธอก็ได้อุ้มจิ่วจิ่วออกไปทันที
กู้ฮอนที่มีความตกใจก็ได้บรรเทาลงมาบ้าง เธอนั้นมีความรู้สึกสบายใจ ที่ทำให้จิ่วจิ่วมองรูปของเป่หมิงโม่แล้วมีความรู้สึกนึกคิดที่เป็นปฏิกิริยาออกมา
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะสามารถทำให้สามารถหลบหลีกในการพบปะกับเป่หมิงโม่ได้
โดยเฉพาะเป่หมิงโม่ เขาได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงแม้จะได้พบในระยะเวลาที่สั้น แต่เขาก็ได้เห็นเด็กน้อยคนนั้นที่ถูกแอนนิอุ้มอยู่
ซึ่งดูไปแล้วมีความน่ารักมากมาย และเสียงก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด
เป่หมิงโม่หันกลับมาแล้วถามกู้ฮอนว่า “เด็กน้อยคนนี้คือ…..”
คำโกหกก็ได้หลอกไปเสร็จแล้ว กู้ฮอนเห็นว่าเป่หมิงโม่ถามขึ้นมา เลยพูดว่า “เธอเป็นลูกของแอนนิ ตอนที่แอนนิมาที่นี่ไม่ได้เอาเธอมาด้วย ก็เลยเอามาฝากเลี้ยงที่สถาบันเลี้ยงเด็ก ตลอดจนถึงเมื่อคืน เธอเพิ่งจะมาจากเมืองซาบาห์ อาจจะเป็นเพราะเธอมาที่นี่ครั้งแรกแล้วก็รู้สึกถึงความไม่เคยชินมั้ง”
เป่หมิงโม่ก็ได้พยักหน้า เขาจู่ ๆ ก็คิดขึ้นมาเกี่ยวกับตอนนั้นที่เขาโทรหากู้ฮอน ตอนนั้นคนที่ตอบน่าจะเป็นเด็ก
แอนนิอุ้มจิ่วจิ่วลงมาอย่างไวก็ถึงชั้นสองแล้ว ร่างกายของจิ่วจิ่วก็สั่นตลอดเวลา เธอนั้นเหมือนถูกเป่หมิงโม่ทำให้ตกใจ
“จิ่วจิ่วไม่ต้องกลัว” แอนนิปลอบใจเธอ
เป่หมิงโม่มองกู้ฮอนแล้วพูดว่า “เด็กน้อยคนนี้รู้สึกแปลก ๆ นะ ดูสภาพเธอแล้วเหมือนจะถูกผมทำให้ตกใจ”
“ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ของเด็ก คุณไม่ใช่จะพาฉันไปดูเสื้อผ้าหรือ ? งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ” กู้ฮอนก็ได้ทำการชักชวนเป่หมิงโม่ออกไป
เป่หมิงโม่ก็ได้จับมือของกู้ฮอนออกไปนอกประตู
“คุณรอก่อน ฉันลืมของบางอย่างไว้ข้างบน” กู้ฮอนก็ได้ทำการเอามือออกจากมือของเป่หมิงโม่ แล้วก็ได้หันกลับไปอย่างรวดเร็ว
เธอลืมของที่ไหนล่ะ เพียงแค่หาข้ออ้างเพื่อที่จะไปดูลูกของตัวเอง
ซึ่งเป็นครั้งที่สองที่เธอได้พบกับเป่หมิงโม่ และยังใกล้ชิดขนาดนั้น เธอก็ตกใจอย่างมากเลยทีเดียว
ผลก็ตามคาด ตอนที่กู้ฮอนได้ลงไปยังชั้นสอง ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของจิ่วจิ่ว และยังมีเสียงแอนนิที่ทำการปลอบอยู่
กู้ฮอนก็เลยเดินไวขึ้นมายังที่ห้องนอน “ลูกเอ๋ย อย่ากลัวเลยนะ หม่ามี๊มาแล้ว”
***
จิ่วจิ่วที่มีท่าทางเช่นนั้น กู้ฮอนก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดใจไม่น้อยเลย
เมื่อก่อนเป็นเพราะว่าเธอเกลียดเป่หมิงโม่ ดังนั้นก็เลยให้จิ่วจิ่วได้รับรู้ถึงสิ่งบางอย่าง
ตอนนี้ถึงแม้ว่าเธอจะมีการกระทำต่อเป่หมิงโม่เช่นนั้น แต่หากกาลเวลาผ่านไปแล้ว ก็สลายไปเสร็จสิ้นแล้ว
และช่วงนี้เวลานี้เธอก็ได้ดูการเปลี่ยนแปลงของเป่หมิงโม่ ซึ่งต่างกับเขาเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก
“ลูกจ๋า หม่ามี๊มาแล้ว ลูกตกใจมากเลยใช่ไหม ?” กู้ฮอนได้กอดจิ่วจิ่วในอ้อมกอด
จิ่วจิ่วเช็ดน้ำตา “หม่ามี๊ เขามาได้ยังไง หรือว่าจะมาจับหม่ามี๊ ?”
