เดิมพันรักยัยตัวแสบ – เดิมพันรักยัยตัวแสบ – บทที่ 1015 หมากสองตัว

เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 1015 หมากสองตัว

บทที่ 1015 หมากสองตัว

“ผู้อำนวยการโกว เรื่องก็เกิดขึ้นมาแล้วจะกลัวอะไรแถมนะเรื่องของบริษัทเป่หมิงก็พึ่งจะจัดการไปวันนี้เองแล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ คุณสบายใจเถอะผมยังยืนยันคำเดิมถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผมจะช่วยคุณเอง ขอแค่ให้คุณจัดการให้พวกเราได้ไปก็พอ”

หลังจากที่ถังเทียนจื๋อพูดปลอบใจไปไม่กี่คำ ผู้อำนวยการโกวก็ผ่อนคลายลงมาก

หลังจากฟังไปนานมากเป่หมิงยี่เฟิงก็พึ่งจะเข้าใจ จากนั้นเขาก็มองไปที่ผู้อำนวยการโกว และถังเทียนจื๋ออย่างไม่น่าเชื่อ “ที่แท้พวกคุณก็รู้จักกัน”

ถังเทียนจื๋อพยักหน้า “ใช่ พวกเรารู้จักกันทำไมรู้สึกแปลกใจมากหรอ”

เขาอดยอมรับไม่ได้ เขารู้สึกแปลกใจมากจริงๆ หลังจากที่เงียบไปนาน เขาก็วิเคราะห์บทสนทนาระหว่างผู้อำนวยการโกว และถังเทียนจื๋อได้

หลังจากที่คิดตริตรองแล้ว เขาก็อดเกินความคิดที่ทำให้เหงื่อตกเล็กน้อยไม่ได้ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย และจากนั้นเขาก็พูดกับถังเทียนจื๋อด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ “โครงการสัญญานั้นคุณเป็นคนอยู่เบื้องหลังจึงทำให้ผมได้มาหรอ”

“ใช่ เป็นผมเองท่านประธานเป่หมิง คุณสมควรได้รับตำแหน่งนี้จริงๆ แค่ระยะเวลาสั้นๆแค่นี้ คุณก็สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว คุณจะยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นทำไม ที่คุณได้เป็นท่านประธานในตอนนี้ก็ถือว่าผู้อำนวยการโกวช่วยคุณด้วยเหมือนกัน แถมเรื่องแผนงานนั้นก็เป็นเขาช่วยด้วย คุณยังไม่รีบมาชนแก้วกับเขาอีก” ตอนนี้ถังเทียนจื๋อถือว่าตัวเองเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังของเป่หมิงยี่เฟิงทั้งหมด

และในตอนนี้เขาก็ไม่ได้เหมือนคนที่อยู่ในตระกูลเป่หมิงเลย เขาแกล้งเป็นผู้ช่วยและผู้รับฟังที่ดี

ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการโกว หรือเป่หมิงยี่เฟิง ต่างก็เป็นคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าเขาทั้งนั้น แต่สำหรับในวิลล่านี้พอปิดประตู แล้วตัดออกจากโลกภายนอก คนที่อยู่ในตำแหน่งต่ำที่สุดกลับกลายเป็นคนที่อยู่สูงที่สุด

ทุกประโยคที่เขาพูด ผู้อำนวยการโกว หรือว่าท่านประธานก็ต้องฟังเขาทั้งนั้น

แม้ว่าเป่หมิงยี่เฟิงจะรู้สึกโกรธหลังจากที่ได้รู้ความจริง แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาต่อหน้าผู้อำนวยการโกว

เขาทำได้แค่หันหลังเดินกลับไปที่บาร์ในห้องรับแขก จากนั้นก็นำแก้วออกมา และเทเหล้าให้ตัวเองจนเต็ม “ผู้อำนวยการโกวขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือของคุณ สำหรับเรื่องที่ผมเข้ามาในบริษัทเป่หมิง และดำรงตำแหน่งผมพูดได้แค่คำว่าขอโทษ แต่ผมอยากให้คุณสบายใจ ผมจะใช้การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และคุณภาพสูงออกมาเพื่อเป็นการขอบคุณคุณ แม้ว่าตอนนี้คนอาจจะสงสัยพวกเรา แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นผลงานแล้ว พวกเขาจะต้องเชื่อมั่นในทันที”

“แปะแปะ…” เสียงปรบมือดังขึ้นมาทันที

“พูดดี ผมชอบคนวัยรุ่นที่มีความซื่อตรงอย่างคุณ ไหนๆคุณก็พูดขนาดนี้แล้วงั้นผมจะเชื่อคุณ และผมก็หวังว่าคุณจะสามารถทำให้ทุกคนที่สงสัยอยู่คล้อยตามพวกเราได้ เหล้าแก้วนี้ผมจะชนกับคุณ”

