บทที่ 897 เด็กผู้ที่แปลกใจกับสิ่งต่างๆมาอีกแล้ว
“นิสัยพิเศษของคุณก็คือ’พูดมาก’และ《Big Shot’s Funera》คนนั้นที่’ไม่ขอดีที่สุด แต่ขอแพงที่สุด’ ฟังแล้วทำให้คนเค้ารำคาญ โมโห เฮ้อ ฉันพบว่าพวกคุณมีความพิเศษแบบนี้กันหมดเลย”
“และใคร?” เป่หมิงโม่เกลียดที่สุดเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่น แน่นอนสาเหตุที่แท้จริงก็คือหลงตัวเอง เขาคิดว่าไม่มีใครสามารถเทียบกับตัวเองได้เลย
” แต่ว่าสิ่งนี้พอดีเลย กลับทำให้กู้ฮอนจับได้ ทำให้เขาทนไว้ไม่ไหว สีหน้าก็เลยเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย
กู้ฮอนเห็นแล้วได้แต่แอบหัวเราะอยู่คนเดียว:” แกล้งทำเป็นเก๊ก เป็นไงหล่ะ ยังไม่ทันได้พูดอะไรบ้างเลยก็เก๊กไม่ไหวซะแล้ว เธอตั้งใจทำเหมือนไม่ใส่ใจ:”ยังจะใครอีกหล่ะ หยินปู้ฝันน้องชายลูกพี่ลูกน้องคนนั้นของคุณไง ชอบสั่งชอบสอนกันหมด ถ้าจับความผิดคนอื่นได้เมื่อไหร่ก็กัดแบบไม่ปล่อยเลยทีเดียว เหมือนอย่างกับพระเสวียนจั้ง ไม่สนว่าคนอื่นอยากฟังรึเปล่า……….”
เธอเพิ่งได้พูดขึ้นมาอย่างสาแก่ใจ ก็ได้ยินเสียงกริ่งโทรศัพท์มือถือตัวเองดังขึ้นมาซะแล้ว
หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า ดูเบอร์โทรที่แสดงออกมาปุ๊บ ‘นินทาคนอื่นลับหลังไม่ได้’ จริงๆ ก็นี่ไง เพิ่งพูดถึงหยินปู้ฝันไปหมาดๆ เขาก็โทรศัพท์มาทันทีเลย
” ทำไมไม่รับสาย? ถ้าหากคุณรู้สึกว่าผมเป็นที่รบกวนแล้วก็ ถ้างั้นผมหลบเลี่ยงสักพักก็ได้นะ” คำพูดของ เป่หมิงโม่ไม่เหมือนไม่ค่อยพอใจ เขาเกลียดที่สุดเวลาที่พูดคุยกันอยู่แล้วถูกคนอื่นเข้ามารบกวน
โดยเฉพาะตอนนี้ เวลาพูดคุยอยู่กับกู้ฮอน ระหว่างพวกเขามีโอกาสพูดคุยกันน้อยมาก แต่ว่าตัวเองไม่สามารถแสดงความน้อยใจออกมาต่อหน้าเธอได้
มิเช่นนั้นถึงเวลานั้นเธอจะหาเหตุผลสารพัดที่ว่า’ไม่มีมนุษยธรรมเลยแม้แต่น้อย’ มาวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองอีก
ถึงแม้ เขาจะถือซะว่าเรื่องนี้เป็นแค่’เครื่องปรุงรส’นิดๆหน่อยๆระหว่างเขาสองคนก็ตาม
***
“โธ่โธ่ คำพูดบางคนเหมือนกำลังหึงหวงเลยนะ” ขณะนี้กู้ฮอนยังไม่ลืมกระตุ้นประสาทของเป่หมิงโม่
ระหว่างทั้งสองคนกำลังปราบความเข้าใจกับบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นของเมื่อวานอยู่ จนถึงวินาทีนี้มีความอบอุ่นเพิ่มขึ้นมาบ้างนิดหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความรู้สึกที่เกินเลยไปกว่าคนที่สนิทสนมกัน
เสียงกริ่งมือถือยังคงดังอยู่ เธอท้าทายกับเป่หมิงโม่อยู่แป๊บนึง จากนั้นรับสายขึ้นมา
“ฮอนฮอน ทำไมเพิ่งรับสายครับ ยุ่งอยู่รึเปล่าครับ” ฟังเสียงของหยินปู้ฝันที่มีความใจร้อนดังออกมาจากมือถือ
กู้ฮอนส่ายหน้าเบาๆ:” ใช่ กำลังศึกษาการงานกับคนคนนึงที่’พูดมาก’อยู่อ่ะค่ะ คุณหาฉันมีธุระอะไรรึเปล่าค๊ะ?”
