ตอนที่ 153 ลูกของข้า!
องค์ชายหญ่หวังหันหลังกลับ และก้าวเดินออกไปด้วยสองเท้าที่หนักอึ้งแต่แล้วก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลังของตนจึงได้หันกลับไปมองอีกครั้งและพบว่าหญิงสาวกําลังอาเจียนอยู่..
เจียอี้!! องค์ชายหญ่หวังร้องอุทานออกมาเสียงดังพร้อมกับวิ่งตรงเข้าไปหาหญิงสาวทันที
ข้ามเป็นไร!! ข้าคงจะกินบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ดีต่อร่างกายเข้าไปองค์ชายหวัง.. ท่านมิต้องห่วงข้า! หลังจากที่อาการดีขึ้นเล็กน้อยหญิงสาวก็รีบเอ่ยห้ามองค์ชายหญ่หวังที่กําลังวิ่งเข้ามาเพื่อช่วยเหลือ
องค์ชายหญ่หวังถึงกับชะงักฝีเท้า และจ้องมองหญิงสาวอยู่อย่างเงียบๆแต่นางเดินกลับเข้าไปในห้องนอนและปิดประตูทันทีทิ้งให้องค์ชายหญ่หวังยืนนิ่งเงียบอยู่เพียงลําพังเขายืนจ้องมองประตูห้องอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงได้หันหลังเดินกลับออกไป
เมื่อองค์ชายหญ่หวังจากไปแล้ว หญิงสาวจึงได้เปิดประตูห้องนอนออกมาและจ้องมองไปที่ประตูร้าน..
องค์ชายหวังเดินผ่านฝูงชนในเมืองไปตามถนน มุ่งหน้ากลับไปยังพระราชวังทันที..
เจ้าไปไหนมาร์? ข้าตามหาเจ้าไปทั่ววัง! พระชายาฟูจิงจ้องมององค์ชายหญ่หวังที่กําลังเดินมาตามทางพร้อมกับเอ่ยถามออกไป
มีอะไรหรือท่านแม่? เหตุใดจึงต้องตามหาตัวข้าด้วย? องค์ชายหญ่หวังเอ่ยถามยิ้มๆ
ข้าก็จะบอกข่าวดีกับเจ้าอย่างไรเล่า!! เรื่องการแต่งงานของเจ้า.. พิธีแต่งงานจะถูกจัดขึ้นในอาทิตย์หน้านี้แล้ว!! พระชายาซูจึงเอ่ยบอกองค์ชายหญ่หวังด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
อะไรนะ?! เหตุใดจึงรวดเร็วถึงเพียงนี้? เหตุใดทุกคนจึงต้องรีบร้อนเช่นนี้ด้วย? องค์ชายหญ่หวังเอ่ยถามด้วยสีหน้าตกตะลึงและงุนงง
จักรพรรดิเฉียนเว่ยเป็นผู้กําหนดวันมาเอง เขาอาจจะยังจดจําอดีตที่เลวร้ายได้ และเกรงว่าเจ้าจะไปตกหลุมรักหญิงสาวคนอื่นแล้วจะหนีไปเหมือนเมื่อคราวก่อนกระมัง จึงมิต้องการปล่อยเวลาให้ล่วงเลยนานมากนัก พระชายาซูจึงเอ่ยบอกองค์ชายหญ่หวังพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
เอาล่ะ.. เจ้าไปกับข้า! ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะต้องจัดหาจัดเตรียม เจ้าตามข้ามา.. พระชายาซูจึงคว้าแขนองค์ชายหญ่หวังไว้แล้วพาลากออกไปทันที
ภายในแคว้นเฉียนตี้..
เด็กหนุ่มในวัยสิบหกถึงสิบเจ็ดปีกําลังเดินไปตามทางเดินภายในพระราชวัง ไม่นานนักเขาก็เดินมาถึงหน้าประตูใหญ่บานหนึ่งเขาผลักประตูบานใหญ่นั้นออกแล้วเมื่อเดินเข้าไปข้างในก็พบหญิงสาวผู้หนึ่งกําลังฝึกฝนเพลงกระบี่ที่งดงามยิ่งอยู่ด้านใน
ทุกกระบวนท่าของเพลงกระบี่นั้นอัดแน่ไปด้วยพลังปราณที่ล้ําเลิศ และมีมวลพลังมหาศาล ผมสีแดงของ นางปลิวไสวไปตามแรงลม ขณะเดียวกันก็ตวัดกระบี่สีแดงเข้มในมือเสมือนหนึ่งกําลังเข้าจู่โจมคู่ต่อสู้
พี่หญิง!!
