บทที่ 867 จะคลอดแล้ว
“ดูไม่ออกจริงๆ ว่ามีเงินแล้วยังเอาแต่ใจ ถ้าคนอื่นไม่รู้ แล้วใครจะรู้ว่าเจ้านายถูกกักขังอยู่ ก็คงคิดว่าหยุดพักผ่อนไปต่างประเทศซะแล้ว เขาได้สั่งอะไรไว้กับคุณเหรอ”
เมื่อลั่วเฉียวเห็นท่าทางของฉิงฮัว ก็รู้ว่าเป่หมิงโม่ดูเหมือนจะมอบหมายงานอะไรสักอย่างที่ยาก
ฉิงฮัวมองไปที่กู้ฮอนด้วยความลำบากใจ จากนั้นมองไปที่นายน้อยทั้งสอง แล้วค่อยๆพูดว่า “คุณหนู ถูกรู้แล้ว”
“คุณพูดอะไร” ในขณะนั้นกู้ฮอนไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆกลับมา
ฉิงฮัวมองรายการ《วาสนารัก》ซึ่งยังคงออกอากาศทางทีวีอยู่
“เจ้านายโทรมาหาผมเมื่อกี้นี้ และขอให้ผมหาทางสั่งหยุดออกอากาศรายการนี้ทางสถานีโทรทัศน์”
“ซึ้ด……”
หลังจากกู้ฮอนและแอนนิได้ยินก็แทบจะหยุดหายใจ กลัวสิ่งใดสิ่งนั้นก็เกิดขึ้นจริงๆ สั่งหยุดรายการนี้ ก็แสดงว่าเขาได้เห็นหยางหยางแล้ว แม้ว่าเขาจะเริ่มให้ความสนใจกับจิ่วจิ่วแล้ว
ตอนนี้เป็นเพียงแค่ก้าวแรกที่สั่งปิดรายการ แล้วก้าวต่อไปเขาจะทำอะไรต่อล่ะ หรือจะสั่งฉิงฮัวให้กักขังตัวเองไว้ในบ้านแล้วพาเด็กๆไป
เมื่อกู้ฮอนคิดถึงจุดนี้ ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าร่างกายของตัวเองสั่นเล็กน้อย
เธอมองไปที่ฉิงฮัวและค่อยๆพูดว่า “นอกจากนี้แล้ว เขาบอกรึเปล่าว่าควรจะจัดการยังไงกับพวกเราแม่ลูก”
ฉิงฮัวส่ายหน้าเบาๆ “เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้านายยังไม่ได้พูดถึง ผมว่าคุณหนู ควรพานายน้อยออกไปซ่อนก่อนเถอะ บางทีตอนนี้เจ้านายอาจจะกำลังโกรธ รอให้ผ่านไปสักระยะ ให้เขาหายโกรธพวกคุณสองคนค่อยลองคุยกันดีๆอีกครั้ง จริงๆแล้วใจในของเจ้านายก็ยังมีคุณกับพวกเด็กๆอยู่ คนครอบครัวเดียวกันยังจะมาทะเลาะอะไรกันอีก”
แอนนิพยักหน้า “ฉันคิดว่าวิธีการของฉิงฮัวใช้ได้ เธอควรจะพาจิ่วจิ่วออกไปก่อนสักสองสามวัน”
กู้ฮอนไม่ต้องการที่จะรีบพาเด็กๆออกไป แต่ว่าตอนนี้ไม่สามารถออกไปได้
พรุ่งนี้ศาลก็จะพิจารณาคดีแล้ว ตนเองจะออกไปได้อย่างไร ถึงแม้ตอนนี้มันคงจะยากที่จะลงจากหลังเสือแล้ว
“โอ๊ย……โอ๊ย…..” ตอนนี้จู่ๆลั่วเฉียวก็เอามือกุมท้องแล้วส่งเสียงร้องออกมา
ฉิงฮัวรีบยื่นมือออกไปเพื่อพยุงตัวเธอ มองดูสีหน้าท่าทางที่ดูเจ็บปวดของเธอ ในใจก็รู้สึกอึดอัด “คุณเป็นอะไรเหรอ”
เหงื่อจำนวนมากไหลออกมาจากหน้าผากของลั่วเฉียว เวลานี้เธอพูดอะไรไม่ได้เลยนอกจากตะโกนออกไปด้วยความเจ็บปวด
***
เมื่อเห็นว่าเป็นแบบนี้ กู้ฮอนและฉิงฮัวจะเอาใจที่ไหนไปคิดเรื่องที่จะพาจิ่วจิ่วไปซ่อน
“คาดว่าเฉียวเฉียวคงกำลังจะคลอดแล้ว รีบพาเธอไปส่งโรงพยาบาลเธอ” แอนนิพูดออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็หันกลับวิ่งขึ้นไปข้างบน
ในไม่ช้า เธอก็เอาเบาะบางๆมารองร่างของลั่วเฉียว พร้อมไปกับฉิงฮัวและกู้ฮอนพาเธอไปส่งที่รถของฉิงฮัวที่นอกประตู
“ฉิงฮัว คุณขับรถดีๆ เฉียวเฉียวมีฉันและแอนนิคอยดูแล”
กู้ฮอนและแอนนินั่งย่อตัวนั่งลงไปในช่องวางระหว่างแถวหน้าและแถวหลัง โดยมีลั่วเฉียวนั่งเอนตัวอยู่ที่เบาะหลัง
“หม่ามี๊ หม่ามี๊ ……” ในตอนนี้ได้วิ่งตามออกมาจากห้อง ด้านหลังเขายังมีหยางหยางตามออกมาด้วย
กู้ฮอนหันกลับไปที่ลูกน้อย และยิ้มให้เบาๆ “ลูก เดี๋ยวหม่ามี๊ไปส่งน้าเฉียวเฉียวที่โรงพยาบาลเพื่อคลอดน้อง ลูกนอนอยู่บ้านดีๆนะ”
พูดจบ เธอก็ยืนมองหยางหยางที่ยืนอยู่ข้างหลังจิ่วจิ่ว ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
เรื่องวุ่นวายในวันนี้ก็เกิดมาจากเจ้าเด็กเกเรคนนี้
ใบหน้าของเธอตึงเครียดขึ้นในทันที “หยางหยาง เรื่องของนายเดี๋ยวรอให้พวกเรากลับมาก่อนค่อยคุยกัน ตอนนี้พาน้องกลับไปก่อน บอกเฉิงเฉิงด้วยว่าคืนนี้พวกเราอาจจะต้องอยู่โรงพยาบาลทั้งคืนไม่ได้กลับมา ให้เขาช่วยจัดการกับเรื่องของพวกนายในคืนนี้”
หยางหยางกลัวมากที่สุดคือเมื่อเห็นท่าทีที่โกรธของกู้ฮอน เขาก็ได้หดคอลง “โอ้ รู้แล้ว” พูดจบ ก็ยื่นมือไปดึงมือของจิ่วจิ่ว และพาเธอหันกลับไปยังวิลล่า
ระหว่างทาง เสียงความเจ็บปวดของชั่วเฉียวดังขึ้นเป็นระยะ ทำให้คนอื่นที่อยู่ในรถทั้งสามคนรู้สึกเป็นกังวล
กู้ฮอนใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาไม่หยุดจากหน้าผากของเธอ “เฉียวเฉียว อดทนอีกนิด พวกเราใกล้ถึงโรงพยาบาลแล้ว”
“ฉัน ฉันรู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้ว ปวดมาก” ลั่วเฉียวพูดอย่างหายใจไม่ออก
“เฉียวเฉียว จริงๆแล้วเธอดีกว่าฉันตั้งเยอะ ตอนนั้นที่ฉันคลอดเฉิงเฉิงกับหยางหยาง ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกับจะต้องตาย แต่มันก็ผ่านไปได้ ไม่ต้องกังวล เธอจะต้องคลอดลูกที่แข็งแรงออกมาแน่”
หยางหยางจับมือเล็กๆของจิ่วจิ่วกลับไปยังวิลล่า ทันทีที่เข้าประตู ก็ได้ยินรถที่ฉิงฮัวขับขับออกไปอย่างรวดเร็ว
จิ่วจิ่วเงยหน้าขึ้นมองหยางหยาง “พี่หยางหยาง พวกเราออกทีวีทำให้หม่ามี๊ไม่มีความสุขเหรอ”
หยางหยางยักไหล่ “ไม่รู้สิ ก็ที่พวกเราทำไปก็เพื่อแม่ไม่ใช่เหรอ วางใจเถอะ มีคุณน้าแอนนิและน้าเฉียวเฉียวอยู่ด้วย แม่ไม่ทำอะไรพวกเราหรอก โธ่ ตอนนี้รายการ《วาสนารัก》ยังไม่จบ ฉันจะลองดูอีกทีว่าสุดท้ายจะไปถ่ายอีกรึเปล่า”
หยางหยางพูดจบ หลังจากที่ปิดประตูก็รีบวิ่งไปที่ทีวี และดูด้วยความสนใจ
ตอนนี้แม่ก็ไม่ได้อยู่ เขาไม่มีอะไรจะต้องมากังวลใจ ก็เลยเปิดทีวีเสียงดัง
“น้องสาว แล้วพวกแม่ล่ะ” ไม่รู้ว่าเฉิงเฉิงลงมาจากข้างบนตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเห็นในห้องมีเพียงหยางหยางและจิ่วจิ่วเท่านั้น คนอื่นๆไม่รู้หายไปไหนกันหมด
เขาแค่ได้ยินเสียงรถที่ดังมาจากชั้นล่างเท่านั้น จึงตัดสินใจลองลงมาดู
สีหน้าของจิ่วจิ่วดูไม่ค่อยจะดี “พี่เฉิงเฉิง พวกเราทำให้หม่ามี๊โกรธ น้าเฉียวเฉียวกำลังจะคลอดลูก พวกเขาไปส่งป้าที่โรงพยาบาล คืนนี้อาจจะไม่ได้กลับมา”
หลังจากได้ยินคำพูดของจิ่วจิ่ว เฉิงเฉิงก็หันไปดูทีวี ที่หยางหยางยังคงดูด้วยความเพลิดเพลิน
ดูเหมือนว่าแม่ก็รู้เรื่องที่พวกเขาอยู่ในทีวีแล้ว
***
“เรื่องนี้แม่ว่ายังไงบ้าง” เฉิงเฉิงถาม
“ว่ายังไงเรื่องอะไรเหรอ” หยางหยางยังคงดูทีวีอย่างเพลิดเพลิน จึงไม่เข้าใจว่าเฉิงเฉิงหมายถึงเรื่องอะไร
เฉิงเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่มีอารมณ์ที่จะพูดกับหยางหยางแล้ว
เขาเดินไปหยิบรีโมท และปิดทีวีทันที
“เฮ้ๆ อย่าปิดสิ นายลองดูว่าพวกเราออกกล้องตั้งเยอะแยะ” หยางหยางเห็นทีวีถูกปิด ก็แสดงความไม่พอใจเล็กน้อย
“นายทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่แล้ว ยังจะมีใจมาดูทีวีอยู่ที่นี่อีก ฉันเคยค้านไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่นายไม่ฟัง” หยางหยางได้ทำให้โกรธแล้วจริงๆ
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วก็คือเกิดขึ้นแล้วป่ะ อย่างมากก็คงถูกแม่ตี” หยางหยางพูดอย่างนิ่มนวล และมีท่าทีที่ไม่สนใจ
ในตอนนี้ได้ยินเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่ไม่รู้ว่าดังมาจากที่ไหน
เมื่อเฉิงเฉิงเห็นลักษณะท่าทางแบบนี้ของเขา ก็เลยไม่โต้เถียงเขาอีก หลังจากถอนหายใจออกมา ก็ตามหาที่มาของเสียงเรียกเข้า พบว่าโทรศัพท์มือถืออยู่ตรงซอกของโซฟา
เขาหยิบมันขึ้นมาดู และเห็นว่าเป็นโทรศัพท์ของฉิงฮัว
“โทรศัพท์ของอาฉิงฮัวทำไมถึงอยู่ตรงนี้”
หยางหยางรีบหยิบรีโมทและเปิดทีวีใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็หันไปมองทางเฉิงเฉิง “คิดว่าตอนที่ลุงหัวฟูเห็นน้าเฉียวเฉียวกำลังจะคลอดลูก เลยรีบประคองเธอขึ้นรถ โทรศัพท์ก็เลยตกอยู่ตรงนี้ ลองเปิดดูสิว่าใครโทรมาหาเขา”
เฉิงเฉิงมองดูแล้วเห็นว่าไม่มีชื่อ แต่ได้ทำเครื่องหมายพิเศษเอาไว้
นี่จะเป็นใครกัน ในหัวของเขาเต็มไปด้วยคำถาม เห็นว่าในเมื่อฉิงฮัวได้ทำเครื่องหมายเอาไว้ ก็แสดงว่าคนคนนี้ต้องสำคัญกับเขามาก
เขากลัวว่าฉิงฮัวจะพลาดอะไรไป จึงรีบรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล สวัสดี ฉิงฮัวไม่อยู่ มีเรื่องอะไรฝากผมไปบอกเขาได้” เฉิงเฉิงรับโทรศัพท์และพูด
“นายคือเฉิงเหรอ” เสียงที่อยู่ปลายสายเป็นเสียงของเป่หมิงโม่
สิ่งนี้ทำให้เฉิงเฉิงต้องประหลาดใจ แต่เขาก็พยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว “พ่อ”
“ฉิงฮัวไปไหนเหรอ ทำไมนายถึงมารับโทรศัพท์เขา” เมื่อได้ยินเสียงของเฉิงเฉิงจากโทรศัพท์ของฉิงฮัว ทำให้เป่หมิงโม่ก็รู้สึกประหลาดใจ
“ได้ยินหยางหยางบอกว่า น้าเฉียวเฉียวกำลังจะคลอดลูก พวกเขาไปส่งเธอที่โรงพยาบาล อาฉิงฮัวคงจะรีบเกินไป จนทำให้โทรศัพท์หล่นลงที่ซอกโซฟา พ่อ พ่อมีเรื่องอะไรอยากให้ผมฝากบอกกับเขาไหม”
ดวงตาของเป่หมิงโม่จ้องมองไปที่หยางหยางและจิ่วจิ่วในรายการอย่างเย็นชา และอารมณ์ของเขาก็เริ่มสับสน “นายได้ดูทีวีหรือยัง”
เมื่อเฉิงเฉิงได้ยิน ในใจก็สั่นเทา ทำไมจู่ๆพ่อถึงได้ถามประโยคแบบนี้ออกมา หรือว่าเขาอาจจะดูรายการนี้แล้วงั้นเหรอ
เขาสามารถฟังออกได้ว่า ในตอนนี้อารมณ์ของพ่อดูจะไม่ค่อยดี
“ทีวีอะไรเหรอ” เฉิงเฉิงถามอย่างระวัง
เป่หมิงโม่ได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกว่าหยางหยางไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ก็เลยบอกว่า “นายไปเปิดทีวีดูรายการ《วาสนารัก》แล้วมาบอกฉันว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆบนเวทีนั้นคือใคร”
เมื่อเฉิงเฉิงได้ยินดังนั้นใจของเขาก็พลิกทันที แย่แล้วแย่แล้ว น้องถูกจับได้แล้ว ตอนนี้พ่อกำลังถามตัวเอง ตนเองก็ปิดบังไม่ได้แล้ว
เขาพูดเบาๆด้วยความลังเล “นั้น เด็กผู้หญิงคนนั้น คือ…….น้องสาว”
หลังจากเป่หมิงโม่ได้ยินคำตอบของลูกสายตาก็หรี่เล็กลง กัดฟันแน่น เขาพยายามระงับความโกรธของตนเอง พูดด้วยเสียงต่ำ “ดูเหมือนว่านายจะรู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้ว แล้วทำไมไม่รีบบอกฉัน”
***
คำถามของเป่หมิงโม่ ทำให้เฉิงเฉิงถึงกับพูดไม่ออก เขารู้สึกเหมือนว่าเขาได้ทรยศพ่อที่เลี้ยงตัวเองมาเป็นเวลาหลายปี
เมื่อเผชิญหน้ากับความจริงนี้แม้แต่เฉิงเฉิงเองก็ยังรู้สึกหวาดกลัว
“เฉิง” เป่หมิงโม่ไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวใดๆจากปลายสาย
เมื่อได้ยินเสียงของพ่ออีกครั้งหนี่ง เฉิงเฉิงก็ได้พูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปสักครู่ “พ่อ จริงๆแล้วเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเหมือนกับที่พ่อคิดไว้แบบนั้น แม่เขามีเรื่องทุกข์ใจมากมาย บางทีตอนนี้พ่ออาจจะยังไม่เข้าใจเขา ผมเลือกที่จะปกปิดมันกับพ่อ และคิดว่ารอจนสักวันหนึ่ง แม่ก็คงจะบอกความจริงกับพ่อเอง”
เฉิงเฉิงเป็นลูกชายที่เป่หมิงโม่เลี้ยงมากับมือ แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินคำอธิบายของเขา เป่หมิงโม่ก็ยิ้มเย้ยมุมปากอย่างเลี่ยงไม่ได้
เดิมทีคิดจะวางสายทันที แต่ก็จำเป็นจะต้องทำให้ปัญหานี้มันชัดเจน
พูดโทรศัพท์ไปอย่างเย็นชา “เด็กผู้หญิงคนนี้ชื่ออะไรเหรอ” เธอคือ…..” พูดถึงตรงนี้ เป่หมิงโม่ก็กัดฟันแน่น
แต่หลังจากอารมณ์ของตัวเองคงที่แล้ว ก็ได้ถามคำถามต่อไป “เป็นลูกของเขากับใครกัน”
สำหรับผู้ชายแล้ว ล้วนแต่ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ ผู้หญิงที่เคยเป็นของตัวเอง และหลังจากได้ให้กำเนิดลูกทั้งสองคนกับตัวเอง สถานะในตอนนี้ตกลงเป็นอะไรกันแน่
เฉิงเฉิงได้ยินเสียงที่อยู่ในสายของพ่อ ตอนนี้เขากำลังพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
อย่างไรก็ตามเฉิงเฉิงยังคงเข้าใจอะไรได้มากกว่าหยางหยาง ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาให้ชัดเจน พยายามหลีกเลี่ยงปมในใจของพ่อ “เธอคือจิ่วจิ่ว เป็นลูกสาวของพ่อกับแม่ เธอเป็นเด็กเชื่อฟังมาก พวกเราชอบเธอมาก…