บทที่ 1074 ลึกลับเล็กน้อย
น้องมากที่กู้ฮอนจะเห็นเป่หมิงโม่ในท่าทีเช่นนี้ เขาเป็นผู้กล้าหาญที่ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน
เธอโน้มตัวไปด้วยความสงสัย: “ข้างในเขียนอะไรไว้กันแน่ มองท่าทางของคุณแล้วฉันสงสัยมาก”
หลังเธอดูเนื้อหาเสร็จ อดไม่ได้ที่จะทำท่าทางเช่นเดียวกับเป่หมิงโม่
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังวันคริสต์มาสในลานจอดรถของธนาคารxx ในรถBMWมีชายหนึ่งหญิงหนึ่งนั่งอยู่ในรถ พวกเขาจอดอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน…
***
ทำไมเป่หมิงโม่ถึงคิดไม่ถึง จดหมายโอนหุ้นฉบับนี้เกี่ยวข้องกับบริษัทเป่หมิง
ยิ่งไปกว่านั้นหากสามารถเพิ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องอย่างเป่หมิงเฟยหย่วน จะมีมูลค่ามากกว่า51%ของหุ้นบริษัทเป่หมิง
กล่าวอีกนัย: “เขาหรือคนของตระกูลเป่หมิงสามารถกู้คืนบริษัทเป่หมิงมาโดยไม่ต้องออกแรง
“คิดไม่ถึงว่าพ่อบุญธรรมจะคอยสังเกตคุณ และสังเกตบริษัทเป่หมิง คุณวางแผนว่าจะทำยังไงกับสิ่งนี้?” กู้ฮอนมองเป่หมิงโม่ที่ขมวดคิ้ว
“ฉันยังไม่แน่ใจ ส่งฉันไปบริษัทGT ฉันจำเป็นต้องคิดให้ดี”
กู้ฮอนพยักหน้า ขับรถออกไปจากลานจอด มุ่งตรงไปยังบริษัทGT
*
หลังจากเธอส่งเป่หมิงโม่ไปบริษัทGTแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะไปช่วยแอนนิที่ร้านอาหาร แต่เมื่อกำลังจะไป มือถือของเธอก็ดังขึ้น
น่าจะเป็นเป่หมิงโม่หรือพวกแอนนิโทรมา
คิดแล้ว เธอหยิบออกมาดูกลับเป็นเบอร์แปลก
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการโทรหาใครคะ?”
ปลายสายมีเสียงของผู้ชายดังมา: “คุณกู้ ฉันเอง โล่ฮาน”
กู้ฮอนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย: “ออ คุณโล่ ไม่ทราบว่าคุณโทรหาฉันมีอะไรรึเปล่าคะ?”
“ตอนนี้คุณว่างไหม ผมอยากคุยด้วย”
รู้สึกแปลกใจจริงๆ พวกเขาไม่ค่อยได้คุยกัน แม้ว่าเขาจะเป็นพี่ชายของโลั่วเฉียวและเป็นครูสอนพิเศษของหยางหยาง ก็ยังรู้สึกแปลกหน้าเล็กน้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพูดคุย
แต่ เธอก็ยังมีมารยาท: “ตอนนี้ฉันไม่มีธุระอะไร เราไปเจอกันที่ไหนดี?”
“คุณรู้สถานที่ไหนปลอดภัยและเชื่อถือได้ไหม?”