เด็กหนุ่มร้องตะโกนออกไปทันทีที่เห็นหญิงสาว หญิงสาวหยุดชะงักและหันกลับไปมองสีหน้าที่เคร่งเครียดจริงจังพลันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่งดงามยิ่ง
น้องชายของพี่ เจ้ามาที่นี่.. หรืออยากจะฝึกฝนวรยุทธกับข้างั้นรึ? หญิงสาวหัวเราะคิกคักพร้อมกับจ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้า
ข้ารี.. ไม่.. ไม่.. ข้ารักชีวิตตนเองเกินกว่าที่จะคิดทําเช่นนั้น! เด็กหนุ่มก้าวเท้าถอยหลังกลับทันทีพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างรวดเร็ว
น้องพี่.. ในเมื่อมิอยากฝึกวรยุทธ เช่นนั้นแล้วเจ้ามาที่นี่เพราะเหตุใดกัน? หญิงสาวจ้องมองเด็กหนุ่มพร้อมกับเอ่ยถามออกไป
พี่หญิง.. ข้ามาที่นี่เพื่อบอกเรื่องการแต่งงานของท่าน ที่กําลังจะเกิดขึ้นในอาทิตย์หน้านี้อย่างไรเล่า.. เด็กหนุ่มรีบปิดประตูบานใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง แล้วร้องตะโกนบอกทันที
คิ้วของหญิงสาวขมวดเข้าหากันแน่น แต่เพียงไม่กี่อึดใจ สีหน้าของนางก็กลับเป็นปกติดังเดิมจนเด็กหนุ่มมิทันได้สังเกตเห็น..
พี่หญิง.. นี่ท่านจะแต่งงานกับคนที่ท่านไม่เคยแม้แต่จะได้พบเห็นหน้ามาก่อนจริงๆรึ? เด็กหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองหญิงสาว
ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น.. นี่เป็นความประสงค์ของท่านพ่อ ข้าในฐานะที่เป็นบุตรสาว.. ความปรารถนาของท่านพ่อย่อมเป็นสิ่งที่ข้าต้องปฏิบัติตาม อีกอย่าง.. หากการแต่งงานครั้งนี้จะสามารถหยุดยั้งสงครามระหว่างสองแคว้นที่มีมายาวนานได้ ข้าก็ยินดี และมิเห็นว่าการแต่งงานกับชายแปลกหน้าจะเป็นอันตรายใดๆ หญิงสาวเอ่ยตอบยิ้มๆ พร้อมกับเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าทําให้ช่องว่างระหว่างพวกเขาทั้งสองลดลง
อีกอย่าง.. หากข้าแต่งงานกับองค์รัชทายาทของแคว้นอื่นที่ท่านพ่อมิได้เลือกให้ ข้าก็ย่อมหมดสิทธิ์ในราชบัลลังก์อยู่ดี แต่หากข้าแต่งกับคนธรรมดาในแคว้นของเรา ท่านพ่อก็ย่อมหาวิธีดึงชายผู้นั้นเข้าวังและหาทางให้ข้าขึ้นครองราชย์แทนเขาอยู่ดีซึ่งข้าเองก็คงยากที่จะปฏิเสธท่านพ่อได้เช่นกัน..
คงจะมีเพียงหนทางนี้เท่านั้น ที่จะทําให้น้องชายของข้าได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิปกครองแคว้นเฉียนตี้ได้ในวันข้างหน้าโดยที่มิขัดต่อความประสงค์ของท่านพ่อด้วย..
หญิงสาวเอ่ยตอบพร้อมกับยกมือขึ้นตบไหล่น้องชายของตน..
แต่ข้ามต้องการขึ้นครองบัลลังก์ หากนั่นจะต้องแลกมาด้วยการที่ท่านต้องใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดอยู่กับคนที่ท่านมิได้รัก ข้ายินดีเห็นท่านได้ขึ้นครองบัลลังก์ปกครองแคว้นของเราพร้อมชายที่ท่านรักดีกว่า.. เด็กหนุ่มเอ่ยตอบพร้อมกับจ้องมองหญิงสาวด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกมากมาย
นี่ เจ้าพูดมากไปแล้วน้องชายของข้า องค์ชายหญ่หวังหาใช่คนเลวร้ายอันใดไม่ ข้าได้ยินเรื่องราวดีๆที่เขาทํามามากมาย แต่ละเรื่องล้วนทําให้ข้าสัมผัสได้ว่า เขาคือชายหนุ่มที่กล้าหาญและดีมากผู้หนึ่งมัน มันอาจ มิได้เลวร้ายอย่างที่เจ้าคิดก็เป็นได้.. หญิงสาวเอ่ยตอบด้วยน้ําเสียงอ่อนโยนในขณะที่จ้องมองน้องชายของตน
เวลาล่วงเลยไปห้าวัน.. ทั้งสองแคว้นต่างก็พากันจัดเตรียมงานมงคลที่กําลังจะมาถึง
องค์ชายหญ่หวังได้ออกจากพระราชวังไปอีกครั้งเพื่อสูดอากาศสดชื่น เขาเดินไปตามท้องถนนในเมืองและเข้าใกล้ร้านขายโอสถเล็กๆแห่งหนึ่ง เขาอดมิได้ที่จะต้องมาพบหญิงสาวที่ตนรักเป็นครั้งสุดท้าย.. ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะต้องเข้าพิธีสมรส.. เขาจึงเดินตรงเข้าไปในร้านขายโอสถเล็กๆนั้นทันที
แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในร้าน เขาก็พบว่าภายในร้านกลับว่างเปล่า และเมื่อสังเกตเห็นว่าประตูห้องนอนภายในร้านนั้นกําลังเปิดอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปด้านในทันที แต่เมื่อไปถึงเขาก็ต้องตกใจอย่างที่สุด
หญิงสาวที่เขารักนามว่าเจียอี้นั้น กําลังนอนหมดสติอยู่ และมีหญิงชราผู้หนึ่งก็กําลังตรวจดูอาการของนาง หญิงชราหันมองมาทางชายหนุ่ม
เกิดอะไรขึ้นกับนางงั้นรึ? องค์ชายหญ่หวังเอ่ยถามด้วยน้ําเสียงดุดัน ในระหว่างที่จ้องมองหญิงชราตรงหน้า
สองสามวันที่ผ่านมานี้ แม่นางผู้นี้มิได้กินอาหารเท่าที่ควร ทําให้ร่างกายของนางอ่อนแอและเวลานี้นางก็กําลังตั้งครรภ์อยู่ อาการจึงยิ่งหนักกว่าเดิม นางหมดสติไปเพราะร่างกายที่อ่อนแอ..
องค์ชายหญ่หวัง.. ท่านต้องการมาหาซื้อโอสถงั้นรึ? อภัยด้วย.. ข้ามิคิดว่านางจะสามารถลุกขึ้นมาขายโอสถให้แก่ท่านได้.. หญิงชาราเอ่ยตอบขณะที่ยังคงดูแลหญิงสาว
ตะ.. ตั้งครรภ์.. ?!! นาง.. นางตั้งครรภ์งั้นรึ?!! องค์ชายหญ่หวังเอ่ยถามตะกุกตะกัก และสีหน้าก็บ่งบอกว่ากําลังตกใจอย่างที่สุดี!
ถูกต้อง.. นางตั้งท้องได้สองเดือนแล้ว! นางช่างน่าสงสารยิ่งนักที่ต้องเผชิญเรื่องนี้ตามล่าพังชายหนุ่มผู้เป็นพ่อของลูกในท้องนาง ควรจะต้องอยู่กับนางและช่วยนางให้ผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปได้..
ช่างเถิด.. ข้าได้ให้โอสถที่เหมาะกับร่างกายของนางไปแล้ว นางคงจะนอนหลับต่ออีกสักพักใหญ่ข้าคงต้องกลับแล้ว และจะกลับมาตรวจอาการของนางอีกหลังจากนี้ หญิงชราเอ่ยจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไปทันที
องค์ชายหญ่หวังยืนอยู่ที่นั่นครู่หนึ่ง เขาจ้องมองหญิงสาวที่ยังคงนอนหลับไหลอยู่บนเตียงร่างของเขาทรุดลงคุกเข่ากับพื้นปากก็เฝ้ารําพึงรําพันว่า
ลูกของข้า..