เดิมพันรักยัยตัวแสบ – เดิมพันรักยัยตัวแสบ – บทที่ 1147 ภาพครอบครัวที่แท้จริง

เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 1147 ภาพครอบครัวที่แท้จริง

บทที่ 1147 ภาพครอบครัวที่แท้จริง

บ้านสำหรับทุกคนแล้วย่อมมีความหมายที่พิเศษ แม้ว่าจะเข้าได้กับทุกที่เมื่ออยู่ด้านนอก แต่สำหรับคนที่มีความสามารถอย่างน่าอัศจรรย์แล้วมีเพียงแต่บ้านเท่านั้นที่สามารถทำให้ตัวเองกลับไปสู่ความเงียบสงบและสบายใจ

โม้จิ่งเฉิงเป็นเช่นนั้น และเป่หมิงโม่เป็นเช่นนั้นมากยิ่งกว่า

นับตั้งแต่พ่อของเขาจากไป สิ่งที่เรียกกว่าตระกูลเป่หมิงกลับไม่ใช่บ้านของเขาอีกเลย

ถึงแม้ว่าจะมีพี่น้องต่างมารดา แต่ยังมีช่องว่างระหว่างพวกเขามากเกินไป

นับตั้งแต่ที่แม่ของเขาการปรากฏตัวอีกครั้ง ทำให้ความเหินห่างระหว่างของพวกเขาค่อยๆหายไป ความรู้สึกเหมือนกับอยู่บ้านค่อยๆกลับคืนมาสู่ตัวเขาอีกครั้ง

บ้านสำหรับทุกคนล้วนแต่มีพลังวิเศษและสามารถเรียกกลับคืนได้อย่างมาก

ทำให้หัวใจที่โดดเดี่ยวเย็นชาเป็นอบอุ่นและมีความสุขได้อีกครั้ง

มองดูคนชราทั้งสองแล้ว ในตอนนี้พวกเขาต่างมีหยดน้ำตาคลออยู่ มันเป็นน้ำตาแห่งความสุข

*

เป่หมิงโม่และกู้ฮอนมองตามคนชราทั้งสองคน พวกเขาเดินอิงแอบกันและกันกลับไปที่ห้องของตน

ในขณะนี้จึงเหลือเพียงพวกเขาสองคน

ความรู้สึกนี้ทำให้กู้ฮอนประหม่าเล็กน้อย สำหรับสาเหตุว่าทำไมเธอถึงมีความรู้สึกเช่นนี้ดูเหมือนว่าเธอเองก็ไม่สามารถพูดให้ชัดเจนได้ บางทีอาจเป็นเพียงผลกระทบทางจิตใจก็เป็นได้

คำว่าการแต่งคำนี้ไม่อาจนับได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยสำหรับเธอ เพราะว่าเธอกับหยินปู้ฝันเคยเกือบจะเดินเข้าไปแล้ว

โชคชะตายังเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ ชายสองคนที่ปรากฏตัวในชีวิตของเธอ คนหนึ่งได้พบกันในช่วงเวลาที่ไม่ถูกต้อง จึงถูกกำหนดให้ไม่อาจไปต่อ

และอีกคนก็มาในเวลาที่ผิดเช่นเดียวกัน บางทีอาจจะผิดทั้งหมดด้วยซ้ำ แต่หลังจากได้พบกันแล้วก็ไม่เคยหายไปจากวงโคจรในชีวิตอีกเลย

“คุณกำลังคิดอะไรอยู่?” เป่หมิงโม่หันหน้าไปถามหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ สายของเธอมองตรงไปยังทิศทางที่คนชราสองคนหายได้หายไป สายตานั้นว่างเปล่าหรือบางทีอาจจะคิดอะไรอยู่

เสียงทุ้มต่ำและอ่อนโยนอย่างมากเป็นเสียงที่คุ้นเคยสำหรับเธอ ในขณะเดียวกันก็ดึงเธอกลับมาจากอารมณ์ที่ว่านี้

“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่นึกถึงบางเรื่องในอดีตนิดหน่อย” กู้ฮอนพูดพร้อมกับยกแขนยืดขึ้นเล็กน้อย เธอรู้สึกถึงการควบคุมร่างกายอยู่ตลอด

ที่จริงแล้วเธอไม่ควรรู้สึกอย่างนี้ที่นี่ ต่อให้เป็นเวลาที่อยู่ต่อหน้าเขาเพียงลำพังก็ตาม

เมื่อเป่หมิงโม่ได้ยิน มุมปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อย และรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก : “ระลึกถึงอดีต? ในวัยนี้ของคุณมันเร็วไปสักหน่อยนะ” พูดพร้อมกับมองขึ้นและลงอย่างมีความนัย และมองทั้งตัวจากบนลงล่างอีกรอบ

ถูกเป่หมิงโม่มองอย่างนี้แล้ว ทำให้กู้ฮอนรู้สึกขนลุกในใจเล็กน้อย เธอมองอย่างระวังตัว : “คุณ คุณกำลังทำอะไร ไม่เคยเห็นหรือไง?”

“ผมแค่อยากดูว่าจริงๆคุณอายุเท่าไหร่แล้ว”

ช่างน่าเบื่อหน่ายจริงๆ…

เธอเหลือบมองเขา : “คุณหาเจอแล้วหรือยัง?”

“อืม” เป่หมิงโม่ขมวดคิ้วเบาๆ แล้วแสดงออกอย่างจริงจัง “จากข้างนอกมองไม่ออก ส่วนข้างใน…” พูดแล้วดวงตาของเขาก็ลอยไปทางเธอ มันทำให้ในใจของกู้ฮอนตื่นตระหนกอีกครั้ง

“แน่นอนว่าข้างในจะต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงจะรู้ได้”

เข้าใจอย่างลึกซึ้ง…

คำนี้ทำให้บนหน้าของกู้ฮอนรู้สึกมีไข้ทันที : “เป่หมิงโม่ หรือว่าคุณพูดอย่างจริงจังไม่ได้ใช่ไหม” เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้คิดแผนการชั่วร้ายโจมตีเธออีกแล้ว

“หรือว่าพูดไม่ถูก คนเราจะแก่หรือไม่ ด้านหนึ่งต้องดูจากลักษณะภายนอก อีกด้านหนึ่งต้องดูภายในจิตใจ คำพูดของผมมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ”

มีความรู้สึกเหมือนถูกเป่หมิงโม่ประเมินอีกครั้ง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอผู้ชายคนนี้แล้วจะโดนหลอกอีกได้ยังไง…

เป่หมิงโม่มองไปที่กู้ฮอน บนหน้าปรากฏรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งอีกครั้ง : “ผมยังมีของที่อยากมอบให้คุณด้วยนะ”

มอบให้กับตน?

กู้ฮอนทำท่าโบกมือโดยสัญชาตญาณ : “ฉันรับของคุณไม่ได้หรอกค่ะ ฉันไม่ได้ทำความดีมากพอ แล้วที่คุณทำ แล้วของของคุณยังใหญ่ขนาดนั้นอีก…”โดยไม่รอให้เธอพูดจนจบ ก็เห็นเป่หมิงโม่เดินไปถึงกำแพงที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา

เธอยังคงจำกำแพงนั้นได้ เป่หมิงโม่เคยวาดภาพพวกเขาริมทะเลลงบนผนังด้วยตัวเอง เพียงแต่ว่าภาพนั้นยังไม่ทันจะสมบูรณ์ สุดท้ายเขาก็ทำลายมันด้วยการทาสีทับด้วยตัวเอง

สาเหตุของการทำลายนั้นแน่นอนว่าเกี่ยวกับเธอด้วย ต่อมาเป่หมิงโม่ก็ ‘ปิดผนึก’ภาพนั้น อย่างสมบูรณ์ด้วยวอลเปเปอร์

เธออาศัยอยู่ที่นี่นานแล้ว ทุกวันในห้องนั่งเล่นหรือดูทีวีหรือพูดคุยหยอกล้อกับพวกเด็กๆและผู้สูงวัย ถึงกับลืมไปแล้วว่าผนังด้านนั้นเป็นสีเดียวกันกับด้านอื่น

เมื่อเห็นเขายืนอยู่หน้ากำแพงนั้นอีกครั้ง เรื่องราวก่อนหน้านี้ก็ย้อนกลับมาในความทรงจำ

เขามองที่กำแพงนั้นแล้วหันกลับมามองเธอ

จู่ๆไฟในห้องนั่งเล่นก็ดับลง เหลือเพียงแสงสว่างจุดเล็กๆจากผนังด้านอื่น แต่มันกลับไม่สามารถทำให้พวกเขามองเห็นได้อย่างชัดเจนอีกต่อไป

กู้ฮอนกลั้นหายใจ เช่นเดียวกับผู้ชมที่ดูการแสดงของนักมายากล ที่ดูเหมือนรอคอยว่าเขาจะสร้างปาฏิหารย์แบบไหนให้กับตนเองในวินาทีถัดไป

ท่ามกลางความมืด เธอได้ยินเสียงฉีกเบาๆ และสั้นอย่างมาก

ในตอนที่เสียงนั้นหายไป ไฟทั้งหมดที่เพิ่งจะดับลงก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง

“อ่า…”

กู้ฮอนมองไปที่กำแพงข้างหน้า หลีกเลี่ยงที่จะอุทานจนเบิกตากว้าง เธอรีบใช้ทั้งสองมือปิดปากเอาไว้

ด้วยกลัวว่าคนอื่นๆในบ้านหลังนี้จะได้ยินเสียงของตนเอง

มันยากเกินกว่าที่เธอจะเชื่อได้ ม้วนภาพใหม่ที่ได้กางออกตรงหน้าตนเองในตอนนี้

ไม่ใช่พวกเขาสองคนอีกต่อไป แต่เป็นคนในครอบครัวอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน…

เธอถึงกับพบร่างของแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วในภาพนี้

นี่คือภาพของครอบครัวที่แท้จริง

เป่หมิงโม่ใช้วิธีการของศิลปะทำการหลอมรวมชีวิตและความตายได้เกือบจะสมบูรณ์แบบ

กู้ฮอนมองแล้วมองอีก ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากแล้วอุทานเสียงเบาออกมา

เป่หมิงโม่เดินไปด้านข้างเธออีกครั้ง แล้วใช้มือข้างหนึ่งโอบเธอเข้ามาในอ้อมกอดของตนเอง

เธอที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา ความรักที่เคยเก็บกดเอาไว้ได้ถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดสิ้น

เขาสามารถรับรู้ได้ว่าเธอในอ้อมกอดของเขาร้องสะอื้นอยู่ตลอด ร่างนั้นสั่นเทาไม่หยุด

เทียบกับเธอแล้ว ไหนเลยที่ตัวเองจะไม่ใช่แบบนั้นล่ะ?

ในตอนที่สร้างผลงานชิ้นนี้ ไม่ใช่หัวใจของตัวเองหรอกเหรอที่หลั่งน้ำตามาโดยตลอด….

มีวิธีมากมายที่จะหวนระลึกถึงคนที่ห่างไกลตนเองไปแล้ว

และเขาเลือกวิธีนี้เพื่อให้พวกเขาได้มีชีวิตร่วมกับตนเองตลอดไป

ดึกมากแล้ว

แต่ไฟของวิลล่าในซานปานยังคงสว่างไสวอย่างยิ่ง

เหมือนกับมีไฟประภาคารบนหน้าผาสูงในสถานที่อันห่างไกลท่ามกลางความมืดมิดอย่างค่ำคืน

มันไม่ได้ส่องสว่างไปยังทิศทางของเรือ แต่เป็นทิศทางของจิตใจผู้คน

พลังนี้ทำให้เขาและเธอมีความกล้าหาญมากยิ่งขึ้นที่จะก้าวไปสู่ชีวิตในอนาคต

“กู้ฮอนไม่ว่าพิธีในวันนี้เป็นการทดลองแต่งหรือแต่งงานจริง แต่นับจากนี้ผมจะปฏิบัติต่อคุณอย่างดีเสมอไป”

กู้ฮอนมองเขาแล้วผ่านไปเนิ่นนาน

ตามมาด้วยเธอที่มองอยู่แล้วก็หัวเราะ : “ฉันคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าคุณที่ปกติแล้วพูดจาฉลาดๆมาตลอด เพิ่งจะพูดคำสัญญาแย่ๆออกมาเหมือนกับตอนกลางวัน สิ่งนี้ทำให้ฉันได้พิสูจน์แล้วว่าการตัดสินใจก่อนหน้านี้ของฉันนั้นถูกต้อง”

****

เป่หมิงโม่จูบริมฝีปากเธอไว้อย่างแนบแน่นหลังจากที่เธอเพิ่งจะพูดจบด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลาเช่นนี้ ไม่ว่าจะพูดอะไร ใช้คำที่ไพเราะมากมายแค่ไหน ก็ไม่เท่ากับทำมันออกมา

หลอมละลาย…

เขาใช้ความร้อนบนตัวค่อยหลอมละลายแนวป้องกันสุดท้ายในใจของเธอ…

*

พรหมลิขิตระหว่างเป่หมิงโม่และกู้ฮอน เริ่มต้นขึ้นในวัยเด็กของพวกเขา แต่จุดเริ่มต้นที่แท้จริงกลับเป็นช่วงเวลาของข้อตกลงการตั้งครรภ์อันมืดมน

บางทีความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน เมื่อพวกเขาเกิดก็ถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะมีการเข้าใจผิดกันมากมาย และทำให้เกิดความขัดแย้งและไม่ลงรอยกันมากขึ้น แต่สิ่งนี้ก็ไม่เป็นผลกนะทบต่อแรงดึงดูดซึ่งกันและกันระหว่างพวกเขา

เมื่อปมที่พันอยู่ในหัวใจได้คลายออกทีละข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกยังมี ‘ทรัพย์สิน’ ที่ครอบครองร่วมกัน – – คือ ทารกที่น่ารักทั้งสามก็เป็นการกำหนดแล้วว่าพวกเขาไม่สามารถแยกจากกันได้

ชีวิตคือปุ่มขรุขระทั่วทุกแห่งหน และไม่ได้ราบรื่นเลย

กู้ฮอนสามารถพูดได้ว่ามันเป็นความรู้สึกที่ลึกที่สุด แต่ว่าสำหรับเป่หมิงโม่ที่ราบรื่นมาโดยตลอด กับแง่นี้ก็ไม่ได้ทำได้อย่างง่ายดายเลยจริงๆ

พวกเขาต่างก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ ข้อบกพร่องและจุดอ่อนที่ขัดเกลามาเป็นเวลานานค่อยๆได้รับการซ่อมแซม

*

ในค่ำคืนที่เงียบสงบเช่นนี้ ในที่สุดพวกเขาก็โอบกอดกันและกันอีกครั้ง

และในครั้งที่สองพวกเขาก็โอบกอดกันจริงๆโดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัดใดๆอีกต่อไป

พวกเขาเหมือนกับเคยถูกแยกจากกันด้วยหนทางไกลและอุปสรรคมากมาย แล้วในวันนี้ทั้งคู่ก็ได้มาพบกันในที่สุด ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะเจอกันทุกวันก็ตาม

ชั้นของ ‘หน้าต่างกระดาษ’ นี้ราวกับมีเวทมนตร์จริงๆ

บางทีนี่อาจเป็นพิธีอย่างหนึ่ง

ในตอนก่อนเริ่มต้น มีการให้เกียรติซึ่งกันและกัน และอาจจะยังมีความกังวลและละอายใจ จึงยังมีการต่อต้านเล็กๆน้อยๆอยู่…

แต่ว่าในตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ในที่สุดกระดาษชั้นนี้ก็ถูกเจาะทะลุ