กู้ฮอนได้หอมไปยังแก้มของเธอ แล้วก็พูดว่า “วางใจเถอะ เขาไม่ได้มาจับแม่หรอก ลูกอย่ากลัวเลยนะ แม่ออกไปทำธุระสักครู่ หนูกับคุณน้าแอนนิและยังมีพี่เฉิงเฉิงเล่นอยู่ที่บ้านดีไหมจ๊ะ ?”
จิ่วจิ่วมองไปที่แม่ แล้วได้ทำการพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “หม่ามี๊กลับมาไว ๆ นะ”
กู้ฮอนก็พยักหน้า
กู้ฮอนลงไปที่ข้างล่าง ก็เพียงแต่เป่หมิงโม่นั่งอยู่บนโซฟา เฉิงเฉิงก็ได้นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาด้วย
ฉิงฮัวนั้นได้นั่งอยู่ข้าง ๆ เป่หมิงโม่ ลัวเฉียวก็นั่งน่ารักอยู่บนตัวของเขา
ฉิงฮัวเหมือนกับเกร็งอะไรบางอย่าง สายตานั้นนั่งตรง
พ่อลูกของตระกูลเป่หมิงก็กำลังทำพูดคุยกันอย่างไม่ได้อะไรมากมาย
“ช่วงนี้อยู่ที่โรงเรียนเป็นยังไงมั่ง” เป่หมิงโม่หันหน้าไปยังลูกชายที่อยู่ข้าง ๆ
“ฉันยังดี การเรียนไม่ได้ยากอะไร แต่ช่วงนี้ฉันกำลังเรียนเรื่องการสร้างโปรแกรม ฉันก็คิดว่าจะทำโปรแกรมหนึ่งขึ้นมา” เฉิงเฉิงตอนที่อยู่ข้าง ๆ พ่อ เหมือนกับไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ดูเหมือนจะสบายขึ้นมาเยอะเลย
หรือว่าเขารู้สึกช่วงตอนนี้พ่อของเขา ไม่ได้เหมือนกับเมื่อก่อน ดูเหมือนจะมีความชิดใกล้มากขึ้น ถึงแม้เวลาธรรมดาจะเยือกเย็นใส่ก็ตาม
เป่หมิงโม่ได้ค่อย ๆ ลูบหัวของเฉิงเฉิงแล้วพูดว่า “ต้องการอะไรก็รีบมาฉันมานะ ฉันจะช่วยคุณอย่างแน่นอน คุณจะต้องพักผ่อนตามเวลา ทำงานไม่เสร็จวันที่สองก็ยังมี”
เฉิงเฉิงมองไปยังพ่อของเขา พยักหน้าอย่างสุด ถ้าเป็นเมื่อก่อนคุณพ่อจะไม่พูดอะไรแบบนี้กับตัวเองเลย เพียงแค่ถามว่าทำงานอะไรเสร็จแล้วบ้าง หลังจากนั้นก็พูดถึงวิชาใหม่
กู้ฮอนได้มองไปยังพ่อลูกที่อยู่ไม่ไกล ในใจก็รู้สึกถึงความอบอุ่นขึ้นมา
เป่หมิงโม่และเฉิงเฉิงก็ได้พูดคุยกันอีกสักครู่ เรื่องที่พูดเป็นเรื่องที่ไม่เคยพูดถึงเลย
ดูแล้วเป่หมิงโม่กำลังทำการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก โดยปกติเขาก็ได้พยายามมากเลยทีเดียว
หลังจากเมื่อวานที่หยางหยางใช้คำพูดที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก เป่หมิงโม่ก็เลยได้เรียนรู้ว่าจะต้องจัดการกับลูกตัวเองอย่างไร
“คุณลงมาแล้ว” เป่หมิงโม่ไม่ได้มองหากู้ฮอนอย่างตั้งใจ
เฉิงเฉิงก็เลยได้หันไปมองยังแม่ของเขา
ฉิงฮัวเห็นกู้ฮอน ใบหน้าก็รู้สึกแดง ๆ ขึ้นมา
กู้ฮอนยิ้มแล้วพูดว่า “ทำไมมาอยู่ที่นี่กันหมดล่ะ ?”