หยินปู้ฝันนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง ร่างกายผิงหลังเก้าอี้ไว้ ขาทั้งคู่ตรึงไว้บนโต๊ะทำงาน เผยท่าทางที่สบายสุดๆออกมา
ก็ไม่ได้มีอะไรครับ ไม่ได้โทรหาคุณตั้งหลายวันแล้ว แค่อยากจะถามคุณว่าเป็นยังไงบ้าง ใช่แล้ว เรื่องของแม่คุณหล่ะเป็นไงล่ะครับ? ”
เอ่ยถึงแม่ปุ๊บ รอยยิ้มของกู้ฮอนก็เก็บเข้าไปทันที:” เมื่อวาน ฉันส่งท่านไปเรียบร้อยแล้ว”
” เมื่อวานผมไม่ทันได้ไปส่งคุณป้าครั้งสุดท้าย”อารมณ์ของหยินปู้ฝันก็หดหู่ไม่น้อย
” ไม่เป็นไรจ้า ฉันก็ไม่อยากรบกวนชีวิตที่ปกติของคนอื่นเพราะเรื่องของแม่หรอกนะ เพราะฉะนั้น น้ำใจของคุณแม่ฉันที่อยู่บนสวรรค์ต้องได้รับแน่นอนจ้า”
ขณะที่ได้ยินกู้ฮอนบ่นว่าตัวเองเป็นคน’พูดมาก’ต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ เขาไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ ต่อให้ไม่ได้เอ่ยชื่อออกมาอย่างชัดเจนก็ตาม
เพราะเขาคิดว่านี่ควรจะเป็นนามใกล้เคียงที่ว่า’ชื่อเล่น’ระหว่างพวกเขา
แต่ว่าหลังจากได้ยินเธอเอ่ยถึงคนในครอบครัว ร่างกายของเขาจึงนั่งตัวตรงขึ้นมา ต่อมามุมปากของเขาก็ยกขึ้นมาบ้างเล็กน้อย ความไม่พอใจที่เล็กๆน้อยๆของเมื่อครู่ก็หายไปในกลีบเมฆทันทีเลย
ดูท่า พอใจมากๆกับคำตอบที่เธอตอบ
ขณะเดียวกัน เขาก็ฟังออก สายทางโน้นน่าจะเป็นหยินปู้ฝัน
เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นเป่หมิงยี่เฟิงหรือผู้ชายคนอื่น เธอจะไม่มีกิริยาแบบนี้
แน่นอน วินาทีนี้กู้ฮอนกำลังตั้งใจคุยสายกับหยินปู้ฝันอยู่ ไม่อย่างนั้น คิดว่าอารมณ์ของเธออาจจะแย่กว่านี้
หยินปู้ฝันไม่รู้ว่าวินาทีนี้ ตอนที่เขากำลังคุยสายกับกู้ฮอนอยู่นั้นคนที่อยู่ข้างเธอเป็นใคร แต่ว่าเขาก็ลองถามไปคำนึงว่า:”เป่หมิงโม่เขา……..”
“เขาถูกปล่อยตัวแบบไร้ความผิดแล้ว” กู้ฮอนพูดอยู่ มองบนให้กับผู้ชายตรงหน้า
เป่หมิงโม่พยักหน้าให้กับเธอเหมือนกัน ทำให้เธอรีบเก็บสายตากลับไป ยิ่งมองไอ้คนคนนี้ ก็ยิ่งไม่สบายใจ
“อ๋อ ขอโทษ” หยินปู้ฝันฟังน้ำเสียงที่ไม่พอใจของเธอออก เขารีบขอโทษ” เพราะว่ารายละเอียดของคดีนี้ต้องเก็บเป็นความลับต่อคนนอก ตอนนี้ฉันยังไม่ได้รับข่าวสารใดๆเลย เพราะฉะนั้นจึงอยากสืบหาจากคุณคุณก็รู้ แม่ฉันกับเขา และระหว่างฉันกับเขายังไงซะยังมีความสัมพันธ์นั้นอยู่……….”
“อืม อันนี้ผมเข้าใจครับ หลังผ่านการตรวจสอบได้จับผู้ต้องสงสัยตัวจริงเอาไว้แล้ว เพราะฉะนั้นสองวันก่อนเขาก็ได้ถูกปล่อยตัวอย่างไร้ความผิดแล้ว”
” คดีนี้ยังมีคนอื่น? หลักฐานทุกอย่างชี้ตัวไปที่เป่หมิงโม่แล้วไม่ใช่หรอ? “ได้ยินคดีที่สับสนวุ่นวายปุ๊บ หยินปู้ฝันก็รู้สึกถลำลึกจนถอนตัวไม่ขึ้น อยากรู้มากกว่านี้ให้ได้
ดูท่า ความบ้าคลั่งของเขาเริ่มขยับขึ้นมาอีกแล้ว
***
หลังจากกู้ฮอนและหยินปู้ฝันได้คบหากันอยู่สักพัก ทำไมจะไม่เข้าใจความคิดของเขาในวินาทีนี้หล่ะ
ความจริงเธอก็อยากเล่าเรื่องทั้งหมดของคดีให้กับเขาฟัง เพราะว่าเธอรู้สึกว่า คดีตัวอย่างแบบนี้ไม่ว่ากับทนายความหรือกับตำรวจก็ตาม ล้วนสามารถทำเป็นตัวอย่างได้ งานในวันข้างหน้าก็สามารถมีผลในด้านคดี
ทำไงได้หล่ะตอนนี้เป่หมิงโม่อยู่ข้างกายตัวเองนิ ถึงตอนนั้นเขาก็จะไม่สามารถจับ’ จุดอ่อน’ของตัวเองได้แบบกัดไม่ปล่อยแล้ว คิดถึงหน้าตาท่าทางของเป่หมิงโม่ที่พูดอย่างไม่หยุดไม่หย่อนปุ๊บ…………..
อารมณ์ของเธอในตอนนี้ได้กลายเป็นความว่างเปล่าไปซะแล้ว
“สำหรับเรื่องนี้ รอให้ฉันมีเวลาค่อยคุยกับคุณเถอะ”
แน่นอนหยินปู้ฝันไม่ใช่คน กับสถานการณ์เขาฟังออก เหมือนกับว่าตอนนี้เธอคุยแบบไม่ค่อยสะดวกนัก จึงได้แต่เก็บความแปลกใจของตัวเองไว้:” งั้นก็ได้รอให้คุณมีเวลาค่อยเล่าให้ผมฟังดีๆ ใช่แล้ว ในเมื่อเขาถูกปล่อยตัวอย่างไร้ความผิด ถ้าอย่างนั้นทำไมยังจับเธอแบบไม่ยอมปล่อยอีกหล่ะ คุณก็รู้นิ ผมกำลังขาดแคลนคนเก่งที่มีความสามารถนะ”
กู้ฮอนถอนหายใจเบาๆ:”เฮ้อ ฉันจะทำแบบว่าไปแล้วไปเลยไม่ได้นะ สรุปอธิบายยากมาก ฉันว่านะในระยะเวลาอันสั้นๆไม่น่าจะกลับไปได้ คุณจ้างคนหลายคนมาช่วยเหลือคุณเถอะนะ”
หยินปู้ฝันเข้าใจสถานการณ์ของกู้ฮอนในตอนนี้ดี ทำได้แต่คิดหาวิธีอื่น
” ใช่แล้ว เรื่องของจิ่วจิ่วหล่ะ เขาตัดสินใจยังไง? ถ้าหากมีความจำเป็นแล้วก็ ขอแค่คุณบอกมาคำเดียว ผมต้องจะช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่”
” ขอบคุณ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ค่อยแน่ชัด รอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนค่อยว่ากันเถอะ เอาหล่ะ ฉันยังมีธุระนิดหน่อย ไม่คุยละนะ” วินาทีนี้กู้ฮอนไม่มีอารมณ์คุยกับเขานานๆ
” ได้เลย ถ้ามีความต้องการติดต่อผมได้ทุกเวลา” หลังหยินปู้ฝันพูดจบ จึงวางสายไป
หลังวางสายไปเรียบร้อย กู้ฮอนสูดลมหายใจเบาๆ
” ทำไมพวกคุณไม่คุยกันแล้วหล่ะ? เหมือนกับว่าเมื่อสักครู่คุยถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผมน่ะ ผมยังอยากฟังว่าหยินปู้ฝันจะตัดสินผมยังไง”เป่หมิงโม่ทำหน้าตาท่าทางอย่างสบายๆที่อยากฟังเรื่องราวต่อไป
เพียงแต่ว่ากู้ฮอนไม่มีอารมณ์:” มีอะไรน่าฟัง เขาก็แค่เห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกคุณซึ่งเป็นญาติสนิทกัน จึงหาข่าวจากฉัน คุณอย่าเอาความหวังดีของคนมาทำเหมือนกับว่าคนอื่นจะประสงค์ร้ายต่อคุณสิ”
“OK ถือว่าผมขี้น้อยใจได้มั้ย แต่ว่า ผมไม่ชอบที่คุณเอาผมไปเปรียบเทียบกับเขา ไม่ว่าจะด้านไหนๆก็ไม่ชอบทั้งนั้น”เป่หมิงโม่ยังคงแสดงท่าทางแบบยืนยันหนักแน่น
” พวกคุณเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะ ทำไมทำเหมือนกับว่าเป็นศัตรูที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่อย่างนั้นหล่ะ”สำหรับพวกเขากู้ฮอนไม่อาจเข้าใจเลยจริงๆ
เป่หมิงโม่และหยินปู้ฝันเหมือนจะรู้ใจซึ่งกันและกัน ส่วนใหญ่จะไม่เอ่ยชื่อของคนตรงข้ามต่อหน้าตัวเอง นอกซะจากเหมือนเช่นวันนี้มันมีความจำเป็นเท่านั้น
” นี่เป็นเรื่องระหว่างผู้ชาย ผมคิดว่าคุณอย่าถามมากเลยดีกว่า” ขณะนี้เป่หมิงโม่ให้คำตอบที่ชัดเจนมาก ที่สำคัญไม่มีคำตอบที่มีทางออกใดๆเลย
กู้ฮอนได้แต่พยักหน้า:”ยังไงซะเรื่องนี้ ฉันก็ไม่อยากรู้และไม่สนใจหรอก แต่ว่าฉันอยากบอกคุณว่า วันนี้เขาถามถึงอาการของคุณ เป็นเพราะว่าแม่ของเขาคิดถึงคุณมาก”
” อืม ผมก็คิดว่าเป็นเช่นนี้ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการให้พวกเธอสองคนพี่น้องได้เจอกัน นี่ก็หลายปีแล้ว ต่างคนต่างไม่มีข่าวคราวกันเลย เรื่องนี้ ผมว่าให้คุณจัดการสักหน่อย ดูสิจะต้องทำยังไง”
กู้ฮอนเข้าใจทันที’พวกเธอ’หมายถึงแม่ของเป่หมิงโม่และแม่ของหยินปู้ฝัน แต่ว่าเธอพูดกับเป่หมิงโม่อย่างหน้าบึ้งๆอีกว่า” ห้ามคุณสั่งให้ฉันทำโน้นทำนี่เหมือนกับผู้นำอีก”
***
เป่หมิงโม่เอาร่างกายไปสะกิดๆกู้ฮอน จากนั้นพูดเสียงต่ำว่า:”งั้นคุณอยากให้ผมเหมือนอะไร?”
“กู้ฮอนมองกล้ามเนื้อที่แน่นปึ้กและหน้าตาที่หล่อเหลามุมปากนั้นยกขึ้นมาเล็กน้อย ความจริงเป็นคนนึงที่สามารถทำให้ผู้หญิงหลงจนหัวปักหัวปำ และร้องกรี๊ดอย่างดังสนั่น
แต่ว่าทำไมถึงดูยังไงก็……….
” คุณกำลังดูอะไร รู้สึกว่าตัวเองถอนตัวไม่ขึ้นแล้วใช่รึเปล่า?” มองดูหน้าตาที่เบอลๆของเธอ เขาพูดต่ออีกนึงคำ
คนที่บ้านเป่หมิงพวกเขาหลงตัวเองกันหมดเลยใช่มั๊ยเนี่ย? กู้ฮอนแอบนินทาคนเดียว
“ฉันกำลังคิดว่าหน้าตาคุณก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว แต่ว่าทำเรื่องทุเรศๆออกมาได้”กู้ฮอนพูดออกมาแบบแรงๆ เธออาจจะคิดว่าสามารถโต้กลับเขาแบบแรงๆมั้ง
แต่ว่าเหมือนเธอกำลังคิดผิด เห็นสีหน้าท่าทางของเขาไม่ค่อยเปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าหดตัวกลับไป เหมือนคิดทบทวนคำพูดของเมื่อสักครู่ จากนั้นมุมปากที่ยกขึ้นมาเล็กน้อยได้หายไปแล้ว
มองดูสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไปของเขา มีความเกรงกลัวอย่างนึงกำลังแอบไต่ขึ้นมาในหัวใจของเธอ
“เอาหล่ะ เราควรพูดเรื่องจริงๆจังๆสักหน่อยแล้ว” เขาเปลี่ยนเรื่องได้เร็วมาก ทำให้กู้ฮอนไม่ทันตั้งตัว
“เรื่องจริงๆจังๆ?”
“เป่หมิงโม่พยักหน้า:” ถูกต้อง สำหรับเรื่องจริงๆจังๆของลูกๆ
ในที่สุด ระหว่างพวกเขาก็ต้องคุยถึงคำพูดพวกนี้
” อ้อ เวลาสายมากแล้ว ตอนนี้ฉันจะกลับไปทำงานแล้ว” เธอก้มหน้าดูนาฬิกา จากนั้นลุกขึ้นมาจากเก้าอี้อย่างเร่งรีบ
เธอจะหนี
แต่ว่า เกือบทุกครั้ง เธอจะกระทำการเคลื่อนไหวหลบหนีเป่หมิงโม่ สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นว่าไม่สำเร็จ
แน่นอนครั้งนี้ก็ไม่เว้น
มือใหญ่ๆไม่รู้ว่ายื่นออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้จับแขนของเธอเอาไว้อย่างแน่นๆ มีแรงเยอะมาก
“อุ๊ย คุณทำฉันเจ็บ” กู้ฮอนพูดอยู่ ใช้แรงต้องการจะหนีเอาตัวรอด
“กลับไปนั่ง” เขาใช้คำสั่ง เหมือนกับท่านอ๋องกำลังสั่งขุนนางของเขา
ห้องรับประทานอาหารห้องนี้มีทางออกแค่ทางเดียว——อยู่ข้างหลังของเป่หมิงโม่นั่นเอง ถ้าหากต้องการออกไป ต้องผ่านทางเขาแน่นอน แต่ว่าเขากลับไม่อนุญาตให้เธอออกไปจากที่นี่