คำพูดของเป่หมิงยี่เฟิงทำให้ผู้อำนวยการโกวประทับใจจริงๆ ก่อนหน้านี้คุณสมบัติ และเงินทุนของบริษัทเป่หมิงนั้นไม่พร้อม แต่ตอนนี้ด้วยการสนับสนุนของตระกูลเป่หมิงทำให้เขาไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

***

เมื่อถังเทียนจื๋อเห็นว่าทั้งสองคนปล่อยวางเรื่องก่อนหน้านี้ไปได้ เรื่องของเขาก็เบาไปอีกเรื่องหนึ่ง

ตอนแรกเขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยแม้ว่าเป่หมิงยี่เฟิงเด็กคนนี้จะอยู่ในกำมือของเขา แต่ก็รับประกันไม่ได้ว่าตอนไหนที่เขาจะแผลงฤทธิ์ออกมา

และเมื่อถึงตอนนั้น เขาก็จะมีปัญหากับผู้อำนวยการโกว

ผู้อำนวยการโกวไม่ใช่คนที่จะออมแรง แม้ว่าต่อหน้าเขาจะดีกับทุกคน แต่ลับหลังถ้าเกิดอะไรขึ้นมามันคงไม่เป็นผลดีต่อเป่หมิงยี่เฟิง

ในตอนนั้นถึงแม้จะหาเหตุผลจากเขา เขาก็จะเตรียมคำตอบในแง่ดีไว้ให้คุณเสมอ ถึงแม้จะบอกว่าไม่เป็นอะไรแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังคงต้องได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย

ถังเทียนจื๋อรู้สึกดีใจมาก เขายกแก้วของตัวเองขึ้นมา “ตอนนี้ทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว มีสุขร่วมเสพ มีเงินก็แบ่งกัน แน่นอนว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นผมจะช่วยพวกคุณเอง ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เรามีผลประโยชน์ร่วมกัน ชนแก้ว”

*

บนถนนอันเงียบสงัด และอุณหภูมิที่ค่อยๆเย็นลงใบหน้าที่ปลื้มปิติยินดี ก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที

เป่หมิงยี่เฟิงขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านของตัวเอง

“นี่ ในวิลล่าผมเห็นคุณยังดีใจอยู่เลยไม่ใช่หรอ ทำไมพอออกมาแล้วถึงได้ทำหน้าเกลียดชังแบบนี้ หรือว่าหน้านี้เป็นหน้าที่คุณต้องการให้ผมเห็นหรอ” ถังเทียนจื๋อนั่งเอนอยู่ที่เบาะหลังพูดขึ้น

วันนี้เขาดื่มเหล้าไป ทำให้ใบหน้าแดงไปทั้งหน้า และเมาถึงขนาดที่พูดแทบจะไม่รู้เรื่อง

ตอนแรกผู้อำนวยการโกวจะให้เขาอยู่พักที่วิลล่าสักคืน แต่เขายืนยันว่าจะกลับบ้าน เพียงแต่ว่าเขาไม่สามารถขับรถได้ ดังนั้นเข้าจึงนั่งรถมากับเป่หมิงยี่เฟิง

ถึงแม้ว่าเขาจะเมาแล้ว แต่ว่าสติเขายังดีอยู่ ตั้งแต่ขึ้นรถมาเขาไม่ได้ยินเป่หมิงยี่เฟิงพูดอะไรออกมาเลย แถมใบหน้าของเขาที่เขาแอบมองผ่านกระจกมองหลังก็เห็นว่ากำลังทำหน้าเครียดเขม็งอยู่ ไม่รู้ว่าเขาทำหน้าอย่างนั้นใส่ใครกัน

“ผมจะกล้าทำหน้าอย่างนี้ใส่คุณได้อย่างไรกัน คุณเก่งขนาดนี้ มีอำนาจขนาดนี้ ขนาดผู้อำนวยการโกวยังต้องก้มหัวให้คุณ เมื่อก่อนผมคิดว่าคุณกับอาจารย์คนนั้นมีเงินอยู่ในมือ และเกลียดคุณอาสองของผม จึงออกเงินเพื่อช่วยผม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว ถ้าพวกคุณใช้ความสัมพันธ์นั้นตั้งแต่แรกล่ะก็ คงไม่จำเป็นต้องเลือกให้ผมขึ้นมานั่งตำแหน่งนี้

เรื่องนี้ทำให้เป่หมิงยี่เฟิงสับสนจริงๆ

“ท่านประทานเป่หมิงคุณฉลาดจริงๆ แต่ดูจะสับสนอยู่นะ พวกเรานอกจากจะมีเงินแล้วยังมีอำนาจ แต่ถ้าเราใช้ประโยชน์พวกนี้มาต่อสู้กับเป่หมิงโม่ ก็ดูจะเป็นการดูถูกเขาเกินไป พวกเรารู้ดีว่าคุณกับเป่หมิงโม่มีปัญหากัน และเขาก็มีปัญหากับทุกคนในตระกูลเป่หมิง ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อนของผม ดังนั้นพวกเราจึงใช้คุณเป็นเครื่องมือจู่โจมเป่หมิงโม่”

เป่หมิงยี่เฟิงยิ้มอย่างขมขื่น “ใช่ ผมเป็นเครื่องมือในการโจมตีอาสองจริงๆ ผมว่าเครื่องมือของพวกคุณไม่ใช่มีแค่ผมเพียงคนเดียว ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ ผู้อำนวยการโกวก็เป็นเครื่องมือของพวกคุณด้วยเหมือนกัน”

ถังเทียนจื๋อพยักหน้า “ท่านประธานเป่หมิง คุณเป็นคนที่แค่พูดนิดเดียวก็เข้าใจจริงๆ ใช่แล้วเขาก็เป็น แต่เขาพึ่งแสดงประสิทธิภาพของตนเองให้เราเห็นเมื่อไม่นานมานี้เท่านั้น พวกเราใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงหมากรุกตัวนี้เป็นเวลานาน แต่ก็ยังดีที่สุดท้ายแล้วเขาไม่ทำให้เราผิดหวัง สุดท้ายแล้วเขาก็แสดงประสิทธิภาพออกมาไม่เลวเลยทีเดียว”

***

เป่หมิงยี่เฟิงกวาดสายตามองไปที่ถังเทียนจื๋อ ที่นั่งอยู่ข้างหลังแปบนึง อาจเป็นเพราะความเข้มของไวน์ที่ค่อยๆเพิ่มดีกรีขึ้นอีกครั้ง ทำให้คราวนี้เขาสลบไปบนเบาะอย่างสมบูรณ์

จริงๆแล้ววันนี้เขาดื่มไวน์ไม่มากนัก

กล่าวอีกนัยนึงคือ เพราะว่าเขามีเรื่องในใจมากมาย ดังนั้นจึงไม่ดื่มมากเกินไป นอกจากว่าต้องดื่มเพื่อแสดงความเคารพผู้อำนวยการโกว และถังเทียนจื๋อด้วยไวน์เพียงสองแก้วเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ดื่มอีก

แต่สำหรับพวกเขาทั้งสองคนแล้วคงถือว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดี จึงไม่เพียงแค่ดื่มไวน์แดงสามขวด แต่ยังกินเหล้าที่เขานำไปอีกหนึ่งขวดจนหมด

เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าสองคนนี้จะคอแข็งขนาดนี้ โดยเฉพาะถังเทียนจื๋อ เขาเป็นจุดสนใจในวันนี้เพราะเขาเป็นเจ้านายของทุกคน

เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ เขาไม่สามารถปฏิเสธเหล้าที่ผู้อำนวยการโกวเทมาให้ได้ จนถึงขนาดพูดได้ว่ามาแล้วห้ามปฏิเสธ

ทันใดนั้นเป่หมิงยี่เฟิงก็คิดถึงเหตุการณ์บนโต๊ะเหล้าได้ว่า ถังเทียนจื๋อพูดกับผู้อำนวยการโกวว่าอย่างไร เขาเป็นหมากอีกตัวหนึ่งแถมยังเป็นหมากที่มีประสิทธิภาพในตอนสุดท้ายอีก สำหรับคนที่ถูกวางให้เป็นหมากแล้วไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการโกว หรือว่าตัวเขาเอง ก็ต่างรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เพราะเป็นหมากก็ต้องโดนคนอื่นควบคุมอยู่ในมือทั้งนั้น

แต่ถังเทียนจื๋อนั้นมีอำนาจมากจริงๆ เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกล้ำกลืน

“คุณถังคิดไม่ถึงจริงๆว่าผู้อำนวยการโกวจะยอมก้มหัวให้คุณ”

ถังเทียนจื๋อนอนอยู่ แต่ด้วยปัญหาความสูงของร่างกาย ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขานั่งโดยที่ตัวยังคงพิงอยู่บนเก้าอี้ และขาก็อยู่ข้างล่าง

เขาไม่ได้ลืมตาขึ้นแต่เพียงแค่ก็ยิ้มน้อยๆ “แน่นอนอยู่แล้ว เพราะการที่เขาอยู่ได้มาถึงจุดนี้ก็เป็นเพราะว่านายของผม หากไม่มีเขาคนนั้น ตอนนี้เขาก็คงเป็นได้แค่คนที่คอยรินชาให้คนอื่นเท่านั้น”

เป่หมิงยี่เฟิงที่ขับรถอยู่พยักหน้าลง “ดูเหมือนว่าเขาจะจำเป็นต้องตอบแทนบุญคุณของคุณ แต่ผมสงสัยนิดหน่อยว่าช่วงนี้เขาจะต้องทำเรื่องหนึ่งให้คุณ แล้วเรื่องนั้นคือเรื่องอะไรหรอ”

เมื่อคำถามถามมาถึงจุดนี้ ถังเทียนจื๋อจากที่เมาๆอยู่ก็ลืมตาขึ้นมา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก

การกระทำนี้ทำให้เป่หมิงยี่เฟิงอดตกใจไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีปฏิกิริยากลับมาอย่างนี้

ถังเทียนจื๋อลุกขึ้นมานั่งแล้วใช้มือกุมขมับของตนเองทั้งสองข้าง “เรื่องนี้คุณไม่รู้จะดีกว่า แต่ผมจะบอกคุณนิดหน่อยก็แล้วกันว่าเรื่องนี้ก็มีความเกี่ยวข้องกับคุณเล็กน้อย”

พูดจบเขาก็ก้มหน้าดูนาฬิกา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาดูนอกหน้าต่าง “เอาล่ะ คุณจอดรถข้างหน้านั่นหน่อย”

*

เป่หมิงยี่เฟิงมองดูถังเทียนจื๋อที่ลงจากรถ เขาสอดมือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋า แล้วเดินไปในทิศตรงข้ามกับรถท่ามกลางผู้คนมากมาย

พฤติกรรมของเขาเมื่อสักครู่่ดูผิดปกติจริงๆ เมื่อพูดถึงว่าผู้อำนวยการโกวช่วยเขาทำอะไรบางอย่าง เขาก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่มีปฏิกิริยาอย่างนี้

ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องอะไรกัน เขากำลังปิดบังอะไรอยู่

*

“เฮ่ นั่นไม่ใช่ถังเทียนจื๋อหรอ”

กู้ฮอนพึ่งจะซื้อโอเด้งจากร้านสะดวกซื้อข้างถนน วันนี้เธอมีเรื่องในใจจึงกินอะไรไม่ได้มากนัก และหลังจากที่คุยกับหยินปู้ฝันในร้านกาแฟเสร็จ เธอจึงรู้สึกหิวขึ้นมา

ในตอนที่เธอกำลังจะเริ่มกินนั้น เธอก็เห็นรถคันหนึ่งที่อยู่ห่างจากรถของเธอไปสองคันรถจอดลง และคนที่ลงมาจากรถคันนั้นก็คือ ถังเทียนจื๋อ

***

สำหรับถังเทียนจื๋อแล้วกู้ฮอนไม่มีทางจำผิดแน่ และเธอก็เห็นว่าวันนี้เขาเดินได้อย่างไม่มั่นคงนัก และดูเหมือนว่าเขาจะเมา

เมื่อเห็นเขาเดินมุ่งหน้ามาทางทิศของตน เธอที่ไม่อยากเผยตัวตนจึงปิดกล่องโอเด้งไว้ แล้วยกขึ้นมาบังหน้าของตัวเองด้านหนึ่ง

ถังเทียนจื๋อในตอนนี้ไม่ได้ให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมรอบข้าง เขาเดินไปเรื่อยๆ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ถึงแม้ว่าเธอจะเอาอะไรมาบังหน้า ก็คงจะไม่สามารถบังทะเบียนรถของตัวเองได้

ถังเทียนจื๋อจำป้ายทะเบียนรถของเธอได้ดี

ไม่เพียงแค่นั้น กู้ฮอนยังสังเกตได้ว่า รถที่ถังเทียนจื๋อลงมานั้นเป็นรถของเป่หมิงยี่เฟิง แต่ไม่รู้ว่าเป่หมิงยี่เฟิงจะสังเกตุเห็นเธอมั้ย

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

Status: Ongoing

เธอเป็นหญิงสาวที่มีความลำบาก ตกลงเป็นแม่อุ้มบุญ เขาเป็น ประธานใหญ่ เธออ่อนโยนและน่ารัก เขาโหดร้ายและเย็นชา.

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท