บทที่ 939 เป่หมิงเอ้อเผชิญหน้ากับความท้าทาย
คนที่ตามหลังเป่หมิงยี่เฟิงเข้ามาก็คือ เป่หมิงเฟยหย่วนพ่อของเขา ยังมีหลันเนี่ยนแม่ของเขา
พวกเขารู้สึกสับสนเล็กน้อยเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามเป่หมิงเฟยหย่วนก็ถือว่ามีประสบการณ์ในหลาย ๆ เรื่อง หลังจากคิดแล้วเขาก็พูด “ยี่เฟิง ช่วงเที่ยงตอนที่ลูกไปบริษัทเจียเม้า ตอนที่ลูกเห็นอาสองและกู้ฮอนรู้สึกอย่างไรบ้าง?
เป่หมิงยี่เฟิงลูบหน้าผากของเขา แล้วย้อนนึกไปอย่างตั้งใจ
หลังจากที่เป่หมิงโม่และกู้ฮอนจากไปก่อนแล้ว เขาและประธานหลัวก็ได้ดื่มไวน์ชั้นดีสองสามแก้วบนดาดฟ้า เพียงแต่ว่าเขาโชคดีกว่าเป่หมิงโม่มาก ที่ไม่เจอด่านตรวจชั่วคราว
เขาขับรถกลับไปที่บริษัทเป่หมิง ได้อย่างราบรื่น
แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจก็คือ เขาเห็นโรงรถของเป่หมิงโม่ซึ่งไม่เคยมีม่านมาบังไว้ กลับถูกปิดด้วยม่านจนเกือบสนิท
เขาเดินขึ้นไปชั้นบนโดยไม่คิดมาก สำหรับก่อนหน้านี้ ตอนที่ทั้งสามคนอยู่บนดาดฟ้า……
ก็ยังไม่มีสิ่งผิดปกติอะไรจริง ๆ
เป่หมิงเฟยหย่วนฟังคำวิจารณ์สั้น ๆ ของลูกชาย แต่ไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเป็นพิเศษ เขาขมวดคิ้วด้วยความงงงวย
“เฟยหย่วน ยี่เฟิง หรือว่ากู้ฮอนเธอได้รับข่าวการลักพาตัว?” หลันเนี่ยนให้คำใบ้
จริงด้วย ทำไมถึงลืมจุดนี้ไปเลย
เมื่อเป่หมิงยี่เฟิงเห็นข่าวทางทีวี เขาก็โทรหาพ่อแม่ ขอให้พวกเขาเปิดดู แม้ว่าพวกเขาจะไม่กังวลเกี่ยวกับเป่ยหมิงโม่ แต่เมื่อเข้าใจพฤติกรรมของเขาก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรเลวร้าย
***
คำพูดของหลันเนี่ยนดูเหมือนจะเตือนคนสองคนอย่างไม่มีเงื่อนงำ ทำไมถึงมองข้ามสิ่งนี้ไปได้
แต่เมื่อมาคิดดูอีกครั้ง แม้ว่าเป่หมิงโม่จะช่วยเด็กได้สำเร็จ แต่กู้ฮอนก็น่าจะไม่แค่“เชิญ”เป่หมิงโม่กลับมาที่บริษัทเป่หมิงจากเหตุการณ์นี้มั้ง
เหตุผลนี้มันก็เกินไปหน่อยแล้ว
*
หลังจากจบการประชุมฉิงฮัวก็เดินตามเป่หมิงโม่และกู้ฮอนมาที่ห้องทำงาน
หลังปิดประตู ที่นี่ก็ไม่มีคนนอกแล้ว แน่นอนว่ามีเรื่องอะไรก็สามารถพูดได้อย่างตรงไปตรงมาแล้ว
“เจ้านาย คุณผู้หญิง พวกคุณ……” ฉิงฮัวพูดออกมาได้ครึ่งหนึ่งก็กลืนมันกลับเข้าไปแล้ว
“ฉิงฮัว มีอะไรจะถามก็ถามเลย ระหว่างพวกเราไม่มีอะไรที่ถามไม่ได้” ขณะที่กู้ฮอนพูดอยู่ ก็เดินไปที่ตำแหน่งของเธอ
จากนั้นคนที่เพิ่งเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ชงชา เป่หมิงโม่ที่ถือถ้วยกาแฟอยู่ในมือชี้ไปที่ตำแหน่งเดิมของเขา “นายนั่งตรงนั้นถูกแล้ว”
“ให้ฉันนั่งตรงนั่นมันดูไม่เหมาะเท่าไหร่มั้ง ถึงยังไงตอนนี้ฉันก็เป็นแค่ผู้ช่วยคนหนึ่งเท่านั้น ฉันว่านายควรจะเปลี่ยนที่นั่งสักหน่อย สถานะในตอนนี้ของนายไม่ควรจะนั่งในตำแหน่งผู้ช่วยอีกต่อไป” ขณะที่เป่หมิงโม่พูด ก็ไม่ได้สนใจความรู้สึกของกู้ฮอนเลย นั่งลงไปที่โต๊ะของเธอโดยตรง และประกาศอำนาจอธิปไตย “ฉันนั่งที่นี่แล้ว”
“คุณ……” กู้ฮอนโมโหและเอื้อมมือไปหยิก ผู้ชายคนนี้น่ารังเกลียดจริง ๆ เลย
ฉิงฮัวกลืนคำพูดที่เพิ่งจะมาถึงริมฝีปากของเขาลงไป จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็วและทำตามความหมายของเจ้านาย ย้ายเครื่องใช้สำนักงานและอุปกรณ์อื่น ๆ ของกู้ฮอนไปยังตำแหน่งเดิมของเป่หมิงโม่
ตอนนี้ กู้ฮอนยังมีอะไรให้พูดอีกหรอ ในเมื่อได้เชิญ‘ลุง’คนนี้เข้ามาแล้ว จากนั้นตัวเองก็ทำได้เพียงกล้ำกลืนความโกรธของตัวเอง
หลังจากจัดระเบียบได้ไม่นาน ของใช้ของทั้งสองคนก็เข้าที่ในที่สุด
เป่หมิงโม่นั่งในตำแหน่งเดิมของกู้ฮอน และเขาสามารถมองเห็นเธอได้เมื่อเขาเหล่มอง แต่กู้ฮอนไม่ได้อยากที่จะสนใจเขา
“ประธานกู้ เนื่องจากวันนี้เป็นการทำงานวันแรกของผม คุณอาจจะบอกรายละเอียดงานของผมให้ฟังหน่อย” ไม่มีเรื่องเป่หมิงโม่ก็หาเรื่องจริง ๆจนได้
ตอนนี้ถือว่าเขาดูไม่เป็นทางการและผ่อนคลายลงแล้ว ความสบายใจนั้นทำให้กู้ฮอนรู้สึกโกรธจริง ๆ เลย
“เนื้อหาในงานของคุณคือสิ่งที่ฉันทำเพื่อคุณมาก่อนหน้านี้แล้ว”
เป่หมิงโม่พยักหน้า จากนั้นก็พูดอย่างผ่อนคลาย “มันแค่นี้เองเหรอ?”
“ถ้าคุณรู้สึกว่างานน้อยล่ะก็ งั้นก็รบกวนคุณจัดการความสะอาดห้องนี้หน่อยล่ะกัน”
ทำความสะอาด……นี่เป็นเรื่องที่ยากสำหรับเป่หมิงโม่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้วิธีทำความสะอาด แต่เขาแต่งตัวดีต่อหน้าคนอื่นมาโดยตลอดและเสื้อผ้าของเขาก็แทบจะดูสะอาดสะอ้านทั้งวัน จะให้เขาทำความสะอาดห้องทำงาน……
มันเป็นไปไม่ได้จริง ๆ
เมื่อเห็นการแสดงออกที่แข็งกระด้างบนใบหน้าของเป่หมิงโม่ ในใจกู้ฮอนก็เต็มไปด้วยความสุขที่ไม่อาจบรรยายได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกมีความสุขมากในวันนี้
“ว่ายังไง ผู้ช่วยเป่หมิง มีปัญหาอะไรไหม?”
“คุณ คุณผู้หญิง เรื่องความสะอาดของห้องทำงานนี้ให้ผมจัดการดีกว่าครับ” ฉิงฮัวพูดอย่างขี้อาย
กู้ฮอนมองหน้าฉิงฮัว “นายยังมีงานที่นายต้องทำ จะมีเวลาว่างมาทำเรื่องพวกนี้ได้ไง ในเมื่อผู้ช่วยเป่หมิงบอกว่าเขามีเวลา แล้วฉันคิดว่าคนมีความสามารถคงจะทำงานได้ดี ให้เขาทำเยอะหน่อยก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย”
***
“หม่ามี๊กลับมาแล้ว……”
ช่วงดึก เมื่อกู้ฮอนลากร่างกายที่อ่อนล้าและเพิ่งจะเปิดประตู จิ่วจิ่วก็วิ่งออกมาจากห้องรับแขก ตามหลังมาด้วยพี่ชายทั้งสองของเธอ
วันนี้เป็นวันที่ยาวนานมากสำหรับเธอ รู้สึกขอบคุณตัวเองมาก ๆ ในที่สุดก็ผ่านมันมาได้
“ลูก ๆ ของแม่ แม่คิดถึงลูก ๆ มากจริง ๆ เลย มาให้หอมทีละคน ๆ หน่อยสิ” ในตอนเช้า เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา ทำให้ไม่มีเวลาใกล้ชิดกับลูก ๆ มาก หลังจากผ่านวันที่วุ่นวาย ในที่สุดฉันก็มีเวลาเป็นของตัวเองแล้ว
จิ่วจิ่วที่ยังซบอยู่ในอ้อมแขนของแม่ หลังจากที่ถูกจูบไปที่แก้มน้อย ๆ ก็หันหน้ามองไปด้านนอก แววตาของเขาดูเต็มไปด้วยความคาดหวัง
แต่หลังจากเห็นแสงไฟจากไฟถนนด้านนอก เขาก็รู้สึกผิดหวังทันที “เอ๊ ทำไมป๊าป๋ายังไม่มา?”
ประโยคนี้ทำให้กู้ฮอนประหลาดใจจริงๆ
แม้ว่าตอนนี้ทารกน้อยจะได้เจอกับเป่หมิงโม่แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบจากความทุกข์ของเธอที่ถูก‘ขัดเกลา’มาแล้ว แต่มันก็ไม่เหมือนวันนี้ที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยจะได้เจอเขา
เธอเริ่มมีความสงสัย เป่หมิงโม่นอกจากจะมีสถานะเป็นประธานแล้ว ภายใต้รูปลักษณ์ที่เย้ายวนและเย็นชาของเขา จะต้องมีตัวตนอื่นที่ไม่รู้จักซ่อนอยู่
หรือว่าเขาจะเป็นเหมือนคนที่ใส่หน้ากากปกปิดอยู่ เพียงแค่ถอดหน้ากากออกก็จะกลายเป็นพ่อมดที่มีจมูกงุ้ม หรือหายไปทันทีในช่วงเวลาที่ไม่มีใครสังเกตเห็น จากนั้นก็เป็นนักสะกดจิตที่คลินิกในซอยที่ห่างไกลความเจริญ……
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่จิ่วจิ่วมีต่อเขา สำหรับกู้ฮอนมันดู‘ผิดปกติ’อย่างมาก
แน่นอน นอกจากทารกน้อยแล้ว เธอควรจะตื่นตัวก่อนหน้านั้นแล้ว เพราะนี่คือวิธีที่หยางหยาง“เกือบ”จะถูกผู้ชายคนนี้จับได้สำเร็จ
แม้ว่าบางครั้งเขาจะท้าทายเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วถือว่าปลดอาวุธและยอมจำนนแล้ว
“หม่ามี๊?ทำไมไม่พูดอะไรค่ะ?”
จิ่วจิ่วไม่ได้ยินคำตอบของกู้ฮอน เธอก็หันหน้ามาทางแม่อีกครั้ง ดวงตากลมโตของเขามีแววความสงสัย
“ทารกน้อย ป๊าป๋าเป็นปีศาจห้องน้ำหนูไม่กลัวเหรอ?เขาอาจจะกินหนูแล้วทำให้หนูเป็น……”
เฉิงเฉิงและหยางหยางก็ยืนอยู่ข้าง ๆ น้องสาว หลังจากฟังคำบรรยายของแม่เกี่ยวกับพ่อของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็รู้สึกหนาวสั่นอย่างช่วยไม่ได้
แรก ๆ จิ่วจิ่วรู้สึกอึ้ง ใบหน้าเล็ก ๆ เจื่อนเล็กน้อย เกี่ยวกับคำพูดที่แม่พูดเมื่อกี้ ดูเหมือนว่าทัศนคติของเธอที่มีต่อป๊าป๋าเริ่มจะเขวแล้ว
ท้ายที่สุดแล้วมันเป็น ‘มนต์’ ที่กู้ฮอนพูดเป่าให้กับทารกน้อยมาเป็นเวลานาน ไม่ใช่ว่าจะลบล้างออกได้ในเวลาสั้น ๆ
เมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของทารกน้อย หัวใจของเธอก็เริ่มหัวเราะเบา ๆ อีกครั้ง ในขณะเดียวกันเธอก็หัวเราะให้กับความพยายามของเป่หมิงโม่ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์
เธออยากจะเห็นอาการของเป่หมิงโม่ว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อเห็นเหตุการณ์ในตอนนี้ บางทีมันอาจจะรู้สึก‘อึดอัด’มาก?หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่น
อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่สามารถเห็นความพ่ายแพ้ของเขา กู้ฮอนจะมีความสุขและความปิติในใจที่อธิบายไม่ได้
แย่แล้ว นี่เป็นอาการผิดปกติของ‘Ah Q’ที่เกิดกับเธอแล้ว
“หยี้ นั่นอะไรอ่ะ?” อารมณ์ของจิ่วจิ่วที่เพิ่งก่อตัวขึ้น สั่นคลอนขึ้นอีกครั้งในเวลานี้ เพราะเธอเห็นสิ่งที่มีขนยาวยืนอยู่ที่ประตูในเวลานี้
***
ในเวลาเดียวกัน เฉิงเฉิงและหยางหยางก็เห็นเช่นกัน
กู้ฮอนยังภูมิใจไม่หน่ำใจเลย ก็กลับถูกอาการที่เป็นเซตของเด็ก ๆ ปัดเป่าออกไปแล้ว เธอเลยต้องหันหน้าไปมองทางด้านหลัง
หลังจากที่เธอเข้าไปในบ้าน ยังไม่ทันได้ปิดประตู เด็กทั้งสามคนก็วิ่งมาต้อนรับตัวเองแล้ว ดังนั้นประตูก็เลยถูกเปิดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เวลานี้ ตัวที่ยืนอยู่ตรงประตูที่มีขนปุกปุย ยืนสูงอยู่เดี่ยว ๆ มีมือมีเท้าด้วย น่าจะเป็นหมีหรือว่ามีรูปร่างคล้ายกับรูปแบบการ์ตูน
“ว้าววว หมีใหญ่!” หยางหยางตื่นเต้นมากดูเหมือนว่าดวงตาจะเป็นประกายแล้ว
หยางหยางนอกจากจะไม่ค่อยมีความเชี่ยวชาญในการเรียนรู้แล้ว เรื่องอื่น ๆ ดูเหมือนว่าจะทำได้ดี แอนิเมชั่นถือได้ว่าเป็นงานอดิเรกที่สูงสุดอย่างหนึ่ง และยังเป็นงานอดิเรกที่ยาวที่สุดอีกด้วย
เขาอ่านการ์ตูนเกือบทุกประเภททั้งจีน ญี่ปุ่น แน่นอนว่าการ์ตูนอเมริกันที่อยู่กับเขามาอย่างยาวนานเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย
นาจา ซุนหงอคง แบทแมน สไปเดอร์-แมน ซุปเปอร์แมน เครยอนชินจัง นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ……อื่น ๆ
ด้วยความตื่นเต้นเขาวิ่งอ้อมกู้ฮอนไปตรงหน้าของหมีตัวใหญ่ที่คล้ายมนุษย์ เขาดูเหมือนตัวเล็กไปเลย
มองดูขึ้นไปก็เห็นเพียงพุงของตุ๊กตาตัวนั้น
“โอ้!คุณแม่ดูสิ มันสูงเกือบเท่าลุงหัวฟูเลย หรือว่าเขาจะสูงกว่าลุงหัวฟูนิดหน่อย……นะ!” หยางหยางยังไม่ทันได้พูดจบ ก็เห็นหมีใหญ่นั้นขยับแล้ว เขายื่นมือที่มีขนยาวของเขาออกและแตะหัวเล็ก ๆ ของหยางหยาง
นี่ไม่ได้มีการเตรียมใจไว้แม้แต่น้อยจึงทำให้หยางหยางตกใจมาก ร่างเล็กกระตุกไปด้านหลัง ถอยหลังสองสามก้าวจนเกือบล้มหงาย
แน่นอน ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้จิ่วจิ่วและเฉิงเฉิงก็ไม่ทันคาดคิด
จิ่วจิ่วรีบเอาหัวซ่อนเข้าไปในอ้อมแขนของกู้ฮอน มือเล็ก ๆ ทั้งสองข้างจับไปที่เสื้อของแม่อย่างแน่น “หม่ามี๊ หนูกลัว”
แน่นอน เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้สามารถทำให้เด็ก ๆ ตกใจและหวาดกลัวได้เท่านั้น และมันใช้ไม่ได้ผลกับกู้ฮอนเลย เธอปลอบจิ่วจิ่วและตบปลอบเธอเบา ๆ
เธอทำหน้าบึ้งใส่ตุ๊กตาและพูดว่า “สร้างความวุ่นวายพอยัง ยังไม่ถอดชุดนั้นออกอีก คุณดูคุณทำให้เด็กทั้งสามตกใจหมดแล้ว”
เสียงพูดจบลง ตุ๊กตาก็ยกมือขึ้น ถอดเอา‘หัวโต’ออกมาแล้ว
“เป็นนาย!” กู้ฮอนเห็นว่าตุ๊กตาตัวนี้ก็คือฉิงฮัว
ภายใต้แสงจากระเบียง สามารถเห็นใบหน้าที่ไร้เดียงสาและรู้สึกผิดของฉิงฮัวได้อย่างชัดเจน