ที่จริงแล้วทำไมพวกเขาจะไม่หวังให้สามารถทำได้อย่างเป็นธรรมชาติตามที่ใจต้องการล่ะ…

*

ภายในใจของเป่หมิงโม่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ห่างหายไปนาน เมื่อมองดูหญิงสาวที่กำลังนอนหลับใหลอยู่บนแขนของตนเอง

เขาอดไม่ได้ที่จะหวนนึกถึงอดีตของพวกเขา ตอนนี้จึงรู้สึกขมขื่นและทำอะไรไม่ถูกจริงๆ

พวกเขาในอดีต พอมองดูในตอนนี้แล้วช่างไร้เดียงสาและหมดหนทางอย่างเห็นได้ชัด

เขาลูบไหล่ขาวนวลของเธอเบาๆ ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนนั้นสบายอย่างมาก

ไม่รู้ว่าเป็นการปลุกเธอหรือเปล่า ร่างบอบบางนั้นขยับเล็กน้อย แล้วเม้มริมฝีปากสีเชอร์รี่คู่นั้น เพียงแต่ว่ายังไม่ได้ลืมตา ในไม่ช้าลมหายใจนั้นก็เปลี่ยนเป็นเบาลงอีกครั้งและเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ…

ทันใดนั้นเขาก้รู้สึกได้ด้วยเสียงของตนเอง ว่าการมีเธอและลูกๆที่น่ารักทั้งสามคน และยังมีพ่อแม่อยู่ข้างกาย สิ่งนี้ถึงจะเป็นความสุขที่แท้จริง

แม้กระทั่งเริ่มสงสัยด้วยซ้ำว่าชื่อเสียงลาภยศที่เคยไล่ตามสุดท้ายแล้วมีไว้เพื่ออะไร?

*

ประตูห้องนอนตรงระเบียงนั้นยังไม่ได้ปิด ผ้าม่านโปร่งตรงหน้าต่างถูกลมพัดปลิวไสว มาพร้อมกับแสงจันท์สลัวที่สวยงามอย่างมาก

สายลมเย็นพัดผ่านไหล่ของกู้ฮอนทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความเย็นเล็กน้อย

เธอค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วมองดูชายหนุ่มตรงหน้า เขาเอนหลังพิงบนเตียง กำลังหลับตาลมหายใจที่ออกมาจากจมูกนั้นร้อนและสม่ำเสมอ

เมื่อเงยหน้ามองดูเขา มุมปากของกู้ฮอนก็อดไม่ได้ที่จะปรากฏเป็นรอยยิ้มออกมา

เขาเป็นเหมือนต้นแบบของเฉิงเฉิงหรือหยางหยางในตอนโต

หน้าตาของพวกเขาสามคนพ่อลูกยามหลับใหลยังคล้ายกันมากจริงๆ

เธอรู้สึกได้ว่าที่เธอกำลังหนุนอยู่คือแขนของเขา แขนข้างหนึ่งที่มีพละกำลังอย่างมาก กล้ามเนื้อที่เธอทับอยู่มีเส้นเลือดนูนออกมาจนเห็นแต่ละเส้นได้ชัดมาก

สิ่งนี้ทำให้เธออดคิดถึงสิ่งเล็กๆน้อยๆเมื่อหลายปีก่อนไม่ได้ ภาพยนตร์ชื่อว่า《ฅนเหล็ก 2029》 ที่ตนเองได้ไปดู

ถึงแม้ว่าชายที่อยู่ข้างกายที่มีชื่อว่าเป่หมิงโม่ จะไม่แข็งแกร่งมากเท่ากับ Arnold Schwarzenegger แต่อย่างนั้นก็แข็งแกร่งมากพอในใจของเธอ

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

Status: Ongoing

เธอเป็นหญิงสาวที่มีความลำบาก ตกลงเป็นแม่อุ้มบุญ เขาเป็น ประธานใหญ่ เธออ่อนโยนและน่ารัก เขาโหดร้ายและเย็นชา.

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท