ตอนที่ 826 ลงโทษกับเธอ
เฟยเอ๋อพยักหน้าอย่างทรมาน จากนั้นพยักหน้าอีกครั้ง นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา:”โม่ คุณพูดถูก ฉันควรเกลียดคุณ เกลียดคุณเพราะว่าฉันอยู่เคียงข้างคุณมาตั้งหลายปีทำไมคุณยังไม่เคยชอบฉันอย่างจริงจังสักที แต่ในทางกลับกันกู้ฮอนแค่ทำการค้าขายกันคุณ คุณกลับคิดถึงแต่เธอและลืมเธอไม่ลง แต่ว่าฉันเกลียดคุณไม่ได้ นั่นเป็นเพราะว่าความรักที่ฉันมีต่อคุณมันเป็นแค่การคิดถึงข้างเดียวอย่างยาวนาน ฉันเป็นคนที่รักคุณข้างเดียวเอง”
***
เฟยเอ๋อพูดถึงตรงนี้ ยิ่งอยู่ยิ่งสะอื้น:” ในที่สุด ฉันได้หาโอกาสดีๆ:”กลางคืนฉันนอนไม่หลับ ออกไปเดินเล่นๆ เห็นป้าฟางเธอก็อยู่ข้างนอกด้วย ฉันเลยเดินไปถามเธอ ตกลงตัวเองไม่ดีตรงไหนกันแน่ ทำให้เธอไม่ยอมรับในตัวฉัน”
เป่หมิงโม่ฟังถึงตรงนี้ ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที สำหรับเรื่องของป้าฟาง เขาไม่อยากพลาดเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับป้าแม้แต่เรื่องเดียว
” เธอพูดว่ายังไง? ”
” เธอพูดว่า ความจริงที่เธอทำดีกับกู้ฮอน เป็นเพียงแค่การทดสอบ เป็นสะใภ้บ้านเป่หมิงก็ต้องรับการทดสอบแบบนี้ให้ได้ แต่ว่าการแสดงของฉันทุกอย่างทำให้เธอผิดหวัง สรุปแล้วเธอรู้สึกว่ากู้ฮอนเหมาะที่จะเป็นสะใภ้เป่หมิงมากกว่า ที่สำคัญเธอยังแสดงท่าทีออกมาอีกว่าว่าให้ฉันไปจากคุณตั้งแต่ตอนนี้เลย ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อให้ฉันไปจากคุณเธอยังเสนอจำนวนตัวเลขที่คุ้มค่าให้กับฉันอีกด้วย และยังพูดอีกว่าเธอจะพูดคุยเรื่องนี้กับคุณเอง ฉันรู้ คุณเชื่อฟังป้าฟางที่สุด ถ้าหากเธอพูดอะไรกับคุณ ถ้าอย่างนั้นคุณต้องเห็นด้วยแน่นอน เพราะฉะนั้นตอนที่ฉันออกไปจากเธอ ฉวยโอกาสตอนที่เธอไม่ระวังตัวจึงผลักเธอ คิดไม่ถึงเธอจะตะโกนออกมา ฉันเห็นว่าที่นี่อยู่ต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ ถ้าต้องให้เธอเข้ามาสั่งคุณไล่ฉันออกไป ฉันไปด้วยตัวเองดีกว่า คิดถึงตรงนี้ฉันจึงเข้าไปในห้องนอนตัวเองอย่างเร่งด่วน กะว่าเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วก็ออกไปเลย แต่กลับคิดไม่ถึงเธอได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริงๆ ขณะเดียวกันฉันก็ได้รู้อยู่แก่ใจว่าฉันไปไม่ได้แล้ว สำหรับเรื่องภายหลังฉันคิดว่าคุณได้รับรู้เรื่องราวเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วินาทีนั้นมา ฉันก็ไม่ใช่เฟยเอ๋อคนเดิมอีกต่อไปแล้ว”
*
ข้างนอกรถยนต์ฟ้าค่อยๆมืดมิด เงาของต้นไม้ข้างนอกรถยนต์ขยับไปที่ข้างหลังอย่างรวดเร็ว
” เจ้านายครับ ท่านตัดสินใจจัดการกับคุณหนูเฟยเอ๋อเช่นนี้จริงๆหรือครับ? “ฉิงฮัวขับรถยนต์อยู่ มองเป่หมิงโม่ที่นั่งอยู่แถวหลังผ่านทางกระจกหน้ารถยนต์ซึ่งเขากำลังขมวดคิ้วอยู่ สีหน้าก็ดูไม่ค่อยดีนัก”
เป่หมิงโม่เงยหน้าขึ้นมาดูรถเก๋งสีดำข้างหน้าของพวกเขา ค่อยๆพูดขึ้นมาว่า:”ความจริงฉันคิดว่าให้เธออยู่ที่ตึกเล็กๆตึกนั้น ใช้เวลาที่เหลือของเธอ ฉันในเมื่อก่อนอาจทำแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้ฉันเปลี่ยนความคิดแล้ว ส่งเธอไปที่โรงพัก ให้เธอได้รับการลงโทษจากกฎหมาย”
*
กู้ฮอนอยู่ในห้องทำงานของเป่หมิงโม่ทั้งวัน งานที่ตกหล่นทำเสริมจนหมดสิ้นเรียบร้อย
เวลาเลิกงานมาถึงแล้ว หลังเธอยืดเส้นยืดสายที่ต้นคอและไหล่ซึ่งแข็งเล็กน้อย ถือกระเป๋าตัวเองเดินออกไปจากห้องทำงาน
หลายวันแล้วไม่ได้ไปเยี่ยมแม่เลย เธอเห็นว่าฟ้ายังสว่างอยู่เลย จึงเรียกรถโดยสารไปที่โรงพยาบาล
ตอนที่เธอเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยของลู่ลู่ พบว่าในห้องว่างเปล่าไม่มีใครสักคน
แม่น่าจะไปเดินเล่นๆหรอกมั้ง ตั้งแต่มีรถเข็นอัตโนมัติการเคลื่อนไหวของแม่ก็เลยอิสระมากขึ้น
กู้ฮอนนั่งอยู่ในห้องผู้ป่วยรอแม่กลับมา เธอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
*
ฟ้าเริ่มเคลิ้มๆ ลู่ลู่นั่งรถเข็นกลับมาจากข้างนอก ข้างหลังยังมีหลี่เชินตามหลังอีกด้วย
พวกเขาเข้ามาในห้องปุ๊บ เห็นลูกสาวนั่งอยู่ที่โซฟาเรียบร้อย มือข้างนึงตรึงหัวสมองเอาไว้ตาทั้งคู่ปิดไว้หลับอย่างสนิท
หลี่เชินมองหน้าลู่ลู่ จากนั้นเดินเข้าไปเบาๆ ถอดเสื้อนอกตัวเองออกมา คลุมไว้บนร่างกายกู้ฮอนเบาๆ
เธออาจจะนอนหลับไม่สนิทขนาดนั้น รู้สึกร่างกายมีการเคลื่อนไหวนิดๆ ก็ลืมตาขึ้นมาทันที
เธอนั่งตัวตรงอย่างบอลๆ:”แม่คะ แม่กลับมาแล้ว เมื่อครู่แม่ไปไหนคะ?”
แต่ว่าหลังจากกู้ฮอนตื่น เห็นคนตรงหน้าไม่ใช่แม่ แต่กลับเป็นผู้ชาย
เสื้อที่คลุมไว้ในตัวก็เป็นเสื้อผู้ชาย
***
เธอตกใจอย่างกะทันหัน ในห้องผู้ป่วยของคุณแม่ทำไมถึงมีผู้ชายปรากฏออกมา
เธอเงยหน้าขึ้นมาดูถึงได้พบว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือหลี่เชิน
กู้ฮอนรีบลุกขึ้นมา เอาเสื้อคลุมในตัวออกมายื่นให้กับหลี่เชิน:”ขอบคุณน้ำใจของคุณ แม่ฉันหล่ะ?”
ตอนนี้เธอเจอกับหลี่เชินยังคงเกร็งๆ
“ฮอน แม่อยู่ตรงนี้” ลู่ลู่พูดอยู่ นั่งอยู่ที่รถเข็นอ้อมจากข้างหลังหลี่เชินมาถึงตรงหน้ากู้ฮอน”ฮอน ทำไมวันนี้หนูถึงมีเวลาว่างมาที่นี่หล่ะ?”
กู้ฮอนเห็นสีหน้าคุณแม่ดูดีทีเดียว สบายใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน:” หลายวันแล้วที่หนูไม่ได้มาเยี่ยมแม่เลย เพราะฉะนั้นวันนี้เลิกงานปุ๊บก็มาทันทีเลย แม่ ช่วงนี้สุขภาพแม่เป็นไงบ้าง?”
“แม่รู้สึกว่าสุขภาพของแม่ดีขึ้นทุกๆวัน แต่ว่าน่าเสียดาย คุณป้าหรูเจี๋ยของหนูออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว เธอไม่สามารถพูดคุยกับแม่แล้ว ยังดีนะ พ่อหนูมาเยี่ยมแม่บ่อยๆ พูดคุยกับแม่”
หลี่เชินเอามือตรึงไว้บนไหล่ลู่ลู่เบาๆ:” คุณอย่าพูดแบบนี้ ผมทำให้คุณผิดหวังมาตั้งยี่สิบกว่าปี ตอนนี้ทำอะไรเพื่อคุณมันก็สมควรอยู่แล้ว อยู่ข้างนอกมาทั้งวัน คุณคงเหนื่อยแล้ว ผมพาคุณไปพักผ่อนที่เตียง”
กู้ฮอนรีบช่วยหลี่เชินพยุงลู่ลู่ไปที่เตียง ช่วยเธอห่มผ้าห่มให้เรียบร้อย
“ฮอน ให้แม่หนูพักผ่อนสักพัก เราออกไปนั่งข้างนอกกันสักพักเถอะ” พูดอยู่หลี่เชินเดินไปทางหน้าประตู
เดิมทีกู้ฮอนไม่อยากไป แต่ว่าลู่ลู่พูดกับกู้ฮอนว่า:” ฮอน ออกไปพูดคุยกับพ่อหนูเถอะ”
“ในเมื่อแม่พูดแบบนี้แล้ว กู้ฮอนจึงพยักหน้า:” แม่ถ้าอย่างนั้นแม่พักผ่อนดีๆนะคะ หนูไปแป๊บเดียวก็มาแล้ว”
*
กู้ฮอนตามหลี่เชินเดินออกไปจากโรงพยาบาล มาถึงที่ร้านกาแฟแถวนั้น
“ฮอนอยากดื่มอะไร? ”
ข้างในร้านกาแฟเงียบสงบ หลี่เชินและกู้ฮอนนั่งตรงกันข้ามกัน ข้างๆพวกเขาใกล้ๆกับหน้าต่างกระจกถนนใหญ่
ตั้งแต่ครั้งก่อนกู้ฮอนเจอกับหลี่เชินจนถึงตอนนี้ก็นานพอสมควร เธอดูไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองสักเท่าไหร่:”คุณสั่งเองเถอะ”
หลี่เชินพยักหน้าพูดกับพนักงานว่า:”เอาคาปูชิโน่สองแก้วขอบคุณ”
“ฮอน ก่อนอื่นพ่อต้องขอโทษเรื่องครั้งก่อนกับหนู”
กู้ฮอนส่ายหน้า:”ช่างเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ฉันไม่อยากพูดถึงอีก ช่วงนี้ฉันไม่มีเวลามาดูแลแม่ ต้องขอบคุณคุณมากที่มาเยี่ยมเธอทุกวัน”
หลี่เชินฟังแล้วไม่สบายใจเท่าไหร่ เขายิ้มแย้มอย่างขมขื่น:”พ่อสมควรทำอยู่แล้ว พ่อได้ยินลู่ลู่พูดว่าหนูเป็นแม่คนแล้วใช่มั้ย?”
กู้ฮอนพยักหน้า:” ลูกสามคน ชายสองหญิงหนึ่ง”
” เป็นของหนูและเป่หมิงโม่? ”
กู้ฮอนพยักหน้า
” เขาดีกับหนูไหม? ได้ยินว่าพวกหนูไม่ได้แต่งงานกันหนูดูแลลูกๆคนเดียวลำบากมากรึเปล่า ถ้ามีความต้องการแล้วละก็ บอกกับพ่อได้เลย”
กู้ฮอนเอาช้อนเล็กๆค่อยๆคนกาแฟในแก้ว:” ไม่ต้อง ชีวิตฉันถือว่าพอใช้ได้”
หลี่เชินยักคิ้ว:”ฮอน ในฐานะพ่อคนนึงพ่ออยากทำอะไรเพื่อพวกหนูสองคนแม่ลูกจากใจจริง”
” ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แม่หนูทนใช้ชีวิตที่ลำบากมาตั้งยี่สิบกว่าปีมันถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ถ้าหากคุณทำเพื่อแม่ฉันจริงๆแล้วละก็ ถ้าอย่างนั้นก็อยู่เป็นเพื่อนแม่ให้มากๆ ฉันดูออก แม่ยังมีความผูกพันกับคุณอยู่ ถึงแม้คุณจะทำร้ายแม่มากแค่ไหนก็ตาม”
กู้ฮอนพูดอยู่ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หดหู่ใจมาก
ทันทีนั้นหลี่เชินก็ได้เงียบสงบในทันที เขาก็ทรมานใจมาก แต่ว่าความในใจเขาควรพูดกับใครหล่ะ?
***
ระหว่างกู้ฮอนกับหลี่เชินนั่งคุยกันในร้านกาแฟเป็นครั้งแรกสุดท้ายทั้งสองคนผ่านไปโดยความเงียบสงบ
สำหรับหลี่เชิน เขาดูการแสดงท่าทีของลูกสาวที่มีต่อตัวเองออก ถึงแม้ระหว่างพวกเขาในตอนนี้จะมีวี่แววดีขึ้นมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ว่ายังคงเก้อเขินในเวลาที่เจอหน้าซึ่งกันและกัน
กู้ฮอนก็เช่นกัน เธอหันหน้าไปดูนอกหน้าต่าง รถเก๋งสีดำจอดไว้ตรงหน้าหน้าต่างพวกเขา
“ลูกศิษย์คุณมาแล้ว”
หลี่เชินมองไปตามสายตาของกู้ฮอน ระหว่างนี้ถังเทียนจื๋อได้ลงจากรถเรียบร้อยแล้ว กำลังเดินไปทางหน้าประตูร้านกาแฟที่พวกเขานั่งอยู่
เร็วมาก ถังเทียนจื๋อก็ได้ปรากฏต่อหน้าพวกเขาสองคน
เขามองหน้ากู้ฮอนไม่พูดอะไรทั้งนั้น เพียงแค่พยักหน้าและยิ้มแย้มเล็กน้อย จากนั้นพูดกับหลี่เชินว่า:” อาจารย์ครับ เวลาสายแล้วครับ ผมมารับอาจารย์กลับไปพักผ่อนครับ”
หลี่เชินพยักหน้า ดื่มกาแฟในแก้วจนหมด:”ฮอน งั้นพ่อไปก่อนแล้วนะ วันหลังค่อยมาเยี่ยมหนู”
กู้ฮอนมองดูพวกเขาขึ้นรถไป จากนั้นหายไปในฝูงรถยนต์ที่แล่นผ่านไปมา
*
เฉิงเฉิงสอบเสร็จและกลับมาที่บ้านเรียบร้อยแล้ว พบเห็นเป่หมิงยันกำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขกและอยู่เป็นเพื่อนของเจียงฮุ่ยซิน
” ลุงสาม” เขาทักทายอย่างมีมารยาท
เป่หมิงยันเห็นเฉิงเฉิงกลับมา ก็ได้กวักมือให้กับเขาทันที:” เฉิงเฉิงกลับมาแล้ว เป็นไงการสอบครั้งนี้ใช้ได้รึเปล่า”
เฉิงเฉิงพยักหน้า
เจียงฮุ่ยซินเงยหน้าขึ้นมาดูเวลา:”เวลาสายแล้ว เราควรทานข้าวได้แล้ว เฉิงเฉิง นายไปเรียกหยางหยางลงมาเถอะ”
หยางหยางอยู่บนตึก? ทำให้เฉิงเฉิงรู้สึกคาดไม่ถึง ความสัมพันธ์ของเขากับลุงสามดีที่สุดไม่ใช่หรือ ทำไมเขายังวิ่งขึ้นไปบนตึกอีกหล่ะ? ที่สำคัญเขาสอบเสร็จแล้วไม่ใช่หรือ
เฉิงเฉิงมาถึงบนตึก เปิดประตูห้องนอนหยางหยาง กลับพบว่าในห้องว่างเปล่าไม่มีใครสักคน
เขาก็เลยเดินมาที่หน้าประตูห้องนอนของตัวเอง จับราวประตูผลักออกไปเบาๆ ประตูถูกล็อคจากข้างใน
“ปั้งปั้ง ปั้งปั้งปั้ง……..”
“นี่เป็นรหัสผ่านที่เขากับหยางหยางตั้งเอาไว้ ใครก็แล้วแต่ถ้าต้องการเข้ามาเพียงแค่เคาะรหัสผ่านได้ถูกต้อง คนข้างในถึงจะเปิดประตูให้
เร็วมาก ก็ได้ยินเสียงเท้าเดินดังออกมาจากห้องข้างในต่อมาหยางหยางได้เปิดประตูออกมา
หยางหยางลากตัวเฉิงเฉิงเข้าไป จากนั้นมองดูระเบียงทางเดินอย่างระมัดระวัง หลังแน่ใจว่าปลอดภัยดีปิดประตูอีกครั้ง
“นายทำอะไรเนี่ย ลับลมคมใน? ลุงสามมาแล้ว ทำไมไม่เห็นนายไปตามรังควานลุงเลย” เฉิงเฉิงไม่เข้าใจหยางหยางเป็นอะไรกันแน่
หยางหยางไม่ได้แสดงความดีใจออกมาแม้แต่น้อย:”ผมพบความลับนึง ที่แท้ลุงสามและคุณย่าเลี้ยงเป็นพวกเดียวกัน”
คำพูดนี้ทำให้เฉิงเฉิงฟังแล้วไม่เข้าใจเลยสักนิด:” ลุงสามกับคุณย่าเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว มีอะไรผิดปกติหรอ?”
“โธ่เอ๊ย ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น วันนี้ลุงสามมาแล้ว ทานข้าวเสร็จเรียบร้อย คุณย่าเลี้ยงก็ให้ผมขึ้นไปบนตึก บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับลุงสาม ในเมื่อพวกเขาคุยกันไม่อยากให้ผมได้ยิน ผมไม่ฟังก็ได้ จึงขึ้นไปบนตึก แต่ว่าผมก็ยังแปลกใจว่าพวกเขาจะคุยอะไรกัน เพราะว่าตอนนี้เราเฝ้าติดตามคุณย่าเลี้ยงมาโดยตลอดไม่ใช่หรือ เพราะฉะนั้นผมจึงคิดถึงกล้องวงจรปิดของนายทันที สุดท้ายผมจึงพบว่าระหว่างพวกเขามีความลับอันใหญ่หลวง”
” ความลับอันใหญ่หลวง? “เฉิงเฉิงรู้สึกคาดไม่ถึง
นั่นเป็นเพราะว่า สำหรับลุงสาม เฉิงเฉิงเทียบกับหยางหยางแล้วสนิทยิ่งกว่า
ตั้งแต่เขาเริ่มเข้าใจกับอะไร ก็รู้แล้วว่าระหว่างลุงสามกับคุณย่าเหมือนมีสพานที่เชื่อมกันไม่ติดมาโดยตลอด