บทที่ 940 กระสุนเคลือบน้ำตาลของเป่หมิงโม่
เขามองดูหยางหยางที่ยังช็อคอยู่ เฉิงเฉิงที่แสดงอาการค่อนข้างสงบ และยังมีจิ่วจิ่วที่ซ่อนตัวอยู่ในอ้อมแขนของกู้ฮอน สุดท้ายก็คือกู้ฮอน
ครั้งนี้เขารู้สึกขมขื่นจริง ๆ ขอโทษเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า “คุณผู้หญิง ต้องขอโทษจริง ๆ ครับ ผม ผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้……”
“เห้อ นายคงจะว่างมากจริง ๆ จนไม่มีอะไรให้ทำสินะ มาแกล้งปลอมตัวบ้าบอแบบนี้” กู้ฮอนยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ก็ได้ยินเสียงลั่วเฉียวดังมาจากด้านหลัง
เขาอุ้มทารกน้อยออกมาจากห้องรับแขก
การแต่งตัวของฉิงฮัว พูดได้ว่าทำให้แม่ลูกสองคนนี้เสียหน้าจริง ๆ เดินไปทางเขา และตำหนิเขา
ฉิงฮัวเห็นว่าภรรยาของเขาที่โกรธเช่นกัน ก็รู้สึกได้ทันทีว่าสิ่งที่ทำดูเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่จริง ๆ แล้ว
“เฉียวเฉียว ผม……”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ก็ได้ยินเสียง “แง……”
เวลานี้ดูเหมือนว่าเป็นการแทงรังแตนอีกครั้ง เมื่อทารกน้อยเห็นฉิงฮัวก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่นั่นจำกัดเฉพาะชุดปกติของเขา แต่ลุคในตอนนี้มัน……จริง ๆ เลย
***
เห็นว่าลูกน้อยของตัวเองถูกตัวเองทำให้ตกใจ ฉิงฮัวรู้สึกกังวลทำอะไรไม่ถูกเลย เขาอยากจะยื่นมือออกไปเพื่อปลอบโยน แต่ทันทีที่เขายื่นมือออกไป ทารกน้อยก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม
“รีบเอามือเหม็น ๆ ของคุณออกไปและกระชากชุดที่อยู่บนตัวคุณออก และไม่รู้ว่าสมองคุณโดนประตูบีบหรือเปล่า หรือว่ามีส่วนไหนเกิดความเสียหาย ถึงได้ทำตัวแบบนี้ได้” ลั่วเฉียวตะคอกใส่ฉิงฮัวด้วยความรังเกียจ
จากนั้นเธอก็อุ้มทารกน้อยหันกลับไปและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ปากยังคงเล้าโลมซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ไม่ต้องกลัวนะลูก ไม่ต้องกลัวนะลูก……”
ในตอนนี้ หยางหยางที่กำลังหวาดกลัวอยู่ก็รีบเสริมทัพ “ลุงหัวฟู แม้ว่าลุงอยากจะเซอร์ไพรส์ให้น้อง แต่ลุงก็ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเป็นหมีนี่ ไม่รู้ว่าลุงไปฟังคำพูดบ้า ๆ ของใครมา หากลุงมีความคิดแบบนี้ในครั้งต่อไป ได้โปรดปรึกษาความคิดเห็นของผมก่อนนะ จำไว้นะ ไม่อนุญาตให้มีครั้งต่อไป……”
ตอนนี้ฉิงฮัวจะมีความคิดนี้ได้ไง รีบร้อนถอด‘ชุดหมี’บนตัวและรีบตามลั่วเฉียวไป
“ผมบอกให้เขาทำแบบนี้เอง คุณมีปัญหาอะไรไหม?” เป่หมิงโม่เดินออกมาจากด้านหลังของฉิงฮัว
เขาดูปกติมากกว่าฉิงฮัวมากเลย อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องใส่ชุดแปลกประหลาดแบบนี้ เขาถือกล่อง ๆ หนึ่งอยู่ในมือ สิ่งเหล่านี้ยังไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ แต่ที่น่าประหลาดใจคือยังมีริบบิ้นสีชมพูผูกอยู่ที่กล่องและยังมีโบว์ขนาดใหญ่
“คุณ คุณพ่อ……” สีหน้าของหยางหยางเปลี่ยนไปทันที
หลังจากที่จิ่วจิ่วได้ยินเสียงของเป่หมิงโม่ เดิมทีที่ยังคงรู้สึกตื่นกลัวเล็กน้อย และไม่รู้ว่ามันสงบลงได้อย่างไร
เธอหลุดออกจากอ้อมแขนของกู้ฮอน หันหน้ามองเขาอย่างสงสัย
เป่หมิงโม่และเธอสบตากันในช่วงเวลาสั้น ๆ จากนั้นมุมปากก็ยกขึ้นและมีรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ยกกล่องในมือขึ้นเล็กน้อย “จำสัญญาเมื่อเช้าระหว่างเราได้ไหม อันนี้ให้หนู”
ความจริงหลังจากจิ่วจิ่วกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ก็ไม่เคยลืมสัญญาระหว่างพ่อเลย แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ก็เหมือนว่าจะสายไปแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าแม่กลับมาแล้ว แต่ไม่เห็นเงาของป๊าป๋า……
ทันใดนั้นเธอก็มีความรู้สึกที่ผิดหวัง และหลังจากที่เธอตกใจเมื่อเห็นฉิงฮัวแต่งตัวเป็นหมี ในช่วงเวลาสั้น ๆ เธอดูเหมือนจะลืมคำสัญญาที่ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ
และการมาถึงของเป่หมิงโม่ มันเหมือนกับการเซอร์ไพรส์อย่างกะทันหัน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับของขวัญ
เรื่องนี้ทำให้เธอค่อนข้างมั่นใจ แม้ว่าหม่าม๊าจะไม่เคยให้ของขวัญแบบนี้กับเธอมาก่อน
ของขวัญเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจเด็ก ๆ มาก แม้ว่าพวกเขาจะกลัวหรือเจ็บปวดมากที่สุดก็สามารถขจัดอารมณ์เชิงลบเหล่านี้ออกไปจากใจได้สำเร็จ
“หม่าม๊า หนูจะไป” ขณะพูดร่างกายเล็ก ๆ ก็บิดเพื่อให้หลุดจากการควบคุม
“คุณพ่อ ข้างในเป็นอะไรครับ เหมือนของเฉิงเฉิงไหม?” หยางหยางถามด้วยสีหน้าที่สงสัย
ให้ตายเถอะ ไอ้เป่หมิงโม่ทำกับเด็ก ๆ‘เกินไปมาก’จริง ๆ ตอนเช้าพาเด็ก ๆ ไปที่สวนสนุกก็ไม่บอกสักคำ กลางคืนยังจะซื้อของขวัญมาให้อีก……
โชคดีที่วันนี้ฉันคิดไอเดียที่จะให้เขากลับมาทำงานที่ตระกูลเป่หมิง ไม่เช่นนั้นตามสถานการณ์ในวันนี้ หัวใจของลูก ๆ ก็จะถูกเขา‘หวาดล้อมโดยกระสุนที่เคลือบน้ำตาล’ในไม่กี่วันแน่ ๆ ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ แม้ว่าลูก ๆ จะอยู่ข้างกายเธอ แต่ว่าหัวใจของพวกเขาลอยไปอยู่กับข้างแล้ว
***
อีกด้านหนึ่งกู้ฮอนก็แอบ‘รวบรวม’‘ความฉลาด’ของตัวเอง แต่เรื่องเฉพาะหน้ายังคงต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
หยางหยางวิ่งไปด้านข้างของเป่หมิงโม่ แล้วจ้องมองไปที่กล่องด้วยสายตาสงสัย และพยายามจับมันด้วยมือเล็ก ๆ และชั่งใจ ซึ่งทำให้เดาได้ง่ายว่าของข้างในเป็นอะไร
“ผมเดาว่ามันต้องเป็น Transformers รุ่นใหม่ล่าสุดแน่ ๆเลย เฮ้ เฉิงเฉิง มาดูนี่สิ”
เฉิงเฉิงไม่ได้ใสซื่อเหมือนหยางหยาง เขายืนอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่ อีกด้านหนึ่งเขาก็มีความอยากรู้อยากเห็น แต่อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกว่าต้องใส่ใจความรู้สึกของแม่ถึงจะถูก
ความจริงในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ว่าตัวเองจะโอนเอนไปฝั่งไหน ก็จะเป็นการทำร้ายอีกฝ่าย แน่นอนว่าการทำร้ายแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็เป็นสิ่งที่น่าเจ็บใจที่สุดเช่นกัน
ตอนนี้จิ่วจิ่วได้ดิ้นหลุดออกจากอ้อมแขนของแม่แล้ว ด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติ เธอเดินไปหาเป่หมิงโม่ทีละก้าว ๆ
“กู้จิ่วจิ่ว!” กู้ฮอนเห็นลูกสาวเดินจากตัวเองไปทีละก้าว ทีละก้าว เธอรู้สึกทนไม่ได้จริง ๆ ขาลูกสุนัขของหยางหยางเหมือนจะหลบไปได้อย่างสมบูรณ์แล้ว และลูกสาวตัวน้อยที่มีค่าและห่วงใยที่สุดของเธอก็เริ่มขยับไป ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกรำคาญใจเล็กน้อย
“แม่ผู้ให้กำเนิดเทียบไม่ได้กับแม่ที่เลี้ยงดู” ดูเหมือนว่าประโยคนี้จะไม่เหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้ แต่กู้ฮอนรู้สึกได้ว่าตัวเองดูเหมือนจะเผชิญกับวิกฤต
หัวใจของลูก ๆ ไม่ได้อยู่ล้อมรอบตัวเองอีกต่อไป พวกเขาเริ่มมีทางเลือกแล้ว……
รู้สึกเศร้าจริง ๆ เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
จิ่วจิ่วได้ยินหม่าม๊าเรียกชื่อตัวเองด้วยความโกรธเล็กน้อย รู้สึกถึงความขี้ขลาด เธอก็หยุดเดินแล้ว และมองย้อนกลับไปที่แม่ที่ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้า
เธอรู้ว่าแม่ของเธอต้องโกรธแล้วแน่ ๆ แม้ว่าเธอจะดูแน่ใจว่าโกรธตัวเองก็ตาม แต่เธอคิดไม่ออกว่าทำไมแม่ของเธอซึ่งรักเธอมากที่สุดถึงโกรธตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอไม่ได้ทำอะไรผิด
“หม่าม๊า ป๊าป๋าเอาของขวัญมาแล้ว หนูจะไปเอาของขวัญ เอาให้แม่ด้วยดีไหม?” จิ่วจิ่วมองดูการตอบกลับของแม่อย่างไร้เดียงสา
“จิ่วจิ่วกลับมาเดี๋ยวนี้ แม่ไม่ให้หนูเอา!” เมื่อกี้กู้ฮอนเพียงแค่อยากจะหยุดรั้งจิ่วจิ่ว แต่ตอนนี้เธอโกรธแล้วจริง ๆ
“หม่าม๊า……” จิ่วจิ่วมุ่ยปากขึ้น
เธอรู้สึกเสียใจมากจริง ๆ น้ำตาแทบจะหยดออกมาจากดวงตาที่เอ่อคลอ เธอมองกลับไปที่กล่องที่มีโบว์สีชมพูในมือของเป่หมิงโม่อย่างไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้
แต่เธอก็กลัวว่าหม่าม๊าจะโกรธจริง ๆ ตั้งแต่เด็กเธอเคยไม่ได้อยู่กับหม่าม๊าหลายวัน
สำหรับจิ่วจิ่ว จริง ๆ แล้วเธอหวงแหนวันเวลาที่อยู่กับแม่มาก เพราะกลัวว่าวันหนึ่งเธอกับแม่จะแยกจากกันอีกครั้ง
พฤติกรรมของกู้ฮอนได้อยู่ในสายตาของเป่หมิงโม่แล้ว ในช่วงแรกเขารู้สึกมีความสุขในใจที่ลูก ๆ โหยหาเขา เพราะเขารู้สึกว่าในสายตาลูก ๆ เขาไม่ได้ดุร้ายอีกต่อไป
แต่หลังจากที่ได้เห็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเฉิงเฉิง และความลังเลของลูกสาวตัวน้อยของเขา เขาก็รู้สึกว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ
สิ่งที่เขาหวังมากกว่านั้นคือความรู้สึกของการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว มากกว่าการแข่งขัน ‘ชักเย่อ’ที่เขาและกู้ฮอนจับมือเด็ก ๆ อยู่แบบนี้
