บทที่ 1063 ราศีคนคู่
เป่หมิงโม่มองไปยังผู้หญิงที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่ถึงเอื้อมมือ ท่าทีแบบนี้เย้ายวนใจเกินไปสำหรับเขาจริงๆ
สิ่งนี้ทำให้หัวใจที่เดิมทีของเขาที่เยือกเย็นอยู่แต่เดิมเปลี่ยนเป็นความเดือดพล่านขึ้นมา
อันที่จริงตอนที่เขาเพิ่งตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นท่าทางของกู้ฮอน ร่างกายก็เริ่มที่จะเร่าร้อนขึ้นมา
แต่เขารู้ ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาทำอะไรแบบนี้กับเธอ ดังนั้นจึงแค่สวมชุดคลุมอาบน้ำและเดินออกไปด้านนอกเท่านั้น
เขาต้องการอากาศเย็นข้างนอกเพื่อให้ตนเองรู้สึกเย็นลงอย่างรวดเร็ว
กว่าอุณหภูมิจะลดลง แต่ไม่คิดเลยว่าเธอในครั้งนี้จะดีกว่าก่อนหน้า กำลังของจิตใจได้รับบททดสอบที่มากกว่าเดิม
เขารู้สึกได้ว่าเส้นเลือดในร่างกายเริ่มจะขยายตัว เลือดที่ไหลอยู่เหมือนกับน้ำที่กำลังท่วม
ตอนนี้ ขอเพียงแค่ล้มตัวลงไป ก็สามารถครอบครองผู้หญิงคนนี้ได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับพวกเขาก็ตาม
แต่ทุกครั้งก็เหมือนกับครั้งแรก
กู้ฮอนเห็นทีจะสับสนเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะยังไม่รู้สึกว่าสถานะของตนเองจะทำให้เธอตกอยู่ใน ‘อันตราย’
เธอไม่ได้ใช้มาตรการใดๆ แค่มองไปที่ชายร่างสูงด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย
หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ลมหายใจไหลผ่านโพรงจมูกอย่างรวดเร็ว
เพียงแค่ หลับตาแน่น
เรื่องแบบนี้ เมื่อวานเธอไม่ได้กังวลอยู่หรือ
เดิมทีก็ยังแอบดีใจที่ตนเองรอดพ้นจาก ‘หายนะ’ แต่คิดไม่ถึงว่า หลีกหนีครั้งนี้ได้ แต่ครั้งหน้าก็อาจจะหลีกหนีไม่ได้อีก
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด……
เมื่อมองไปยังลูกแกะตัวน้อยที่เอนอยู่ด้านบนพร้อมที่จะถูกตนเองเชือด เป่หมิงโม่ก็ใจร้อนขึ้นมาชั่ววูบหนึ่ง
เขาเข้ามาใกล้ทีละก้าวอย่างช้าๆ
กู้ฮอนกัดฟันแน่นในความมืด และฟังเสียงฝีเท้าหนักๆที่ค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้ตนเอง
ตื่นเต้น กลัว……แต่บางทีก็อาจจะผสมกับความปรารถนาเล็กน้อย
ความปรารถนา มีความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาได้อย่างไร
เมื่อต้องเผชิญกับเขาควรจะมีแค่สองความรู้สึกแรกถึงจะถูก ทำไมครั้งนี้ถึงได้มีความรู้สึกอย่างอื่นเข้ามาด้วย หรือตนเองจะ……เขา
กู้ฮอนเริ่มไม่กล้าคิดต่อ เธอกลัวว่าถ้าเสาะหาลงไปอีก ก็อาจจะเป็นการชำแหละ กล่องแพนดอร่าที่อยู่ลึกภายในใจ
***
ลึกลงไปในหัวใจของกู้ฮอน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีกล่องแพนดอร่าซ่อนอยู่
กล่องแพนดอร่าในตำนาน เพียงแค่เปิดก็จะปล่อยสิ่งที่น่ากลัวออกมา
เธอไม่กล้าไปแตะกล่องนั้น และถึงกับไม่กล้าจะเชื่อว่าตนเองจะมีกล่องแบบนี้อยู่
ใกล้เข้ามาแล้ว เขาใกล้เข้ามาแล้วจริงๆ……
กู้ฮอนรู้สึกได้ว่าด้านทั้งสองของเตียงที่อยู่ข้างกายตนเองเริ่มที่จะยุบลง
และดูเหมือนรู้สึกว่าไฟที่เร่าร้อนกำลังใกล้ตนเองเข้ามา
ไม่สิ ไม่ใช่ไฟที่เร่าร้อน แต่เป็นไฟอันร้อนแรงและน้ำแข็งก้อนใส……
วัตถุสุดขั้วทั้งสองชนิดนี้ได้สลายตัวอยู่ที่ผู้ชายที่ค่อยๆเข้ามาใกล้เธอ
หายใจถี่ ร่างกายของเธอดูเหมือนจะเริ่มร้อนขึ้นมา ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เธอตื่นตระหนกจริงๆ
เป่หมิงโม่มองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เธอดูกังวลจริงๆ ดูเหมือนรู้สึกกังวลกว่าครั้งอื่นๆ
ภายใต้เปลือกตาอันขาวผ่องสามารถมองเห็นดวงตาทั้งคู่ที่กลอกไปมา ภายใต้จมูกโด่งและงดงาม สามารถได้ยินถึงเสียงของการไหลเวียนของอากาศที่รวดเร็ว
นอกจากนี้ แม้ว่ามองทั้งสองของเขายังไม่ได้สัมผัสกับผิวกายของเธอ แต่ก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของเธอกำลังค่อยๆสั่นเทา
เธอกำลังกลัวหรือ
ถึงแม้ว่าจะไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนรู้ว่าภายในใจของเธอมีความกลัวอยู่เล็กน้อย
เขาเริ่มลังเลที่จะจากเธอออกไป แค่คิดก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ถ่ายทอดออกมาจากตัวเธอ เมื่อมองไปที่รูปร่างของเธอ และ……
เธอมีหลายสิ่งที่มีค่าแก่ความอาลัยอาวรณ์ของตนเอง
แต่ เวลาที่ประจวบเหมาะอย่างนี้ ที่ไหล่ของเขาได้ปรากฏรัศมีวงหนึ่ง และมีปีกสีขาวบริสุทธิ์อยู่กับตนเองคู่หนึ่ง
เขาลังเลอยู่เล็กน้อยและพูดว่า “คุณอยากจะกระทำต่อผู้หญิงที่ปฏิบัติต่อคุณมากมายขนาดนี้จริงหรือ” ลองนึกให้ดีถึงตอนที่คุณสูญเสียอิสระ เธอมาเยี่ยมคุณแทบทุกวัน เธอเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง ไม่ควรจะกระทำต่อเธอแบบนี้”
“เฮ้ นายจะไปรู้อะไร” ในตอนนี้ อีกด้านหนึ่งของเขา หลังจากควันสีดำหายไป ก็ปรากฏศีรษะหนึ่งที่มีเขาสีแดงอยู่สองข้าง ในมือของตนเองถือเหล็กสามง่ามเอาไว้ด้ามหนึ่ง
เขาชำเลืองมองกู้ฮอน ในสายตาปรากฏรัศมีของความโหดร้าย “คุณยังจะรออะไรอยู่ คุณเคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคนนี้มาไม่น้อย ทำไมครั้งนี้ถึงได้ขี้ขลาดขึ้นมาล่ะ พวกเราทั้งสองก็อยู่ด้วยกันมานานมากที่สุดแล้ว ในใจของนายเป็นอย่างไร แต่ฉันรู้ดีที่สุด อย่าไปฝืนความเป็นตัวเอง รีบกระโจนกินเธอซะ……” พูดจบ เขาอ้าปาก เขี้ยวทั้งสองที่เหมือนแวมไพร์ก็เปล่งประกายแสง
มันก็เหมือนดาบคมสองเล่ม รอให้เขาฟันลงไป……
“เป่หมิงโม่ คุณทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว หรือว่าคุณยังไม่เห็นว่าตัวเองได้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว คุณยังอยากกลับไปเป็นเหมือนคนก่อนหน้านั้นที่ใครเห็นก็ต้องกลัวอีกหรือ ความรู้สึกที่มีคนมาคอยเอาใจใส่จะไม่ทำให้คุณใจเต้นบ้างเลยหรือ ความใกล้ชิดของเด็กๆที่มีต่อคุณ ความรักและเมตตาของผู้เป็นแม่ อีกอย่างผู้หญิงคนนี้ที่ใส่ใจต่อคุณสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่การไขว่คว้าทั้งหมดของคุณ อย่าทำอะไรซ้ำรอยเดิมอีกเลย ไม่อย่างนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่ยากจะครอบครองในตอนนี้ก็อาจจะหายไปทั้งหมด
“เป่หมิงโม่! อย่าไปฟังเขานะ เขาเป็นคนขี้ขลาด มีเพียงแค่เงินจะมีอะไรที่เอามาไม่ได้ ผู้หญิงและเด็กที่มีมากมาย แม้ว่าตอนนี้จะหายไปสักเท่าไหร่แล้วจะเป็นอะไรไป อย่ายอมทิ้งป่าทั้งป่าเพื่อต้นไม้เพียงต้นเดียว ใช้อำนาจกดขี่ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีความรักระหว่างหนุ่มสาวแบบนี้ จึงจะสามารถที่จะเอาชนะได้ทุกที่ นายยังต้องการที่จะเอาสิ่งที่อยู่ในมือของถังเทียนจื๋อยึดคืนกลับมาให้ตระกูลเป่หมิง หากต้องการยึดคืนกลับมา ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว รีบกระโจน——ไป!”
***
ขณะนี้เป่หมิงโม่รู้สึกสับสนเล็กน้อย
ความสับสนไม่ใช่สิ่งอื่นใด แต่เป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในใจของตัวเอง
การต่อสู้ระหว่างพวกเขา ทำให้เป่หมิงโม่ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่ยืนแข็งทื่อแบบนี้อยู่ตรงหน้าของกู้ฮอน
กู้ฮอนขมวดคิ้ว เตรียมพร้อมสำหรับพายุฝนที่โหมกระหน่ำมาอย่างรุนแรง
แต่ ลมพัดไปทั่วทั้งอาคารฝนกลับไม่มา
เธอยังคงมีความกังวลและลืมตาขึ้นอย่างหรี่ๆ
“ซือ……”
เธออดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้า เห็นแต่เพียงแค่จมูกของเป่หมิงโม่ที่อยู่ห่างจากตนเองไม่ถึงสิบเซนติเมตร
