บทที่ 985 เมตตาที่มากเกินไป
หยินปู้ฝันเงยหน้ามองไปยังบนท้องฟ้าที่มืดมิด ที่ไม่มีแสงดาว เขาได้ถอนหายใจอยู่บ่อยครั้งแล้วก็เอามือไปตบที่ไหล่ของกู้ฮอน “ดูแล้วมาครั้งนี้ก็ไม่ได้อะไรกลับไปเลย ในเมื่อเป็นแบบนี้ พรุ่งนี้พวกเราก็กลับกันเถอะ”
กู้ฮอนก็ประเมินช่ายซินซินต่ำไป คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนั้น
“ขอโทษจริง ๆ เป็นความผิดพลาดของฉันเอง ทำให้ทุกอย่างมันล่มสลายไป”
หยินปู้ฝันมองไปยังกู้ฮอนที่สำนึกผิด แล้วยิ้ม “เรื่องนี้จะโทษคุณได้ยังไงล่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีใครคาดคิดไม่ใช่หรือ ต่อให้เป่หมิงโม่รู้เรื่องนี้ เขาก็ไม่โทษคุณหรอก คุณไม่ต้องคิดมัวแต่โทษตัวเองหรอกนะ กลับไปแล้วยังมีเรื่องราวมากมายให้คุณต้องสะสางอยู่”
***
ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกัน เป่หมิงโม่นั่งอยู่ที่ห้องขังคนเดียว คืนนี้ไม่มีแสงจันทร์ ชัดเจนว่าในห้องนั้นเต็มไปด้วยความมืดมิด
ณ เวลานี้ มีแสงส่องเข้ามาจากข้างนอก สาดส่องมาถึงเท้าของเป่หมิงโม่
“เป่หมิงโม่ ในห้องมืดขนาดนี้ ทำไมคุณไม่เปิดไฟ ?”
เสียงที่เปล่งเข้ามาฟังได้อย่างชัดเจน เสียงที่พูดเข้ามาก็คือตำรวจผู้คุมขัง
เป่หมิงโม่เงยหน้าไปข้างนอก “ยากนักที่จะมีแสงมืดขนาดนี้ ฉันไม่อยากจะทำลายบรรยากาศเช่นนี้”
“คุณกำลังคิดถึงกู้ฮอนที่ชอบมาหาคุณบ่อย ๆ ใช่ไหม พอพูดถึงเธอ สองวันนี้เหมือนไม่ได้มาหาคุณเลยนะ พวกคุณเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ?”
พอพูดถึงกู้ฮอน เป่หมิงโม่ที่มีสายตามองไปยังท้องฟ้าก็สะดุ้ง เขาได้ค่อย ๆ หันตัวกลับมามองประตู
เขาได้นั่งอยู่หน้าประตูเหล็กกับผู้คุม ได้พูดกับเขาอย่างตั้งใจว่า “ฉันกับเธอดีมาก ๆ เธอมีเรื่องของเธอต้องสะสาง ไม่จำเป็นที่จะต้องมาหาฉันทุกวัน ”
ผู้คุมยืนอยู่หน้าประตูมองซ้ายมองขวาไม่มีคนแล้วก็ค่อย ๆ คุกเข่าลง แล้วก็ได้เอาบุหรี่ที่ตัวเองติดต่อมาสองมวนให้เป่หมิงโม่หนึ่งมวน “ฉันดูท่าทีแล้ว ตั้งแต่คุณเข้ามายังไม่เคยได้รับรสชาติแบบนี้เลยใช่ไหมล่ะ”
ขณะที่พูดเขาก็ได้จุดบุหรี่ของเขาหรือเป่หมิงโม่
เป่หมิงโม่สูดไปหนึ่งครั้ง ทำให้ร่างกายสบายขึ้นมา ไม่คิดว่าตัวเองอยู่ในที่แบบนี้ยังจะต้องมาอาศัยสิ่งของพวกนี้อีก ดูแล้วหากสูบมวนนี้หมด ก็ต้องจะต้องตัดจริง ๆ แล้วล่ะ
“จะพูดให้คุณฟังหนึ่งเรื่อง วันนี้ฉันได้ยินหัวหน้าพูดว่า อีกสองวันจะทำการตัดสิน คุณจะต้องเตรียมตัวในการขึ้นศาลแล้วนะ” ผู้คุมเสียงเบามาก ท่าทีของเขาเหมือนกับกำลังแอบบอกกับเป่หมิงโม่
“เมื่อก่อนยังไม่ได้กำหนดเวลา ทำไมอยู่ดีดีก็เปิดศาลไวจัง ? ” สิ่งนี้ทำให้เป่หมิงโม่รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก กลัวว่าเรื่องนี้แม้กระทั่งหยินปู้ฝันและกู้ฮอนก็ยังไม่รู้
คิดไปคิดมาก เขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที ก็เพราะเป็นแผนการของพวกเขา เคยได้ยินหยินปู้ฝันบอกว่า นอกจากเขาแล้ว ไม่มีใครกล้ารับ ก็ชัดเจนว่ามีคนบงการเรื่องนี้อยู่แน่นอน ตอนนี้อยู่ดีดีจะมาเปิดศาล คาดว่าหยินปู้ฝันกำลังทำให้แผนการพวกเขาวุ่นวาย ก็เลยฉวยโอกาสที่ยังหาหลักฐานไม่ได้มาเปิดศาล และทำให้เรื่องราวมันเรียบร้อย
***
หยินปู้ฝันและกู้ฮอนไม่ได้พักผ่อนเลยในคืนนี้ กำลังคิดอยู่ว่าเรารับมือหรือลงมือด้วยวิธีอะไรต่อไป
วันที่สอง พวกเขาตื่นเช้ามาก เก็บของอะไรให้แล้วเสร็จก็ออกจากเมือง A
เมืองนี้ไม่เหลือคุณค่าอะไรให้พวกเขาเลย การต่อสู้กับช่ายซินซินในเมื่อคืนก็ไม่เหลือความลับอะไรอีกแล้ว
หากเธอมีใจจริง แน่นอนจะต้องพูดกับผู้อำนวยการโกว และหากอาศัยวิธีการของพวกเขา เวลาในค่ำคืนนี้ แน่นอนว่าใครที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับเขาจะสามารถให้คนเหล่านั้นหุบปากได้อย่างสนิท
พอคิดถึงคนที่เกี่ยวข้อง กู้ฮอนก็ไม่อาจจะไม่นึกถึงคนที่สำคัญได้ก็คือ เสี่ยวเฉิน เมื่อวานยังเห็นพ่อแม่ของเขาที่ร้องไห้……
“ปู้ฝาน คุณคิดไหมว่าครอบครัวเสี่ยวเฉินแปลก ๆ ไหม ความสัมพันธ์ของเสี่ยวเฉินและผู้อำนวยการโกว ไม่น่าจะถึงขั้นที่ทำให้ครอบครัวเขาเป็นแบบนั้น หากขาดเงิน ทำไมจะซื้อสถานที่ที่ราคาแพงขนาดนี้ และยังเป็นที่ทำเลดีมาก ๆด้วย ? และเมื่อคืนสองผู้เฒ่าก็ไม่ได้แสร้งทำเป็นคนจนเสียด้วย”
หยินปู้ฝันสองมือจับพวงมาลัย ติดตามกู้ฮอน “ความหมายของคุณคือ ในนั้นแฝงด้วยปัญหา ?”
“มีหรือไม่ฉันยังไม่อาจจะมั่นใจได้ชัดเจน แต่ก่อนที่พวกเราจะไป ไปดูสองผู้เฒ่าอีกรอบหนึ่งเถอะ” กู้ฮอนพูดและเตรียมตัวลงรถ
“คุณรอสักครู่ พวกเราวันนี้เดี๋ยวค่อยไปดีไหม เมื่อวาน สถานภาพของเราก็คือคนที่จะไปซื้อห้องนะ แต่พอผ่านไปหนึ่งคืน แล้วก็กลายเป็นทนายที่จะมาตรวจสอบลูกของเขา คุณน่าจะเข้าใจคำพูดของผมนะ”
หยินปู้ฝันความจริงแล้วก็ไม่ใช่คิดแบบที่ตัวเองคิดเอาไว้ แต่เลือกที่จะให้รอบคอบมากกว่า และเขาคิดว่าตอนนี้ในเมื่อผลมันเป็นเช่นนี้ ทำไมจะต้องเสียเวลาไปอีกล่ะ
แต่กู้ฮอนกลับไม่คิดเช่นนี้ “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ฉันตัดสินใจว่าจะไปหาพวกเขา ตอนนี้ ลูกของพวกเขานอนหลับไม่รู้ตื่นอยู่ที่โรงพยาบาล คาดว่าชีวิตของพวกเขาไม่น่าจะดีสักเท่าไหร่ ต่อให้ลูกชายของเขาไม่สามารถช่วยพวกเราได้ ฉันไม่อาจจะเห็นสภาพแบบนี้แล้วไม่ช่วย”
ขณะที่พูด เธอเปิดประตูจะลงรถ แล้วก็เดินไปยังเขตที่สองผู้เฒ่าอาศัยอยู่
หยินปู้ฝันถอนหายใจ ความเมตตาของกู้ฮอนก็เริ่มมีมากล้นจนไม่เหลืออะไร เธอก็ไม่คิดว่า นี่คือสิ่งที่ผู้อำนวยการโกวทำกับเธอ เสี่ยวเฉินไม่อาจจะไม่เข้าร่วมกับเหตุการณ์นี้ ต่อให้ช่วยคนร้ายก็ไม่อาจจะหนีปัญหาได้ เพราะว่าเขาทำให้เธอและเป่หมิงโม่ตกอยู่ในสภาพนี้
หยินปู้ฝันจะพูดว่าไม่เห็นใจก็ไม่ได้ เพียงแต่เมื่อเจอคนแบบนี้ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปสงสาร
แน่นอนว่าคิดอย่างไร เห็นกู้ฮอนเดินออกไป ก็ไม่อาจจะให้เธอไปคนเดียว เขาก็ได้แต่ส่ายหัว หลังจากนั้นถอนหายใจแล้วก็เดินตามไป
*
“คุณชายหยิน คุณหญิงกู้ ทำไมมาเช้าขนาดนี้ เข้ามา เข้ามา เป็นอย่างไร ตัดสินใจมาหนึ่งคืน รู้สึกว่าห้องของพวกเราดีเลยใช่ไหม”
ลุงเฉินเห็นเสี่ยวหวังมาลูกค้ามาดูห้องสองคน แล้วก็ได้ยิ้มหยินปู้ฝันทักทายให้พวกเขาเข้ามา
“โอ้ววว พวกคุณทำไมเอาของมาให้ล่ะ หมายความว่าอะไร พวกคุณมาดูห้อง หากพูดตามหลักพวกเราให้ถึงจะถูกนะ สิ่งของก็ไม่ต้องแล้ว ถึงเวลานั้นพวกคุณจะต้องเอากลับไปนะ”
***
หยินปู้ฝันกับกู้ฮอนที่ซื้อผลไม้จากด้านล่างมาสองชุดเอาไว้ด้านข้าง
“ลุงเฉิน ไม่ต้องเกรงใจ ในเมื่อพวกเราเอาของมาแล้ว ขอให้ท่านรับไว้ด้วยเถิด”
ลุงเฉินไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร “ขอโทษที่ต้องทำให้พวกคุณเสียเงินอีกแล้ว รีบมานั่ง รีบมานั่ง รับมานั่ง ภรรยาฉันไปซื้อผักอยู่ ตอนกลางวันใครก็ห้ามไปไหน ต้องกินข้าวกับฉันที่นี่ มาชิมอาหารฝีมือบ้านของฉัน ไม่ได้โม้นะ ภรรยาฉันทำอาหารอร่อยมาก หากไม่ใช่แก่แล้ว พวกเราจะต้องเปิดร้านอาหารอย่างแน่นอน”
กู้ฮอนเห็นผู้เฒ่าต้อนรับอย่างดี เธอก็เริ่มมีรอยยิ้ม เพียงแต่รอยยิ้มก็หายไปอย่างรวดเร็ว ก็เหลือเพียงแต่ใบหน้าที่สำนึกผิด
“ทำไมหรือสาวน้อย เมื่อสักครู่นี้ดีดีอยู่เลย ทำไมเป็นแบบนี้แล้วล่ะ ? หากคิดถึงปัญหาของราคาห้อง ไม่ต้องรีบ พวกเราสามารถลดหย่อนให้กันได้นะ ฉันรู้ว่าพวกคุณมีความจริงใจมากมายแค่ไหน” ลุงเฉินเห็นกู้ฮอนมีท่าทีแบบนี้ พวกเขารู้สึกตื่นเต้นอึดอัดใจ
เขารู้สึกว่าวัยรุ่นสองคนนี้เหมือนผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือชีวิตลูกตัวเอง
ไม่ได้พูดเกินจริง ไม่ว่าการท่าทางหรือคำพูดของพวกเขา และรวมไปถึงเรื่องของลูกชายเขาจะสามารถตื่นขึ้นมาได้ไหม
สองผู้เฒ่าก็มีลูกคนเดียว จะวางใจได้อย่างไร
พอได้ยินคำนี้แล้ว ในใจก็รู้สึกไม่สบายใจ เดิมทีมีจุดประสงค์ที่จะเข้าหาพวกเขา แต่ตอนนี้ไม่คิดว่าผู้เฒ่ากลับคิดเพื่อตัวเอง ในเศรษฐกิจที่ไม่ดีเช่นนี้ ยังคิดถึงตัวเองด้วย
เธอรู้สึกว่าไม่อาจจะละทิ้งมโนธรรมตัวเองได้เลย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม โกหกก็จะต้องถึงตรงนี้ พอคิดถึงตรงนี้ เธอเงยหน้าขึ้น แล้วก็พูดกับผู้เฒ่าท่านนี้ด้วยความจริงใจ “ลุงเฉิน ฉันมาที่นี่เพื่อมาขอโทษคุณ”
“ขอ…..โทษ…….” ลุงเฉินพึมพำในปาก หลังจากนั้นก็ตาโตมองไปยังกู้ฮอน แล้วก็ตกใจว่า “ลูกสาว เป็นเพราะปัญหาของราคาหรือ ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่หรือว่าปรึกษากันได้ พวกคุณก็รู้ ฉันรีบร้อนจะใช้เงินส่วนนี้เป็นที่สุดเพื่อมาช่วยลูกชาย”
“ลุงเฉิน ไม่ต้องตกใจ ฟังฉันก่อนให้หมดก่อน” ตอนนี้ หยินปู้ฝันพูดออกมาแล้ว “ครั้งนี้พวกเรามาไม่ใช่เพราะว่าจะมาซื้อห้อง แต่มาเรื่องลูกชายของคุณ”
“เพื่อลูกชายของฉัน ?” ลุงเฉินถามอยากไม่เข้าใจ
หยินปู้ฝันพยักหน้า “ใช่แล้ว เพื่อลูกชายคุณ คุณจำได้ไหม ฉันเป็นทนาย”
“หาเขาทำไม ? ต่อให้พวกเขาทำอะไรกับพวกคุณ แต่ตอนนี้เขาเป็นแบบนี้แล้ว ก็ถือว่าโดนกรรมสนองแล้ว ทำไมจะต้องตามหากันอีก ?” ลุงเฉินพูดด้วยอารมณ์ที่กระแทก
พูดยากมาก หากพูดอีกสักหน่อย ก็น่าจะต้องมีการทะเลาะกันขึ้นมา นี่คือคุณตา รักลูกชายอย่างมากที่สุด ต่อให้รู้ว่าลูกชายตัวเองทำอะไรผิดไป
“ลุงเฉิน ฟังฉันพูดก่อน พวกเรามาจากเมือง A ตอนนี้มีคดีหนึ่งอยากให้ลูกของคุณเป็นพยาน แต่ตอนที่พวกเรามาหาเขา เขากลับหายตัวไป พวกเราหาที่อยู่ของพวกคุณ ก็เลยอยากจะมาที่นี่ ดูว่าจะหาลูกของคุณเจอไหม แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้”
***
ลุงเฉินมองหยินปู้ฝันและกู้ฮอนหลายที “ไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้ ทำไมเมื่อวานไม่บอกฉันล่ะ คุณคิดว่าหลอกพวกเรามันมีประโยชน์หรือ ? เสียดายที่คิดว่าพวกคุณคือคนที่ดี สุดท้ายก็เหมือนกับคนที่ไม่สู้อะไรเหมือนกับลูกชายฉันนั่นแหละ ชอบหลอกคนอื่น พวกคุณไปเถอะ ฉันไม่อยากจะเห็นพวกคุณแล้วล่ะ”
“ลุงเฉิน วันนี้ที่มาเพื่อมาขอโทษ อีกอย่าง จะไม่ปิดบังเลย ฉันเป็นคนที่ถูกทำร้าย เหมือนกับลูกชายของคุณที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่สามารถจัดการให้มันดีได้ เลยยังไม่อยากที่จะแสดงสถานภาพที่แท้จริงออกมา