ปลอดภัยเชื่อถือได้? คำร้องขอของโล่ฮานพิเศษเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจอะไร
เธอคิดแล้วพูดว่า: “คุณรู้จักอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทGTที่สร้างขึ้นใหม่ไหม ชั้นล่างมีร้านอาหารชื่อ ‘ครัวของแอนนิ’ ร้านของแอนนิ มาหาฉันที่นี่”
“อืม เดี๋ยวเจอกัน” หลังจากโล่ฮานพูดแล้วก็วางสาย
กู้ฮอนเก็บมือถือ ทำไมเธอถึงคิดไม่ออกเขาอยากมาพบตัวเองแล้วต้องร้องขอแบบนี้
แต่เดี๋ยวก็รู้แล้ว
เธอออกจากลานจอด ขับไปทางร้านอาหารของแอนนิ
“คิดไม่ถึงว่าเธอจะเปิดร้านเช้าขนาดนี้ คนอื่นๆ ล่ะ?” กู้ฮอนเปิดประตู ห้องอาหารขนาดใหญ่ เห็นเพียงแอนนิที่กำลังเก็บกวาดเอง
แอนนิหยุดกิจกรรมในมือ: “เมื่อวานเป็นวันคริสต์มาสไม่ใช่เหรอ ต้องปาร์ตี้จนดึกอยู่แล้ว ดังนั้นฉันให้พวกเขามาทำงานสายได้”
“เจอเจ้านายแบบนี้ เป็นความโชคดีจริงๆ ใช่แล้ว ที่นี่มีสถานที่เงียบสงบไหม ที่เหมาะกับการพูดคุยธุระ”
“มีแน่นอน ห้องทำงานของฉันก็ได้ ทำไมเธอมีธุระอะไรที่ต้องการสถานที่แบบนี้ ตามหลักแล้ว หากเป่หมิงโม่มาพูดคุยกับเธอ ไปชั้นบนก็ได้แล้ว”
“แอนนิ เธอพูดเล่นได้ไม่ตลกเลย พี่ชายของโลั่วเฉียวหาฉัน เมื่อกี้เขาโทรหาฉัน น่าจะมีธุระที่อยากจะพูดคุยกับฉัน”
“หาเธอ ยังต้องทำเป็นลึกลับ มีสองทางที่เป็นไปได้ ข้อแรก เกี่ยวกับเรื่องของเฉียวเฉียว ข้อสอง เขาสนใจเธอ” แอนนิหัวเราะพูดติดตลก
กู้ฮอนถลึงตาใส่เธอ: “ยังจะมาพูดเล่นอีก หากเธอยังพูดอีก ฉันจะโทรให้เขาเปลี่ยนสถานที่ทันที จริงๆ เลย คราวหน้าไม่มาคุยธุระที่เธอตรงนี้แล้ว”
***
” นี่นี่ เธออย่าโกรธสิ พอแล้วเธอขึ้นไปรอชั้นบนเถอะ เขามาแล้วฉันจะให้เขาตรงขึ้นไปหาเธอชั้นบน เครื่องดื่มผลไม้วันนี้ฉันฟรีเอาไหม”
แอนนิตบไหล่ของกู้ฮอนอย่างสนิทสนม
กู้ฮอนเบ้ปาก: “ฉันก็ไม่หวังจะเสียเงินที่นี่อยู่แล้ว โอเค ฉันไม่ขึ้นไปรอเขาแล้ว ช่วยเธอเก็บกวาดที่นี่ก่อน ให้เจ้านายใหญ่อย่างเธอทำเรื่องแบบนี้ ฉันทนไม่ได้”
แอนนิมองท่าทางของเธอแล้วยิ้ม: “ดูเธอพูดเข้า คนอื่นได้ยินจะคิดว่าฉันมีเงินมากมาย อยู่ที่นี่ เธอต่างหากเล่า นักเขียนนิยาย นักกฎหมายและอดีตประธานบริษัทเป่หมิง เหนือกว่าฉันทุกอย่าง”
“พอแล้วพอแล้ว เราไม่ต้องอวยกันไปอวยกันมาแล้ว”
พูดจบ ทั้งสองคนก็เริ่มยุ่งขึ้นมา
ช่วงเช้าไม่มีลูกค้า
อย่างที่กู้ฮอนพูด แอนนิไม่จำเป็นต้องเปิดร้านในช่วงเช้า ร้านอาหารที่นี่หลักๆ จะเป็นอาหารเที่ยงและอาหารค่ำ ไม่ได้ไว้สำหรับอาหารเช้าเลย
แต่เพราะเป็นร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ และเป็นธุรกิจของตัวเอง ในใจของแอนนิก็วางไม่ลง
หลังจากทั้งสองคนเก็บกวาดประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว ประตูร้านอาหารก็เปิดออก
