บทที่ 983 ลำดับต่อไปทำยังไง
สองผู้เฒ่าก็พูดอะไรมากไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ชีวิตความเป็นอยู่ของบ้านพวกเขาก็จะต้องดีขึ้นตามลำดับ หลังจากนั้นเรื่องของซื้อบ้าน นอกจากนี้แล้ว ลูกชายของพวกเขาบอกว่าได้เลื่อนขั้น ตัวเองก็ต้องติดตามไปด้วย หลังจากนั้นก็ไม่ได้เห็นเขาอีกเลยครึ่งปีหลังที่ผ่านมา รอจนถึงเห็นลูกอีกครั้งหนึ่ง เขาก็รักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว
***
เสี่ยวเฉินรักษาตัวที่โรงพยาบาล ข่าวนี้ไม่ว่าจะเป็นหยินปู้ฝันหรือกู้ฮอน ทำให้พวกเขาทั้งหมดรู้สึกตกใจอย่างมาก
ห่างกันไม่กี่วันก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา เดิมทีคิดว่าเจอเสี่ยวเฉินแล้วจะมีเรื่องที่ดี แต่กลับเป็นผลแบบนี้
“ลุงเฉิน ลูกชายของคุณคงไม่ได้เจ็บหนักนะ” หยินปู้ฝันอดถามไม่ได้
“หากไม่เจ็บหนัก ก็ไม่ต้องขายบ้านหรอก ตอนนี้สะลึมสะลืออยู่ที่ห้องผู้ป่วยหนัก หมอพูดว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมาก และไม่อาจจะรับประกันได้ว่าเขาจะฟื้นขึ้นมา……”คุณตาพูดแบบนี้น้ำตาแทบจะร่วงหล่น
“พวกเราไปทำกรรมอะไรไว้นะ แก่มาก็ต้องมาเป็นห่วงลูกหลานตัวเอง ตอนนี้กลับกลายเป็นแบบนี้ไปอีก……” ภรรยาเฒ่าพูดออกมาก็เอามือเช็ดน้ำตาตัวเอง
พอเห็นสภาพเช่นนี้ ทำให้หยินปู้ฝันและกู้ฮอนไม่รู้ทำยังไงดี แต่พวกเขาเจอกับปัญหาแบบนี้ ก็คือเสี่ยวเฉินกลายเป็นคนสะลึมสะลือแล้ว พยานสำคัญก็ไม่มีแล้ว
แล้วต่อไปนี้ การที่จะช่วยตระกูลเป่หมิงก็เหมือนจะริบหรี่ไป
พอออกจากครอบครัวเหล่าลี่ ตลอดบนถนนหยินปู้ฝันกับกู้ฮอนก็ไม่ได้พูดอะไรเลย
“คุณชายหยิน ขอโทษด้วยจริง ๆ ฉันไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ หากพวกคุณชอบบ้านนี้ ก็ถือว่าช่วยเหลือสองผู้เฒ่าได้อย่างดีทีเดียว หากไม่ได้ชอบแล้ว ก็ไม่มีอะไร”
เสี่ยวหวังหวังว่าหยินปู้ฝันพวกเขาจะซื้อห้องนี้ แต่ก็ไม่ได้บังคับอะไร
“เสี่ยวหวัง เรื่องนี้ให้พวกเราไปคิดก่อนนะ เรื่องวันนี้รบกวนคุณแล้ว ดึกขนาดนี้คุณยังไม่เลิกงานเลย พวกเราไปทานอาหารที่นั่นกันเถอะ” กู้ฮอนพูด
“ไม่แล้วล่ะ ขอบคุณพวกคุณ ฉันจะกลับไปก่อน” เสี่ยวหวังพูดเสร็จก็ออกไป
ก็เหลือเพียงแค่หยินปู้ฝันและกู้ฮอนยืนอยู่ตรงหน้าประตู ชุมชนหย่วนหยาง
พวกเขามองตากัน “เสี่ยวเฉินที่สะลึมสะลือแบบนี้จะเกิดเรื่องอะไรไหม ? ” หยินปู้ฝันอยากจะฟังความคิดเห็นของกู้ฮอน
กู้ฮอนก็คิดและมั่นใจอย่างชัดเจน “ฉันดูแล้ว แน่นอนว่าจะต้องเป็น ผู้อำนวยการโกวทำอะไรแน่ ๆ เรื่องนี้ถึงแม้ทำให้ดูไม่ใหญ่ คาดว่าเขาน่าจะหาเรื่องใหม่มาแทนเรื่องเก่าแน่นอนเล”
หยินปู้ฝันพยักหน้า “ฉันก็คิดแบบนี้ แต่เรื่องแบบนี้เสียดายที่อยู่ดีดีก็มาสัมพันธ์ถึงสองผู้เฒ่านี้”
“แล้วต่อไปเราจะทำอย่างไรล่ะ ? เส้นทางตรงนี้ตัดขาดแล้ว” กู้ฮอนเหมือนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เธอมีความเสียใจ ทางข้างหน้าจะไปยังไง ยังไม่รู้ทิศทางเลย
“ฉันดูแล้ว เรื่องของเสี่ยวเฉินก็ยังไม่อาจจะละเลยได้ ถึงแม้เขาจะสะลึมสะลือ แต่ก็ยังมีความหวังอยู่บ้าง ในเมื่อพวกเรามาแล้ว ก็ต้องไปหาคนที่อยู่ใกล้ ผู้อำนวยการโกว และหาวิธีอื่น ๆ อีก”
กู้ฮอนพยักหน้า ดูไปแล้วก็น่าจะมีเพียงแต่วิธีเหล่านี้
และในตอนนี้ ไม่ไกลก็มีแสงของรถยนต์ของเบนซ์มาจอดตรงหน้าของพวกเขา
หยินปู้ฝันและกู้ฮอนนึกว่าไปขวางทางเขา ช่วงที่เตรียมตัวจะหลีกทางให้ กระจกรถก็ลดลงมา
กู้ฮอนก็ได้กลิ่นของคนที่อยู่ในรถลอยออกไป แล้วก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยที่สุดของที่สุด “คุณชายหยิน คิดไม่ถึงว่า พวกคุณจะมาที่นี่มาหาฉัน”
***
หยินปู้ฝันและกู้ฮอนได้ยินเสียงนี้ แม้นไม่ต้องพูดคุยกันก็รู้ได้ว่าด้านหลังนั้นมีความรู้สึกเสียววาบอยู่ด้านหลัง
จะลืมได้อย่างไรว่านี่คือหน้าประตูบ้านของช่ายซินซิน และนี้เป็นเวลาที่คนอื่นเขาเลิกงานกันแล้ว
ดูแล้ววันนี้ก็ไม่อาจจะหลบเธอได้อีกแล้ว หยินปู้ฝันก็ได้มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มออกมา และก็ได้โบกมือกับช่ายซินซิน “Hi ฉันเกือบลืมไปว่านี่คือประตูบ้านของคุณน่ะ ฉันกำลังไปทำธุระแล้วผ่านมาพอดี”
ประตูของชุมชนหย่วนหยาง ถนนเล็กเส้นนี้เป็นส่วนบุคคล โดยปกติจะเป็นคนในเขตใช้กันเอง ดังนั้นต่อให้จะจอดรถตามใจตัวเอง ก็จะไม่เกิดเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางแต่อย่างใด
ช่ายซินซินจับพวงมาลัย และอีกมือหนึ่งได้พิงที่ประตูรถ เธอยิ้มแล้วก็มองไปยังสองคน “เมื่อคืนคุณยังขับรถมาส่งฉันที่บ้าน วันนี้ทำไมลืมแล้วล่ะ ? คุณชายหยินเป็นทนายคนหนึ่ง เรื่องแบบนี้คงไม่ลืมหรอกมั้ง ” ขณะที่พูด เธอได้ใช้มือชี้ไปยังหัวของตัวเอง
“คุณช่ายน่าตลกเสียจริง เพียงแต่เมื่อคืนไม่ได้มีความจำดีเหมือนตอนกลางวัน โดยเฉพาะเวลาทำงาน ขอให้คุณอภัยด้วยเถอะ พวกเรามาที่นี่คือเป็นทางผ่านจริง ๆ ” หยินปู้ฝันยังคงอธิบายอย่างสุดกำลัง
“เอาล่ะ คุณจะมีความหมายหรือไม่มีก็ตาม ในเมื่อมาแล้ว ทั้งยังให้ฉันมาเจออีก ก็ไปนั่งกันก่อนเถอะ จะอย่างไรก็ตามฉันขอเป็นเจ้าบ้านที่ดีก็แล้วกัน ” ขณะที่พูดสายตาของเธอก็มองไปยังหลังรถ “เชิญทั้งสองขึ้นรถเถอะ”
กู้ฮอนเห็นหยินปู้ฝันไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง และดูคุณช่ายที่มีจิตใจมั่นคงและจริงใจจะให้พวกเขาไปนั่งเป็นแขก ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็อย่าไปทำลายเกียรติที่ให้เลย ก็เหมือนกับสิ่งที่คาดคิดเอาไว้ ในหย่วนหยางกรุ๊ปจะต้องมีคนเกี่ยวข้องกับผู้อำนวยการโกวแน่นอน
เป็นไปได้ว่าช่ายซินซินน่าจะรู้เรื่องในด้านพวกนี้ด้วย ดูจากท่าทางของเธอแล้ว หากเป็นจริงคงจะทำให้โกรธอย่างแน่นอน
คนเป็นผู้หญิง ถึงแม้กู้ฮอนจะรู้จักกับช่ายซินซินไม่มาก แต่ก็รู้ได้ว่าเธอน่าจะเปรียบเสมือนพริกเม็ดเล็กตอนที่ดีกับคุณก็ยังดี แต่ตอนที่ไม่ดีกับคุณความเผ็ดร้อนก็จะยิ่งทวีคูณ
โดยเฉพาะตอนนี้ เกือบจะไม่ได้ข่าวคราวของเสี่ยวหลี่ ทุกครั้งที่จะหาหลักฐาน ก็กลายเป็นความล้ำค่าทั้งสิ้น
“ในเมื่อคุณช่ายเชิญมาขนาดนี้แล้ว พวกเราทำไมไม่เห็นแก่หน้าเธอล่ะ” กู้ฮอนมองไปยังหยินปู้ฝันแล้วพูด หลังจากนั้นก็เปิดประตูรถเข้าไป
หยินปู้ฝันเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ถึงแม้เขาจะไม่สามารถเข้าใจความคิดของกู้ฮอนทั้งหมด แต่เห็นกู้ฮอนเดินเข้าไปข้างในแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นยามเฝ้าประตูหน้าบ้านหรอกนะ
*
บ้านของคุณช่ายอยู่ติดกับกลุ่มรีสอร์ท แต่ไกลจากหินที่นำมาเรียงกันเพื่อประดับสวนไปนิดหนึ่ง
“พวกคุณนั่งเลยนะ ในบ้านฉันยังมีความวุ่นวายอยู่ อย่าแคร์เลย” ช่ายซินซินขณะที่พูดก็ได้เปิดประตูบ้าน หลังจากนั้นเดินเข้าไป แล้วก็เอากุญแจวางไปบนชั้นวางรองเท้า
หยินปู้ฝันและกู้ฮอนเดินเข้ามา
“พวกคุณไม่ต้องเปลี่ยนรองเท้านะ เข้ามาเลย” ถึงแม้จะมีแขกมา แต่เธอก็ยังคงมีความสบาย ๆ อยู่ ได้โยนกระเป๋าไปบนโซฟาและก็เดินไปที่ตู้เย็น “พวกคุณอยากจะดื่มอะไร ฉันไม่กล้าพูดได้ว่ามีทุกอย่างนะ แต่ที่ที่ห้องมีที่นี่ฉันก็มีหมด”
***
ในเมื่อเจ้าบ้านบอกไม่ต้องเกรงใจ ก็ไม่ต้องเกรงใจแล้ว หยินปู้ฝันได้มานั่งที่โซฟา “งั้นก็เอาชาเย็นมาให้สองแก้วแล้วกัน” ขณะที่พูด ด้านหลังของเขาก็ได้ดึงกู้ฮอนมานั่งบนโซฟา
ช่ายซินซินได้ถือน้ำกระป๋องมาไว้บนโต๊ะน้ำชา “พวกคุณดื่มก่อน ฉันจะไปอาบน้ำ” ขณะที่พูดเธอก็ได้เดินไปยังห้องนอน ด้านหนึ่งเดินไป อีกด้านหนึ่งก็ได้มัดผมตัวเอง
ไม่นานก็ได้ยินเสียงออกมาจากข้างใน “ซู่ ๆ ” เสียงน้ำออกมา
หยินปู้ฝันก็ได้มองกู้ฮอนด้วยสายตาที่อึดอัด ไม่คิดเลยว่าช่ายซินซินจะเป็นคนที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ในบ้านมีคนที่เจอกันไม่กี่ครั้ง และเป็นคนที่แปลกหน้าที่ไม่เคยคุ้นเคยกัน แต่ตัวเองกลับไปอาบน้ำ
หรือว่าไม่กลัวระหว่างการทำอะไรจะเกิดเรื่องขึ้น
“เมื่อคืน ตอนที่พวกคุณมาที่นี่ เธอไม่ใช่ทำกับคุณแบบนี้หรือ? ” กู้ฮอนมีความสงสัยและถามหยินปู้ฝันไป
หยินปู้ฝันขมวดคิ้วแล้วคิด “เหมือนว่าจะไม่มีนะ ฉันส่งเธอกลับบ้านก็ออกมาเลย และไม่กล้าที่จะอยู่นาน”
กู้ฮอนเม้มปาก แล้วก็มีใบหน้าที่ยิ้มและเสียดสี “ฉันก็ว่าแบบนั้น หากเมื่อคืนเธอทำแบบนี้ ฉันคาดว่าต่อให้ใจคุณไปแล้ว แต่ร่างกายคงไม่ยอม”
พอพูดเสร็จพวกเขาก็เริ่มมองไปรอบ ๆ อย่างไม่ได้นัดหมาย
ห้องรับรองที่พวกเขาอยู่ก็น่าจะประมาณสามสิบตารางเมตร แต่กลับมีการตกแต่งที่ง่าย ๆ แสนธรรมดา ที่ที่พวกเขานั่งก็คือโซฟาธรรมดา
และโต๊ะชาที่ถูกโซฟาล้อมรอบ ด้านหน้าประดับด้วยทีวีห้าสิบห้านิ้ว ผนังก็เต็มไปด้วยผลงานทางศิลปะ ถึงแม้รูปภาพจะดูไปแล้วมีความสับสนไม่เป็นระเบียบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ไม่รู้สึกไม่สบายใจ
ทางเดินที่จากห้องรับแขกไปยังห้องครัว ก็คือทางเดินที่ช่ายซินซินเดินไป ตรงนั้นน่าจะเป็นห้องนอนและห้องอาบน้ำ
นี่ก็คือการแบกเขตระหว่างห้องรับแขกกับห้องนอนแยกออกจากกัน กลายเป็นสองส่วน ทำให้มาการแบ่งส่วนมีความชัดเจน
ไม่คิดว่า ห้องที่ช่ายซินซินกับห้องที่พวกเขาอยู่ ไม่อาจจะสัมพันธ์กันได้เลย ถ้าหากเป็นห้องที่วุ่นวาย และยังมีขวดเหล้าหรือบาร์เล็ก ๆ เสริมเข้าไป ก็คงจะเหมาะกับความเป็นตัวของตัวเธอ
หลังจากนั้นยี่สิบนาที เสียงจากห้องน้ำก็หยุดลง ผ่านไปอีกไม่ถึงห้านาที เธอก็ได้ออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูสีขาว
“ขอโทษทีให้พวกคุณรอนานแล้ว ” เธอพูดไปแล้วก็มองไปยังทีวีที่ปิดอยู่ “ทำไมไม่เปิดทีวีล่ะ” เธอเดินไปยังโต๊ะชา ก้มเอวลงเอารีโมท
ตอนที่เธอก้มเลวลง ต่อให้กู้ฮอนเห็นก็ยังรู้สึกหน้าแดง ๆ พวกเขาก็ได้หันหัวไปทางอื่นอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
แต่ ช่ายซินซินกลับไม่รู้สึกถึงความไม่ถูกต้อง เธอได้เปิดทีวีไปช่องหนึ่ง หลังจากนั้นเอารีโมทวางไว้บนโต๊ะชา “อย่าว่าฉันอะไร อยากดูอะไรก็ดูไป”
เธอก็ได้นั่งลงข้าง ๆ หยินปู้ฝันและกู้ฮอน ได้ขยับแท่นเขี่ยบุหรี่ หลังจากนั้นก็ได้เอาบุหรี่ออกมาไว้ที่ปากตัวเอง แล้วก็มองไปยังใบหน้าของหยินปู้ฝัน “สักม้วนไหม ?”
***
หยินปู้ฝันยิ้มแล้วก็ส่ายหัว