ฉิงฮัวก็ได้พยุงลั่วเฉียวขึ้นมา “คุณหนู ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อเป็นเพื่อนเธอนะ” พวกเขาได้ทำการปลีกตัวออกไป เพื่อที่จะให้สามคนนั้นอยู่ด้วยกัน
เป่หมิงโม่ใช้เสียงต่ำแล้วพูดว่า “ฉันกับเฉิงเฉิงไม่ได้คุยกันมานานละ วันนี้ก็เลยคุยนานไปหน่อย เป็นไงบ้าง เรื่องข้างบนจัดการเสร็จแล้วใช่ไหม พวกเราเตรียมตัวออกไปกันเถอะ”
ขณะที่เขาพูด ก็ได้จัดการเสื้อผ้าของตัวเอง หลังจากนั้นก็ได้ก้มหน้าไปพูดกับเฉิงเฉิง “ตอนนี้เจ้าก็โตมากแล้ว มีเรื่องราวมากมายก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ฉันนั้นมาเตือนอีกแล้ว คุณเป็นพี่ชาย จะต้องเป็นแบบอย่างให้หยางหยาง พวกคุณจะต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ตระกูลเป่หมิงในภายภาคหน้านั้นจะต้องให้พวกคุณมาแบกรับเอาไว้”
***
เฉิงเฉิงได้มองไปยังพ่อของเขา ไม่คิดว่าเขานั้นจะพูดคำพูดเหล่านี้ ดูเหมือนว่าเขานั้นก็ได้ให้ตัวเองนั้นริเริ่มมีการเตรียมตัวทางจิตใจเกี่ยวกับภาระที่จะต้องแบกรักในอนาคต
“เรื่องราวที่อีกตั้งนาน คุณจะมาพูดกับฉันทำไมล่ะ ? คุณมาหาฉันเพื่อจะออกไปไม่ใช่หรือ พวกเราก็ออกเดินทางเถอะ ”กู้ฮอนได้ถือกระเป๋าเล็ก ๆ แล้วก็เดินอยู่ด้านหน้าเป่หมิงโม่
เป่หมิงโม่มองเธอ แล้วก็เดินออกไปที่ทางออก
“ลูกเอ๋ย พวกเราจะออกไปแล้ว อยู่บ้านช่วยน้าแอนนิดูแลน้องสาวด้วยนะ” กู้ฮอนหลังจากสั่งเฉิงเฉิงเสร็จแล้ว ก็เดินออกไป
ตอนที่เธอกำลังจะออกจากบ้านนั้น ก็เป่หมิงโม่กำลังเปิดประตูที่นั่งข้าง ๆ คนขับ
“ขอบคุณ” กู้ฮอนพูดออกมา แล้วก็กำลังจะก้มหัวเข้าไปในรถ
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ เป่หมิงโม่ได้จับมือเธอไว้ แล้วก็พูดอย่างช้า ๆ ว่า “ที่ตรงนี้เป็นที่ของผม ที่ของคุณเป็นอีกที่หนึ่ง”
ที่นั่งข้าง ๆ ไม่ใช่ที่คนขับหรือไง กู้ฮอนได้มองไปยังเป่หมิงโม่
นี่เป็นแผนการลับ
เป็นแผนการที่เตรียมการมาอย่างยาวนาน เริ่มจากตอนที่เขานั้นส่งมอบรถคนนี้ให้
“ตอนที่คุณนั้นส่งมอบรถคนนี้ให้ก็กำชับว่าให้ฉันรับส่งเฉิงเฉิงเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้วเป็นรถที่ฉันนั้นฝึกขับเสร็จแล้วก็เลยให้คุณไงล่ะ” กู้ฮอนได้มองไปยังเป่หมิงโม่หนึ่งที
เป่หมิงโม่ยักไหล่ “นี่เป็นสิ่งที่คุณพูด ไม่ได้เป็นตัวแทนของความหมายในใจผม แต่สิ่งที่คุณเสนอมาฉันสามารถคิดดูได้ หลังจากนี้ไม่ว่าฉิงฮัวจะอยู่หรือไม่ คุณจะต้องเป็นคนขับรถ”
พูดออกมาก็ไม่ได้เกรงใจอะไร หลังจากที่เข้าไปในรถแล้วก็ได้ปิดไฟลง
กู้ฮอนเห็นท่าทางของเป่หมิงโม่เช่นนี้ ก็พูดว่า “ไร้สาระ” หลังจากนั้นก็ได้ไปอีกฝั่งของรถ แล้วก็เข้าไปยังที่นั่งคนขับ
“นี่คือกุญแจรถ” เป่หมิงโม่พูดแล้วก็เอากุญแจรถให้กู้ฮอน “กุญแจอันนี้ก็ให้คุณเก็บไว้ที่ตัวเอง”
“นี่ คุณคงไม่ให้ฉันนั้นเป็นคนขับรถจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย ดิฉันนั้นไม่มีเวลามากมายมารับใช้หรอกนะ เวลาที่เหลือคือเวลาที่ฉันจะต้องเอาไปดูแลลูก ๆ ” กู้ฮอนดูเป็นนัย ๆ ว่า อยากที่เรียกร้องเธอ ก็มีเพียงแค่ลูกของเธอเท่านั้น
“คุณเรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจากหยินปู้ฝันมาเยอะเลยนะ คำด่าคนก็เต้มไปด้วยความเรียบง่าย ฉันให้คุณนั้นก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่ต้องเตรียมตัวไว้เฉย ๆ ทักษะการขับรถของคุณก็จะต้องรอการสอบอีกทีหนึ่ง” เป่หมิงโม่พูด แล้วก็เอากุญแจที่ตัวเองมีออกมาอีกอันหนึ่ง
เขาก็ได้สตาร์ทรถ “ออกรถ” หลังจากนั้นเขาก็จัดการเก้าอี้ให้เรียบร้อย นั่งอย่างสบาย ๆ
“ไปไหน” กู้ฮอนคาดเข็มขัดเรียบร้อย ถึงแม้จะต่อสู้ทางอารมณ์กับเขา แต่เธอนั้นก็ได้จับพวงมาลัยอย่างแน่น รู้สึกเหมือนจะเริ่มตั้งใจขึ้นมา
“ห้างหมายเลขหนึ่ง ถึงที่ตรงนั้นแล้วก็ค่อยเรียกผม” เป่หมิงโม่พูดเสร็จ ก็ทำการหลับตา
รถก็ค่อย ๆ ออกไปอย่างช้า ๆ
บนเส้นทาง กู้ฮอนจับรถได้อย่างเงียบสงบ เงียบสงบจนที่เสียงลำโพงของรถที่ขับผ่านไปมานั้นเข้ามายังรถของพวกเขา
ตอนนี้ กู้ฮอนก็ได้ยินเป่หมิงโม่ละเมอออกมา เหมือนกับกำลังจะพูดกับตัวเอง “คุณเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือ ? ช้าแบบนี้คนอื่นเขาจะปิดร้านกันหมดแล้ว”
“คุณจะนอนดีดีก็นอนไป อย่ามารบกวนฉัน” กู้ฮอนพูดกลับมาอย่างไม่เกรงใจ
เธอนั้นยอมรับว่าตัวเองนั้นขับรถช้า และก็ขับช้ากว่าเวลาปกติ
นี่ก็เป็นเพราะว่าโมโหกับเป่หมิงโม่อยู่ อยากจะให้ตัวเองเป็นคนขับรถ มันจะได้เจอเรื่องดีดีแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ
หลังจากผ่านไปชั่วโมงกว่า ๆ กู้ฮอนก็ได้ขับรถมายังหน้าประตูห้างหมายเลขหนึ่ง
กู้ฮอนดับเครื่องยนต์ หลังจากนั้นก็ได้ทำการตบไหล่ของเขาอย่างไม่เต็มใจนัก “อย่ามาแสร้งหลับได้ละ ถึงที่แล้ว”
เป่หมิงโม่ก็เลยลืมตาและลุกขึ้นมา
หลังจากลงจากรถ เป่หมิงโม่ก็ไม่ได้รีบไปที่ร้าน แต่หันไปมองกู้ฮอน หลังจากนั้นก็ชี้ไปยังห้างหมายเลขหนึ่ง
กู้ฮอนได้มองไปตามมือที่เขาชี้ ก็เห็นแต่เขาชี้ไปยังร้านขายเพชรพลอยที่มีเชื่อเสียงที่สุดในเมืองนี้