เขาจะกดลงได้ทุกเมื่อ……
การตกใจนี้ทำให้เธอหลับตาทั้งสองแน่นอีกครั้ง
ผ่านไปอีกห้านาที ในที่สุดเป่หมิงโม่ก็ได้ตัดสินใจ ค่อยๆกดร่างกายลงไป……
*
ในห้องอาหารชั้นล่าง เสียง “ก๊องแก๊งก๊องแก๊ง” ของถ้วยชามดังขึ้นมา
บนใบหน้าของหยางหยางมีผงแป้งเลอะอยู่นิดหน่อย เขาสวมผ้ากันเปื้อนไว้รอบเอว และกำลังโอบจานสเตนเลส มือข้างหนึ่งถือเครื่องตีไข่ที่กำลังผสมส่วนผสมของไข่ไก่และแป้งเข้าด้วยกัน
“เฉิงเฉิง ทางของนายทำเสร็จแล้วยัง ฉันกวนจนมือจะเมื่อยหมดแล้ว”
ไม่ไกลจากเตา เฉิงเฉิงยืนอยู่บนม้านั่งตัวหนึ่ง ในมือของเขาถือกระทะไว้ใบหนึ่ง และนั้นเขาก็เทน้ำมันลงไป จากนั้นบิดเปิดเตา เปลวไฟก็ลุกโชนขึ้นมา
“ยังอีกสักพัก นายอดทนอีกหน่อย แป้งและไข่ไก่ผสมเข้ากันดีแล้วหรือยัง”
หยางหยางขมวดคิ้วและพูดด้วยความรำคาญ “ได้แล้วได้แล้ว เอาส่วนผสมใส่เข้าไปได้แล้ว”
เฉิงเฉิงหันศีรษะไปมอง จากนั้นพูดว่า “จิ่วจิ่ว เธอเอาลูกเกดที่ล้างดีแล้วและวานิลลาใส่เข้าไป”
“โอเค” จิ่วจิ่วใช้มือเล็กๆถือวัตถุดิบที่ล้างแล้วไว้ในมือเล็กๆแล้วเดินไปหาหยางหยาง “พี่หยางหยาง ก้มลงมาหน่อย ฉันเอื้อมไม่ถึง……”
หยางหยางหยุดกวนลง ถือชามแล้วก้มตัว ทำให้จิ่วจิ่วเอาของใส่ส่งไปได้ มองดูข้างในชามที่มีทั้งลูกเกดและแป้งปนเปอยู่ด้วยกัน “อันนี้กินได้ไหม ไม่น่าจะเป็นพิษกับพวกเรานะ”
“เธอนี่ปากเสียพูดอะไรไร้สาระ พิษไม่ได้ฆ่าเธอตาย แต่มันจะทำให้เธออิ่มจนแน่น เอาล่ะ เธอเอาชามมาให้ฉัน” เฉิงเฉิงพูดจบ ก็หรี่ไฟให้เบาที่สุด
เขาหันกลับไปและหยิบชามในมือของหยางหยาง ผสมเข้าด้วยกันสองสามครั้ง “นายทำเหลวเกินไป เอาแป้งมาให้ฉันหน่อย”
“แป้งมาแล้ว……” หยางหยาง เดินมาพร้อมกับแป้งถุงเล็ก
“เดี๋ยว ฉันเอง!”
ขณะที่หยางหยางกำลังเตรียมแป้งทั้งถุงเทเข้าไป ได้ถูกเฉิงเฉิงหยุดรั้งเข้าทันที
เกือบพังแล้วจริงๆ ถ้ามันตกลงไปจริงๆ ความพยายามามทั้งหมดที่ผ่านมาก็สูญเปล่า
เขาหยิบชามเล็กๆใบหนึ่ง ออกมาบางส่วน จากนั้นคนไปพลางเทไปพลาง ในที่สุดหลังจากแป้งเหนียวขึ้นเล็กน้อยก็ได้หยุดลง
ในขณะนี้ น้ำมันในกระทะเริ่มร้อนแล้ว
“หยางหยาง นายพาน้องสาวออกห่างจากฉันหน่อย ระวังน้ำมันกระเด็นโดนพวกเธอ”
“เรื่องนี้นายไม่ต้องบอก พวกเราได้หลบอยู่หลังโต๊ะแล้ว” หยางหยางและจิ่วจิ่วทั้งสองคนหัวเราะชอบใจ พวกเขานั่งอยู่บนม้านั่ง ในจานมีลูกเกดอยู่นิดหน่อย
มือข้างหนึ่งของเฉิงเฉิงถือฝาหม้อเอาไว้ มืออีกข้างหนึ่งก็ถือช้อน ในชามมีแป้งที่ข้นเหนียวอยู่เต็มหนึ่งช้อนโต๊ะ จากนั้นก็ค่อยๆเกลี่ยลงไปในกระทะ
“ฉ่า……” เสียงที่ชัดเจนของน้ำมันในกระทะก็ดังออกมาทันที
ตอนที่น้ำมันยังไม่กระเด็นออกมาเฉิงเฉิงก็ได้เอาฝามาปิดแล้ว
“พวกเธอสองคนนี่จริงๆเลย ฉันทำอาหารอยู่ที่นี่ พวกเธอก็กินของกินอยู่ที่นี่……
“เฮ้เฮ้ อย่ามาพูดว่าพวกเราไม่ได้ทำอะไรเลย ที่ทำสิ่งนี้พวกเราก็มีส่วนร่วมนะ อย่ามาพูดแขวะ มากินกับพวกเราสิ” หยางหยางพูดจบ แล้วหยิบลูกเกดโยนเข้าปาก
***
กู้ฮอนถูกเป่หมิงโม่ควบคุมเอาไว้ไม่ให้ขยับได้
โดยเฉพาะที่เธอรู้สึกได้ชัดเจนว่าถูกเขากดลงมา……
แต่ ลมพายุฝนที่โหมกระหน่ำไม่ได้โจมตีเธอ เพียงแค่แตะเบาๆที่ริมฝีปากของเธอเท่านั้น ราวกับแมลงปอสัมผัสกับน้ำ
บางทีนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเกมเขา
ไม่มีใครรู้ว่าเวลาต่อมาเขาจะทำอะไรต่อ แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน นั่นก็คือเขาไม่มีทางหยุดอยู่แค่นั้น
หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง เธอกลับไม่รู้สึกถึงการกระทำใดๆของเขา แต่ได้ยินแค่เสียง “กรอบแกรบ”
เสียงแบบนี้ฟังแล้วทำให้ร่างของเธออดไม่ได้ที่จะสั่นเทา
“คุณยังจะนอนอยู่ตรงนั้นทำไม อยากจะหลับต่ออีกหรือ”!
เธอลืมตาขึ้นทันที หรือว่าเมื่อกี้นี้จะเป็นภาพลวงตาที่คิดไปเอง การกระทำต่างๆของเป่หมิงโม่เมื่อกี้นี้ล้วนแต่เป็นเจตนาของตัวเองอย่างนั้นหรือ
แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่บนร่างกายของตัวเองจริงๆ ระยะห่างระหว่างของพวกเขาใกล้กันมาก ถึงกับสามารถได้กลิ่นบุหรี่และกลิ่นมินต์ที่อยู่บนตัวเขา
อีกทั้ง เขาได้จูบตัวเองแล้วจริงๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนรู้สึกได้จริงๆทั้งหมด
ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้จะพอแล้วจริงๆ
นี่พูดถึงก็เป็นสิ่งที่ดี อย่างน้อยก็เป็นแบบนี้สำหรับเธอ
ในตอนนี้ เธอจึงพบว่าเสื้อผ้าของตนเองไม่เรียบร้อย
ถูหน้านิดหน่อยก็แดงแล้ว
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้เขาก็ไม่ไหวติง ดูเหมือนเขาจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดจริงๆ
เพียงแต่ ทำไมในสถานการณ์แบบนี้ ตนเองยังคงรู้สึกหดหู่
เหมือนกับตอนที่ถูกเขากักขัง ตนเองก็ยังคงมีความหวังเล็กๆ
เขากำลังเปลี่ยน หรือตนเองกำลังค่อยๆเปลี่ยนด้วย
กู้ฮอนก็ไม่สนใจที่จะคิดเรื่องที่ไม่รู้จักจบสิ้นอีกต่อไป
เธอรีบจัดการเสื้อผ้ากลับให้เรียบร้อยแล้วลุกขึ้นนั่ง