บทที่ 949 ควบคุมร่างกายไม่อยู่
ในที่สุดก็หลุดพ้นเสียที หลังจากที่กู้ฮอนดื่มไวน์หมดแล้วก็รู้สึกโล่งใจ “ทำให้ผู้อำนวยการโกวขบขันแล้ว ฉันดื่มไวน์ได้ไม่เท่าไรเองค่ะ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว อย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
กู้ฮอนพูดพลางหมุนตัวเดินไปทางด้านนอก
“ประธานกู้ พวกเราจะไปส่งคุณครับ” ผู้อำนวยการโกวพลางส่งสายตาเป็นสัญญาณให้กับชายหนุ่มปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง
ชายหนุ่มปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง พยักหน้าอย่างเข้าใจ จากนั้นก็เดินนำไปด้านหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็ว เตรียมตัวจะไปเปิดประตู
ผู้อำนวยการโกวเดินอยู่ข้างกู้ฮอน ระหว่างทางก็พูดคำพูดที่แสดงถึงความเกรงใจอีกหลายประโยค
เดิมไวน์แดงแก้วหนึ่งนั้นไม่มีผลกระทบอะไรมากสำหรับกู้ฮอน แต่ไม่รู้ว่าทำไม ลมเย็นที่พัดผ่านเข้ามาระหว่างที่เธอเดินไปทางประตูนั้นทำให้เธอรู้สึกมีอาการเวียนหัวเล็กน้อย อีกทั้งยังรู้สึกเหมือนว่าหนังตาหนักอึ้งอยู่บ้าง
เธอยกมือนวดขมับตัวเองเบาๆ อาจจะเป็นเพราะว่าวันนี้สภาพจิตใจเคร่งเครียดมากเกินไปจึงทำให้มีอาการ เธอก็ไม่สามารถยืนยันได้เช่นกัน
แต่ในใจของเธอนั้นยังคงแน่วแน่ในความคิดหนึ่งตั้งแต่ต้นจนจบ นั่นก็คือกลับบ้าน แต่ยิ่งเดินไปข้างหน้าก็ยิ่งรู้สึกเหมือนว่าขาและเท้าไม่ใช่ของตัวเอง
***
กู้ฮอนรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายตัวเองเบาหวิว แรกเริ่มสติการรับรู้เปลี่ยนไปไม่ชัดเจน ถัดมาก็เป็นมือและเท้า สรุปแล้ว ร่างกายนี้เหมือนกับว่าค่อยๆหลุดจากการควบคุมของตัวเอง
*
เป่หมิงโม่ขับรถผ่านถนนหนทางแต่ละเส้นไปอย่างรวดเร็ว เขาที่มีจิตใจร้อนรนนั้นอดไม่ได้ที่จะคิดให้สิ่งที่ตัวเองขับอยู่เป็นเครื่องบินเครื่องหนึ่ง
ความเร็ว ตอนนี้ความหวังเพียงอย่างเดียวต้องฝากไว้ที่ความเร็วแล้ว ดังนั้นเขาจึงฝ่าไฟแดงไปไม่น้อย กระทั่งทำให้หลายสี่แยกเกิดอุบัติเหตุเล็กๆขึ้นมา ตอนที่รถของเขาขับผ่านด้วยความเร็วนั้น รถยนต์ที่ขับปกติอยู่ด้านข้างก็เหยียบเบรกไปตามๆกันเพื่อป้องกันไม่ให้รถชนกัน จึงทำให้รถลื่นและทรงตัวไม่อยู่จากการไถลของล้อจนชนเข้ากับรถคันข้างๆจนเป็นรอยถลอกเล็กๆ
เสียงบีบแตรด้วยความโมโหและเสียงตะโกนด่าไล่ตามคันรถที่ทิ้งห่างออกไปไกล
เขาขับรถแบบนี้มาตลอดทาง ตอนที่ถึงเกาะหูซินก็เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงหลังจากที่เขาถูกตัดสายโทรศัพท์
เขาขับรถข้ามสะพาน เห็นทางเข้าจากแสงไฟหน้ารถที่ส่องสว่าง ไม้กั้นรถยนต์ที่อยู่ด้านหน้าขวางเส้นทางที่จะไปต่อ ทหารรักษาความปลอดภัยกำลังกวักมือเป็นสัญลักษณ์ให้เขาหยุดรถ
เป่หมิงโม่ในตอนนี้กังวลร้อนใจเป็นอย่างมาก เกรงว่าถ้าล่าช้าไปครึ่งนาที กู้ฮอนก็สามารถพบกับเรื่องอะไรที่ไม่คาดฝันได้ เขาไม่มีเวลามาสนใจอะไรมากมายแล้ว เท้าของเขาเหยียบอยู่บนคันเร่งไม่ยอมปล่อย เพียงแค่เปิดไฟรถให้ทหารรักษาความปลอดภัยสองสามครั้งและกดแตรเสียงดัง
เกาะหูซินเป็นสถานที่ของภาครัฐ แน่นอนว่าด้านความปลอดภัยต้องดีกว่าประชาชนทั่วไปเป็นธรรมดา กระทั่งรั้วป้องกันรถบริเวณทางเข้าเกาะก็ล้วนทำมาจากโลหะ หากรถยนต์ปกติบุกฝ่าเข้าไปก็จะทำให้รถได้รับความเสียหายอย่างหนัก
แต่นี่ไม่มากพอที่จะหยุดรถของเป่หมิงโม่ได้ หลังจากเสียงปึงดังขึ้น ไปจนถึงประกายไฟที่ปรากฏขึ้น เขาก็บุกเข้าไปได้สำเร็จ
แน่นอนว่ารั้วก็ทิ้งรอยบุบลึกรอยหนึ่งไว้บนตัวรถ
เป็นครั้งแรกที่ทหารรักษาความปลอดภัยพบเจอคนที่มีความกล้ามากขนาดที่จะบุกเข้าฝ่ารั้วเข้ามา จึงมีท่าทางตะลึงอยู่ชั่วครู่ ถัดมาก็รีบกลับไปยังห้องทำงานสำหรับผู้ที่มาเข้าเวรเพื่อต่อสายโทรศัพท์ขอแรงสนับสนุนจากภายในไปจนถึงเปิดเสียงไซเรนแจ้งเตือน
*
เมื่อเสียงไซเรนดังขึ้น ผู้อำนวยการโกวชายหนุ่มปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง และกู้ฮอนที่สติการรับรู้เริ่มเลือนรางที่อยู่ใน ตึก Cล้วนได้ยินแล้ว
เพียงแต่ว่าชายหนุ่มปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง นั้นคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้อยู่บ้าง เขาแสร้งทำท่าทางเหมือนไม่มีอะไร “ผู้อำนวยการโกว ไม่มีเรื่องอะไรหรอกครับ ที่นี่เป็นเรื่องปกติ คาดว่าน่าจะมีการฝึกเร่งด่วน เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้ถ้าหากพวกเขาจะทำการฝึกเร่งด่วนมักจะมีการแจ้งล่วงหน้า ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ถึงไม่ได้แจ้ง”
เขาพูดพลางเบนสายตาไปที่ร่างของกู้ฮอน เห็นว่าตอนนี้เธอกำลังพิงร่างเข้ากับแขนของผู้อำนวยการโกวด้วยใบหน้าขาวซีด แววตาทั้งสองข้างเริ่มล่องลอย ตอนนี้ที่เพิ่งจะรู้สึกว่าขาและเท้าไม่คล่องแคล่วนั้น ผู้อำนวยการโกวก็ยื่นมือออกมาประคองเธอเอาไว้
เขาเผยรอยยิ้มร้ายกาจออกมา “ผู้อำนวยการโกว ดูท่าว่าประธานกู้จะทนรับฤทธิ์แอลกอฮอล์ไม่ไหว ถึงจะอยากกลับไป แต่ตอนนี้ก็ขับรถไม่ไหวแล้ว ไม่สู้คุณประคองประธานกู้ไปพักผ่อนที่ด้านบนสักครู่ รอให้สติของเธอดีขึ้นกว่านี้ แล้วค่อยว่ากันเถอะครับ”
“ดูท่าว่าคงต้องทำอย่างนั้นแล้ว ประธานกู้ผมจะประคองคุณไปพักสักครู่ก่อนนะครับ” ผู้อำนวยการโกวมองใบหน้าของเธอ ถัดมาก็เผยรอยยิ้มชั่วร้ายที่เหมือนกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีประสิทธิภาพออกมา เขาไม่สนใจว่ากู้ฮอนจะยินยอมหรือไม่ โค้งตัวลงอุ้มเธอขึ้นมาแล้วหมุนตัวเดินขึ้นไปชั้นบน
ชายหนุ่มปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง มองตามเงาร่างของพวกเขาไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย พลางยื่นมือออกไปปิดประตูบ้านพักที่ถูกเปิดออกเมื่อครู่นี้
***
เสียงไซเรนนอกบ้านพักยังคงดังก้องอยู่ข้างหูกู้ฮอน ภายใต้สติอันเลือนรางก็สามารถมองเห็นว่าทิวทัศน์รอบด้านกำลังเคลื่อนไหว เธอสามารถรู้สึกได้เล็กน้อยว่าตัวเองถูกผู้อำนวยการโกวท่านนี้อุ้มขึ้นไปที่ชั้นบน……
นี่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน แม้ว่าเธอจะไม่ใช่หญิงสาวที่อยู่ในขนบธรรมเนียมอันดีงาม แต่การถูกผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งอุ้มนั้นก็ไม่ดีเท่าไร แม้ว่าในใจของตัวเองจะไม่ยินยอม แต่ก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว ร่างกายของเธอนั้นหลุดจากการควบคุมของตัวเองหมดแล้ว
ในที่สุดแสงไฟเบื้องหน้าเธอก็สว่างกว่าเมื่อครู่เล็กน้อย อีกทั้งยังรู้สึกเหมือนว่าตัวเองถูกวางลงบนเตียงตัวหนึ่ง
เสียงที่ลอยเข้าหูมาน่าจะเป็นเสียงของผู้อำนวยการโกว “ประธานกู้ วันนี้ที่ไหนคุณก็ไปไม่ได้ ผมเห็นว่าคุณนอนอยู่ที่นี่คนเดียวก็อาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวเล็กน้อย ไม่สู้ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณดีกว่า”
ประโยคนี้เหมือนกับเสียงของระเบิดดังขึ้นที่ข้างหูกู้ฮอน อย่างไรเธอก็คิดไม่ถึงว่าเป่หมิงโม่จะพูดถูก ผู้อำนวยการโกวไม่ใช่คนดีอะไรจริงๆ แต่มาเสียใจในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะสายไปแล้ว ตอนนี้ตัวเองอยู่ในกำมือของเขาแล้ว
เธอดิ้นรนจะลุกขึ้นแล้วรีบไปจากที่นี่ แต่ว่าไม่มีแรง ตัวเองเหมือนกับโคลนแอ่งหนึ่งที่กองอยู่บนเตียง
“ผู้อำนวยการโกว ทำไมคุณถึงได้…….” เสียงที่เธอสามารถเอ่ยออกมาได้เป็นเพียงเสียงอ่อนแรงเท่านั้นแล้ว
ผู้อำนวยการโกวยืนอยู่ข้างเตียง สายตาที่มองกู้ฮอนนั้นเต็มไปด้วยความโลภ “ประธานกู้ คุณอย่าโทษผมเลย ครั้งแรกที่ผมเห็นคุณ ผมก็ชอบคุณแล้ว ถ้าหากว่าคุณติดตามผม ในเรื่องของสิ่งของผมคิดว่าอะไรคุณก็ไม่ต้องการแล้ว แต่ผมสามารถรับประกันได้ว่า หลังจากนี้เป็นต้นไป บริษัทเป่หมิงจะกลายเป็นตัวเลือกแรกทางด้านวิศวกรรมการก่อสร้างของภาครัฐ ผมคิดว่า เงื่อนไขข้อนี้นั้นมีแรงจูงใจยิ่งกว่าเงื่อนไขอื่นๆนะ”
เขาพูดแล้วค่อยๆเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเอง……
*
เป่หมิงโม่ขับรถพุ่งเข้าใส่รั้วมุ่งหน้าไปยังเขตบ้านพักสถานที่ที่ฉิงฮัวให้มา ตึก Cนั้นหาได้ง่ายมาก ไม่เพียงแต่มีแสงไฟสว่างไสวไม่เหมือนกับหลังอื่นๆเท่านั้น แต่ยังมีสัญลักษณ์ที่ชัดเจนมากอย่างหนึ่งด้วย นั่นก็คือข้างประตูมีรถกู้ฮอนจอดอยู่
เขาจอดรถขวางอยู่ที่หน้าประตูแล้วลงจากรถอย่างรวดเร็ว แทบจะวิ่งขึ้นบันไดไปที่หน้าประตู
“ปังๆๆ” เขาเกือบจะใช้แรงทั้งหมดในร่างกายมาทุบประตู
“ปังๆๆ……”
ในที่สุดก็มีเสียงฝีเท้าคนเดินลอยมา ยังมีเสียงบ่นแกมรำคาญออกมาด้วย “ใครกัน ใครกันที่กล้ามาเคาะประตู ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วสินะ!”
ในเวลาที่สิ้นเสียง ประตูก็เปิดออก ชายหนุ่มร่างเล็กปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง ยืนขวางอยู่ที่ประตู
*
ชายหนุ่มปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง เห็นผู้อำนวยการโกวอุ้มกู้ฮอนขึ้นไปชั้นบนแล้ว ในใจก็แอบยินดีอยู่ครู่หนึ่ง การนัดกู้ฮอนมาที่นี่นั้นเป็นแผนการหนึ่งของเขา
เจ้าหมอนี่คิดหาหนทางในการเลื่อนตำแหน่งมาตลอด หลังจากที่ได้รู้ว่าผู้อำนวยการโกวมีงานอดิเรกแบบนี้แล้ว ก็ช่วยเขาตามหาผู้หญิงไปทั่วทุกสารทิศไม่น้อย โดยเฉพาะหญิงสาวที่มีความสามารถมากเล็กน้อย ปกติหลังจากหลอกให้เชื่อแล้วก็จะทำให้สลบ หลังจากเขาเสร็จกิจแล้วก็ค่อยถ่ายรูปผู้เคราะห์ร้ายมาบีบบังคับข่มขู่
สรุปสั้นๆก็คือแม้ว่าผู้หญิงพวกนี้จะมีความสามารถแต่ก็ไม่กล้าลงมือทำอะไรกับเขา
คราวนี้หลังจากที่ผู้อำนวยการโกวถูกย้ายมาที่เมือง A ชายหนุ่มปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง ก็ยังคงใช้ลูกไม้และแผนการเดิมๆ ทางด้านการเลือกคนนั้น เขาบังเอิญมีโอกาสได้เห็นกู้ฮอนในโทรทัศน์ครั้งหนึ่ง ดังนั้นจึงแผนร้ายก็ค่อยๆถูกวางให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
***
หลังจากที่กู้ฮอนถูกเชิญมาสำเร็จแล้ว ชายหนุ่มปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง ก็มองหาโอกาสมาโดยตลอด นอกจากนี้เขาก็ได้สังเกตท่าทีที่ผู้อำนวยการโกวปฏิบัติต่อเธออย่างระมัดระวังด้วย ถ้าหากว่าตัวเองผลีผลามทำลงไป อาจจะทำให้ผู้อำนวยการโกวเกิดโทสะแล้วทำให้ตกอยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเอาได้
โชคดีที่สามารถมองออกถึงจิตใจที่สั่นไหวของเขาได้ตั้งแต่แรกเริ่ม ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้สถานการณ์ที่หัวหน้ายังไม่ได้เอ่ยปาก สามารถเข้าใจเจตจำนงได้แม่นยำผ่านสายตาหรือการเคลื่อนไหว
ถัดมาแน่นอนว่าต้องหาโอกาส ไม่มีวิธีใดที่ดีที่สุดไปกว่าบนโต๊ะอาหารแล้ว ในเวลานั้นผู้คนส่วนใหญ่มักจะจิตใจผ่อนคลายเป็นอย่างมาก แน่นอนว่านี่ก็เป็นวิธีที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จมาตลอด
เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่ากู้ฮอนจะไม่ดื่มไวน์ นี่ทำให้เขารู้สึกลำบากใจระดับหนึ่ง แผนการเดิมของเขาคิดจะลองพูดให้เธอดื่มไวน์ แต่ว่าไม่สำเร็จ
เพียงแต่ว่าโอกาสที่รอก็มาถึงแล้ว ก่อนอื่นคือกู้ฮอนออกจากห้องอาหารไปรับโทรศัพท์ นี่ทำให้เขามีโอกาสทำสำเร็จ ถัดมาก็คือตอนที่จะลาจาก ก็พูดสองสามประโยคที่ทำให้เธอไม่สามารถบอกปัดได้
สุดท้ายแล้วทั้งหมดก็ดำเนินการไปได้ราบรื่นเป็นอย่างมาก ผู้อำนวยการโกวพาเธอไปที่ชั้นบนแล้ว เขานั่งโซฟาไขว่ห้างสูบบุหรี่ที่ห้องรับแขกคนเดียว ในมือเล่นกล้องตัวหนึ่ง รออีกสักพักค่อยไปถ่ายวิดีโอเก็บไว้ใช้บีบบังคับ สรุปสั้นๆก็คือ ลูกคิดรางนี้เขาดีดได้ดีมาก
ตอนที่เขากำลังภาคภูมิใจอยู่นั้น จู่ๆประตูบ้านพักก็ถูกเคาะ ทั้งยังมีเสียงดังมากด้วย เสียงไซเรนทางด้านนอกยังคงดังไม่หยุด เขาคิดว่าอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกเร่งด่วน มารดามันเถอะ ไม่มีการแจ้งใดๆยังต้องให้ความร่วมมือกับทหารพวกนี้อีก
ชายหนุ่มปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง มีโทสะในทันที เขาไม่ต้องการให้เรื่องดีๆของผู้อำนวยการโกวต้องถูกทำพังลงเพราะแบบนี้
ข้อแรก เรื่องนี้ยังไม่ได้ทำให้เป็นจริง ถ้าหากว่าถูกฝ่ายหญิงกัดกลับมาล่ะก็ เรื่องราวก็จะใหญ่โตจนรับไม่ไหว เพื่อที่จะปกป้องตัวเอง ผู้อำนวยการโกวจะต้องผลักเขาออกไปรับโทษแทนอย่างแน่นอน
ข้อสอง ทำลายความสนุกของผู้อำนวยการโกว ตัวเองก็ต้องได้รับโทษด้วย
สรุปแล้วทำเรื่องพัง ตัวเองก็จะเป็นคนที่โชคร้ายที่สุด
เขาตัดสินใจหาข้ออ้างหนึ่งมาไล่ทหารให้จากไปก็พอแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็ด่าว่าเสียงดังไปถึงหน้าประตูแล้วยื่นมือไปเปิดประตูออก
เพียงแต่ว่าไม่เหมือนกับที่เขาคิดเอาไว้ คนที่ยืนอยู่ด้านนอกไม่ใช่ทหารดูแลรักษาความปลอดภัย แต่เป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง
ภายใต้ความมืดมิดยามค่ำคืน ชายหนุ่มคนนี้ดูสูงส่งสง่างามเป็นอย่างมาก ทั่วทั้งร่างแผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามของกษัตริย์ออกมา นอกจากนั้นแล้ว นัยน์ตาเย็นเยียบคู่นั้นก็มองจนไขสันหลังของชายหนุ่มปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง มีไอเย็นแล่นขึ้นมา