***
เมื่อเป่หมิงโม่เผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเด็ก ๆ เขารู้สึกว่าตัวเองควรจะถอยออกมาถึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
“หยาง นี่เป็นของขวัญของลูกทั้งสาม และเป็นคำสัญญาที่ให้ไว้กับจิ่วจิ่ว” ขณะที่พูด เขาก็ก้มตัวลงเล็กน้อย ยื่นกล่องบรรจุที่สวยงามให้ในมือเล็ก ๆ ของหยางหยาง
หยางหยางมองไปที่พ่อของเขาด้วยความงุนงง แต่ก็ยอมรับของขวัญที่พ่อมอบให้ด้วยมือเล็ก ๆ ของเขาอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็เฝ้าดูเขาหันหลังกลับไป ในที่สุดร่างของเขาก็หายไปในความมืด
แม้ว่าตอนที่เฝ้าดูพ่อของเขาจากไป เขาไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ อย่างน้อยก็ควรถามว่าเขาจะไปไหนสิ
เฉิงเฉิงและหยางหยางแสดงพฤติกรรมเหมือนกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเฝ้าดูพ่อของเขาจากไป ไม่รู้ว่าทำไมในช่วงเวลาที่พ่อของเขาจากไป เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเบื้องหลังร่างสูงของพ่อนั้น มีหัวใจที่โดดเดี่ยว……
หลายปีมานี้เป่หมิงโม่ก็มีแฟน แต่เป็นเพียงการผ่านมาแล้วผ่านไปเท่านั้น ที่สามารถคบอย่างจริง ๆ จัง ๆ ก็มีเพียงคนเดียว
แต่สิ่งนี้ก็ต่อต้านเขา
“คุณผู้หญิง ทำไมพวกคุณถึงยังไม่……” ไม่ง่ายเลยที่ในเวลานี้ฉิงฮัวจะกล่อมลั่วเฉียวและทารกน้อยได้แล้ว
หนังหมีที่เป่หมิงโม่ยืนกรานที่จะให้เขาสวมใส่นั้นตกอยู่ที่พื้นแล้ว และทิ้งไว้ไกลมาก เพื่อไม่ให้ภรรยาโกรธ และลูกเห็นแล้วเก็บไปฝันร้าย
หลังจากเขาจัดการพวกนี้เสร็จแล้ว เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเจ้านายและคุณผู้หญิง และยังมีนายน้อยอีกสามคนหยุดชะงักที่ประตู
เพียงแค่ว่าเขามาช้าไปเพียงก้าวเดียว และเมื่อเขามาถึง เขาก็จะไม่ได้พบเจ้านายอีกเลย เหลือเพียงกู้ฮอนและเด็กสามคนอยู่ที่นั่น
และดูเหมือนว่าพวกเขาไม่มีใครมีความสุขเลย
“คุณ คุณผู้หญิง พวกคุณเข้าไปก่อนเถอะ”
*
เป่หมิงโม่หันหลังออกจากวิลล่า ซึ่งน่าสนใจจริง ๆ นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาออกจากที่นี่โดยไม่ได้ขับรถ แม้ว่าจะเป็นวิลล่ากลางเนิ่นเขาที่อยู่ไม่ไกล แต่ก็ใช้เวลาเดินเท้านานพอสมควร
เดิมทีเขาไม่คิดว่าจะดีแค่ไหนที่ ‘บังคับ’ให้ฉิงฮัวสวมเครื่องแต่งกายที่แสดงถึงตัวละครที่เคลื่อนไหวที่เขาเห็นโดยบังเอิญในสนามเด็กเล่น
แน่นอนว่าเขาไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับลูกสาวตัวน้อยของเขา แต่ก็ลืมลูกชายทั้งสองไม่ได้ด้วย จะต้องมีของขวัญให้กับลูกทั้งสามคนของเขา
ถึงยังไงตอนเช้าพวกเขาก็ได้รับความตกใจแล้ว ถึงแม้ว่าจะกลับมาได้อย่างปลอดภัยแต่ก็มีอาการซึม ๆ อย่างเห็นได้ชัด แต่หลังจากที่พวกเขาได้รับความตกใจแล้ว ก็ควรจะได้รับการเซอร์ไพรส์ถึงจะถูกสิ
แต่ว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบในแบบที่ตัวเองคิด ความยากลำบากของเด็ก ๆ ได้กลายเป็นบททดสอบใหม่และความทรมานสำหรับพวกเขา
*
จิ่วจิ่วนั่งบนตักของกู้ฮอน มองดูใบหน้าของเธอที่ยังไม่ได้ดูดีขึ้นเลย