ตอนที่ 810 คุณพ่อส่งไปสนามสอบ
เมื่อทั้งสามคนขึ้นรถไป เจียงฮุ่ยเซียงวิ่งตามหลังออกมา แล้วยื่นซองแดงให้เฉิงเฉิงและหยางหยางคนละซอง: “หลานรัก ให้พวกหนูอันนี้ ขอให้การสอบราบรื่นนะ”
เฉิงเฉิงและหยางหยางเอื้อมมือไปรับมา
“ขอบคุณคุณย่า” เฉิงเฉิงพูด แต่หยางหยางกลับพูดเพียงแค่ว่า: “ขอบคุณ”
***
แม้ว่าจะจับพิรุธของเจียงฮุ่ยซินไม่ได้ แต่หยางหยางก็รู้สึกฝังใจต่อเธอ
เฉิงเฉิงเตือนหยางหยางไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้ง ให้เขาระงับความโกรธอย่าแสดงออก แต่บางครั้งเขาก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ บางทีเขาจะแสดงอาการออกมาโดยไม่รู้ตัว
แต่โชคดี เจียฮุ่ยซินรู้สึกชินกับอารมณ์ที่แปรปรวนของหยางหยางแล้ว ชินมานานแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เธอมักจะดีกับเฉิงเฉิงมากกว่าดีกับหยางหยางเล็กน้อย
*
เป่หมิงโม่ขับรถนิ่งและรวดเร็ว เขามองสองพี่สองที่นั่งอยู่เบาะหลังเป็นครั้งคราว
สมกับที่เป็นพี่น้องฝาแฝด เวลานี้เหมือนว่าพวกเขามีเรื่องในใจ ท่าทางของทั้งสองคน เหมือนกันเป๊ะๆ
ดูท่าทางของลูกๆ เป่หมิงโม่ก็อดนึกถึงตอนที่ตัวเองยังเป็นเด็ก
ทุกครั้งเมื่อถึงเวลาสอบ แม้ว่าตัวเองจะเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว และการสอบสำหรับเขาแล้วสอบได้90%ก็ถือว่าโอเคแล้ว แต่เขาก็หวังว่าวินาทีที่ตัวเองเดินออกจากบ้านไปสนามสอบ คุณพ่อสามารถไปส่งตัวเอง หรือพูดให้กำลังใจตัวเอง
แต่ความหวังเช่นนี้กลับล้มเหลวทุกครั้ง
วินาทีนี้ เป่หมิงโม่รู้สึกว่าความรู้สึกในวัยเด็กของตัวเอง ไม่ควรให้เฉิงเฉิงและหยางหยางประสบพบเจออีก
“พวกนายไม่จำเป็นต้องกังวล หลับตาพักผ่อนก่อน ข้อสอบไม่ถือว่ายาก เป็นข้อที่พวกนายเป็นประจำ เพียงแค่ต้องระมัดระวังฉันเชื่อว่าไม่ยากไปสำหรับพวกนายหรอก” ในที่สุดเป่หมิงโม่ก็ได้พูดให้กำลังใจลูกชาย
หลังจากที่เฉิงเฉิงและหยางหยางได้ยิน จึงมองไปที่ผู้เป็นพ่อของเขาที่กำลังขับรถอย่างจดจ่ออย่างไม่ได้นัดหมาย
คุณพ่อเป็นอะไรไป?
โดยเฉพาะเฉิงเฉิง เริ่มตั้งแต่เขาไปโรงเรียน ได้ผ่านการสอบและการแข่งขันใหญ่ที่มากมาย เขาไม่เคยได้รับกำลังใจจากคุณพ่อเลยสักครั้ง
อันที่จริงทุกครั้งที่เขาได้เห็นผู้ปกครองของเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ เข้าสอบหรือการแข่งขัน ล้วนได้รับกำลังใจ
ความอบอุ่นแบบนั้นเฉิงเฉิงโหยหามาก
คิดไม่ถึงว่าวันนี้ ในที่สุดเขาก็ได้ยินคำพูดกำลังใจออกมาจากปากของคุณพ่อ
อดไม่ได้ที่จะรู้สึกซาบซึ้ง
เขาพยักหน้าไปทางเป่หมิงโม่อย่างหนัก: “คุณพ่อ ผมจะตั้งใจสอบอย่างเต็มที่”
เมื่อเป่หมิงโม่ได้รับการตอบรับจากเฉิงเฉิง จึงพยักหน้าด้วยความเต็มใจ แต่เขากลับไม่ได้ยินการตอบรับจากหยางหยาง
“หยาง นายยังมีคำถามตรงไหนไหม?” เป่หมิงโม่กวาดมองหยางหยางที่อยู่ข้างๆ เฉิงเฉิงผ่านกระจกหลัง
เห็นเพียงเขาขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา เหมือนมีเรื่องกังวลใจอย่างมาก
เฉิงเฉิงในตอนนี้ใช้แขนสะกิดหยางหยาง แล้วพูดเสียงเบากับเขาว่า: “นี่ นายคิดอะไรอยู่ คุณพ่อถามนายอยู่นะ”
หยางหยางหันมามองเฉิงเฉิง แล้วมองคุณพ่อ: “ผมกำลังคิด หากครั้งนี้สอบได้ไม่ดี สัญญาระหว่างเราถือเป็นโมฆะใช่ไหม?”
“หยาง ฉันคิดว่าเรื่องนี้นายไม่ควรเอามาคิด ควรรอให้นายสอบเสร็จก่อนค่อยว่ากัน จำไว้ การสอบก็เหมือนการสู้รบ ตอนที่ยังไม่เริ่ม ก็อย่าเพิ่งไปคิดถึงเรื่องที่จะต้องพ่ายแพ้ สิ่งที่ต้องคิดในตอนนี้ก็คือตั้งสมาธิ พยายามทำให้ดีที่สุด เข้าใจไหม?”
หยางหยางพยักหน้า รู้สึกว่าคำพูดของคุณพ่อนั้นมีเหตุผล
คิดไม่ถึงว่าภายนอกที่ดูเย็นชาของเขา ยังสามารถพูดในสิ่งที่ทำให้ตัวเองอบอุ่นได้เช่นนี้
“เข้าใจแล้วคุณพ่อ ผมจะตั้งใจทำข้อสอบ”
ไม่นานรถก็ขับมาจอดไว้ตรงประตูทางเข้าของโรงเรียน เฉิงเฉิงเปิดประตูรถลงจากรถก่อน ตามมาด้วยหยางหยาง
แต่ขณะที่รอให้เขาลงจากรถอยู่นั้น เป่หมิงโม่หันมาพูดกับเขาคำหนึ่งว่า
***
เป่หมิงโม่มองหยางหยาง อารมณ์ที่เย็นชาของเขาหายไป ดูสงบมาก
“หยาง ฉันคอยสังเกตการณ์เรียนของนายอยู่ตลอด ฉันรู้สึกว่าความสามารถของนาย เพียงแค่ตั้งใจให้ดี การสอบครั้งนี้จะไม่มีปัญหาใดๆ”
หลังจากหยางหยางได้ยิน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าความจริงคุณพ่อก็ไม่ได้ทำให้เกลียดขนาดนั้น อย่างน้อยก็ในเวลานี้
หากเปลี่ยนเป็นคุณแม่ บางทีเธอจะพูดมาหนึ่งคำว่า: “ตั้งใจสอบดีๆ หากสอบได้ไม่ดี ก็ลองดู”
“อึ้งอยู่บนรถอีกทำไม ต้องให้ฉันตะโกนใส่ถึงจะชินใช่ไหม”
ตอนที่หยางหยางและเฉิงเฉิงกำลังรีบก้าวไปทางโรงเรียน เขายังคงมีความกลัวและพูดด้วยเสียงเบาว่า: “นายว่าวันนี้คุณพ่อกินยาผิดไปหรือเปล่า”
เฉิงเฉิงกรอกตาบนให้เขา: “นายเห็นคนอื่นทำดีกับนายไม่ได้เลยใช่ไหม ฉันกลับรู้สึกว่าคุณพ่อในตอนนี้ดี”
“นี่ พวกนายสองคนพูดกระซิบอะไรกัน?” ขณะนี้ ด้านหลังของพวกเขา มีเสียงของเด็กผู้หญิงดังขึ้นมา
ไม่ต้องมอง ก็รู้ว่าเสียงนั่นคือจ้าวจิ้งอี๋รีบตามพวกเขามาจากข้างหลัง
ทันใดนั้นสีหน้าของหยางหยางก็เปลี่ยนไป เร่งฝีเท้ามากขึ้น เพราะเขานึกถึงเรื่องของวันนั้นที่พนันกันไว้ที่สนามเล่น
แต่ดูเหมือนว่าจ้าวจิ้งอี๋ไม่ได้คิดอะไรมาก วิ่งเหยาะๆ ไปตรงหน้าของหยางหยาง: “นี่นี่นี่…เป่หมิงซีหยางนายเดินเร็วขนาดนี้ทำไม”
พูดเสร็จ ใบหน้าของเธอก็เผยรอยยิ้มออกมา: “อ้อ! ฉันรู้แล้ว นายกลัวว่าฉันจะพูดถึงเรื่องวันนั้นที่เราพนันกันงั้นเหรอ ดูท่าทางของนายแล้ว นายคิดว่าจะทำไม่ได้ใช่ไหม หลายวันมานี้ฉันมาคิดๆ ดูแล้ว ไม่มีคนตามไม่ได้จริงๆ แม้ว่านายจะซุ่มซ่าม แต่ฉันก็ปล่อยผ่านไป”
เมื่อกยางหยางได้ยินก็โกรธขึ้นมา เขากรอกตาบนให้จ้าวจิ่งอี๋: “เธออย่าดีใจไป ตอนนี้ยังไม่ได้สอบ ยังไม่แน่ว่าใครจะได้เป็นผู้ติดตามของใครกัน”
“งั้นก็ดี เรามาดูกันว่าใครจะหัวเราะได้นานที่สุด” หลังจากจ้าวจิ้งอี๋พูดจบ เร่งฝีเท้าเดินไปทางห้องของตัวเอง
เฉิงเฉิงมองท่าทางของทั้งสองคนที่ไม่มีใครยอมใคร ในใจก็รู้สึกตลก แต่เขาก็อดไว้
บางทีอาจเป็นเพราะทั้งสองคนพนันกันไว้ ตัวเองเป็นแค่คนภายนอก
เขาพูดกับหยางหยางมาคำหนึ่งว่า: “นายแน่ใจว่าจะชนะมากเพียงใด?”
เมื่อหยางหยางได้ยินเช่นนี้ อารมณ์โกรธเมื่อครู่ก็ได้บรรเทาลงไม่น้อย: “ความจริงฉันแค่ไม่อยากให้เธอมองฉันตลกในตอนนี้”
เมื่อพูดถึงตรงนี้เขาก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย: “หึหึ ความจริงฉันยังมีท่าไม้ตาย”
เฉิงเฉิงรู้สึกงุนงงเล็กน้อย ไม่แน่ใจกับการสอบ ยังมีอะไรที่สามารถช่วยเขาได้อีก
หยางหยางมองไปรอบๆ ไม่เห็นว่ามีคนดูพวกเขา เขาแอบเอื้อมมือออกมา: “นายดูนี่คืออะไร”
เฉิงเฉิงก้มลงมอง เห็นเพียงในมือของเขาเขียนอะไรเต็มไปหมด
ทันใดนั้นหน้าผากของเขาก็ขีดเป็นเส้นสีดำ: “อย่าบอกนะว่านายจะโกงข้อสอบ! คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าที่ฉันสอนพิเศษให้นายอย่างยากลำบาก ตอนนี้นายจะมาทำแบบนี้”
“นี่! นายเบาๆ หน่อย ฉันก็แค่กันไว้สองเท่า” หยางหยางแทบจะเอื้อมมือไปปิดปากของเขาไว้
“ฉันไม่เชื่อว่านายได้คัดลอกไว้แล้ว จะไม่ดู ถึงตอนนั้นอย่าให้คุณครูจับได้ ถึงตอนนั้นคุณพ่อรู้เข้าฉันช่วยนายไม่ได้นะถูกตีไม่ว่ายังจะถูกจ้าวจิ้งอี๋หัวเราะเยาะ ฉันคิดว่าไม่นานชื่อเสียงของนายก็จะรู้ไปทั่วโรงเรียน”
***
หยางหยางขมวดคิ้ว เอามือเกาหัว: “อันนี้ฉันกลับคิดไม่ถึง แต่นายวางใจเถอะฉันไม่ให้ครูจับได้”
เขาพูดถึงตรงนี้ ก็ได้ยินเสียงกริ่งดังขึ้นของโรงเรียน
“เอาล่ะฉันจะไปสอบแล้ว ขอให้ฉันโชคดีเถอะ บ๊ายบาย…” หยางหยางโบกมือให้เฉิงเฉิง แล้ววิ่งไปถึงห้องของตัวเอง
เฉิงเฉิงมองแผ่นหลังของหยางหยาง คิ้วขมวดเล็กน้อย
การสอบในวันนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข้อสอบและคำตอบทั้งหมดถูกส่งไปยังคอมพิวเตอร์แล้ว
นักเรียนเพียงแค่ทำข้อสอบลงบนคอมพิวเตอร์ และความเร็วนั้นเร็วมากเมื่อตอบคำถามเสร็จ หลังจากส่งคะแนนไปแล้ว ก็สามารถคำนวณได้ทันทีว่าได้คะแนนเท่าไหร่
ตอนนี้หยางหยางยังอยู่ในชั้นประถม หลักสูตรหลักคือภาษาจีนและคณิตศาสตร์
ดังนั้นเมื่อข้อสอบทั้งสองแผ่นทำเสร็จ หลังจากเสียงกริ่งหมดเวลาทำข้อสอบดังขึ้น ก็จะแสดงผลสอบออกมา และยังสามารถคำนวณลำดับการจัดอันดับของทั้งปีได้ทันที
ทดสอบของหยางหยางใช้เวลาแค่หนึ่งวัน ขณะที่ห้องเรียนเด็กอัจฉริยะของเฉิงเฉิงนั้นมีการสอบที่หลากหลาย ต้องใช้เวลาสามวัน
ดังนั้นหยางหยางจะรู้ก่อนว่าผลการเรียนและลำดับของตัวเองก่อน แน่นอนว่าขณะเดียวกันก็สามารถตรวจสอบแสดงได้จากระบบของโรงเรียนแล้วบนมือถือของผู้ปกครอง
การสอบสำหรับหยางหยางแล้ว เป็นเรื่องที่ทำให้ขมวดคิ้วอย่างแน่นอน ไม่รู้ทำไม ปกติตอนที่อยู่ในชั้นเรียนเมื่อได้ยินคำถามก็รู้คำตอบได้ทันที แต่เมื่อถึงเวลาสอบก็กลายเป็นว่ายากมาก
ครั้งหนึ่งเขาก็เคยบอกเกี่ยวกับคำถามนี้กับโล่ฮาน แต่คำตอบที่โล่ฮานให้เขามาคือ: เวลาเรียนใจร้อน เวลาเลิกเรียนไม่ทบทวน
ด้วยเหตุนี้โล่ฮานจึงได้ทำการสอนพิเศษให้กับหยางหยางโดยเฉพาะ ดังนั้นต่อมา คะแนนของเขาก็เพิ่มขึ้นทีละน้อย
ตอนนี้ ในที่สุดก็ถึงวันสอบปลายภาค และก็ถึงเวลาทดสอบเขาอย่างแท้จริงในปีการศึกษานี้
หยางหยางมองบนจอคอม ในใจก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย เพราะการสอบครั้งนี้ ซึ่งหมายถึงการเริ่มต้นก้าวแรกของความฝันของเขา และได้เป็นกุญแจสำคัญหลักในการตัดสินว่าตัวเองจะได้เป็นผู้ติดตามของจ้าวจิ้งอี๋หรือเปล่า
รอจนทุกคนยั่งประจำที่ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ผ่านไปห้านาทีกริ่งของการสอบก็ดังขึ้น
ขณะเดียวกัน หน้าจอคอมทั้งหมดก็เปิดขึ้นมา และได้เริ่มการทำข้อสอบ
นักเรียนทุกคนในชั้นเรียนเริ่มก้มหน้ายุ่งอยู่กับการตอบคำถาม
หยางหยางมองข้อสอบเหล่านี้ ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา ก็เหมือนมีบางอย่างผิดปกติไปทันที
หน้าผากของเขาเริ่มมีเหงื่อออก
แต่จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดที่พ่อของเขาได้พูดไว้: อย่าตื่นเต้น แค่ระวังหน่อย ข้อสอบเหล่านี้ไม่ยากไปสำหรับนาย
ทันใดนั้นหยางหยางก็รู้สึกได้ทันทีว่าคำพูดของคุณพ่อนั้นสำคัญกับตัวเองมากแค่ไหน เพราะเขาในวินาทีนี้ไม่กระวนกระวายใจแล้ว ความคิดวุ่นวายของเขาก็ค่อยๆ มีสติขึ้นมา
เมื่อมองคำถามบนหน้าจอคอม ไม่ได้ดูตื่นตาอีกต่อไป ราวกับว่าสามารถเห็นคำตอบที่ถูกต้องอยู่ตรงหน้าของตัวเอง
การเขียนคัดลอกของก่อนหน้านี้ ไม่ต้องดูเลยแม้แต่น้อย
หยางหยางยิ่งเขียนยิ่งคล่อง หลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็มีร่องรอยแห่งความสุขปรากฏบนใบหน้า
หลังจากสอบวิชาแรกในตอนเช้าผ่านไป เขารู้สึกว่าทำไมการสอบในครั้งนี้ถึงง่ายดายนัก ไม่ได้ยากเหมือนเมื่อก่อนเลย
ตอนเที่ยง ระหว่างที่เขาทานอาหารในโรงอาหาร ก็ได้พบกับเฉิงเฉิงที่เพิ่งออกมาจากห้องสอบ
เขาเดินขึ้นไปอย่างมีความสุข ยื่นมือออกไปทำท่าโอเคให้