โล่ฮานเดินเข้ามาจากด้านนอก
นึกขึ้นได้ ไม่ได้เจอเขานานแล้ว แต่ท่าทางของเขายังไม่เปลี่ยน
เขาทักทายเธอด้วยการพยักหน้า: “สวัสดีคุณกู้ แอนนิ”
“มาแล้ว ห้องที่พวกเธอจะพูดคุยกันฉันเตรียมไว้แล้ว พวกเธอขึ้นไปก็ได้แล้ว ฉันรับรองว่าไม่มีใครรบกวนพวกเธอแน่นอน” แอนนิก็พยักหน้ายิ้มให้เขา
กู้ฮอนขมวดคิ้ว: “ทำไมฉันถึงได้รู้สึกเหมือนสายลับ อีกอย่าง ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เรียกฮอนก็ได้แล้ว”
โล่ฮานยิ้ม: “โอเค ฮอนงั้นเราขึ้นไปกันเถอะ เกรงใจคุณแอนนิที่มารบกวน”
กู้ฮอนเดินนำเขาขึ้นมาชั้นบนห้องทำงานของแอนนิ ที่นี่เงียบสงบจริงๆ
พวกเขาลากเก้าอี้ของตัวเองมานั่ง
สักพัก แอนนิเสิร์ฟกาน้ำชา ตามมาด้วยจานผลไม้: “พวกเธอพูดคุยเถอะ ที่นี่ไม่มีใครรบกวน” พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไป
“เกือบครึ่งปีแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน ทำไมวันนี้อยากมาพบฉันกะทันหัน?” กู้ฮอนถามไปตรงๆ
โล่ฮานลุกขึ้นยืน เดินไปที่ประตู เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างระมัดระวัง หลังจากฟังว่าข้างนอกไม่มีคนแล้วก็กลับมานั่งใหม่: “ฮอน ตัวตนของฉันเธอรู้ดี ฉันมาหาเธอครั้งนี้เพราะหนึ่งคดี”
“คดี? ฉันเป็นพลเมืองที่ปฏิบัติตามกฎหมายมาโดยตลอด” กู้ฮอนได้ยินว่ามีเรื่องคดีมาหาเธอ ก็รู้สึกประหม่าซึ่งแตกต่างจากสถานะของทนายความ ทนายความคือรับทำคดีให้คนอื่น แต่ตอนนี้ตัวเองกลับมาส่วนเกี่ยวข้องกับคดี
“ขอโทษ ผมทำให้คุณเข้าใจผิด คุณยังจำเสี่ยวเฉินได้ไหม”
“เสี่ยวเฉิน?” กู้ฮอนขมวดคิ้วครุ่นคิด
นี่ก็ไม่โทษเธอ เมืองจีนแผ่นดินใหญ่ มีคนนับไม่ถ้วนที่ชื่อ ‘เสี่ยวเฉิน’ แล้วเป็นใครใครจะไปคิดออก
เมื่อเห็นว่ากู้ฮอนเหมือนจะจำไม่ได้ โล่ฮานจึงพูดเสริม: “เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับเป่หมิงโม่ ที่ผู้อำนวยการโกวหยาบคายกับเธอ ปรากฏว่าเป่หมิงโม่ออกมาทำเขาบาดเจ็บ ท้ายที่สุดเขาต้องรับผิดชอบบางส่วนของทางอาญา..”
***
เมื่อโล่ฮานเอ่ยแบบนี้ กู้ฮอนก็นึกขึ้นได้ทันที
สำหรับคดีนี้ ชีวิตนี้เธอคงลืมไม่ลง
“เรื่องนี้ฉันจำได้ ผู้อำนวยการโกวถูกสอบสวนในตอนท้ายไม่ใช่เหรอ ใช่ฉันจำได้แล้ว ผู้ช่วยของเขาเสี่ยวเฉินเป็นพยานคนสำคัญ หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ก็ไม่เจอเขาแล้ว ฉันและหยินปู้ฝันยังไปหาเขาที่บ้าน สุดท้ายถึงรู้ว่าเขาเกือบโดนฆ่าปิดปาก”
โล่ฮานพยักหน้า: “ไม่ผิด เป็นเขา ผมเคยบอกคุณ ว่าจะส่งคนไปคุ้มกันเขา เพื่อป้องกันการถูกทำร้ายอีก”
“ใช่ ตอนนั้นหากเขาสามารถเป็นพยายามได้ คิดว่าเป่หมิงโม่คงสามารถได้รับการยกเว้นจากการถูกคุมความประพฤติ ตอนนี้เขาเป็นยังไง ตอนที่เราไปหาเขายังอยู่ในอาการโคม่า” จิตใจของกู้ฮอนตึงเครียดขึ้นมา
“ภายใต้การคุ้มครองของเรา ร่างกายดีขึ้นแล้ว เขาตื่นแล้ว เว้นก็แต่ยังไม่สามารถเดินไปเดินมาอย่างอื่นก็แทบจะเหมือนคนปกติทั่วไป ไม่เพียงแค่นั้น เขายังริเริ่มอธิบายเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายและความผิดทางวินัยของผู้อำนวยการโกว”
เมื่อฮอนได้ยินตรงนี้ก็ถอนหายใจ: “แม้ตอนนี้จะรู้พวกนี้แล้วจะทำยังไงได้ เปลี่ยนความจริงไม่ได้อยู่ดี คุณมาที่นี่เพื่อมาบอกฉันเรื่องพวกนี้ใช่ไหม”
“ไม่ทั้งหมด เรายังรู้อีกว่าใครเป็นคนคิดฆ่าปิดปากเสี่ยวเฉิน เขาพูดถึงตลอด สิ่งที่ผมหมายถึงคือต้องการให้คุณช่วยพวกเรา”
กู้ฮอนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย: “ฉันช่วยอะไรพวกคุณได้? สิ่งที่ฉันทำได้ ตำรวจจะทำไม่ได้เหรอ?”
สีหน้าของกู้ฮอนดูแย่ขึ้นมาทันที: “หากให้ตำรวจช่วย ได้อยู่แล้ว แต่ว่ามักพบความลำบากอยู่บ้าง แต่ต่างจากคุณ ผมเชื่อว่าคุณสามารถมีวิธีให้คนร้ายสารภาพผิดได้”
“ฉัน? สามารถให้คนร้ายสารภาพผิดได้? ช่างเถอะอย่าล้อเล่น แม้ว่าฉันก็เป็นทนายความคนหนึ่ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับคำให้การพยายามหลักฐานเพื่อให้คนร้ายสารภาพผิด” กู้ฮอนคิดว่ามันเหลือเชื่อมาก หากตัวเองมีความสามารถแบบนั้น ตัวเองคงโด่งดังไปทั่ว
“ฮอน ฟังฉันพูดให้จบก่อน เราพบว่าคนที่จะฆ่าปิดปากเสี่ยวเฉิน คือคนที่ชื่อถังเทียนจื๋อ และผมยังพบว่าเขาติดต่อกับคุณเป็นบางครั้ง แม้ว่าดูแล้วพวกคุณจะไม่ค่อยสนิทกัน แต่เขาก็ยังเคารพคุณ ยิ่งกว่านั้น เรายังมีอีกหนึ่งสิ่ง นั่นก็คือเบื้องหลังของเขายังมีอีกคน”
กู้ฮอนได้ยินถึงตรงนี้ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นไปไม่ได้ก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าตกใจทันที แม้ว่าเธอจะรู้เรื่องความจริงที่ว่าผู้อำนวยการโกวมีความเกี่ยวข้องกับหลี่เชินแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีความลับเล็กน้อยซ่อนอยู่ภายใน
นอกจากนี้ พวกเขายังสามารถพบการมีตัวตนของหลี่เชิน
ความเมตตาของเธอในตอนแรก ได้จบลงที่ผู้อำนวยการโกวแต่คิดไม่ถึงว่าโล่ฮานจะขุดเรื่องนี้ได้ลึกเช่นนี้
“ฮอน ตรงนี้คุณมีความลำบากใจอะไรไหม?” โล่ฮานดูออกว่าสีหน้าของเธอแปลกไปเล็กน้อย รู้ว่าในใจของเธอยังมีเรื่องอะไรซ่อนอยู่
“ฉันไม่เป็นไร คุณพูดมาเถอะ ให้ฉันช่วยอะไรพวกคุณ?” เดินมาถึงจุดนี้ กู้ฮอนรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเลี่ยงจากเรื่องนี้ได้แล้ว
“อันที่จริงง่ายมาก ก็คือคุณสามารถทำให้เขาสารภาพผิดมาได้ไหม? ในเมื่อพวกคุณรู้จักกัน ผมคิดว่าคุณคงไม่อยากเห็นจุดจบอนาถของเขา”
ขณะนี้โล่ฮานดูจริงจังมาก