ตอนที่ 745 คุณชื่นชอบแบบแปลนชิ้นไหน
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ มองเป่หมิงยี่เฟิงที่ยืนอยู่ด้วยความมั่นอกมั่นใจเต็มเปี่ยม ไม่ต้องพูดก็ดูเหมือนว่าเขาจะมีความมั่นใจในการออกแบบแบบแปลนในงานนี้เป็นอย่างมาก
จากนั้นก็ก้มมองแบบแปลนที่วางแสดงอยู่บนโต๊ะของตัวเอง “ไม่เลวเลย ดูท่านายจะมีความก้าวหน้าอยู่บ้าง” เป่หมิงโม่พยักหน้า จากนั้นก็เก็บภาพแบบแปลนนั้นขึ้นมาใส่เข้าไปในกระบอกใส่แบบ แล้วลุกขึ้นยืน พลางเอ่ยกับฉิงฮัวว่า “วันนี้พวกเราไปโรงแรมแมนดาริน ส่งภาพแบบแปลนให้กับพวกเขา เป่หมิงยี่เฟิง นายก็ไปด้วย คาดว่าพวกเขาคงจะมีคำถามกับภาพแบบแปลนของนายมากพอสมควร”
ในใจของเป่หมิงยี่เฟิงนั้นก็เฝ้ารอคอยให้ตัวเองได้ไป ถือว่าสมหวังดังใจปรารถนาแล้ว “ได้ครับ ผมไปจัดการแบ่งงานสักหน่อย พวกเราเจอกันที่ลานจอดรถใต้ดินแล้วกัน”
*
ครั้งนี้ เป่หมิงโม่ทำลายกฏเกณฑ์ ยอมให้เป่หมิงยี่เฟิงนั่งรถของเขาไปที่โรงแรมแมนดารินด้วยกัน
ในไม่ช้าพวกเขาก็เข้าไปนั่งกันในห้องประชุมตรงข้ามกันกับปี้เหอผู้รับผิดชอบสำนักงานบริษัทGT
เพียงแต่ในครั้งนี้ ข้างกายปี้เหอมีหญิงสาวที่งดงามเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง กู้ฮอน
กู้ฮอนเผชิญหน้ากับเป่หมิงโม่และเป่หมิงยี่เฟิงอย่างเป็นมืออาชีพ บนใบหน้าไม่มีความรู้สึกใดๆ ดูภูมิฐานและจริงจังอย่างเห็นได้ชัด
เป่หมิงโม่เห็นกู้ฮอนปรากฏตัวขึ้นที่นี่ เขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร กระทั่งเขาก็ยังคาดเดาได้ว่าจะเป็นแบบนี้ เพียงแต่ว่าเป็นปัญหาที่จะเกิดช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง
แต่เป่หมิงยี่เฟิงนั้นไม่เหมือนกัน เขามองไปที่กู้ฮอนที่มาในฐานะตัวแทนทนายความของบริษัทGTที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาอย่างตกตะลึง
เขาอยากถามว่านี่มันเรื่องอะไรกัน แต่ว่าที่นี่เป็นที่สาธารณะ จึงทำได้แค่กลืนคำถามนี้ลงท้องไป
ปี้เหอพยักหน้าให้กับเป่หมิงโม่อย่างมีมารยาท “ประธานเป่หมิง ประสิทธิผลความสำเร็จของบริษัทเป่หมิงของพวกคุณนั้นสูงมาก ในช่วงระยะเวลากระชั้นชิดขนาดนี้ก็ยังทำได้สำเร็จ สมกับที่เป็นบริษัทอันดับหนึ่งของเมือง A จริงๆ”
มุมปากเป่หมิงโม่ยกขึ้น “ชมเกินไปแล้ว” เอ่ยแล้วก็ส่งสายตาให้กับฉิงฮัว
ฉิงฮัวพยักหน้า หยิบแบบแปลนออกมาจากกระบอกใส่แบบแล้ววางไว้บนโต๊ะประชุม
***
เป่หมิงโม่ชี้ไปที่กระบอกใส่แบบนั้น “ด้านในมีภาพแบบแปลนอยู่สองภาพ แบ่งออกเป็นของผมและเป่หมิงยี่เฟิงที่นั่งอยู่ข้างผมออกแบบ เพื่อความยุติธรรม จึงไม่ได้ระบุชื่อเอาไว้ ทั้งไม่ได้ทำสัญลักษณ์ใดๆ ผมหวังว่าบริษัทGTของพวกคุณจะสามารถเลือกแบบแปลนที่พวกคุณคิดว่าน่าพึงพอใจมากที่สุดออกมาแบบแปลนหนึ่ง”
ประโยคนี้ทำให้ผู้คนที่อยู่ในสถานการณ์รู้สึกตกตะลึงอยู่บ้าง
โดยเฉพาะเป่หมิงยี่เฟิง เขาคิดมาตลอดว่าเป่หมิงโม่จะยกงานออกแบบชิ้นนี้ให้เขาทำ
คิดไม่ถึงเลยว่าเป่หมิงโม่ยังจะยั้งมือไว้ด้วย แต่ว่าเขาก็ยินดีกับตัวเองอยู่เงียบๆ
แบบแปลนของตัวเองนั้นเป็นแบบที่ฝ่ายออกแบบทั้งฝ่ายของพวกเขาทำการแก้ไขบนแบบแปลนที่เขาวาดเสร็จก่อนหน้านั้น
ส่วนเป่หมิงโม่นั้นทำเสร็จด้วยตัวเองเพียงคนเดียว
“ประธานเป่หมิง คิดไม่ถึงจริงๆว่าคุณจะสนใจเข้าร่วมด้วย” เป่หมิงยี่เฟิงอดพูดเสียงเบากับเป่หมิงโม่ไปประโยคหนึ่งไม่ได้
กู้ฮอนนั่งอยู่ตรงข้ามพวกเขา จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าลุงหลานคู่ที่ไม่ลงรอยกันตรงข้ามนี้ทำเรื่องวุ่นวายอะไรกันอยู่
ปี้เหอพยักหน้า หยิบกระบอกใส่แบบ “บริษัทเป่หมิงของพวกคุณนั้นมีความจริงใจมาก อย่างไรก็ขอให้ทั้งสองท่านรอผมอยู่ที่นี่ไม่กี่นาที ผมจะนำแบบแปลนทั้งสองแบบนี้ไปให้กับท่านประธานของพวกเราได้พิจารณาและตัดสินใจครับ”
เอ่ยจบก็ลุกขึ้นแล้วหันไปพูดกับกู้ฮอนที่อยู่ข้างกายว่า “ทนายกู้ เชิญคุณตามผมไปพบท่านประธานด้วยครับ”
กู้ฮอนพยักหน้า เดินตามเขาออกไปจากห้องประชุม ไม่ช้าก็มาถึงหน้าประตูห้องเพรสซิเด้นท์สูทที่โม้จิ่งเฉิงพักอาศัยอยู่
เขากดเครื่องอินเตอร์คอมที่อยู่ข้างประตูเบาๆ “ท่านประธาน ผมกับทนายกู้นำแบบแปลนของบริษัทเป่หมิงมาส่งครับ”
ผ่านไปชั่วครู่ ด้านในก็มีเสียงของโม้จิ่งเฉิงลอยออกมา “รู้แล้ว ทนายกู้ คุณถือแบบแปลนอยู่ที่นี่ก่อน ส่วนปี้เหอ คุณกลับไปอยู่เป็นเพื่อนพวกประธานเป่หมิงก่อน”
รอจนปี้เหอจากไปแล้ว ประตูห้องเพรสซิเด้นท์สูทถึงได้เปิดออก
กู้ฮอนถือแบบแปลนเดินเข้าไป
เห็นโม้จิ่งเฉิงสวมชุดสูทสีฟ้าทั้งชุด นั่งอยู่บนโซฟาหนังแท้ขนาดใหญ่ที่นั่งได้สามคนที่อยู่ตรงข้ามกับประตูห้องอย่างสุขุมเยือกเย็น
ชุดสูทที่อยู่บนร่างเขาตัดเย็บอย่างประณีต ไม่ด้อยไปกว่าชุดสูทที่เป่หมิงโม่สวมบ่อยๆเหล่านั้นเลย
โดยเฉพาะปกคอเสื้อและบริเวณข้อมือ ที่ตกแต่งด้วยการใช้ด้ายสีทองเย็บปักด้วยมือนั้นทำให้โม้จิ่งเฉิงดูสูงส่งขึ้นหลายส่วน
เธอหมุนตัวไปปิดประตูให้เรียบร้อยอีกครั้ง
“พ่อบุญธรรม หนูเอาแบบแปลนของพวกเขามาให้แล้วค่ะ” เอ่ยแล้วก็วางกระบอกใส่แบบลงบนโต๊ะน้ำชาสะอาดเบื้องหน้าโม้จิ่งเฉิง
ตอนนี้หวีหรูเจี๋ยก็ยกถาดผลไม้ที่ล้างสะอาดแล้วออกมา เธอยิ้มบางๆมองมาที่กู้ฮอน “ฮอน วันนี้เธอดูยุ่ง ป้าเองก็ไม่กล้าจะรบกวนเธอ มาทานผลไม้ก่อนสักหน่อยค่อยทำงานต่อนะ”
กู้ฮอนพยักหน้าให้อย่างระมัดระวังจนเห็นได้ชัด คุณป้าหวีหรูเจี๋ย หนูว่าให้พ่อบุญธรรมดูแบบแปลนก่อนเถอะค่ะ พวกเขายังรอข่าวคราวจากหนูอยู่ที่ห้องประชุมนะคะ”
“ได้ ป้าวางผลไม้ไว้ข้างกายพวกเธอ รอจนเสร็จธุระแล้ว พวกเธอก็ทานสักหน่อย ป้าไม่รบกวนพวกเธอแล้ว” หวีหรูเจี๋ยเอ่ยจบก็วางถาดผลไม้ไว้บนโต๊ะอาหารที่อยู่ไม่ไกลนัก จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องนอนคนเดียว
กู้ฮอนเห็นหวีหรูเจี๋ยเดินไปแล้ว ตัวเองถึงจะผ่อนคลายจิตใจลง
เธอเปิดกระบอกใส่แบบ หยิบแบบแปลนออกมากางไว้เบื้องหน้าโม้จิ่งเฉิง
โชคดีที่โต๊ะน้ำชาที่นี่ตัวใหญ่พอ
โม้จิ่งเฉิงหยิบแว่นสายตายาวจากกระเป๋าชุดสูทมาสวมแล้วดูแบบแปลนอย่างจริงจัง
ผ่านไปชั่วครู่ เขาก็ถอดแว่นออกแล้วเก็บ ชี้ไปที่แบบแปลนพลางพูดกับกู้ฮอนว่า “ฮอน ลูกก็มาดูแบบแปลนทั้งสองแบบนี้ แบบไหนที่ลูกชอบมากกว่า”
กู้ฮอนยิ้มแล้วรีบโบกมือไปมา “พ่อบุญธรรม หนูไม่เข้าใจเรื่องการออกแบบ ดูไปก็เสียเปล่า ถึงตอนนั้นอย่าโทษว่าหนูทำให้งานใหญ่ของบริษัทล่าช้านะคะ”
โม้จิ่งเฉิงยิ้ม “ไม่เป็นปัญหา พ่อก็แค่อยากฟังความคิดเห็นของคนนอกสายงานที่มีต่อแบบแปลนทั้งสองแบบนี้”
***
กู้ฮอนเดินไปยืนข้างกายโม้จิ่งเฉิง หันหน้าไปดูแบบแปลนทั้งสองแบบที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชา
สำหรับคนนอกสายงานอย่างเธอ นอกจากรูปลักษณ์แล้วก็ดูไม่ออกจริงๆว่ามีอะไรแอบแฝงอยู่ข้างใน
ดูท่าคงต้องอาศัยความประทับใจแรกอย่างเดียวจริงๆแล้ว
สำหรับการแข่งขันในโครงการออกแบบครั้งนี้ สไตล์การออกแบบของเป่หมิงโม่และเป่หมิงยี่เฟิงนั้นไม่เหมือนกันเลยสักนิดเดียว
คนหนึ่งเอนไปทางสไตล์ยุโรปเล็กน้อย อีกคนหนึ่งเน้นหนักไปที่สไตล์ความเป็นจีน
ตอนนี้ในใจกู้ฮอนรู้สึกกดดันไม่น้อย อีกทั้งเธอยังมีความสัมพันธ์ที่เป็นปมเงื่อนซับซ้อนระหว่างสองคนนี้ด้วย
กับเป่หมิงยี่เฟิงนั้นก็คืออดีต
กับเป่หมิงโม่นั้นกำลังจะเป็นอดีต
สาเหตุที่เปรียบเทียบเช่นนี้ นั้นก็เป็นเพราะว่าเธอมีลูกกับเป่หมิงโม่สามคน
หลังจากลังเลไม่แน่ใจไปชั่วขณะ กู้ฮอนก็ชี้นิ้วไปที่แบบแปลนแบบหนึ่งพลางเอ่ยว่า “หนูคิดว่าแบบนี้เหมาะสมกับสไตล์บริษัทของพ่อบุญธรรมมากกว่า”
โม้จิ่งเฉิงหยิบแว่นสายตายาวมาสวมใหม่ จากนั้นก็มองอย่างตั้งใจแล้วก็พยักหน้าพลางเอ่ยว่า “จริง เมื่อครู่ตอนที่พ่อดูแล้วก็เอนเอียงชอบแบบแปลนนี้ จากภาพแปลนสามารถมองออกว่า ความคิดและจิตใจของคนคนนี้นั้นค่อนข้างละเอียด ทั้งยังรอบคอบ”
เขาเอ่ยแล้วก็หยิบดินสอนออกมาจากกระเป๋า ใช้ข้างหนึ่งชี้ไปที่แบบแปลน “ลูกดูสิ เขาสามารถออกแบบที่จอดรถได้มากขึ้นจากพื้นที่วางที่มีจำกัด แม้ว่าดูแล้วจะไม่อยู่ในสายตา แต่ก็มากพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความคิดที่มองไปข้างหน้าและความกล้า”
กู้ฮอนพยักหน้าเอ่ยอย่างรู้สึกเกรงใจว่า “พ่อบุญธรรม ที่จริงแล้วหนูก็ถูกใจจุดนี้ เหมือนหนูในตอนนี้ แม้ว่าจะขับรถเป็นแล้ว แต่ก็ไม่ได้ชำนาญ บวกกับวันนี้การหาที่จอดรถที่หนึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก”
โม้จิ่งเฉิงพยักหน้า “แท้จริงแล้ว นอกจากสิ่งนี้ พ่อยังค่อนข้างชื่นชมนักออกแบบคนนี้ด้วย สามารถเปลี่ยนแปลงอาคารที่เป็นเพียงแค่สำนักงานให้กลายเป็นอาคารที่มีความซับซ้อนอาคารหนึ่ง ลูกดูสิว่ามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกอย่างที่ควรมี ทำให้ตึกนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพล บริษัทGTของพวกเราในเมืองแห่งนี้ แม้กระทั่งชื่อเสียงในทั้งประเทศก็ถูกทำให้หนักแน่นขึ้น”
หลังจากโม้จิ่งเฉิงชื่นชมไปรอบหนึ่งก็เอนร่างพิงเข้ากับพนักพิงโซฟา ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มพึงพอใจ “ไม่ว่าแบบแปลนนี้จะเป็นเป่หมิงโม่หรือเป่หมิงยี่เฟิงที่ออกแบบ ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมผลงานหนึ่ง ฮอน ลูกไปประกาศผลเถอะ จากนั้นก็พาผู้ชนะมาหาพ่อที่นี่ พ่ออยากจะพบเขา”
กู้ฮอนพยักหน้า ม้วนแบบแปลนใส่กระบอกใส่แบบอีกครั้งหนึ่ง
“พ่อบุญธรรม อย่างนั้นหนูลงไปก่อนนะคะ คุณพ่อก็พักผ่อนสักหน่อย หนูจะกลับมาในเร็วๆนี้ค่ะ” เธอเอ่ยแล้วก็ออกจากห้องเพรสซิเด้นท์ไป
*
ปี้เหออยู่ในห้องประชุมเป็นเพื่อนกับเป่หมิงโม่และเป่หมิงยี่เฟิง พวกเขาทำเพียงแค่นั่งอยู่ที่นั่น บรรยากาศอึดอัดมากอย่างเห็นได้ชัด
โดยเฉพาะเป่หมิงโม่ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นอินเทอร์เน็ตอย่างสบายๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้หลงใหลในแอพพลิเคชั่นสื่อสาร แต่บางครั้งก็ดูคลิปวิดีโอตลกๆกับเข้า Facebook
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนตามกระแส แต่ก็ไม่ใช่คนคร่ำครึที่ทำเป็นแค่โทรศัพท์อย่างคนโบราณประเภทนั้น
คลิปวิดีโอตลกช่วยให้เขาผ่อนคลายได้ชั่วครู่ Facebookทำให้เขาสามารถสื่อสารกับเพื่อนในสายงานเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศได้ สามารถรักษาตัวเองให้เดินอยู่ในแนวหน้าสุดของโลกได้
แต่เป่หมิงยี่เฟิงไม่เหมือนกับเขา เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วหยุดดูเว็บไซต์มืออาชีพอยู่ชั่วครู่ แต่เขายินยอมที่จะใช้เวลาอันไร้ค่าทั้งหมดของเขาไปกับการเล่นเกมมากกว่า
เวลาค่อยๆผ่านไป ไม่รู้จริงๆว่ากู้ฮอนจะนำข่าวแบบไหนมามอบให้กับพวกเขา
ในภายหลัง พวกเขาล้วนวางโทรศัพท์มือไว้บนโต๊ะทำงาน นั่งรอกู้ฮอนอย่างเงียบๆ
ตอนนี้เองที่ประตูห้องประชุมมีเสียงดังขึ้น กู้ฮอนเดินเข้ามาจากข้างนอก ในมือถือกระบอกใส่แบบ
เป่หมิงยี่เฟิงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เธอ หวังว่าใบหน้าของเธอจะมีข่าวคราวที่ตัวเองอยากได้
***
เป่หมิงโม่นั่นยังอยู่ที่ที่นั่งของตัวเองอย่างเยือกเย็น ใบหน้ายังคงไม่มีความรู้สึกใดๆเช่นเคย ราวกับรูปปั้นดินเผาแกะสลักอย่างไรอย่างนั้น
ในสถานการณ์เช่นนี้ก็เหมือนกับการสอบครั้งหนึ่ง ไม่อาศัยความสัมพันธ์ระหว่างใครกับใครมาเอาชนะ
ทั้งหมดล้วนอยู่ที่ความสามารถ มิเช่นนั้นเขาคงไม่จำเป็นต้องลบสัญลักษณ์ของนักออกแบบทั้งหมดทิ้งไป
กู้ฮอนเดินกลับมาข้างกายปี้เหออีกครั้งด้วยใบหน้าจริงจัง เธอพยักหน้าให้กับเขา
หยิบแบบแปลนทั้งสองแบบในกระบอกใส่แบบออกมากางบนโต๊ะประชุม
“ให้ผมชื่นชมแบบแปลนของประธานเป่หมิงสักหน่อย”
เป่หมิงยี่เฟิงพูดพลางชะโงกตัวไป แฝงด้วยความประหลาดใจหลายส่วน
เป่หมิงโม่หันหน้าไปมองเขา ผายมือเป็นท่าทางเชื้อเชิญ แต่คิ้วก็แอบกระตุกเบาๆ “ยังคงต้องเชิญให้หัวหน้าเป่หมิงชี้แนะด้วย”
“ประธานเป่หมิง ‘ชี้แนะ’ สองคำนี้ ผมรับไม่ไหวหรอกครับ เรียนรู้กับคุณเห็นพอจะไหว” เป่หมิงยี่เฟิงหยิบภาพวาดแบบแปลนมาดูอย่างละเอียดโดยไม่ให้เล็ดลอดแม้แต่นิดเดียว
ความจริงจังนั้นดูเหมือนว่าจะตั้งใจมากกว่าตอนตัวเขาเองออกแบบอย่างเห็นได้ชัด
ในระยะเวลาไม่กี่นาที กู้ฮอนสามารถมองเห็นสีหน้าของเป่หมิงยี่เฟิงเปลี่ยนจากยิ้มเยาะเป็นตกตะลึง จากนั้นก็เงียบขรึม
เขาวางแบบแปลนลง นัยน์ตาหรี่ลงเล็กน้อย ริมฝีปากเขาเม้มแน่น แต่ก็สามารถมองเห็นว่าแก้มทั้งสองข้างของเขาเกร็งเขม็ง
เมื่อเห็นเป่หมิงยี่เฟิงหยิบแบบแปลนที่ได้รับการยอมรับจากเธอและพ่อบุญธรรมแบบนั้นไปก็รู้แล้วว่าผู้ชนะคือเป่หมิงโม่